นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราได้มาเขียนกระทู้ในพันทิป และไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาตั้งกระทู้เขียนเรื่องของตัวเองบ้าง
ปกติตามอ่านของคนอื่นอย่างเดียว พอเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนดันอินเกิน เลยยุให้มาลองเขียนดูเล่นๆ ไปอ่านกัน......
(จากที่เขียนก็เป็นแค่เรื่องบางส่วนเท่านั้นนะคะ ถ้าให้เล่าทั้งหมดคงจำรายละเอียดได้ไม่หมด)
เริ่มเลยละกันเนอะ จะขอกบอกไว้ก่อนน้า *เราเป็นสาวประเภทสองนะ*
จะขอเล่าย้อนไปเมื่อหลายๆวันก่อน เรามีโอกาสรู้จักแอพพลิเคชั่นแอพนึงจากเพื่อนสนิท ที่เขาเล่นปัดไปปัดมาหาคู่นั้นแหละ เราเป็นคนค่อยไม่ชอบเล่นแอพพวกนี้ซักเท่าไหร่ เพราะนิสัยเราจะเงียบๆ ไม่ค่อยกล้าคุยกับคนที่ไม่รู้จัก แต่ก็ลองโหลดมาเล่นๆดูไม่ได้คิดอะไรมาก ปัดไปปัดมา ก็มีคนทักเข้ามาคุยอยู่เยอะนะ ฮ่าๆ ชักเริ่มสนุก แต่ก็คุยบ้างเป็นบางคน แก้เหงาดี ไม่ได้ตั้งใจจะจริงจังอะไรมาก หาเพื่อน หาพี่ หาน้อง ถ้าคุยแล้วโอเคก็ค่อยว่ากันอีกที จนได้คุยกับผู้ชายคนนึง รูปดิสใส่แว่นหน้าแก่ๆ แต่ก็น่ารักดี ฮ่าๆ เขาเป็นคนทักแชทมาก่อน
ประโยคแรก
“งาย” (ส่งกิฟรูปแมงมุมมาด้วย)
เราก็ตอบกลับไป
“งายยย หวัดดีค่า”
ด้วยความที่เป็นคนติดตลกเลยพิมพ์ต่อไปอีกว่า
“โหว่ หน้าเหมือนพี่ชายมากเลยอ่ะ ฮ่าๆ”
เขาตอบกลับมา
“555 นี่พี่เอง”
เรา
“อ้าวพี่เองหรอ ฮ่าๆ ก็เล่นไปเรื่อย” แต่ก็คล้ายจริงๆนั้นแหละ
ด้วยเพียงประโยคทักทายเพียงไม่กี่ประโยคกับเป็นจุดสร้างคอนเนคชั่นระหว่างเราให้รู้สึกคุยแล้วเป็นกันเอง จนวันถัดมาเขาก็ทักมาขอไลน์เพราะขี้เกียจเล่นแอพนี้แล้ว เราก็ให้ไป ซักพักเขาก็แอดไลน์มา ทักมาคุยทุกวันๆ แรกๆเราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ขอยอมรับผิดเลยว่าช่วงที่คุยกับเขา เราก็มีคุยกับคนอื่นอยู่บ้าง ด้วยความที่มองแล้วเหมือนพี่ชายจึงไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ เพียงคุยด้วยแล้วไม่อึดอัด ทักมาก็คุยด้วยตลอด ส่วนใหญ่เขาจะชอบทักมาดึกๆ เพราะว่าทำงานทุกวัน ทักมาทีไรชอบส่งสติ๊กเกอร์ประหลาดๆมาตลอด วิญญาณลอยออกจากร่างบ้างหละ นอนตายบ้างหละ บ่นเพลียทุกวัน เราก็จะแกล้งส่งสติ๊กเกอร์กวนๆไปให้ เผื่อเขาจะหายเหนื่อยอมยิ้มได้บ้าง ปกติเราเป็นคนตลกๆชอบเล่นมุขพร่ำเพื่อ ไอพวกมุขคำผิดแล้วแก้เนี่ย เล่นบ่อยมาก ฮ่าๆ ส่วนเขาดูเป็นคนกวนๆชอบส่งรูปตัวเองทำหน้าตลกๆมาให้ เวลาคุยด้วยรับมุขทันกันตลอด ทำให้เรารู้สึกโอเคอะ คุยสนุก แต่ถามว่ารักเลยมั้ยตอนนั้น ก็ยังนะ คุยกันทุกวันคุยกันทุกเรื่องเรื่อยเปื่อย เช้าก็ทักมามอนิ่ง กลางคืนก็คอยบอกฝันดี เราก็จะบ่นลุงว่าชอบหนีไปนอนก่อนทุกทีเลย แต่ก็รู้เหละว่าทำงานกลับมาคงเหนื่อย อ้อ!พอเริ่มสนิทเราก็จะเรียกแทนเขาว่าไอลุง เพราะอายุมากกว่าแล้วหน้าแก่ด้วยแหละ หยอกๆ (เผื่อเจ้าตัวมาอ่านอิอิ)เรียกแกล้งๆน่ารักดี ส่วนลุงจะเรียกเราว่าไออ้วน ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่หรือไปไหนมาไหนก็จะคอยถ่ายรูปบอกกันตลอด วันนึงไอลุงก็ทักแชทมาว่าอยากนัดเจอช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปเที่ยวกันมั้ย อยากชวนไปเดินจตุจักร เราก็จะคอยบอกปัดไปทุกครั้ง ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง เลยไม่อยากรับปากว่าจะไป แต่ความจริงแล้วยังไม่กล้าไปเจอเพราะกลัวเขาไม่ชอบเรานั้นแหละ
**อ่านมาถึงตรงนี้ มีอะไรจะบอกแหละ กดสปอยด่วน!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไอลุงมันยังไม่รู้ว่าเราเป็นสาวประเภทสอง มันนึกว่าคุยกับผู้หญิงอยู่ ลุงเค้าขอโทษน้า เรื่องมันพีคก็ตรงนี้แหละ
จนมาถึงวันศุกร์(24 มี.ค)
ลุงทักมาหาตอนเที่ยงถามว่า
“ทำไร อยากเจออ้วน ไปไหนวันนี้”
ส่วนเรามีสอบภาคค่ำ เลยถามกลับไปว่า
“จะชวนไปไหนรึวันนี้”
ลุงเลยบอกว่าเป็นวันพรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้ให้ตั้งใจสอบดีๆ ด้วยความที่ความรู้สึกเราตอนนี้มันโอเคมากอ่ะกับคนๆนี้ นี่เลยรวบรวมความกล้าตอบตกลงที่จะไป จนถึงช่วงดึก เราสอบเสร็จแล้วออกจากห้องสอบมาช่วงสามทุ่มกว่าๆ เดินไปหาอะไรกินกลับเพื่อนแถวๆหน้ามหาลัย ลุงก็ทักมาหาอีก ถามว่าทำไร กลับบ้านรึยัง จะให้ไปรับมั้ย แต่จากบ้านลุงมาก็ไม่ใช่ใกล้ๆเราเลยบอกไปว่าไม่เป็นไร พอกินข้าวเสร็จ เราก็ยังไม่อยากกลับบ้าน ไหนๆรถที่ออกจากมหาลัยก็หมดแล้ว เลยไปนั่งเล่นที่หอเพื่อนที่อยู่แถวๆมหาลัย พอไปถึงหอปุ๊บ ลุงก็ทักมาหาอีก ถามว่า
“จะไปไหนดี อยากไปไหน”
ตั้งแต่ตอนที่หาอะไรกินหน้ามหาลัยแบตโทรศัพท์เราใกล้จะหมด พอถึงหอเลยรีบเดินหาปลั๊กเสียบสายชาร์จ ก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งเล่นบนเตียงกับเพื่อน
ลุงทักมาอีก
“เดินเจเจมะ”
เราทักกลับไปหาลุง
“ได้หมด ถ้ามารับอะนะ ฮ่าๆ”
ลุง
“หาที่จอดยาก นั่งรถเมล์กัน เลทโกว”
ลุง
“ติดดิน”
ในใจของเราตอนนั้นมันอึดอัดมาก กังวลมากๆ กับการที่เราให้ความหวังคนนึงๆทำให้เขารู้สึกดี แล้วเรายิ่งรู้สึกดีกับเขาแล้วเลยกลัวมากที่จะบอกความจริงว่าเราเป็นอะไร เรานั่งปรึกษาเพื่อน ว่าจะบอกเขายังไงดี เราถามเพื่อนอยู่หลายครั้งว่า กูควรบอกเขาก่อนดีไหม ควรทำยังไงดี กูกลัวเขาหายไป อีกอย่างเราไม่อยากให้เขาต้องมาหาแล้วผิดหวังแถมเสียเวลา เราเงียบไปอยู่พักหนึ่ง พูดกับตัวเองในใจ โอเคตัดสินใจละอะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป เราทำใจหลอกเขาไม่ได้หรอก
เราทักไลน์ไปหาลุงอีกครั้ง
“ลุงทำไมถึงอยากเจออ่า ลุงคิดจะจริงจังปะ”
ลุงตอบกลับมา
“ก็ต้องดูก่อน เผื่อเธอเจอเราละลำใย”
เรานั่งเงียบไปอีกครั้ง ลุงเริ่มกดรัวสติ๊กเกอร์มาคงเพราะเห็นเราเงียบหายไป ตอนนั้นเราคิดแล้วคิดอีก เรานั่งกดพิมพ์ข้อความเอาไว้แต่ไม่กล้ากดส่ง ในใจเต้นแรงมาก แต่ก็ตัดสินใจเอาวะลองดู
“เค้าอยากบอกลุงก่อนเรื่องนึงอ่ะ กลัวจะเสียเวลามาเสียเที่ยว”
ลุง
“เธอมีลูกแล้ว?”
เรา
“บ้า ช็อคกว่านั้นอีก”
ลุง
“ผัวยังไม่ตายหรอ” ไอลุงยังมีอารมมาเล่นมุข แต่มันก็ช่วยให้เราผ่อนคายขึ้นเยอะ
เราเลยพิมพ์กลับไป
“ทำใจดีๆนะ เค้าเป็นผู้ชายยยยย” 
ลุงส่งสติ๊กเกอร์มา โนววววววว
“ไหนความเป็นชาย” ลุงเงียบไปซักพักคงช็อคอยู่ ฮ่าๆ
เรา
“ลุงเชื่อปะเนี่ย อย่าเงียบดิมาคุยก่อน”
ลุง
“ไม่เชื่อ ไหนพิสูจน์”
เรา
“พิสูจน์ยังไง” คิดในใจ จะให้พิสูจน์อะไรวะ 
ลุง
“ต้องมีแหละ นังกะเทย” แล้วก็ส่งสติ๊กเกอร์ทำท่าเลิฟๆมา
เรา
“นี่จริงจังนะเนี่ย ยังจะมาตลกอีก”
ลุง
“ไหนดูหน้าชัดๆ” เรากำลังลุกไปตรงที่มีไฟเพื่อจะถ่ายรูปไปให้ ไม่ทันไรไอลุงใจร้อน กดคอลวีดิโอมาเลยจ้า เราก็กดรับ ตอนนั้นทั้งเขิลทั้งตื่นเต้น แล้วก็แอบกลัวนิดๆ ลุงบอกว่าไม่เห็นจะเหมือนกะเทยเลย เสียงก็ไม่ใช่ละ ออกจะเหมือนผู้หญิง เราก็บอกว่านี่เค้าพูดจริงนะ ไม่อยากให้ลุงต้องมาเสียเวลาเพื่อจะมาหาเค้า เลยตัดสินใจบอกก่อน แถมหน้าบานอ้วนด้วย ลุงบอกกับเราประโยคนึงว่า
อ้วนแล้วไง ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย ประโยคนี้มันเป็นอะไรที่แบบเห้ยดีอะผู้ชายคนนี้ แต่มันกลับทำให้เรารู้สึกผิดมากที่ไม่ยอมบอกเขาตั้งแต่แรก ตอนนี้เขาอาจจะเสียใจมากก็ได้ ตอนนั้นเราทำได้แค่บอกขอโทษไปเท่านั้น ซักพักลุงดันกดพลาดจะกดอีโม แต่มันเด้งออกจากการคอล ไอลุงทักแชทมาก็ยังคงไม่เชื่อ ก็เลยบอกไปว่า
"ก็ได้งั้นมาเจอพรุ่งนี้" ตอนนั้นก็เวลาตี1กว่าๆละ เราลุกเดินไปเก็บของว่าจะกลับบ้านแล้ว
เราเลยทักไปบอกว่า
“เค้าจะกลับละ เดี่ยวออกไปดูรถหน้าหอ”
ลุง
“เดินทางดีๆ อาบน้ำด้วยหละ”
เรา
“จะคอลมาอีกมะ พรุ่งนี้เจออาจจะตะลึง”
ลุง
“5555 เธอทำฉ้านกลัว”
เรา
“ไม่เชื่ออีกอ่อ หรือแค่แกล้งเค้าเล่น”
ลุง
“ไม่แน่ใจ ทำไมเสียงเหมือนผู้หญิง หน้าด้วย”
เรา
“ก็เสียงเป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว หน้าหวานเหมือนแม่ ถ้าไม่บอกก็ไม่ค่อยมีคนดูออกหรอก”
ลุง
“555 จริงดิ”
เรา
“แต่ถ้าโอเค อยากเจอก็ได้ ไม่ติด เดี่ยวจัดให้ ฮ่าๆ”
ลุง
“จัดไยให้ 55555 ไม่อยากเชื่อ” 
เรา
“ฮ่าๆ บ้าบอ ทำไมหละ” เราส่งสติ๊กเกอร์ไป ยิ้มหน่อยนะตัวเอง เราไม่อยากให้ลุงต้องผิดหวัง ตอนนี้ได้แค่ปลอบใจ แล้วหาอะไรๆที่ตลกๆทำให้ลุงขำ
เรา
“แล้วยังจะไปไหมพรุ่งนี้ เดี่ยวเลี้ยงหนมปลอบใจ”
ลุง
“ไม่แน่ใจ ตื่นตอนไหนอะ อยากเดินเจเจ” เหมือนกับว่าลุงเริ่มไม่ค่อยอยากมาเจอแล้ว งื้ออ

เรา
“ได้เจเจ ไปไงอะ ให้เจอไหน เค้าไม่เคยไปเองอะ”
ลุง
“ง่าวว”
เรา
“ไม่ได้ง่าว” ฮ่าๆ อะไรกัน ตอนนั้นมันแบบ ทำไมลุงถึงไม่โกรธ หรือว่าอะไรเลย ปกติๆที่เจอมาพอรู้เขามักจะจบบทสนทนาแล้วเงียบหายไปเหมือนคนที่ไม่เคยรู้จักกัน แต่ลุงไม่ได้เป็นแบบนั้น
เรา
“จะกลับแล้ว จะนอนยัง อยู่คุยบนรถเป็นเพื่อนด้วย” ลุงส่งรูปตัวเองกำลังนอนหลับตามา กวนตีนมาก จะให้ไม่รักได้ยังไงเนี่ย ลุงบอกว่าจะใกล้จะนอนแล้ว แต่อาเคอยู่คุยเป็นเพื่อนได้ จนกว่าจะถึงบ้าน
ลุงบอกกับเราว่า
“ขอบคุณนะ ที่บอกกันก่อน” 
พอเราออกไปขึ้นแท็กซี่ เราก็โทรคอลไลน์คุยกับลุงไปตลอดทาง ทุกอย่างที่อัดแน่นในอกเหมือนถูกยกออก เราได้พูดคุยกันหลายๆเรื่อง จนถึงบ้านก็ยังคุยกัน จนถึงตี3ครึ่งแหนะ ตอนนั้นมันทำให้เราสบายใจขึ้นมากๆ เราได้รู้จักกันและกันมากขึ้น ตอนนี้ลุงคงง่วงมากๆเพราะทำงานกลับมาคงเหนื่อย แถมต้องมารับรู้เรื่องตะเตือนไตอีก เราเลยต่างคนต่างแยกย้ายกันไปนอน แต่เรายังคงนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเกือบเช้า จากที่เคยกลัวการพบกัน กลับอยากให้ถึงวันพรุ่งนี้ที่เราได้เจอกันเร็วๆจัง เราเผลอหลับไปคาชุดนักนักศึกษา อายจัง นอนไปแบบเน่าๆ เครื่องสำอางก็ยังไม่ได้ล้างออก แฮะๆ ^^
ตามอ่านต่อที่ช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างนะคะ
ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ (แชร์ประสบการณ์แฟนกันแค่วันเดียว)
ปกติตามอ่านของคนอื่นอย่างเดียว พอเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนดันอินเกิน เลยยุให้มาลองเขียนดูเล่นๆ ไปอ่านกัน......
เริ่มเลยละกันเนอะ จะขอกบอกไว้ก่อนน้า *เราเป็นสาวประเภทสองนะ*
จะขอเล่าย้อนไปเมื่อหลายๆวันก่อน เรามีโอกาสรู้จักแอพพลิเคชั่นแอพนึงจากเพื่อนสนิท ที่เขาเล่นปัดไปปัดมาหาคู่นั้นแหละ เราเป็นคนค่อยไม่ชอบเล่นแอพพวกนี้ซักเท่าไหร่ เพราะนิสัยเราจะเงียบๆ ไม่ค่อยกล้าคุยกับคนที่ไม่รู้จัก แต่ก็ลองโหลดมาเล่นๆดูไม่ได้คิดอะไรมาก ปัดไปปัดมา ก็มีคนทักเข้ามาคุยอยู่เยอะนะ ฮ่าๆ ชักเริ่มสนุก แต่ก็คุยบ้างเป็นบางคน แก้เหงาดี ไม่ได้ตั้งใจจะจริงจังอะไรมาก หาเพื่อน หาพี่ หาน้อง ถ้าคุยแล้วโอเคก็ค่อยว่ากันอีกที จนได้คุยกับผู้ชายคนนึง รูปดิสใส่แว่นหน้าแก่ๆ แต่ก็น่ารักดี ฮ่าๆ เขาเป็นคนทักแชทมาก่อน
ประโยคแรก “งาย” (ส่งกิฟรูปแมงมุมมาด้วย)
เราก็ตอบกลับไป “งายยย หวัดดีค่า”
ด้วยความที่เป็นคนติดตลกเลยพิมพ์ต่อไปอีกว่า “โหว่ หน้าเหมือนพี่ชายมากเลยอ่ะ ฮ่าๆ”
เขาตอบกลับมา “555 นี่พี่เอง”
เรา “อ้าวพี่เองหรอ ฮ่าๆ ก็เล่นไปเรื่อย” แต่ก็คล้ายจริงๆนั้นแหละ
ด้วยเพียงประโยคทักทายเพียงไม่กี่ประโยคกับเป็นจุดสร้างคอนเนคชั่นระหว่างเราให้รู้สึกคุยแล้วเป็นกันเอง จนวันถัดมาเขาก็ทักมาขอไลน์เพราะขี้เกียจเล่นแอพนี้แล้ว เราก็ให้ไป ซักพักเขาก็แอดไลน์มา ทักมาคุยทุกวันๆ แรกๆเราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ขอยอมรับผิดเลยว่าช่วงที่คุยกับเขา เราก็มีคุยกับคนอื่นอยู่บ้าง ด้วยความที่มองแล้วเหมือนพี่ชายจึงไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ เพียงคุยด้วยแล้วไม่อึดอัด ทักมาก็คุยด้วยตลอด ส่วนใหญ่เขาจะชอบทักมาดึกๆ เพราะว่าทำงานทุกวัน ทักมาทีไรชอบส่งสติ๊กเกอร์ประหลาดๆมาตลอด วิญญาณลอยออกจากร่างบ้างหละ นอนตายบ้างหละ บ่นเพลียทุกวัน เราก็จะแกล้งส่งสติ๊กเกอร์กวนๆไปให้ เผื่อเขาจะหายเหนื่อยอมยิ้มได้บ้าง ปกติเราเป็นคนตลกๆชอบเล่นมุขพร่ำเพื่อ ไอพวกมุขคำผิดแล้วแก้เนี่ย เล่นบ่อยมาก ฮ่าๆ ส่วนเขาดูเป็นคนกวนๆชอบส่งรูปตัวเองทำหน้าตลกๆมาให้ เวลาคุยด้วยรับมุขทันกันตลอด ทำให้เรารู้สึกโอเคอะ คุยสนุก แต่ถามว่ารักเลยมั้ยตอนนั้น ก็ยังนะ คุยกันทุกวันคุยกันทุกเรื่องเรื่อยเปื่อย เช้าก็ทักมามอนิ่ง กลางคืนก็คอยบอกฝันดี เราก็จะบ่นลุงว่าชอบหนีไปนอนก่อนทุกทีเลย แต่ก็รู้เหละว่าทำงานกลับมาคงเหนื่อย อ้อ!พอเริ่มสนิทเราก็จะเรียกแทนเขาว่าไอลุง เพราะอายุมากกว่าแล้วหน้าแก่ด้วยแหละ หยอกๆ (เผื่อเจ้าตัวมาอ่านอิอิ)เรียกแกล้งๆน่ารักดี ส่วนลุงจะเรียกเราว่าไออ้วน ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่หรือไปไหนมาไหนก็จะคอยถ่ายรูปบอกกันตลอด วันนึงไอลุงก็ทักแชทมาว่าอยากนัดเจอช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปเที่ยวกันมั้ย อยากชวนไปเดินจตุจักร เราก็จะคอยบอกปัดไปทุกครั้ง ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง เลยไม่อยากรับปากว่าจะไป แต่ความจริงแล้วยังไม่กล้าไปเจอเพราะกลัวเขาไม่ชอบเรานั้นแหละ
**อ่านมาถึงตรงนี้ มีอะไรจะบอกแหละ กดสปอยด่วน!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จนมาถึงวันศุกร์(24 มี.ค)
ลุงทักมาหาตอนเที่ยงถามว่า “ทำไร อยากเจออ้วน ไปไหนวันนี้”
ส่วนเรามีสอบภาคค่ำ เลยถามกลับไปว่า “จะชวนไปไหนรึวันนี้”
ลุงเลยบอกว่าเป็นวันพรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้ให้ตั้งใจสอบดีๆ ด้วยความที่ความรู้สึกเราตอนนี้มันโอเคมากอ่ะกับคนๆนี้ นี่เลยรวบรวมความกล้าตอบตกลงที่จะไป จนถึงช่วงดึก เราสอบเสร็จแล้วออกจากห้องสอบมาช่วงสามทุ่มกว่าๆ เดินไปหาอะไรกินกลับเพื่อนแถวๆหน้ามหาลัย ลุงก็ทักมาหาอีก ถามว่าทำไร กลับบ้านรึยัง จะให้ไปรับมั้ย แต่จากบ้านลุงมาก็ไม่ใช่ใกล้ๆเราเลยบอกไปว่าไม่เป็นไร พอกินข้าวเสร็จ เราก็ยังไม่อยากกลับบ้าน ไหนๆรถที่ออกจากมหาลัยก็หมดแล้ว เลยไปนั่งเล่นที่หอเพื่อนที่อยู่แถวๆมหาลัย พอไปถึงหอปุ๊บ ลุงก็ทักมาหาอีก ถามว่า “จะไปไหนดี อยากไปไหน”
ตั้งแต่ตอนที่หาอะไรกินหน้ามหาลัยแบตโทรศัพท์เราใกล้จะหมด พอถึงหอเลยรีบเดินหาปลั๊กเสียบสายชาร์จ ก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งเล่นบนเตียงกับเพื่อน
ลุงทักมาอีก “เดินเจเจมะ”
เราทักกลับไปหาลุง “ได้หมด ถ้ามารับอะนะ ฮ่าๆ”
ลุง “หาที่จอดยาก นั่งรถเมล์กัน เลทโกว”
ลุง “ติดดิน”
ในใจของเราตอนนั้นมันอึดอัดมาก กังวลมากๆ กับการที่เราให้ความหวังคนนึงๆทำให้เขารู้สึกดี แล้วเรายิ่งรู้สึกดีกับเขาแล้วเลยกลัวมากที่จะบอกความจริงว่าเราเป็นอะไร เรานั่งปรึกษาเพื่อน ว่าจะบอกเขายังไงดี เราถามเพื่อนอยู่หลายครั้งว่า กูควรบอกเขาก่อนดีไหม ควรทำยังไงดี กูกลัวเขาหายไป อีกอย่างเราไม่อยากให้เขาต้องมาหาแล้วผิดหวังแถมเสียเวลา เราเงียบไปอยู่พักหนึ่ง พูดกับตัวเองในใจ โอเคตัดสินใจละอะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป เราทำใจหลอกเขาไม่ได้หรอก
เราทักไลน์ไปหาลุงอีกครั้ง “ลุงทำไมถึงอยากเจออ่า ลุงคิดจะจริงจังปะ”
ลุงตอบกลับมา “ก็ต้องดูก่อน เผื่อเธอเจอเราละลำใย”
เรานั่งเงียบไปอีกครั้ง ลุงเริ่มกดรัวสติ๊กเกอร์มาคงเพราะเห็นเราเงียบหายไป ตอนนั้นเราคิดแล้วคิดอีก เรานั่งกดพิมพ์ข้อความเอาไว้แต่ไม่กล้ากดส่ง ในใจเต้นแรงมาก แต่ก็ตัดสินใจเอาวะลองดู “เค้าอยากบอกลุงก่อนเรื่องนึงอ่ะ กลัวจะเสียเวลามาเสียเที่ยว”
ลุง “เธอมีลูกแล้ว?”
เรา “บ้า ช็อคกว่านั้นอีก”
ลุง “ผัวยังไม่ตายหรอ” ไอลุงยังมีอารมมาเล่นมุข แต่มันก็ช่วยให้เราผ่อนคายขึ้นเยอะ
เราเลยพิมพ์กลับไป “ทำใจดีๆนะ เค้าเป็นผู้ชายยยยย”
ลุงส่งสติ๊กเกอร์มา โนววววววว “ไหนความเป็นชาย” ลุงเงียบไปซักพักคงช็อคอยู่ ฮ่าๆ
เรา “ลุงเชื่อปะเนี่ย อย่าเงียบดิมาคุยก่อน”
ลุง “ไม่เชื่อ ไหนพิสูจน์”
เรา “พิสูจน์ยังไง” คิดในใจ จะให้พิสูจน์อะไรวะ
ลุง “ต้องมีแหละ นังกะเทย” แล้วก็ส่งสติ๊กเกอร์ทำท่าเลิฟๆมา
เรา “นี่จริงจังนะเนี่ย ยังจะมาตลกอีก”
ลุง “ไหนดูหน้าชัดๆ” เรากำลังลุกไปตรงที่มีไฟเพื่อจะถ่ายรูปไปให้ ไม่ทันไรไอลุงใจร้อน กดคอลวีดิโอมาเลยจ้า เราก็กดรับ ตอนนั้นทั้งเขิลทั้งตื่นเต้น แล้วก็แอบกลัวนิดๆ ลุงบอกว่าไม่เห็นจะเหมือนกะเทยเลย เสียงก็ไม่ใช่ละ ออกจะเหมือนผู้หญิง เราก็บอกว่านี่เค้าพูดจริงนะ ไม่อยากให้ลุงต้องมาเสียเวลาเพื่อจะมาหาเค้า เลยตัดสินใจบอกก่อน แถมหน้าบานอ้วนด้วย ลุงบอกกับเราประโยคนึงว่า อ้วนแล้วไง ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย ประโยคนี้มันเป็นอะไรที่แบบเห้ยดีอะผู้ชายคนนี้ แต่มันกลับทำให้เรารู้สึกผิดมากที่ไม่ยอมบอกเขาตั้งแต่แรก ตอนนี้เขาอาจจะเสียใจมากก็ได้ ตอนนั้นเราทำได้แค่บอกขอโทษไปเท่านั้น ซักพักลุงดันกดพลาดจะกดอีโม แต่มันเด้งออกจากการคอล ไอลุงทักแชทมาก็ยังคงไม่เชื่อ ก็เลยบอกไปว่า "ก็ได้งั้นมาเจอพรุ่งนี้" ตอนนั้นก็เวลาตี1กว่าๆละ เราลุกเดินไปเก็บของว่าจะกลับบ้านแล้ว
เราเลยทักไปบอกว่า “เค้าจะกลับละ เดี่ยวออกไปดูรถหน้าหอ”
ลุง “เดินทางดีๆ อาบน้ำด้วยหละ”
เรา “จะคอลมาอีกมะ พรุ่งนี้เจออาจจะตะลึง”
ลุง “5555 เธอทำฉ้านกลัว”
เรา “ไม่เชื่ออีกอ่อ หรือแค่แกล้งเค้าเล่น”
ลุง “ไม่แน่ใจ ทำไมเสียงเหมือนผู้หญิง หน้าด้วย”
เรา “ก็เสียงเป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว หน้าหวานเหมือนแม่ ถ้าไม่บอกก็ไม่ค่อยมีคนดูออกหรอก”
ลุง “555 จริงดิ”
เรา “แต่ถ้าโอเค อยากเจอก็ได้ ไม่ติด เดี่ยวจัดให้ ฮ่าๆ”
ลุง “จัดไยให้ 55555 ไม่อยากเชื่อ”
เรา “ฮ่าๆ บ้าบอ ทำไมหละ” เราส่งสติ๊กเกอร์ไป ยิ้มหน่อยนะตัวเอง เราไม่อยากให้ลุงต้องผิดหวัง ตอนนี้ได้แค่ปลอบใจ แล้วหาอะไรๆที่ตลกๆทำให้ลุงขำ
เรา “แล้วยังจะไปไหมพรุ่งนี้ เดี่ยวเลี้ยงหนมปลอบใจ”
ลุง “ไม่แน่ใจ ตื่นตอนไหนอะ อยากเดินเจเจ” เหมือนกับว่าลุงเริ่มไม่ค่อยอยากมาเจอแล้ว งื้ออ
เรา “ได้เจเจ ไปไงอะ ให้เจอไหน เค้าไม่เคยไปเองอะ”
ลุง “ง่าวว”
เรา “ไม่ได้ง่าว” ฮ่าๆ อะไรกัน ตอนนั้นมันแบบ ทำไมลุงถึงไม่โกรธ หรือว่าอะไรเลย ปกติๆที่เจอมาพอรู้เขามักจะจบบทสนทนาแล้วเงียบหายไปเหมือนคนที่ไม่เคยรู้จักกัน แต่ลุงไม่ได้เป็นแบบนั้น
เรา “จะกลับแล้ว จะนอนยัง อยู่คุยบนรถเป็นเพื่อนด้วย” ลุงส่งรูปตัวเองกำลังนอนหลับตามา กวนตีนมาก จะให้ไม่รักได้ยังไงเนี่ย ลุงบอกว่าจะใกล้จะนอนแล้ว แต่อาเคอยู่คุยเป็นเพื่อนได้ จนกว่าจะถึงบ้าน
ลุงบอกกับเราว่า “ขอบคุณนะ ที่บอกกันก่อน”
พอเราออกไปขึ้นแท็กซี่ เราก็โทรคอลไลน์คุยกับลุงไปตลอดทาง ทุกอย่างที่อัดแน่นในอกเหมือนถูกยกออก เราได้พูดคุยกันหลายๆเรื่อง จนถึงบ้านก็ยังคุยกัน จนถึงตี3ครึ่งแหนะ ตอนนั้นมันทำให้เราสบายใจขึ้นมากๆ เราได้รู้จักกันและกันมากขึ้น ตอนนี้ลุงคงง่วงมากๆเพราะทำงานกลับมาคงเหนื่อย แถมต้องมารับรู้เรื่องตะเตือนไตอีก เราเลยต่างคนต่างแยกย้ายกันไปนอน แต่เรายังคงนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเกือบเช้า จากที่เคยกลัวการพบกัน กลับอยากให้ถึงวันพรุ่งนี้ที่เราได้เจอกันเร็วๆจัง เราเผลอหลับไปคาชุดนักนักศึกษา อายจัง นอนไปแบบเน่าๆ เครื่องสำอางก็ยังไม่ได้ล้างออก แฮะๆ ^^
ตามอ่านต่อที่ช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างนะคะ