ประสบการณ์พีค เมื่อคุณนั่งรถเมล์

ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนคงต้องใช้บริการรถขนส่งสาธารณะกันอย่างแน่นอน
ผมก็เช่นกันใช่เป็นประจำไม่ว่าจะไปเรียนหรือไปเที่ยว และบางท่านอาจเคยเจอเหตุการณ์ต่างๆบนรถเมล์ที่คุณอาจจะจำไปจนวันตายเลยที่เดียว55555

ผมขอแบ่งปันเรื่องราวสุดพีคของผมเองก่อนละกัน

-เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวัน 28 มีนาคม 2560 เป็นวันที่ผมเดินทางไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ย่านข้าวสารและบางลำพูด้วยตัวคนเดียว

    วันนั้นเวลาประมาณ 5 โมงกว่า หลังเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์บางลำพูนเสร็จผมก็ขึ้นรถเมล์ไปลงเทเวศเพื่อซื้อผัดไทยไปกินที่บ้าน ซึ่งรถเมล์คันนี้ไม่มีไรเหตุการณ์ทุกอย่างปกติ หลังจากซื้อผัดไทยเสร็จผมก็เดินไปป้ายรถเมล์หน้า ม.ราชมงคล เพื่อกลับบ้าน ใจหนึ่งก็อยากขึ้นรถเมล์ฟรี อีกใจก็กลัวผัดไทยเย็นแล้วจะไม่อร่อย เลยกะเวลาอีก 5 นาทีรถฟรีไม่มาจะยอมเสียตั้ง5555
    5 นาทีผ่านไปยังไม่มีรถฟรีมา สายเอกชนที่วิ่งไปท่าน้ำนนท์มาพอดี ผมเลยขึ้นทันทีรถโล่งด้วย ได้ที่นั่งแบบสองคนเกือบหลังสุด มีพี่ผู้ชายแบบพนักงานบริษัทจะมานั่งข้าง ๆ แต่พี่แกไม่นั่งเสียทีเหมือนกำลังหากระเป๋าสตางค์จากประเป๋าใหญ่ของพี่แก ในขณะที่พี่แกกำลังคนหาอย่างจริงจัง ก็มีลุงแก่ ๆ ท่าทางเหมือนขอทานเดินขึ้นมาบนรถ และที่นั่งทุกทีคือเต็มเหลือเพียงแต่ที่นั่งข้างเรา Oh My God ไม่จริงใช่ไหม ให้ตายเถอะ
        ผมก็ได้แต่มองพี่พนักงานบริษัทให้เขานั่งเสียที ฉันไม่เอานะ ไม่อยากนั่งข้างลุง
ละแล้วพี่เขาก็พบกับกระเป๋าสตางค์ในขณะที่ลุงเดินมาถึงหน้าแล้ว โอ้ชิท ซึ่งแน่นอน พี่แกหลีกทางให้ลุงนั่งแบบ ยกที่ให้คนแก่ สตรีมีครรภ์ และคนชรา  (OMG) และลุงคือแบบได้โอกาสรีบคว้าไว้อย่างรวดเร็วเล่นเอาผมลุกหนีไม่ทัน ลุงก็นั่งข้าง ๆ เรียบร้อยพร้อมถุงพลาสติกหนึ่งใบ ผมหันหน้าหนีออกนอกหน้าต่างทันที ไม่อยากหันไปมองลุงแกอีก ซึ่งผมก็ได้สงสายตาไปยังกระเป๋าให้ช่วยฉันด้วย
         ซักพักกระเป๋าก็มาเก็บค่าโดยสาร ซึ่งฮีไม่เก็บลุงจ้าเพราะลุงไหว้ฮี โอ้อย่างงี้ก็ได้หรอ (ถ้าเป็นกระเป๋ามนุษย์ป้าคงได้อัญเชิญลุงลงรถไปละ)  เมื่อตัวช่วยผมโดนลุงไหว้จัดการไปเป็นที่เรียบร้อย ให้หัวก็คิดถ้าฉันลุกจะโดนเรื่องสิทธิมนุษยชนมั้ยเนี้ยเพราะทุกคนมีความเท่าเทียม เลยตัดสินใจนั่งต่อละกันคงไม่แย่เท่าไหร่หรอกเพราะแหล่ดูลุงนั่งเรียบร้อยมีพื่นที่ระหว่างนิดๆ ผลเลยตัดสิ้นใจนั่งต่อไปเพราะรถขับออกมาจากป้ายละ
          สวรรค์ช่างไม่เป็นใจ เมื่อตำรวจ ต้องเตรียมถนนให้เสด็จ รถถูกบังคับให้เลี้ยวขวาแยกเทเวศ และลุงก็ได้ปาถุงขยะที่ถือมาด้วยผ่านหน้าผมไปอย่างรวดเร็ว โอ้ดอกไม้ ความตกใจยังไม่หมดเมื่อกลิ่นลุงเริ่มลอยมา หืนชวนออกมาก ผมก็เลยตัดสินใจช่างยิ้มจะลงป้ายหน้า รถก็วิ่งต่อไปอย่างไม่สนใจชะตากรรมผู้โดยสาร  ที่นั่งข้าง ๆ อย่างผมและพวกนั่งข้างหลังผม ซึ่งบ่นกับกลิ่น และเริ่มเห็นใจผมหรือเปล่า เพราะนางเริ่มพูดว่า
ก - เนี้ยถ้ากูเป็นคนข้างหน้าเนี้ย กูทนนั่งอย่างนี่ไม่ได้หรอก
ข  - คนหน้าไหน
ผมคิดในใจ- กูเนี้ยแหละ
ก - นี่ไง(ชี้นิ้วมา)
ข - ออ
และนางก้เปลี่ยนเรื่องคุย
ผมคิดในใจ-  อืมขอบใจนะ ร้องไห้
       เมื่อรถกลับเข้าเส้นทางที่ท่าวาสุกรี ผมก็ลุกทันทีเพื่อจะลงป้ายวัดราชา ลุงแกหันมามองยกมือไหว้ผม และยกขาขึ้นไขว่ห้าง ผมก็คิดในใจ OMG ไม่ต้องไหว้ผม ให้ผมออกไปเถอะได้โปรด ซึ่งลุงไม่ขยับตัวเลย ( เข้าใจมั้ยว่าไม่อยากโดนตัวลุงเลย แต่ก็ต้องยอม ) ผมเลยเบียดลงแกออกมา สะดุดรองเท้าแกหลุดตามมาหนึ่งข้าง ลุงนั่งหน้าเหวอและเสียการทรงตัวทันที ผมรีบเขี่ยรองเท้าแกคืนทันที แล้ววิ่งลงรถเข้า เซเว่นไปเลย รอรถออกแล้วค่อยออกมา
ถือเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จะนั่งข้างลุงเม่าตกใจ




เรื่องราวของผมยังมีอีกเยอะนะครับไว้มาต่อกัน

คาดว่าหลายคนคงเจอประสบการณ์สุดพีคต่าง ๆ บนรถเมล์กันมาไม่มาก็น้อยนะครับ มาแบ่งปันชะตากรรมกันได้นะ

เพี้ยนเงือก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่