จากข่าวการมาพักร้อนของ วินฟรีด เชเฟอร์ ที่ประเทศไทยได้กลายเป็นกระแสที่คนในวงการฟุตบอลไทยรวมถึงแฟนบอลไทยพูดถึงกันมากที่สุดในขณะนี้ ในเรื่องของโอกาสที่วินนี่จะหวนกลับมาคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่อีกครั้ง
มีหลากหลายความคิดเห็นเป็นส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์ไปในเชิงที่ต้องการให้เชเฟอร์กลับมาคุมทีมอีกครั้ง ซึ่งผมก็ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเชเฟอร์ไปเรียบร้อยแล้วเขามีวิธีคิดที่น่าสนใจและดูเป็นคนที่เรียกว่าบ้าและรักฟุตบอลมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในเรื่องฟุตบอลมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะกับทีมชาติ เขาคือโค้ชที่เก่งมากคนหนึ่งเท่าที่ประวัติศาสตร์ทีมชาติไทยเคยมีมา(อ.หรั่ง ปีเตอร์วิธ ปีเตอร์รีด ซิโก้ ก็รวมอยู่ในนี้เช่นกัน)
แต่สุดท้ายเมื่อผมกลับมาคิดดูอีกที ผมกลับรู้สึกเห็นต่างที่จะให้เชเฟอร์กลับมาคุมทีมชาติไทยอีกครั้ง หลายท่านคงเริ่มสงสัยว่าทำไมมาฟังเหตุผลกันเลยดีกว่า
ในที่สุดผมก็คิดเรื่องนี้ออกเราลืมใครไปหรือเปล่า ??? บริษัท เอคโคโน ไงครับ เรายังจำกันได้รึป่าวแฟนบอลไทยทั้งหลาย ทุกครั้งที่ทีมชาติไทยแพ้ทีมระดับเอเชียหรือทีมระดับโลกที่เขาแค่ขนตัวสำรองมาสู้กับเราแต่ทำไมเราถึงต้องแพ้แบบย่อยยับทุกครั้งไป อาจจะมีบางครั้งที่ฟลุ๊คชนะบ้างหรือเสมอซึ่งมันก็เกิดขึ้นนานๆครั้งและส่วนมากจะเป็นนัดอุ่นเครื่องซะมากกว่าด้วยซ้ำ
บางท่านที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารบอลไทยสักเท่าไหร่อาจจะสงสัยว่า บริษัท เอคโคโน คือบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับอะไรมีหน้าที่บทบาทอะไรในการพัฒนาทีมชาติ บริษัทนี้จะเข้ามาดูแลในเรื่องของเยาวชนตั้งแต่ U-14 ไปจนถึง U-21 คำถามต่อมาคือ ในเมื่อบริษัทนี้เป็นมืออาชีพในเรื่องของวิธีการปูพื้นฐานฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชนแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราน่าจะให้บริษัทนี้เข้ามาจัดการทีมชาติชุดใหญ่รวมถึงU-23ไปด้วยเลยมันคงจะดีไม่น้อยทีเดียว
คุณลองนึกภาพตามดูนะ ทีมชาติตั้งแต่ระดับ U-14 ถึง ทีมชาติชุดใหญ่ มีโค้ชจากบริษัท เอคโคโน ทั้งหมด ซึ่งมันมีความเป็นไปได้สูง(มากๆ)ว่าเราอาจจะได้เห็นทีมชาติทุกชุดเล่นฟุตบอลด้วยระบบเดียวกันทั้งหมด เพราะโค้ชที่เอคโคโนจัดหามาเขาก็ต้องหาคนที่สามารถเข้ากันได้ทำงานร่วมกันประสานงานกันได้มาอยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อโค้ชทีมชาติมาจากบริษัทเดียวกันโอกาสที่เขาจะเตะตัดขากันเองก็มีน้อยลงมาก ซึ่งมันจะต่างจากโค้ชทีมชาติชุดใหญ่ที่เป็นคนอื่นซึ่งถึงแม้จะเป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะในแถบยุโรปเขาก็มีความเป็นมืออาชีพมากอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่แต่ละคนมีอีโก้ที่สูงต่ำไม่เหมือนกันผมเชื่อว่าโอกาสที่ระบบจะไปในทิศทางเดียวกันมีโอกาสล้มเหลวมากกว่าโค้ชที่มาจากบริษัทเดียวกัน อีกทั้งเมื่อโค้ชมาจากบริษัทเดียวกันทั้งหมดแล้วการควบคุมดูแลของประธานเทคนิคซึ่งคือโค้ชเฮงก็จะทำงานร่วมกันกับเอคโคโนได้ง่ายขึ้นมากกว่าเดิม(มากๆ) เพราะอำนาจในการตัดสินใจเลือกระบบสไตล์การเล่นของทีมชาติจะมาจากโค้ชเฮงซึ่งโค้ชเฮงก็ต้องนำวิธีการไปปรึกษากับทีมงานของเอคโคโนเพื่อหายุติสำหรับวิธีการที่เหมาะสมที่สุดและทีมงานสามารถลงมือทำได้จริง แต่ถ้าโค้ชทีมชาติชุดใหญ่เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ทีมงานของเอคโคโนอาจมีความเห็นในวิธีการเล่นระบบสไตล์ต่างๆก็จะต้องแตกต่างไปมากกว่าเดิม ซึ่งอีโก้ของแต่ละคนมันไม่เท่ากันหรอกครับแม้กระทั่งโค้ชเก่งๆที่เป็นมืออาชีพระดับโลกบทที่เขาจะแสดงความมีอีโก้สูงในการดันทุรังเล่นฟุตบอลในระบบของเขาที่เรียกว่าปรัชญาฟุตบอลจนทีมตกต่ำลงก็มีให้เห็นกันมาแล้วนะครับ
จากที่กล่าวมาทั้งหมดก็คือเหตุผลที่ว่า ทางเลือกที่ดีกว่าการกลับมาของ วินฟรีด เชเฟอร์ คือการให้บริษัท เอคโคโน จัดหาโค้ชให้กับทีมชาติชุดใหญ่และU-23 เพื่อความเป็นระบบและสไตล์การเล่นเดียวกัน ผมคิดว่าวิธีนี้คือวิธีที่เราจะย่นเวลาในการปรับปรุงระบบสไตล์การเล่นของทีมชาติให้เห็นผลได้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ และระบบสไตล์การเล่นแบบ Thailand Way คงจะไม่ใช่ความฝันลมๆแล้งๆของเราอีกต่อไปครับ
หากท่านอ่านจบแล้วเชิญแสดงความคิดเห็นได้ตามอัธยาศัยเลยครับ ผมน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นเห็นด้วยหรือเห็นต่าง เพราะทุกคนที่มาอยู่ในที่นี้ล้วนคือบุคคลที่รักในฟุตบอลไทยทุกคน ทุกความคิดเห็นทุกข้อเสนอย่อมส่งผลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทีมชาติไม่มากก็น้อยครับ
[กระทู้สวนกระแส+พลีชีพ] ไม่อยากให้ วินฟรีด เชเฟอร์ กลับมาเป็นโค้ชทีมชาติไทยเพราะเรามีทางเลือกที่ดีกว่านั้น
มีหลากหลายความคิดเห็นเป็นส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์ไปในเชิงที่ต้องการให้เชเฟอร์กลับมาคุมทีมอีกครั้ง ซึ่งผมก็ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเชเฟอร์ไปเรียบร้อยแล้วเขามีวิธีคิดที่น่าสนใจและดูเป็นคนที่เรียกว่าบ้าและรักฟุตบอลมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในเรื่องฟุตบอลมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะกับทีมชาติ เขาคือโค้ชที่เก่งมากคนหนึ่งเท่าที่ประวัติศาสตร์ทีมชาติไทยเคยมีมา(อ.หรั่ง ปีเตอร์วิธ ปีเตอร์รีด ซิโก้ ก็รวมอยู่ในนี้เช่นกัน)
แต่สุดท้ายเมื่อผมกลับมาคิดดูอีกที ผมกลับรู้สึกเห็นต่างที่จะให้เชเฟอร์กลับมาคุมทีมชาติไทยอีกครั้ง หลายท่านคงเริ่มสงสัยว่าทำไมมาฟังเหตุผลกันเลยดีกว่า
ในที่สุดผมก็คิดเรื่องนี้ออกเราลืมใครไปหรือเปล่า ??? บริษัท เอคโคโน ไงครับ เรายังจำกันได้รึป่าวแฟนบอลไทยทั้งหลาย ทุกครั้งที่ทีมชาติไทยแพ้ทีมระดับเอเชียหรือทีมระดับโลกที่เขาแค่ขนตัวสำรองมาสู้กับเราแต่ทำไมเราถึงต้องแพ้แบบย่อยยับทุกครั้งไป อาจจะมีบางครั้งที่ฟลุ๊คชนะบ้างหรือเสมอซึ่งมันก็เกิดขึ้นนานๆครั้งและส่วนมากจะเป็นนัดอุ่นเครื่องซะมากกว่าด้วยซ้ำ
บางท่านที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารบอลไทยสักเท่าไหร่อาจจะสงสัยว่า บริษัท เอคโคโน คือบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับอะไรมีหน้าที่บทบาทอะไรในการพัฒนาทีมชาติ บริษัทนี้จะเข้ามาดูแลในเรื่องของเยาวชนตั้งแต่ U-14 ไปจนถึง U-21 คำถามต่อมาคือ ในเมื่อบริษัทนี้เป็นมืออาชีพในเรื่องของวิธีการปูพื้นฐานฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชนแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราน่าจะให้บริษัทนี้เข้ามาจัดการทีมชาติชุดใหญ่รวมถึงU-23ไปด้วยเลยมันคงจะดีไม่น้อยทีเดียว
คุณลองนึกภาพตามดูนะ ทีมชาติตั้งแต่ระดับ U-14 ถึง ทีมชาติชุดใหญ่ มีโค้ชจากบริษัท เอคโคโน ทั้งหมด ซึ่งมันมีความเป็นไปได้สูง(มากๆ)ว่าเราอาจจะได้เห็นทีมชาติทุกชุดเล่นฟุตบอลด้วยระบบเดียวกันทั้งหมด เพราะโค้ชที่เอคโคโนจัดหามาเขาก็ต้องหาคนที่สามารถเข้ากันได้ทำงานร่วมกันประสานงานกันได้มาอยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อโค้ชทีมชาติมาจากบริษัทเดียวกันโอกาสที่เขาจะเตะตัดขากันเองก็มีน้อยลงมาก ซึ่งมันจะต่างจากโค้ชทีมชาติชุดใหญ่ที่เป็นคนอื่นซึ่งถึงแม้จะเป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะในแถบยุโรปเขาก็มีความเป็นมืออาชีพมากอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่แต่ละคนมีอีโก้ที่สูงต่ำไม่เหมือนกันผมเชื่อว่าโอกาสที่ระบบจะไปในทิศทางเดียวกันมีโอกาสล้มเหลวมากกว่าโค้ชที่มาจากบริษัทเดียวกัน อีกทั้งเมื่อโค้ชมาจากบริษัทเดียวกันทั้งหมดแล้วการควบคุมดูแลของประธานเทคนิคซึ่งคือโค้ชเฮงก็จะทำงานร่วมกันกับเอคโคโนได้ง่ายขึ้นมากกว่าเดิม(มากๆ) เพราะอำนาจในการตัดสินใจเลือกระบบสไตล์การเล่นของทีมชาติจะมาจากโค้ชเฮงซึ่งโค้ชเฮงก็ต้องนำวิธีการไปปรึกษากับทีมงานของเอคโคโนเพื่อหายุติสำหรับวิธีการที่เหมาะสมที่สุดและทีมงานสามารถลงมือทำได้จริง แต่ถ้าโค้ชทีมชาติชุดใหญ่เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ทีมงานของเอคโคโนอาจมีความเห็นในวิธีการเล่นระบบสไตล์ต่างๆก็จะต้องแตกต่างไปมากกว่าเดิม ซึ่งอีโก้ของแต่ละคนมันไม่เท่ากันหรอกครับแม้กระทั่งโค้ชเก่งๆที่เป็นมืออาชีพระดับโลกบทที่เขาจะแสดงความมีอีโก้สูงในการดันทุรังเล่นฟุตบอลในระบบของเขาที่เรียกว่าปรัชญาฟุตบอลจนทีมตกต่ำลงก็มีให้เห็นกันมาแล้วนะครับ
จากที่กล่าวมาทั้งหมดก็คือเหตุผลที่ว่า ทางเลือกที่ดีกว่าการกลับมาของ วินฟรีด เชเฟอร์ คือการให้บริษัท เอคโคโน จัดหาโค้ชให้กับทีมชาติชุดใหญ่และU-23 เพื่อความเป็นระบบและสไตล์การเล่นเดียวกัน ผมคิดว่าวิธีนี้คือวิธีที่เราจะย่นเวลาในการปรับปรุงระบบสไตล์การเล่นของทีมชาติให้เห็นผลได้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ และระบบสไตล์การเล่นแบบ Thailand Way คงจะไม่ใช่ความฝันลมๆแล้งๆของเราอีกต่อไปครับ
หากท่านอ่านจบแล้วเชิญแสดงความคิดเห็นได้ตามอัธยาศัยเลยครับ ผมน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นเห็นด้วยหรือเห็นต่าง เพราะทุกคนที่มาอยู่ในที่นี้ล้วนคือบุคคลที่รักในฟุตบอลไทยทุกคน ทุกความคิดเห็นทุกข้อเสนอย่อมส่งผลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทีมชาติไม่มากก็น้อยครับ