[CR] New Zealand Road Trip ที่ทำให้คุณต้องกลับมาอีก เม ย 59 (4)

____Rotorau____

อ่านกระทู้ก่อนหน้าได้ที่
(1) https://pantip.com/topic/36178934
(2) https://pantip.com/topic/36207367
(3) https://pantip.com/topic/36238854

เราเดินทางต่อไปยังเมือง
“Rotorau”
เมืองนี้เป็น เมืองแห่นน้ำพุร้อน

ก่อนเข้าเมืองจะผ่านอุทยานบ่อน้ำร้อนชื่อดังของเค้า
คือ
"WaiOTapu"


มีให้เลือกเดิน 3 แบบ
คือเป็นเส้นทาง 3 วง
ถ้าเดินวงเดียว ก็เดินน้อยหน่อย
เดิน 2 วง ก็เดินเยอะขึ้นมา
เดิน 3 วง คือเดินครบหมดเลย

แนะนำเดินหมดครับ
แต่ถ้าใครไม่ไหว เดิน วงเดียว ก็โอเค ครับ


จุดแรกที่เจอ
Devil Home มีน้ำเดือดปุดๆอยู่ข้างใน เหมือนเป็นโคลนหนืดๆ
มีเสียง ปุดๆ เวลาโคลนมันเดือดแล้วฟองแตกด้วย
นึกถึง นรก 5555


บรรยากาศทั่วไปของอุทยานนี้


นอกจากในอุทยานแล้ว
เวลาขับรถในเมืองนี้ เราจะเห็นควันลอยออกมากจากหุบเขา หรือข้างทาง ได้ตลอด
กวาดสายตายไปข้างทาง หรือบนเขา จะเห็นควันเป็นหย่อมๆกระจายๆโดยทั่วเมือง


เดินตามทางไปเรื่อยๆครับ
เค้าทำทางเดินไว้ดีมาก
แต่อาจจะหลงกันได้ เพราะมันเป็นวง 3 วง
ดูแผนที่ และป้ายบ่อต่างๆ จะคอนเฟิมว่าเราอยู่ส่วนไหน


บ่อนี้สวยครับ มีชื่อว่า
Artist’s Palette
มันมีหลายสี
สีแต่ละสีก็เพราะว่ามีสารคนละตัวกัน

สีใสหรือออกฟ้า เป็น อัลคาไล-คลอไรด์
สีออกเหลืองขุ่นๆไปถึงเขียว เป็น เอซิด-ซัลเฟต
สีส้ม เป็น แอนติมอนี หรือ อาเซนิก (สารหนู)
สีเหลืองเขียว เป็น อาเซนิก หรือ ซัลเฟอร์
สีเทา เป็น คาร์บอน

สารพวกนี้ทำให้ได้สีที่ต่างกัน


ภูมิประเทศที่แปลกตา ไม่เหมือนกับบ้านเรา


อันนี้สีเหลืองชัดมาก


สะพานข้ามน้ำเดือด


ตรงนี้เป็นพื้นเอียงที่ไม่ชันมากน้ำค่อยๆไหลลงมา
ทำให้มันเป็นตะกรันแข็งๆ ได้ และกลายเป็นชั้นๆแบบนี้
แปลกตามาก


ซักจุดนึง ตรงนี้สูง มองเห็นวิวได้ไกล


บ่อนี้สีเขียว ไกลออกไปหลังอุทยาน
ตรงนี้เป็นที่ที่เราสามารถเข้ามาได้ลึกสุดของอุทยานแล้ว


waterfalls


Sulphur cave เหลืองจริงๆ


ในบ่อเป็นชั้นๆเหมือนเปลือกหอย


ชั้นหินนี้ นักธรณีวิทยา ใช้ศึกษาอายุของชั้นหินได้
แต่ละยุค จะมีการทับถมกัน
ทำให้สืบกลับไปได้ว่าผ่านมาเท่าไหร่แล้ว

แต่ละยุคก็จะถูกทับถมไป
ในอนาคต เมืองที่เราอยู่ตอนนี้ก็จะกลายเป็นแค่ชั้นๆนึงบนชั้นหินแบบนี้เหมือนกัน


ร้อนระอุ


ทางเดิน


บ่อนี้เป็นไฮไลท์ของที่นี่
แต่ไม่ต้องเดินเข้าไปสุด
เดินวงเดียวก็สามารถเห็นได้แล้ว
ควันสูงสุดๆ


The Champagne Pool


อันนี้ออกสีม่วงๆ


บ่อนี้เขียวมาก
Devil Bath


เดินอยู่ในนี้มีนกด้วยนะครับ เยอะเลย
สวยๆ เสียงดีๆด้วย

ซื้อบัตรเข้าอุทยานนี้ สามารถชมน้ำพุร้อนได้นะครับ
ซึ่งน้ำพุร้อนจะอยู่คนละที่จากตรงนี้
แต่สามารถใช้บัตรนี้ได้
ถ้าเราไปชมตอนเย็น
วันพรุ่งนี้เราเอาบัตรไปชมน้ำพุร้อนได้


(ภาพจากอินเตอเนต)
โดยน้ำพุจะพุ่งทุกวัน เวลา 10 โมงเช้า
มันพุ่งสูงมากก ชื่อ
“Lady Knox Geyser”

ทางขับมาก่อนเข้าอุทยานนี้
รถข้ามสะพานเล็ก ที่มีน้ำใสไหลผ่าน
เป็นฝรั่งจอดรถข้างทางเยอะเลย
ตอนแรกงง ว่าเค้าดูอะไรกัน
ไม่ใช่ มันลงไปแช่น้ำกัน
น้ำตรงนี้คงอุ่นกำลังดี
ไม่เสียเงินด้วย

นี่ถ้าไม่กลัวเข้าเมืองจะมืด จะไปแช่ด้วย โห เสียดาย


ตัวเมือง Rotorau มีที่สำคัญคือ พิพิธภัณฑ์
Rotorau Museum
ตัวอาคารสวยมากครับไม่รู้ว่าเรียกว่าสถาปัตยกรรมแบบไหน


ใกล้ๆ มีบ่อแช่น้ำร้อน Ponysia spa
และมีบ่อน้ำร้อน Blue Bath


ในส่วนของ Blue Bath เป็นบ่อเก่าแก่มาก
เหมือนเป็นสระว่ายน้ำสาธารณะที่แรกของโลก
ปัจจุบันได้ปรับปรุงและยังใช้งานได้

อยู่ในเมืองนี้ได้แต่กินกำมะถันครับ
ตลอดเวลาเลย ใน รร ก็มีแต่กลิ่นนี้
เป็นทั้งเมือง


ยังมีบ่อน้ำร้อน ประปราย


ที่ต่อมาคือป่า red wood
เป็นทางเดินป่าครับ ใหญ่มาก
ต้นไม้ก็ใหญ่มาก
มีทางให้เดินเยอะไปหมด หลงได้ง่ายๆ

ที่มาเพราะไปคุยกับฝรั่ง แล้วเค้าไปมาบอกว่าสวย
เลยมา
ก็สวยจริงๆแหละครับ
แต่มันเป็นเดินป่า คนมาวิ่งออกกำลังกายกัน


ถ้าใครไปแนะนำศึกษาเส้นทางเดินดีๆก่อนนะครับ
จะหาว่าไม่เตือน 5555

ถามคนตามทางเดิน
บ้างก็บอกว่ามีจุดชมวิวที่จะเห็นเมือง Rotorau
บางคนก็บอกว่ามีสระน้ำ
บอกไม่เหมือนกันซักคน
แต่เข้าใจแหละ เพราะมันมีหลายทางมาก

ผมเดินทางทางนึงมันเป็นทางขึ้นเขา ซึ่งเดินนานมาก และก็เดินไปไม่ถึง
เปลี่ยนใจลงมาก่อน 555

แนะนำถ้ามาถึง red wood ให้ขับตรงไปสุดทาง จะมี จุดบริการนักท่องเที่ยวอยู่
ส่วนผม เดินเข้าป่าไปวนในป่าก่อน
ออกมาค่อยเจอจุดบริการนี้ เลยไม่ได้ข้อมูลสำหรับเดินเลย


ส่วนนี้มีบริการ Tree Walk Way
เด็กๆน่าจะชอบกัน

Rotorau เราพักที่ รร
“Four canoes Hotel”
รีวิว รร
free wifi ครัวดี ห้องน้ำดี ห้องนอนดี แต่reception ไม่ดี


เราเดินทางต่อไปยัง
Rotorau ST. Faith’s Anglican Church
เป็นโบสถ์เก่า ที่สร้างโดยใช้สถาปัตยกรรมชาวเมารี เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นแห่งแรกของเมืองนี้

ตอมผมไป
จะมีหญิงสูงวัยคอยตอนรับอยู่ในโบสถ์ คอยตอบคำถามนักท่องเที่ยว
น่าจะเป็นคนในหมู่บ้าน ที่ผลัดกันมาเป็นอาสาสมัคร ทำงานนี้
ผมเจอตอนเปลี่ยนผลัดกันด้วย น่ารักมากๆ


ผมถามเค้าว่า ทำไมโบสถ์นี้ถึงสร้างแบบเมารี
ไม่เหมือนกับโบสถ์อื่นๆในนิวซีที่เราเห็นท่ัวไป
เค้าตอบว่า ตอนที่สร้างโบสถ์ ในบริเวณนี้เป็นหมู่บ้านของชาวเมารี
จึงต้องสร้างให้เข้าได้กับวัฒนธรรมท้องถิ่น


ส่วนที่ผมชอบคือกระจกนี้
เป็นรูปพระเยซู สวมชุดเมารี ซึ่งมีที่นี่ที่เดียว
ผนังก็เป็นไม้สานๆ สวยไม่เหมือนใคร


ที่นั่งสวดมนต์ก็เป็นไม้แกะสลัก เอกลักษณ์ของเมารีเค้าเลย สวย

ตอนที่ผมไป คนไปน้อยครับ เงียบ
แต่ผมชอบ แนะนำให้ไปเยี่ยมกันนะครับ
แถวๆนั้น จะมีทัวร์ชมหมู่บ้านเมารีด้วย
มีร้านขายของที่ระลึกของคนท้องถิ่น

เค้าบอกว่า ชาวเมารีแท้ๆ น้อยไปทุกวัน เพราะกลายเป็นลูกครึ่งกันหมด
แต่ก็ยังพอมีอยู่บ้าง


ยังคงมีบ่น้ำร้อนกระจายอยู่


เห็นควันเป็นจุดๆ
แต่ต้องระวังนำครับ
บางจุดทำรั้วล้อมไว้
บางจุดมีป้ายเตือน ก็คอยดูกันนะครับ
มันร้อนมากจริงๆ


ชอบความสงบของเมืองเค้าจัง
ชื่อสินค้า:   New Zealand
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่