สวัสดีค่ะจขกทเป็นเด็ก60ค่ะ เป็นเด็กคนนึงที่จัดอยู่ในประเภทไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไรกันแน่ อยากเป็นอะไรกันแน่ชีวิตเหมือนเปลี่ยนสีตามความคิดของผู้ใหญ่ที่ควรป้อนความคิดกับเรามาเรื่อยๆรู้แค่ว่าอยากเรียนคณะทมี่จบมามีงานรองรับแค่นั้นเป็นคนที่มีความฝันแต่มันคือความฝันแบบลมๆแล้งๆพอเวลาผ่านไปสังคมก็เปลี่ยนความฝันของเรา ชีวิตม.ปลายของเราก็แค่ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆไม่มีการค้นพบว่าตัวเองชอบอะไรและอยากเรียนอะไรกันแน่ ทำงานส่งคุณครูไปวันๆ เสพความทรงจำช่วงม.ปลายไปวันๆ พอถึงเวลาสมัครเข้ามหาลัยจขกทก็สมัครโควต้าของม.เกษตรที่ใกล้บ้านเพราะด้วยเรื่องค่าใช้จ่ายทางบ้านจะได้ประหยัด แต่จังหวัดของจขกท.ไม่ใช่จังหวัดที่ใหญ่อะไรมากมายเอาง่ายๆคือถ้าเรียนที่นี้คงไม่ได้ประสบการณ์ใหม่ๆจขกทเลย โอเค๊สละสิทธิ์ไม่เรียน
บวกกับน้าของจขกทเสนอแนวทางการเรียนมาว่าไปเรียนที่สมุทรปราการมั้ยจขกทก็เห็นว่าที่นั้นเป็นจังหวัดที่ถ้าเรียนเกี่ยวกับโลจิสน่าจะโอเคและจขกท.ก็คิดว่าจะเรียนปวสก่อนและค่อยเทียบโอนเข้า แต่พอเวลาผ่านไปสิ่งที่เราเคยคิดไว้มันไม่เป็นแบบที่เราหวังหรอกนะคะ ทุกอย่างเริ่มเละเทะไปหมด สิ่งตอบแทนของการที่จขกท.ทิ้งสิ่งที่จขกท.เลือกในตอนแรกมันคือน้ำตาและความเครียด ในขณะที่เพื่อนมีที่เรียนเตรียมรายงานตัวแล้วจขกทก็ยังไม่มีที่เรียนเป็นหลักเป็นแหล่ง ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากเรียนอะไรอยากเป็นอะไร มันเป็นความล้มเหลวในชีวิตที่จขกท.รู้สึกว่ามันแย่มากๆ พอเวลาผ่านไปความเชื่อมั่นที่ทุกคนเคยมีให้จขกท.มันก็หายไปเหมือนทุกคนไม่เชื่อมั่นในตัวเรา ทุกคนล้วนแต่กำหนดทางให้เราว่าอยากให้เราเรียนนู่นนี้นั้นทั้งๆที่เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเราเรียนไหวมั้ย ไม่สิต้องพูดว่าเราสามารถอยู่กับสิ่งนั้นได้อย่างมีความสุขมั้ย และด้วยความที่ตอนแรกจขกทคิดว่าตัวเองจะเรียนปวส.มันทำให้จขกทไม่จริงจังกับการสอบต่างๆเท่าที่ควร แต่ก็ยังดีที่คะแนนออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มันก็มาสายไปเพราะในขณะที่เพื่อนสมัครเรียนมหาลัยต่างๆจขกท.ก็ไม่สมัคร พอมาถึงเวลาที่จขกท.มาถึงจุดที่มันจะทำให้เราคิดได้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ในชีวิตเราเรากลับไม่มีโอกาสนั้นแล้ว เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาจขกทก็นั่งดูรายชื่อคณะต่างๆ ดูรายชื่อผู้มีสิทธิ์รายงานตัวมันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก มันเหมือนว่าเราเลือกทางผิดมาตลอดเหมือนว่าเราไม่รู้เลยว่าเราควรทำอะไร วินาทีนั้นจขกท.เข้าใจพวกรุ่นพี่เลยค่ะว่าทำไมเขาถึงร้องไห้และบอกว่าช่วงเวลาม.6เป็นเวลาที่มีความสุขและความทุกข์มากที่สุดในชีวิตม.ปลาย จขกท.ตัดสินใจคุยเรื่องนี้กับทางบ้านคุยไปน้ำตาที่กลั้นไว้มันไหลออกมาคุยไปร้องไห้ไป ความรู้สึกตอนนั้นมันปนเปกันไปหมดแต่ส่วนใหญ่มันคือความรู้สึกที่ว่า นี้เหรอสิ่งตอบแทนของการที่เราเลือกตามสิ่งที่เขาต้องการมันไม่มีความมั่นคงให้เรา ผลก็ออกมาดีค่ะเขาก็เปิดโอกาสให้จขกท และก็ให้จขกทเลือกทางของตัวเอง ถือว่ายังโชคดีที่จขกท.เจอทางเดินที่ตัวเองค้นหามานานเจอซักที ลัก็ยังมีโอกาสอยู่ถ้าสายกว่านี้คงไม่มีโอกาส สิ่งที่พี่อยากจะบอกถึงรุ่นน้องทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านคือน้องต้องเตรียมตัวดีดีค้นหาว่าตัวเองชอบอะไรและอยากเรียนอะไรอยากเป็นอะไร ถ้าเรียนแนะแนวครูอาจจะแนะนำน้องว่าเราต้องแยกความฝันกับความเป็นจริง สิ่งที่เราฝันบางทีอาจจะหนักไปสำหรับ หรืออาจจะเป็นคำพูดที่ว่าเราไม่มีทางรู้ว่าเราเหมาะกับเรียนอะไรจนกว่าเราจะเห็นคะแนนที่เราสอบออกมา เชื่อพี่เถอะทุกคนต้องมีความฝันทำตามที่ตัวเองอยากเป็นเถอะถ้าเรามีความฝันมันก็จะมีแรงผลักดันให้เราผ่านทุกๆสิ่งไปได้เราจะมีความสุขกับมันเพราะมันคือสิ่งที่เราอยากเป็น
ยิ่งไทยจะกลับมาใช้ระบบเอนทรานแล้วน้องยิ่งต้องคิดให้ได้ว่าตัวเองมีความฝันคืออะไรกันแน่หรือเลือกสิ่งที่น้องอยู่กับมันแล้วมีความสุขก็ได้ เช่นน้องชอบเล่นเกมก็เรียนโปรแกรมไปเลยใจใจไปเลย หรือถ้าใครยังไม่รู้ตัวเองจริงๆก็ซิ่วไป1ปีเพื่อค้นหาตัวเองมันก็ยังไม่สายนะเพราะถ้าเราไปเรียนจริงๆเราอาจจะจะไม่ชอบแล้วก็ซิ่วก็ได้ เพราะงั้นก็ไปค้นหาตัวเองเลย1ปี
1ปีแลกกับอนาคตตัวเองมันคุ้มนะ ชีวิตของน้องน้องอย่ามัวแต่ให้คนอื่นมากำหนดไม่งั้นเราอาจจะไม่มีความสุขกับมัน
ในขณะที่เพื่อนมีที่เรียนซื้อชุดนักศึกษาแล้วแต่เราต้องอยู่แบบไร้จุดหมายที่แน่นอนมันเศร้าใจและเขว้งมากเลยนะ คิดให้ดีดีว่าตัวเองควรเลือกทางเดินไหน การศึกษาของไทยไม่สามารถช่วยให้เราค้นพบตัวเองหรอกนะวันๆเราก็แค่ฟังครูสอนไป ครูบางคนก็สอนผิดด้วยซ้ำสอนไปเรื่อยๆวันๆ ไม่ได้สนใจว่าเด็กเข้าใจเนื้อหาจริงมั้ย แต่อันนี้ก็แล้วแต่ครูนะคะครูที่ดีก็มีเยอะแยะ การที่เราจะค้นพบตัวเองว่าเราเหมาะกับอะไรชอบอะไรห้องสี่เหลี่ยมที่เราเรียนพร้อมคนหลายคนมันไม่ได้ช่วยให้เราตัดสินใจได้หรอกนะคะ HON FIFA ROVก็ไม่ได้ช่วยนะ น้องต้องห่างจากอะไรแบบเดิมๆที่น้องทำอยู่แล้วลองไปใช้ชีวิตเหมือนตอนเด็กบ้างตอนที่เรายังไม่ได้ใช้โทรศัพท์ตอนที่เราวิ่งเล่นไปวันๆ ลองออกไปเจออะไรใหม่ๆ ไม่ใช่เพื่อนเรียนอะไรก็เรียนตามเพื่อน เห้ยยยยยนี้ชีวิตเรานะอย่าตามใครเลือกสิ่งที่ตัวเองคิดว่าใช่ที่สุดแล้วก็พุ่งไปกับมันเลย อ่านหนังสือให้มากๆนะเด็ก61 เพราะในสนามสอบเข้ามหาลัยไม่ได้มีแค่เด็ก61ที่สอบนะ พวกพี่รุ่น60รอแย่งเก้าอี้น้องอยู่หลายคนนะ
ฝากถึงรุ่นน้องที่จะสอบเข้ามหาลัยนะคะ อย่าชิวเกินไปจนชีวิตเกือบล้มเหลวนะคะ รีบค้นหาตัวเองได้แล้วว่าอยากเรียนอะไรกันแน่
บวกกับน้าของจขกทเสนอแนวทางการเรียนมาว่าไปเรียนที่สมุทรปราการมั้ยจขกทก็เห็นว่าที่นั้นเป็นจังหวัดที่ถ้าเรียนเกี่ยวกับโลจิสน่าจะโอเคและจขกท.ก็คิดว่าจะเรียนปวสก่อนและค่อยเทียบโอนเข้า แต่พอเวลาผ่านไปสิ่งที่เราเคยคิดไว้มันไม่เป็นแบบที่เราหวังหรอกนะคะ ทุกอย่างเริ่มเละเทะไปหมด สิ่งตอบแทนของการที่จขกท.ทิ้งสิ่งที่จขกท.เลือกในตอนแรกมันคือน้ำตาและความเครียด ในขณะที่เพื่อนมีที่เรียนเตรียมรายงานตัวแล้วจขกทก็ยังไม่มีที่เรียนเป็นหลักเป็นแหล่ง ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากเรียนอะไรอยากเป็นอะไร มันเป็นความล้มเหลวในชีวิตที่จขกท.รู้สึกว่ามันแย่มากๆ พอเวลาผ่านไปความเชื่อมั่นที่ทุกคนเคยมีให้จขกท.มันก็หายไปเหมือนทุกคนไม่เชื่อมั่นในตัวเรา ทุกคนล้วนแต่กำหนดทางให้เราว่าอยากให้เราเรียนนู่นนี้นั้นทั้งๆที่เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเราเรียนไหวมั้ย ไม่สิต้องพูดว่าเราสามารถอยู่กับสิ่งนั้นได้อย่างมีความสุขมั้ย และด้วยความที่ตอนแรกจขกทคิดว่าตัวเองจะเรียนปวส.มันทำให้จขกทไม่จริงจังกับการสอบต่างๆเท่าที่ควร แต่ก็ยังดีที่คะแนนออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มันก็มาสายไปเพราะในขณะที่เพื่อนสมัครเรียนมหาลัยต่างๆจขกท.ก็ไม่สมัคร พอมาถึงเวลาที่จขกท.มาถึงจุดที่มันจะทำให้เราคิดได้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ในชีวิตเราเรากลับไม่มีโอกาสนั้นแล้ว เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาจขกทก็นั่งดูรายชื่อคณะต่างๆ ดูรายชื่อผู้มีสิทธิ์รายงานตัวมันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก มันเหมือนว่าเราเลือกทางผิดมาตลอดเหมือนว่าเราไม่รู้เลยว่าเราควรทำอะไร วินาทีนั้นจขกท.เข้าใจพวกรุ่นพี่เลยค่ะว่าทำไมเขาถึงร้องไห้และบอกว่าช่วงเวลาม.6เป็นเวลาที่มีความสุขและความทุกข์มากที่สุดในชีวิตม.ปลาย จขกท.ตัดสินใจคุยเรื่องนี้กับทางบ้านคุยไปน้ำตาที่กลั้นไว้มันไหลออกมาคุยไปร้องไห้ไป ความรู้สึกตอนนั้นมันปนเปกันไปหมดแต่ส่วนใหญ่มันคือความรู้สึกที่ว่า นี้เหรอสิ่งตอบแทนของการที่เราเลือกตามสิ่งที่เขาต้องการมันไม่มีความมั่นคงให้เรา ผลก็ออกมาดีค่ะเขาก็เปิดโอกาสให้จขกท และก็ให้จขกทเลือกทางของตัวเอง ถือว่ายังโชคดีที่จขกท.เจอทางเดินที่ตัวเองค้นหามานานเจอซักที ลัก็ยังมีโอกาสอยู่ถ้าสายกว่านี้คงไม่มีโอกาส สิ่งที่พี่อยากจะบอกถึงรุ่นน้องทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านคือน้องต้องเตรียมตัวดีดีค้นหาว่าตัวเองชอบอะไรและอยากเรียนอะไรอยากเป็นอะไร ถ้าเรียนแนะแนวครูอาจจะแนะนำน้องว่าเราต้องแยกความฝันกับความเป็นจริง สิ่งที่เราฝันบางทีอาจจะหนักไปสำหรับ หรืออาจจะเป็นคำพูดที่ว่าเราไม่มีทางรู้ว่าเราเหมาะกับเรียนอะไรจนกว่าเราจะเห็นคะแนนที่เราสอบออกมา เชื่อพี่เถอะทุกคนต้องมีความฝันทำตามที่ตัวเองอยากเป็นเถอะถ้าเรามีความฝันมันก็จะมีแรงผลักดันให้เราผ่านทุกๆสิ่งไปได้เราจะมีความสุขกับมันเพราะมันคือสิ่งที่เราอยากเป็น
ยิ่งไทยจะกลับมาใช้ระบบเอนทรานแล้วน้องยิ่งต้องคิดให้ได้ว่าตัวเองมีความฝันคืออะไรกันแน่หรือเลือกสิ่งที่น้องอยู่กับมันแล้วมีความสุขก็ได้ เช่นน้องชอบเล่นเกมก็เรียนโปรแกรมไปเลยใจใจไปเลย หรือถ้าใครยังไม่รู้ตัวเองจริงๆก็ซิ่วไป1ปีเพื่อค้นหาตัวเองมันก็ยังไม่สายนะเพราะถ้าเราไปเรียนจริงๆเราอาจจะจะไม่ชอบแล้วก็ซิ่วก็ได้ เพราะงั้นก็ไปค้นหาตัวเองเลย1ปี
1ปีแลกกับอนาคตตัวเองมันคุ้มนะ ชีวิตของน้องน้องอย่ามัวแต่ให้คนอื่นมากำหนดไม่งั้นเราอาจจะไม่มีความสุขกับมัน
ในขณะที่เพื่อนมีที่เรียนซื้อชุดนักศึกษาแล้วแต่เราต้องอยู่แบบไร้จุดหมายที่แน่นอนมันเศร้าใจและเขว้งมากเลยนะ คิดให้ดีดีว่าตัวเองควรเลือกทางเดินไหน การศึกษาของไทยไม่สามารถช่วยให้เราค้นพบตัวเองหรอกนะวันๆเราก็แค่ฟังครูสอนไป ครูบางคนก็สอนผิดด้วยซ้ำสอนไปเรื่อยๆวันๆ ไม่ได้สนใจว่าเด็กเข้าใจเนื้อหาจริงมั้ย แต่อันนี้ก็แล้วแต่ครูนะคะครูที่ดีก็มีเยอะแยะ การที่เราจะค้นพบตัวเองว่าเราเหมาะกับอะไรชอบอะไรห้องสี่เหลี่ยมที่เราเรียนพร้อมคนหลายคนมันไม่ได้ช่วยให้เราตัดสินใจได้หรอกนะคะ HON FIFA ROVก็ไม่ได้ช่วยนะ น้องต้องห่างจากอะไรแบบเดิมๆที่น้องทำอยู่แล้วลองไปใช้ชีวิตเหมือนตอนเด็กบ้างตอนที่เรายังไม่ได้ใช้โทรศัพท์ตอนที่เราวิ่งเล่นไปวันๆ ลองออกไปเจออะไรใหม่ๆ ไม่ใช่เพื่อนเรียนอะไรก็เรียนตามเพื่อน เห้ยยยยยนี้ชีวิตเรานะอย่าตามใครเลือกสิ่งที่ตัวเองคิดว่าใช่ที่สุดแล้วก็พุ่งไปกับมันเลย อ่านหนังสือให้มากๆนะเด็ก61 เพราะในสนามสอบเข้ามหาลัยไม่ได้มีแค่เด็ก61ที่สอบนะ พวกพี่รุ่น60รอแย่งเก้าอี้น้องอยู่หลายคนนะ