Review ทริปน้องหมาพาเทียว.....เขาคิชกุฏ ไปถึงผ้าแดง ดีต่อใจทั้งคนทั้งหมา 
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิพย์ที่รักการท่องเที่ยวและไม่อยากให้น้องหมาอยู่เฝ้าบ้านแบบเหงา อยากจะพาไปนะ แต่กังวลกับการพาน้องหมาออกเที่ยว วันนี้เราจะมาไขปัญหานี้ให้หมดไป...เราสามารถเที่ยวและสนุกได้ครบทุกรสชาติ สนุก มันส์ ฮา แม้มีเจ้าตัวยุ่ง 4 ขาไปด้วยค่ะ
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนค่ะ นี่เป็นการ Review ของเราครั้งแรกเลย อาจตกหล่นไปบ้างต้องขออภัยนะค่ะ
เริ่มเลยค่ะ.....
ขอแนะนำเจ้าตัวยุ่ง 4 ขาที่จะพาเราไปเที่ยวค่ะ
น้องสงกรานต์ เป็นสุนัขเพศผู้ สายพันธุ์ ชิสุ อายุ 4 ปี
เราเดินทางไป วันที่ 11 กพ.2560 ค่ะเป็นวันเสาร์ค่ะ โดยเราเลือกไปช่วงค่ำๆ ไปนอน 1 คืน เช้าวันอาทิตย์ 12 กพ 2560 ขึ้นเขาคิชกุฎค่ะ ก่อนออกเดินทาง เตรียมตัวก่อนจะไปผจญภัยบนเขาที่สำหรับเรายังเหนื่อยเลย แล้วนิต้องพาน้องสงกรานต์ไปอีก คร่าวนี้ต้องเตรียมตัวกันเยอะหน่อยค่ะ
สำหรับการเตรียมตัวของเราๆนั้น ก็แล้วแต่เลยค่ะจะเอาอะไรไปก็สุดแต่ใจเลย แต่สำหรับน้องสงกรานต์แล้วต้องพิเศษค่ะ มีดังนี้ค่ะ
1.กระเป๋าเป้สุนัข ของเราใช้แบบที่ยื่นเท้าทั้ง 4 ออกมาได้ค่ะ ดูแล้วแข็งแรงดี และมั่นใจว่าน้องสงกรานต์ไม่ดิ้นและหล่นแน่นอนค่ะ
2.สายลากจุง ไว้สำหรับให้น้องสงกรานต์เดินขึ้นเขาค่ะ (คงไม่สามารถสะพายเป้ไปได้ตลอดทาง)
3.ถุงดำ ทิชชูแห้ง ทิชชูเปียก(สำหรับสุนัข)
4.น้ำตาเทียมแบบเจล
5.อาหาร น้ำ ภาชนะสำหรับใส่
6.ที่นอนน้องสงกรานต์ (เวลาไปนอนที่รีสอร์ต น้องสงกรานต์จะได้มีที่นอนสบายๆ)
เริ่มออกเดินทางเวลา 22.00 น.ค่ะ เราถึงที่พักประมาณ ตี 1 ค่ะ ที่พักเราอยู่ไม่ไกลจากเขาคิชกุฎค่ะ ห่างประมาณ 15 กิโลเมตร ค่ะ. ที่พักวันนี้เราเลือกแบบนอนได้พอค่ะเพราะเราไป นอนจริงๆ ไม่ต้องการอะไรมากค่ะ เราไปถึงดึกมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปที่พีกมาให้แต่เราขออนุญาติเอามาจาก FB ของทางรีสอร์ตค่ะ เราไปพักที ชิดจันทร์ รีสอร์ต จันทบุรี เงียบสงบหาง่ายค่ะ อีกอย่างเจ้าของใจดีบอกว่าผลไม้ที่เห็นเก็บทานได้หมดและราคาไม่แพง คืนละ 450.- น้องหมาฟรีค่ะ ชอบตรงนี้ค่ะ
ภาพด้านนอกห้องค่ะ มีระเบียงเล็กๆค่ะ ทางเข้ารีสอร์ตจะมีป้ายใหญ่ๆค่ะ ไม่ต้องกลัวจะเลยค่ะ ภายในมีที่จอดรถบ้านใครบ้านมันเลยค่ะ ที่จอดรถอยู่ข้างบ้านเลย
ภาพนี้เป็นด้านในรีสอร์ตค่ะ ภายในกว้างค่ะ เตียงใหญ่ แอร์เย็น(แอบดังไปนิด) แต่ห้องกว้างแบบนี้กับราคา 450.- ถือว่าถูกค่ะ
ออกเดินทางต่อค่ะ เราออกเช้ามากค่ะ 05.30 น. เพื่อขึ้นเข้า 06.30 น. ค่ะ ก่อนขึ้นเขาคิชกุฎเราก็ต้องเตรียมตัวค่ะ จับน้องสงกรานต์ใส่เป้ค่ะเพื่อให้สะดวกในเวลาเร่งรีบ คนเยอะด้วย พร้อมแล้วทั้งคนและน้องสงกรานต์ก็ขึ้นเขาเลยค่ะ
เราไปถึง 06.30 น. ก็ได้ขึ้นเลยค่ะ เพราะเราให้พี่ที่รู้จักซื้อตั๋วรถให้ก่อน เราไปถึงพอดีได้ขึ้นรถเลยค่ะ โชคดีมาก ตอนขึ้นรถไม่ได้ถ่ายรูปค่ะเพราะไม่สามารถจริงๆ รถเหวี่ยงไปมาเราเกาะเป็นลิงเลย ลุ้นสุดๆ ส่วนน้องสงกรานต์ก็ฟินค่ะ ดูจากท่าทางแล้วน้องสงกรานต์เฉยมาก ดูไม่กลัวเลยค่ะ แอบมีจะหลับด้วยค่ะ ปีนี้ 2560 นั่งรถ 1 ต่อเท่านั้นค่ะ พอลงจากรถก็ให้น้องสงกรานต์เดินเองค่ะ ใช้สายลากจุงที่เอามาให้เดินเองค่ะ เพราะถ้าใส่เป้ไปตลอดทางเรากับแฟนคงแย่ค่ะ น้องสงกรานต์ลาก วิ่งนำหน้าเจ้าของตลอดจนมาถึงบริเวณพระบาทค่ะ ขอเวลาพักเหนื่อยกันก่อนค่ะ
หน้าน้องเฉยมากค่ะ ให้ทานน้ำก็ไม่ทาน อาหารก็ไม่เอาค่ะ
วันนี้มีเพื่อนมากับน้องสงกรานต์ด้วยค่ะ ชื่อน้องไบเล่
ทางวัดห้ามสุนัขเข้าบริเวณพระบาท เราเลยรับบทพี่เลี้ยงดูแล ทั้ง 2 ตัวนี้เองค่ะ ส่วนแฟนและคนอื่นๆเขาไปไหว้พระที่พระบาทค่ะ และโชคดีมากค่ะ ไปถึงพระบาทตอน 08.00 น. พอดี มีการสวดมนต์ไหว้พระค่ะ เราเลยได้เป็นพี่เลี่ยงนานเลยค่ะ แต่รับมือไหวค่ะ สบายมาก
อย่าโฟกัสที่สิวนะค่ะ มันใหญ่มากค่ะ อิอิ
พอสวดมนต์จบเราก็ออกเดินทางต่อค่ะ จุดหมายปลายทาง คือ ผ้าแดงค่ะ ระหว่างทางเราให้น้ำเป็นระยะ แต่สงกรานต์ และไบเล่ ไม่ทานเลยค่ะ คงสนุกและมีความสุขจนลืมหิวค่ะ เหมือนเดิมค่ะน้องสงกรานต์ลาก วิ่งพาเราเดิน ขอบอกเลยค่ะว่าถึงผ้าแดงไวมากเพราะมั่วแต่กังวลกับน้องสงกรานต์กลัวว่าเค้าจะเหนื่อยไป แต่จริงๆแล้ว น้องสงกรานต์แข็งแรงมากวิ่งตลอดทางค่ะ และแล้ว....ก็ถึงค่ะ เราถึงผ้าแดงก็ประมาณ 10 โมงค่ะ
ถึงแล้วค่ะ จับน้องสงกรานต์นั่งไว้ก่อนค่ะ ขออธิษฐานขอพรก่อนค่ะ
ขอพรจบก็เดินทางลงค่ะ เราเดินลงทางลัดค่ะ ไม่ผ่านพระบาทค่ะ มาก็ 11 โมงกว่าค่ะ ถึงรถสิ่งแรกเลยที่ทำคือ ดูแลทำความสะอาดน้องสงกรานต์ ล้างเท้า เอาทิชชูเปึยกสำหรับสุนัขมาเช็คหน้า จมูก ที่สกปกติจากฝุ่นค่ะ และที่สำคัญหยดตาด้วยน้ำตาเทียม ฝุ่นเยอะค่ะเข้าตาน้องสงกรานต์เยอะเลย เราเลยหยดน้ำตาเทียบแล้วเช็คฝุ่นที่ไหลออกมาให้สะอาดด้วยทิชชูแห้งค่ะ และให้ทานน้ำ ทานอาหาร แต่...ไม่ทานค่ะ พอเสร็จกิจก็พาขึ้นรถกลับบ้านค่ะ ขึ้นรถไม่ถึง 5 นาทีแอร์เย็น สงกรานต์หลับแบบคอพับเลยค่ะ
ระหว่างทางมีคนมากมายค่ะ ตกใจว่าทำไมเอาสุนัขมาด้วย!!! เอามาได้หรอ!!!! คือถามแบบน่ารักๆค่ะ แบบว่า อยากจะเอามาบ้างค่ะ
ตอบคำถามเลยนะค่ะ
1.ทำไมเอาสุนัขมาด้วย .... เพราะสุนัขสำหรับเราไม่ใช่สุนัขเฝ้าบ้านค่ะ เป็นสัตว์เลี้ยงที่เรารักมากผูกพัน อยากให้เค้ามีความสุขเหมือนเราค่ะ ให้เค้าได้รับรู้โลกนี้กว้างกว่าบ้านที่เค้าอยู่ค่ะ เลี้ยงแล้วต้องให้ดีค่ะ เราจะได้ไม่เสียใจเวลาเค้าไม่อยู่ค่ะ (แอบดารม่า
)
2.เอามาได้หรอเขาคิชกุฎ .... นำไปได้ค่ะ แค่เราต้องรู้ค่ะว่าสิ่งไหนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมค่ะ รักษาความสะอาดเวลาเค้าถ่ายต้องเก็บทิ้งให้ดีค่ะ ที่บริเวณคนเยอะๆ ก็อย่าปล่อยให้น้องเดินไปเดินมา จับใส่เป้เลยค่ะ คนอื่นๆจะได้เดินสะดวกไม่ต้องคอยระวังค่ะ
ขอจบทริปไว้เท่านั้นก่อนนะค่ะ ไว้โอกาสหน้าเราจะมา Review ร้านอาหารซีฟู้ด ที่อร่อยเด็ด ที่สำคัญค่ะ พาน้องหมาไปได้ด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับผู้ติดตามค่ะ
[CR] Review ทริปน้องหมาพาเทียว.....เขาคิชกุฏ ไปถึงผ้าแดง ดีต่อใจทั้งคนทั้งหมา
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิพย์ที่รักการท่องเที่ยวและไม่อยากให้น้องหมาอยู่เฝ้าบ้านแบบเหงา อยากจะพาไปนะ แต่กังวลกับการพาน้องหมาออกเที่ยว วันนี้เราจะมาไขปัญหานี้ให้หมดไป...เราสามารถเที่ยวและสนุกได้ครบทุกรสชาติ สนุก มันส์ ฮา แม้มีเจ้าตัวยุ่ง 4 ขาไปด้วยค่ะ
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนค่ะ นี่เป็นการ Review ของเราครั้งแรกเลย อาจตกหล่นไปบ้างต้องขออภัยนะค่ะ
เริ่มเลยค่ะ.....
ขอแนะนำเจ้าตัวยุ่ง 4 ขาที่จะพาเราไปเที่ยวค่ะ
น้องสงกรานต์ เป็นสุนัขเพศผู้ สายพันธุ์ ชิสุ อายุ 4 ปี
เราเดินทางไป วันที่ 11 กพ.2560 ค่ะเป็นวันเสาร์ค่ะ โดยเราเลือกไปช่วงค่ำๆ ไปนอน 1 คืน เช้าวันอาทิตย์ 12 กพ 2560 ขึ้นเขาคิชกุฎค่ะ ก่อนออกเดินทาง เตรียมตัวก่อนจะไปผจญภัยบนเขาที่สำหรับเรายังเหนื่อยเลย แล้วนิต้องพาน้องสงกรานต์ไปอีก คร่าวนี้ต้องเตรียมตัวกันเยอะหน่อยค่ะ
สำหรับการเตรียมตัวของเราๆนั้น ก็แล้วแต่เลยค่ะจะเอาอะไรไปก็สุดแต่ใจเลย แต่สำหรับน้องสงกรานต์แล้วต้องพิเศษค่ะ มีดังนี้ค่ะ
1.กระเป๋าเป้สุนัข ของเราใช้แบบที่ยื่นเท้าทั้ง 4 ออกมาได้ค่ะ ดูแล้วแข็งแรงดี และมั่นใจว่าน้องสงกรานต์ไม่ดิ้นและหล่นแน่นอนค่ะ
2.สายลากจุง ไว้สำหรับให้น้องสงกรานต์เดินขึ้นเขาค่ะ (คงไม่สามารถสะพายเป้ไปได้ตลอดทาง)
3.ถุงดำ ทิชชูแห้ง ทิชชูเปียก(สำหรับสุนัข)
4.น้ำตาเทียมแบบเจล
5.อาหาร น้ำ ภาชนะสำหรับใส่
6.ที่นอนน้องสงกรานต์ (เวลาไปนอนที่รีสอร์ต น้องสงกรานต์จะได้มีที่นอนสบายๆ)
เริ่มออกเดินทางเวลา 22.00 น.ค่ะ เราถึงที่พักประมาณ ตี 1 ค่ะ ที่พักเราอยู่ไม่ไกลจากเขาคิชกุฎค่ะ ห่างประมาณ 15 กิโลเมตร ค่ะ. ที่พักวันนี้เราเลือกแบบนอนได้พอค่ะเพราะเราไป นอนจริงๆ ไม่ต้องการอะไรมากค่ะ เราไปถึงดึกมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปที่พีกมาให้แต่เราขออนุญาติเอามาจาก FB ของทางรีสอร์ตค่ะ เราไปพักที ชิดจันทร์ รีสอร์ต จันทบุรี เงียบสงบหาง่ายค่ะ อีกอย่างเจ้าของใจดีบอกว่าผลไม้ที่เห็นเก็บทานได้หมดและราคาไม่แพง คืนละ 450.- น้องหมาฟรีค่ะ ชอบตรงนี้ค่ะ
ภาพด้านนอกห้องค่ะ มีระเบียงเล็กๆค่ะ ทางเข้ารีสอร์ตจะมีป้ายใหญ่ๆค่ะ ไม่ต้องกลัวจะเลยค่ะ ภายในมีที่จอดรถบ้านใครบ้านมันเลยค่ะ ที่จอดรถอยู่ข้างบ้านเลย
ภาพนี้เป็นด้านในรีสอร์ตค่ะ ภายในกว้างค่ะ เตียงใหญ่ แอร์เย็น(แอบดังไปนิด) แต่ห้องกว้างแบบนี้กับราคา 450.- ถือว่าถูกค่ะ
เราไปถึง 06.30 น. ก็ได้ขึ้นเลยค่ะ เพราะเราให้พี่ที่รู้จักซื้อตั๋วรถให้ก่อน เราไปถึงพอดีได้ขึ้นรถเลยค่ะ โชคดีมาก ตอนขึ้นรถไม่ได้ถ่ายรูปค่ะเพราะไม่สามารถจริงๆ รถเหวี่ยงไปมาเราเกาะเป็นลิงเลย ลุ้นสุดๆ ส่วนน้องสงกรานต์ก็ฟินค่ะ ดูจากท่าทางแล้วน้องสงกรานต์เฉยมาก ดูไม่กลัวเลยค่ะ แอบมีจะหลับด้วยค่ะ ปีนี้ 2560 นั่งรถ 1 ต่อเท่านั้นค่ะ พอลงจากรถก็ให้น้องสงกรานต์เดินเองค่ะ ใช้สายลากจุงที่เอามาให้เดินเองค่ะ เพราะถ้าใส่เป้ไปตลอดทางเรากับแฟนคงแย่ค่ะ น้องสงกรานต์ลาก วิ่งนำหน้าเจ้าของตลอดจนมาถึงบริเวณพระบาทค่ะ ขอเวลาพักเหนื่อยกันก่อนค่ะ
หน้าน้องเฉยมากค่ะ ให้ทานน้ำก็ไม่ทาน อาหารก็ไม่เอาค่ะ
วันนี้มีเพื่อนมากับน้องสงกรานต์ด้วยค่ะ ชื่อน้องไบเล่
ทางวัดห้ามสุนัขเข้าบริเวณพระบาท เราเลยรับบทพี่เลี้ยงดูแล ทั้ง 2 ตัวนี้เองค่ะ ส่วนแฟนและคนอื่นๆเขาไปไหว้พระที่พระบาทค่ะ และโชคดีมากค่ะ ไปถึงพระบาทตอน 08.00 น. พอดี มีการสวดมนต์ไหว้พระค่ะ เราเลยได้เป็นพี่เลี่ยงนานเลยค่ะ แต่รับมือไหวค่ะ สบายมาก
พอสวดมนต์จบเราก็ออกเดินทางต่อค่ะ จุดหมายปลายทาง คือ ผ้าแดงค่ะ ระหว่างทางเราให้น้ำเป็นระยะ แต่สงกรานต์ และไบเล่ ไม่ทานเลยค่ะ คงสนุกและมีความสุขจนลืมหิวค่ะ เหมือนเดิมค่ะน้องสงกรานต์ลาก วิ่งพาเราเดิน ขอบอกเลยค่ะว่าถึงผ้าแดงไวมากเพราะมั่วแต่กังวลกับน้องสงกรานต์กลัวว่าเค้าจะเหนื่อยไป แต่จริงๆแล้ว น้องสงกรานต์แข็งแรงมากวิ่งตลอดทางค่ะ และแล้ว....ก็ถึงค่ะ เราถึงผ้าแดงก็ประมาณ 10 โมงค่ะ
ขอพรจบก็เดินทางลงค่ะ เราเดินลงทางลัดค่ะ ไม่ผ่านพระบาทค่ะ มาก็ 11 โมงกว่าค่ะ ถึงรถสิ่งแรกเลยที่ทำคือ ดูแลทำความสะอาดน้องสงกรานต์ ล้างเท้า เอาทิชชูเปึยกสำหรับสุนัขมาเช็คหน้า จมูก ที่สกปกติจากฝุ่นค่ะ และที่สำคัญหยดตาด้วยน้ำตาเทียม ฝุ่นเยอะค่ะเข้าตาน้องสงกรานต์เยอะเลย เราเลยหยดน้ำตาเทียบแล้วเช็คฝุ่นที่ไหลออกมาให้สะอาดด้วยทิชชูแห้งค่ะ และให้ทานน้ำ ทานอาหาร แต่...ไม่ทานค่ะ พอเสร็จกิจก็พาขึ้นรถกลับบ้านค่ะ ขึ้นรถไม่ถึง 5 นาทีแอร์เย็น สงกรานต์หลับแบบคอพับเลยค่ะ
ระหว่างทางมีคนมากมายค่ะ ตกใจว่าทำไมเอาสุนัขมาด้วย!!! เอามาได้หรอ!!!! คือถามแบบน่ารักๆค่ะ แบบว่า อยากจะเอามาบ้างค่ะ
ตอบคำถามเลยนะค่ะ
1.ทำไมเอาสุนัขมาด้วย .... เพราะสุนัขสำหรับเราไม่ใช่สุนัขเฝ้าบ้านค่ะ เป็นสัตว์เลี้ยงที่เรารักมากผูกพัน อยากให้เค้ามีความสุขเหมือนเราค่ะ ให้เค้าได้รับรู้โลกนี้กว้างกว่าบ้านที่เค้าอยู่ค่ะ เลี้ยงแล้วต้องให้ดีค่ะ เราจะได้ไม่เสียใจเวลาเค้าไม่อยู่ค่ะ (แอบดารม่า
2.เอามาได้หรอเขาคิชกุฎ .... นำไปได้ค่ะ แค่เราต้องรู้ค่ะว่าสิ่งไหนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมค่ะ รักษาความสะอาดเวลาเค้าถ่ายต้องเก็บทิ้งให้ดีค่ะ ที่บริเวณคนเยอะๆ ก็อย่าปล่อยให้น้องเดินไปเดินมา จับใส่เป้เลยค่ะ คนอื่นๆจะได้เดินสะดวกไม่ต้องคอยระวังค่ะ
ขอจบทริปไว้เท่านั้นก่อนนะค่ะ ไว้โอกาสหน้าเราจะมา Review ร้านอาหารซีฟู้ด ที่อร่อยเด็ด ที่สำคัญค่ะ พาน้องหมาไปได้ด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับผู้ติดตามค่ะ