สวัสดีค่ะ ขอถอดลอคอินประจำมาตั้งคำถามค่ะ (กลัวแฟนรู้แล้วจะน้อยใจ)
คือแต่งงานกับแฟนมา 2 ปีแล้วค่ะ มีลูกชาย 1 คน ก็รักกันดีค่ะ มีงอนกันบ้างเล็กน้อยค่ะ
ชีวิตเหมือนจะไม่มีอะไร จนกระทั่ง แฟนถูกเลิกจ้าง กลายเป็นคนตกงาน ช่วงจังหวะที่เรากำลังสร้างบ้านพอดี
เครียดค่ะ (เงินเดือนแฟนมากกว่าของเรา) นอนไม่หลับ ก็ตัดสินใจว่าไม่เป็นไร หางานใหม่ แต่แฟนนี่สิคะ ไม่อยากทำงาน อยากขายของ
เราก็ยอมลงทุนให้ โดยเอาเงินจากการกู้เงินทำบ้าน (ราคาบ้านต่ำกว่าเงินที่กู้มา)ลงทุน บางครั้งก็นำเงินมาลงทุนโดยที่ไม่บอกเราหลายครั้ง
สุดท้ายขายของ ทุนจม (เพราะเอาเงินบ้านไปหมุน แล้วต้องนำเงินจากการขายไปโปะบ้านอีกที)
ติดค่าของเกือบหมื่น ก็มานั่งเครียดอีก บอกว่าเงินเดือนที่เหลือจากเราจะเอาไปผ่อนส่งค่าของ เพื่อจะเอาของมาขายอีก
ทุกวันนี้เงินเดือนเราก็แทบจะไม่พอไหนจะ ค่าบ้าน ค่างวดรถ ค่าน้ำไฟ ค่าโทรศัพท์ บัตรเครดิต คือสรุปแล้วค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่บ้านเราออกหมด
บางเดือนต้องยืมเงินแม่เพื่อมาหมุนใช้ จนแม่บ่นว่าให้แฟนเราไปขายของเถอะ ถ้ามันไม่มีกำไร พอแฟนรู้ก็งอนอีก บอกจะไปขายของต่างจังหวัด
เราก็ไม่ห้ามนะ แต่เราห่วงบ้าน ห่วงลูก ไหนจะลูกเราเองอีก (เรามีลูกติดค่ะ)
วาดฝันโครงการอย่างดิบดี พอไม่ได้ดังใจ ก็โทษฟ้าโทษดิน แต่ไม่เคยโทษตัวเอง ทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก
บางครั้งเรากลับมาจากทำงานก็ต้องขับรถไปช่วยเค้าขายของ กว่าจะกลับมารับลูก บางวัน สามสี่ทุ่ม เกรงใจแม่ที่เลี้ยงหลานตั้งแต่เช้า
กลับมาต้องล้างของเตรียมของให้ ตื่นก็ต้องตื่นแต่เช้าเตรียมของไปขายเช้าอีก บางวันไม่ไหวเราก็ไม่ได้ไปช่วย
ก็งอนอีก เราก็บอกไปว่าเหนื่อยนะขอไม่ไปวันนึง ก็ประชดมาว่าก็ลาออกสิ......จะทนทำทำไม
คือดูถูกงานเราซะงั้น....เราอยู่ต่างจังหวัด เป็นจังหวัดเล็กๆ เงินเดือนเลยไม่สูงเท่าเมืองใหญ่ ก็บ่นอีกว่า จบตั้งปริญญาได้เงินเดือนแค่นี้ เค้าไม่ได้เรียนได้เงินเดือนมากกว่าอีก
ทุกวันนี้บอกตรงๆ ว่าเหนื่อยค่ะ เหนื่อย มากๆ เวลาเครียดๆ ก็ไม่รู้จะปรึกษาใคร
แฟนเราให้ที่พึ่งก็ไม่ได้ ทุกวันนี้เหมือนเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวในบ้าน
เคยคิดว่า.....ถ้าทิ้งเค้าเราจะดูแย่ไหม ที่ทิ้งกันในยามลำบาก
แต่ว่าเราเคยพยายามสู้มาด้วยกัน แต่เหมือนเราสู้อยู่คนเดียว
ควรจะไปต่อ...หรือพอแค่นี้
คือแต่งงานกับแฟนมา 2 ปีแล้วค่ะ มีลูกชาย 1 คน ก็รักกันดีค่ะ มีงอนกันบ้างเล็กน้อยค่ะ
ชีวิตเหมือนจะไม่มีอะไร จนกระทั่ง แฟนถูกเลิกจ้าง กลายเป็นคนตกงาน ช่วงจังหวะที่เรากำลังสร้างบ้านพอดี
เครียดค่ะ (เงินเดือนแฟนมากกว่าของเรา) นอนไม่หลับ ก็ตัดสินใจว่าไม่เป็นไร หางานใหม่ แต่แฟนนี่สิคะ ไม่อยากทำงาน อยากขายของ
เราก็ยอมลงทุนให้ โดยเอาเงินจากการกู้เงินทำบ้าน (ราคาบ้านต่ำกว่าเงินที่กู้มา)ลงทุน บางครั้งก็นำเงินมาลงทุนโดยที่ไม่บอกเราหลายครั้ง
สุดท้ายขายของ ทุนจม (เพราะเอาเงินบ้านไปหมุน แล้วต้องนำเงินจากการขายไปโปะบ้านอีกที)
ติดค่าของเกือบหมื่น ก็มานั่งเครียดอีก บอกว่าเงินเดือนที่เหลือจากเราจะเอาไปผ่อนส่งค่าของ เพื่อจะเอาของมาขายอีก
ทุกวันนี้เงินเดือนเราก็แทบจะไม่พอไหนจะ ค่าบ้าน ค่างวดรถ ค่าน้ำไฟ ค่าโทรศัพท์ บัตรเครดิต คือสรุปแล้วค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่บ้านเราออกหมด
บางเดือนต้องยืมเงินแม่เพื่อมาหมุนใช้ จนแม่บ่นว่าให้แฟนเราไปขายของเถอะ ถ้ามันไม่มีกำไร พอแฟนรู้ก็งอนอีก บอกจะไปขายของต่างจังหวัด
เราก็ไม่ห้ามนะ แต่เราห่วงบ้าน ห่วงลูก ไหนจะลูกเราเองอีก (เรามีลูกติดค่ะ)
วาดฝันโครงการอย่างดิบดี พอไม่ได้ดังใจ ก็โทษฟ้าโทษดิน แต่ไม่เคยโทษตัวเอง ทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก
บางครั้งเรากลับมาจากทำงานก็ต้องขับรถไปช่วยเค้าขายของ กว่าจะกลับมารับลูก บางวัน สามสี่ทุ่ม เกรงใจแม่ที่เลี้ยงหลานตั้งแต่เช้า
กลับมาต้องล้างของเตรียมของให้ ตื่นก็ต้องตื่นแต่เช้าเตรียมของไปขายเช้าอีก บางวันไม่ไหวเราก็ไม่ได้ไปช่วย
ก็งอนอีก เราก็บอกไปว่าเหนื่อยนะขอไม่ไปวันนึง ก็ประชดมาว่าก็ลาออกสิ......จะทนทำทำไม
คือดูถูกงานเราซะงั้น....เราอยู่ต่างจังหวัด เป็นจังหวัดเล็กๆ เงินเดือนเลยไม่สูงเท่าเมืองใหญ่ ก็บ่นอีกว่า จบตั้งปริญญาได้เงินเดือนแค่นี้ เค้าไม่ได้เรียนได้เงินเดือนมากกว่าอีก
ทุกวันนี้บอกตรงๆ ว่าเหนื่อยค่ะ เหนื่อย มากๆ เวลาเครียดๆ ก็ไม่รู้จะปรึกษาใคร
แฟนเราให้ที่พึ่งก็ไม่ได้ ทุกวันนี้เหมือนเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวในบ้าน
เคยคิดว่า.....ถ้าทิ้งเค้าเราจะดูแย่ไหม ที่ทิ้งกันในยามลำบาก
แต่ว่าเราเคยพยายามสู้มาด้วยกัน แต่เหมือนเราสู้อยู่คนเดียว