รีวิวห้องพัก ณ รร.PENTA HOTEL Hong Kong Kowloon
https://pantip.com/topic/36267341
ไปฮ่องกงวันแรก ขึ้นเครื่องประมาน ตี 3 ตี 4 ของวันที่ 16/3/60 ต้องเชคอินไม่เกิน ตี 1 แต่พึ่งเก็บกระเป๋าเสร็จตอน 3 - 4 ทุ่ม ของวันที่ 15 ทำให้มีความพินาศเบาๆ ครีมล้างหน้า / ยางผูกผม / แว่น / หมวก / คือลืมหมดจ่ะ ประเดนต่อมา คิดว่าอากาศคงแค่เย็นๆ สบายๆ เดินเพลินๆ เลยเอาชุดแบบปกติไป แต่คิดว่าต้องไปนอนรอที่สนามบิน อาจหนาวเห็บ เอ้ย เหน็บ!! เลยเอาเสื้อโคทส์ไปตัวนึงแค่นั้น #พอไปถึงฮ่องกงคือหนาวยันขั้วปอด

(เดิมทีตั้งใจไปกับแม่ 2 คน ซึ่งซื้อตั๋ว + Booking ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่มีเหตุที่ทำให้แม่ไม่สามารถไปได้ เลยได้ลุยเดี่ยวแบบ งงๆ 555 #ไว้ค่อยพาแม่ไปเที่ยวใหม่นะแม่นะ)
จุด Check in ของสายการบิน Hongkong Airlines ทั้งในไทยและฮ่องกง จะมีไดคัทของสองสาวนี้เป็นจุดสังเกต

ผ้าห่มกันหัวใจหนาว

สิ่งแรกที่ พนง. บนเครื่องจะแจกให้คือทิชชูเปียก

ค่าตั๋วสายการบินนี้จะเหมารวมค่าอาหารทั้งไปและกลับ มื้อเช้ามากก เลยเป็นของกินตามที่เห็น เราเลือกน้ำส้ม หนมปังไส้กรอก น้ำเปล่า แต่จิงๆ น้ำจะมีให้เลือกเป็น น้ำส้ม น้ำแอปเปิล ไวน์ เป๊ปซี่ (แต่ขากลับ เป็นมื้อกลางวันของกินจะเยอะกว่านี้ รวมถึงมีของหวานให้ด้วย ดูรูปในกระทู้ เดินคนเดียวฮ่องกง - มาเก๊า วันที่ 4 ละกันนะ)

ที่นั่งไม่แคบเกินไป (เราสูงประมาณ 165 cm.)

ลงจากเครื่อง ผ่าน ตม. สอยกระเป๋าเสร็จแล้วถึงเดินไปซื้อบัตร Octopus สำหรับใช้นั่งรถ ซื้อของนู่นนี่ ราคา 150 HKD โดยหักค่ามัดจำจากในบัตร 50 HKD แปลว่ายอดเงินจะคงเหลืออยู่ในบัตรแค่ 100 HKD ใครอยาก add เงินมากกว่า 150 ก็บอก จนท.ไป หรือจะไปเติมเองข้างนอกก็ได้ ทริปเราใช้ไปทั้งหมด 400 HKD (จ่ายค่าตั๋วขึ้น/ลง/เข้าชม The Peak ด้วย เดี๋ยวมีเรื่องเล่าเหอะ หึหึ)

วันแรกแพลนไปไหว้พระ 4 จุด คือพระใหญ่ วัดนางชี วัดหวังต้าเซียน และวัดแชกงหมิว จากนั้นจะต่อด้วยดู SOL แล้วค่อยกินข้าวที่ Sweet Dynasty สรุปไปไหว้พระได้ที่เดียวแล้วกลับที่พักเลย ตอนเย็นถึงค่อยกระเฉือกกระสนออกมากินข้าวกะดูไฟ
ซึ่งการเป๋ชีวิตในวันแรกนี้ เกิดจากเนตใช้ไม่ได้!! (ซื้อ Sim 2 fly ไปใช้แต่เปิดแล้วเนตไม่ไปข่ะ) คือปกติเป็นคนไปไหนจะไม่ชอบซื้อหนังสือท่องเที่ยวมาอ่าน อยากไปจุดไหน อยากรู้อะไร จะ point ใน google ทีเดียว แล้วจด tip เอา ถ้าหาไม่เจอ ค่อย search ระบุจุดอีกที สรุป เนตเดี้ยง ชีวิตเดี้ยงตามเนต ที่สำคัญถ้าถามคนพื้นที่ เค้าก็จะงงกัน เพราะบางสถานที่เค้าไม่ได้เรียกชื่อเหมือนเรา
เรานั่ง BUS สาย 23 ไปนองปิง ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. เนื่องจากกระเช้าปิดปรับปรุงสายเคเบิ้ล และจะเปิดให้ใช้บริการอีกครั้งเดือนมิถุนายน 2017 แต่หมู่บ้านนองปิงเปิดตามปกติ

หากใครมีสัมภาระ สามารถฝากไว้ที่ City Gate Outlets ได้ (ถ้า locker ว่าง) แค่เข้าห้างลงชั้นใต้ดินก็เจอ

ถ้าจำไม่ผิดราคาสำหรับตู้เล็กอยู่ที่ 10 HKD ต่อ 2 ชม. ตู้ใหญ่ 20 HKD ต่อ 2ชม. เราไปเช้าตู้ว่างเพียบ แต่ตอนกลับมาเอากระเป๋า คนต่อแถวรอตู้ locker กันอ่ะ

และเราก็มาถึง

อากาศดีมากกก

ใต้ฐานพระจะมีส่วนให้เข้าชมฟรีได้ด้วยนะ

นางฟ้าแต่ละองค์จะถือของวิเศษแตกต่างไปคนละอย่าง

ไหว้พระใหญ่เสร็จแล้วลงมาไหว้พระพร้อมชมวัดโป๋หลินที่อยู่ข้างๆ ด้วยก็ดีนะ

กลุ่มนี้ใช้ธูปใหญ่ไหว้ 1 ดอก แล้วถือเวียนกันอธิษฐาน

มาถึงวันแรกเลยเบิกฤกษ์ด้วยการกินเจก่อนเลย 555

ปอเปี๊ยะเจ (ไส้น้อยเลย 555) และเผือกทอดเจ (ไส้แน่นเกิ๊น 555)

สวนสาธารณะเล็กๆ ข้างวัด

ไปหมู่บ้านนองปิงต่อดีก่า (อยู่ตรงข้ามประตูทางเข้าไปไหว้พระใหญ่)

ภายในหมู่บ้าน เอาจิงเหมือน Villa ที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวมากกว่า

ให้เฮียแถวนั้นถ่ายรูปให้ เห็นเฮียทุ่มเท เลยเก็บภาพเฮียหน่อย

ตั้งใจไปกินหนมที่ Honey Moon Dessert ดันปิดปรับปรุง เลยกินชานมของไต้หวัน แต่อยู่ใน 711 ฮ่องกงก็ได้ 555 งงเนอะ

วัดพระใหญ่ยังไปง่าย แต่ตอนเข้าที่พักด้วยความที่ไม่ค่อยมีคนไทยมาพัก ก่อนมาเลยหารีวิวการเดินทางเข้าที่พักไม่เจอ ประกอบกับความขี้เกียจ อยากนั่ง Bus ไปถึงจุดที่ใกล้ รร. เลย ไม่อยากต่อ MTR หลายต่อ ก็ได้ขึ้น BUS นะ แต่ใช้เวลาเป็น ชม. กว่าจะถึง เลยนั่งทำใจไปเลยจ่ะ
พอลงจากรถ ต่อ MTR ต่อนึง ออกจาก MTR เดินมาถึงจุดสิ้นสุดตามที่จดไว้ คือ เป็นแยกไฟแดง แบบ รร. อยู่ไหนวะ เอาไงดี เนตก็ไม่มี จะ 4 โมงละ หนาวก็หนาว ไปดูไฟไม่ทันแน่เลย คิดๆๆ หรือไปลั๊ลลาก่อนแล้วค่อยมาหาที่พักอีกที ไม่เอาๆ เดี๋ยวกลับมืดไป อันตรายสำหรับ ผญ. เยี่ยงเรา พอคิดเสร็จ อ๊ะ เจอหนุ่มแว่นหน้ามลกะลังเดินมา เลยเดินเข้าไปหาจะถามทาง แน่ะ เห็นเราลากกระเป๋าเดินไปหาปุ๊บทำหลบตา
เราไม่สนจ่ะ helloๆๆ จากนั้นก็มัดมือชกถามว่ารุจัก รร. นี้ๆ มั้ย ผลคือ ยืนเงียบ ไม่ตอบ แต่หยิบโทรศัพท์เปิด gps ดู ลักษณะคงอยากบอกทางไป แต่ไม่รู้จะพูดไร เลยพาข้ามถนนไปส่งที่ รร. เอง ด้วยความที่เกรงใจ กัวเดินตามไม่ทัน แล้วเค้าจะรอ ไม่ล่งไม่ลากละกระเป๋า เราแบกเลยจ้า ซึ่งกระเป๋าเราหนักมากกก T_T ผช. คงสังเกตได้ ส่งสัญลักษณ์มือประมานว่าช่วยถือมั้ย เราก็ตอบแบบนางฟ้ากลับไป its ok ไม่หนัก ถือได้ ขณะที่หัวใจร้องไห้ และแล้วก็มาถึงที่พักด้วยดี #ขอบคุนน๊าาา
มาถึง รร. ก็วิ่งไปเปิด wifi ที่ห้องเลยข่ะ นอนกลิ้งๆ ส่งข้อความเข้าไปไฝว้กะ AIS ทำไมใช้ไม่ได้บลาๆๆ แอดมินบอกให้ทำนู่นนี่ คือทำหมด แต่ยังใช้ไม่ได้ เลยแบบ ช่างละ ปลงละ ออกไป Sweet Dynasty ดีกว่าเดี๋ยวไม่ทันดูไฟ
ซึ่งสรุปก็ไม่ทันดูจีจีดั้ว 😭 แค่หาร้านข้าวก็เป็น ชม. ละ คือ ป้ายถนนซ่อนไม่ได้โชว์ไว้หน้าซอย ต้องเดินเข้าซอยไปก่อนถึงจะเจอป้าย #ใครจะไปรู้วะ พอถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครรุจักอีก เจอคนเดินสวนมา เห็นเป็นนักศึกษา เลยเดินเข้าไปถาม นางเดินหนีเราจ่ะ 555
เราก็โรคจิตเดินตาม ก็เสตปเดิม หยิบมือถือ เปิด gps แต่ว่าก่อนจะบอกทาง อิน้องคนนี้หันมาถามเรา "ไม่มีมือถือหรอ!" #คือเราอยากบอกว่ามาจากพม่าทันที
จากนั้นน้องก็บอกทางๆๆ ซึ่งพอเดินไปแล้ว มันไม่ใช่โว๊ยยยไอตี๋! #แกล้งกุป่ะเนี่ยฮือ หลังจากนั้นถามใคร ก็บอกไปคนละทางหมดเลย เดินเปลี้ยมาก พอละ ไม่สนละ รีวงรีวิวไร ไม่ตามละฮือ กุคนง่ายๆ กุกินไรก็ได้ 😭
และบังเอิ๊ญมีเจ้คนนึงมาบอกว่า ถนนที่จะไปอ่ะ เค้าไม่ได้เรียกชื่อนี้กัน แล้วเจ้ก็จดชื่อเป็นภาษาจีนให้ แล้วพาไปถึงหัวถนน จากนั้นเจ้ก็บอกว่า ถ้าหาไม่เจอเอาข้อความให้เค้าดูละกัน ฮือ ในที่สุดกุก็ได้กินข้าว 🍤🍙
ตามหาป้ายนี้นานมาก คือมันไม่อยู่ต้นซอย! ต้องเดินเข้าไปถึงจะเจอ และคนแถวนั้นไม่รู้จักมันในชื่อภาษาอังกฤษอีก (ภาพนี้มาถ่ายตอนเช้าของอีกวัน แบบบังเอิญเจอ)

งานหากันจนเจอก็มา

บรรยากาศภายในร้าน

เราสั่ง ต้นหอมผักพริกกุ้งและหอยเชลส์ กินกะข้าวสวย ก็อร่อยดี

และสั่งฟองเต้าหู้ทอดห่อกุ้งมากินเล่น อร่อย แต่น้ำจิ้มควรเป็นน้ำจิ้มบ๊วย แต่ทางร้านไม่มี
สนนราคาทั้งหมดอยู่ที่

* สั่งไป 3 รายการ แต่พอบิลออกมามี 4 รายการ เดาว่าน่าจะเป็นค่าน้ำชาที่เอามาเสิร์ฟให้แต่แรกข่าา
👼 วิธีเดินทางไปไหว้พระใหญ่
นั่ง BUS จากสนามบิน สาย S1 หรือ MTR จากไหนก็ได้ ลงสถานี Tung Chung จากนั้นเลือกขึ้นกระเช้า หรือ BUS สาย 23 (สุดสาย) ไปได้เลย
👼 เดิมทีอารามโป๋หลินเป็นเพียงอารามที่อยู่ห่างไกล และหลบลี้ผู้คนด้วยทัศนียภาพที่เป็นป่าและภูเขา แต่อารามนี้ได้มีชื่อเสียงและปรากฏอยู่บนแผนที่โลกเมื่อมีการสร้างพระพุทธรูปเทียนถานที่มีความพิเศษ (มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่าพระใหญ่) ในปี 1993 พระพุทธรูปสำริดอันสง่างามนี้มีความสูง 34 เมตรและหันพระพักตร์ไปทางเหนือเพื่อเฝ้าดูชาวจีน เป็นที่ดึงดูดพุทธศาสนิกชนจากทั่วทั้งเอเชีย
กิริยาต่างๆ ขององค์พระ ได้แก่ พระเนตร พระโอษฐ์ การเอียงพระเศียร และพระหัตถ์ขวายกขึ้นให้พรแก่คนทั่วไป ได้ทำให้องค์พระใหญ่มีลักษณะอ่อนโยนและสง่างามอย่างลุ่มลึก โดยต้องใช้เวลาการก่อสร้างถึง 12 ปี หากคุณอยากจะสำรวจพระพุทธรูปที่โดดเด่นนี้อย่างใกล้ชิดขึ้น ให้ขึ้นบันไดไปอีก 268 ขั้น และยังจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทิวเขาและทะเลจากบริเวณฐานขององค์พระด้วย
องค์พระพุทธรูปหันพระพักตร์ไปทางเหนือสู่จีนแผ่นดินใหญ่ ประดิษฐานอยู่โดยมีความสูง 26.4 เมตร บนฐานดอกบัว หากนับรวมฐานแล้วมีความสูงทั้งสิ้น 34 เมตร ค่าก่อสร้างพระพุทธรูป 60 ล้านเหรียญฮ่องกง
ตรงข้ามพระพุทธรูป เป็นที่ตั้งของอารามโป๋หลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของชาวพุทธที่สำคัญที่สุดของฮ่องกง และถูกเรียกว่าเป็น "โลกของพุทธศาสนิกชนในตอนใต้" เป็นสถานที่จำวัดของพระสงฆ์ที่เคร่งครัด อารามแห่งนี้เต็มไปด้วยภาพของเกี่ยวกับพุทธศาสนาที่มีสีสันสวยงาม และรื่นรมย์ด้วยเสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้ในสวน คุณยังสามารถกระตุ้นความอยากอาหารได้ที่ร้านอาหารมังสวิรัติที่เป็นที่นิยมในอารามด้วย
🍝 วิธีไปร้าน Sweet Dynasty
นั่ง MTR จากไหนก็ได้ ลงสถานี Tsim Sha Tsui ออกทางออก A พอออกมาแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอย (Haiphong St.) ที่อยู่ข้างๆสถานี เดินตรงเข้ามาเจอซอยแรกทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปจะเจอป้าย (Hankow R.d.) ตามไปก็จะเจอร้าน (ร้านอยู่ใต้ดิน แต่ป้ายกะเมนูอยู่บนดินตรงทางเข้า)
[CR] เดินคนเดียวฮ่องกงมาเก๊า 4 วัน 3 คืน // วันที่ 1 นั่ง Hong Kong Airlines ไปข่าาา
https://pantip.com/topic/36267341
ไปฮ่องกงวันแรก ขึ้นเครื่องประมาน ตี 3 ตี 4 ของวันที่ 16/3/60 ต้องเชคอินไม่เกิน ตี 1 แต่พึ่งเก็บกระเป๋าเสร็จตอน 3 - 4 ทุ่ม ของวันที่ 15 ทำให้มีความพินาศเบาๆ ครีมล้างหน้า / ยางผูกผม / แว่น / หมวก / คือลืมหมดจ่ะ ประเดนต่อมา คิดว่าอากาศคงแค่เย็นๆ สบายๆ เดินเพลินๆ เลยเอาชุดแบบปกติไป แต่คิดว่าต้องไปนอนรอที่สนามบิน อาจหนาวเห็บ เอ้ย เหน็บ!! เลยเอาเสื้อโคทส์ไปตัวนึงแค่นั้น #พอไปถึงฮ่องกงคือหนาวยันขั้วปอด
(เดิมทีตั้งใจไปกับแม่ 2 คน ซึ่งซื้อตั๋ว + Booking ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่มีเหตุที่ทำให้แม่ไม่สามารถไปได้ เลยได้ลุยเดี่ยวแบบ งงๆ 555 #ไว้ค่อยพาแม่ไปเที่ยวใหม่นะแม่นะ)
จุด Check in ของสายการบิน Hongkong Airlines ทั้งในไทยและฮ่องกง จะมีไดคัทของสองสาวนี้เป็นจุดสังเกต
ผ้าห่มกันหัวใจหนาว
สิ่งแรกที่ พนง. บนเครื่องจะแจกให้คือทิชชูเปียก
ค่าตั๋วสายการบินนี้จะเหมารวมค่าอาหารทั้งไปและกลับ มื้อเช้ามากก เลยเป็นของกินตามที่เห็น เราเลือกน้ำส้ม หนมปังไส้กรอก น้ำเปล่า แต่จิงๆ น้ำจะมีให้เลือกเป็น น้ำส้ม น้ำแอปเปิล ไวน์ เป๊ปซี่ (แต่ขากลับ เป็นมื้อกลางวันของกินจะเยอะกว่านี้ รวมถึงมีของหวานให้ด้วย ดูรูปในกระทู้ เดินคนเดียวฮ่องกง - มาเก๊า วันที่ 4 ละกันนะ)
ที่นั่งไม่แคบเกินไป (เราสูงประมาณ 165 cm.)
ลงจากเครื่อง ผ่าน ตม. สอยกระเป๋าเสร็จแล้วถึงเดินไปซื้อบัตร Octopus สำหรับใช้นั่งรถ ซื้อของนู่นนี่ ราคา 150 HKD โดยหักค่ามัดจำจากในบัตร 50 HKD แปลว่ายอดเงินจะคงเหลืออยู่ในบัตรแค่ 100 HKD ใครอยาก add เงินมากกว่า 150 ก็บอก จนท.ไป หรือจะไปเติมเองข้างนอกก็ได้ ทริปเราใช้ไปทั้งหมด 400 HKD (จ่ายค่าตั๋วขึ้น/ลง/เข้าชม The Peak ด้วย เดี๋ยวมีเรื่องเล่าเหอะ หึหึ)
วันแรกแพลนไปไหว้พระ 4 จุด คือพระใหญ่ วัดนางชี วัดหวังต้าเซียน และวัดแชกงหมิว จากนั้นจะต่อด้วยดู SOL แล้วค่อยกินข้าวที่ Sweet Dynasty สรุปไปไหว้พระได้ที่เดียวแล้วกลับที่พักเลย ตอนเย็นถึงค่อยกระเฉือกกระสนออกมากินข้าวกะดูไฟ
ซึ่งการเป๋ชีวิตในวันแรกนี้ เกิดจากเนตใช้ไม่ได้!! (ซื้อ Sim 2 fly ไปใช้แต่เปิดแล้วเนตไม่ไปข่ะ) คือปกติเป็นคนไปไหนจะไม่ชอบซื้อหนังสือท่องเที่ยวมาอ่าน อยากไปจุดไหน อยากรู้อะไร จะ point ใน google ทีเดียว แล้วจด tip เอา ถ้าหาไม่เจอ ค่อย search ระบุจุดอีกที สรุป เนตเดี้ยง ชีวิตเดี้ยงตามเนต ที่สำคัญถ้าถามคนพื้นที่ เค้าก็จะงงกัน เพราะบางสถานที่เค้าไม่ได้เรียกชื่อเหมือนเรา
เรานั่ง BUS สาย 23 ไปนองปิง ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. เนื่องจากกระเช้าปิดปรับปรุงสายเคเบิ้ล และจะเปิดให้ใช้บริการอีกครั้งเดือนมิถุนายน 2017 แต่หมู่บ้านนองปิงเปิดตามปกติ
หากใครมีสัมภาระ สามารถฝากไว้ที่ City Gate Outlets ได้ (ถ้า locker ว่าง) แค่เข้าห้างลงชั้นใต้ดินก็เจอ
ถ้าจำไม่ผิดราคาสำหรับตู้เล็กอยู่ที่ 10 HKD ต่อ 2 ชม. ตู้ใหญ่ 20 HKD ต่อ 2ชม. เราไปเช้าตู้ว่างเพียบ แต่ตอนกลับมาเอากระเป๋า คนต่อแถวรอตู้ locker กันอ่ะ
และเราก็มาถึง
อากาศดีมากกก
ใต้ฐานพระจะมีส่วนให้เข้าชมฟรีได้ด้วยนะ
นางฟ้าแต่ละองค์จะถือของวิเศษแตกต่างไปคนละอย่าง
ไหว้พระใหญ่เสร็จแล้วลงมาไหว้พระพร้อมชมวัดโป๋หลินที่อยู่ข้างๆ ด้วยก็ดีนะ
กลุ่มนี้ใช้ธูปใหญ่ไหว้ 1 ดอก แล้วถือเวียนกันอธิษฐาน
มาถึงวันแรกเลยเบิกฤกษ์ด้วยการกินเจก่อนเลย 555
ปอเปี๊ยะเจ (ไส้น้อยเลย 555) และเผือกทอดเจ (ไส้แน่นเกิ๊น 555)
สวนสาธารณะเล็กๆ ข้างวัด
ไปหมู่บ้านนองปิงต่อดีก่า (อยู่ตรงข้ามประตูทางเข้าไปไหว้พระใหญ่)
ภายในหมู่บ้าน เอาจิงเหมือน Villa ที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวมากกว่า
ให้เฮียแถวนั้นถ่ายรูปให้ เห็นเฮียทุ่มเท เลยเก็บภาพเฮียหน่อย
ตั้งใจไปกินหนมที่ Honey Moon Dessert ดันปิดปรับปรุง เลยกินชานมของไต้หวัน แต่อยู่ใน 711 ฮ่องกงก็ได้ 555 งงเนอะ
วัดพระใหญ่ยังไปง่าย แต่ตอนเข้าที่พักด้วยความที่ไม่ค่อยมีคนไทยมาพัก ก่อนมาเลยหารีวิวการเดินทางเข้าที่พักไม่เจอ ประกอบกับความขี้เกียจ อยากนั่ง Bus ไปถึงจุดที่ใกล้ รร. เลย ไม่อยากต่อ MTR หลายต่อ ก็ได้ขึ้น BUS นะ แต่ใช้เวลาเป็น ชม. กว่าจะถึง เลยนั่งทำใจไปเลยจ่ะ
พอลงจากรถ ต่อ MTR ต่อนึง ออกจาก MTR เดินมาถึงจุดสิ้นสุดตามที่จดไว้ คือ เป็นแยกไฟแดง แบบ รร. อยู่ไหนวะ เอาไงดี เนตก็ไม่มี จะ 4 โมงละ หนาวก็หนาว ไปดูไฟไม่ทันแน่เลย คิดๆๆ หรือไปลั๊ลลาก่อนแล้วค่อยมาหาที่พักอีกที ไม่เอาๆ เดี๋ยวกลับมืดไป อันตรายสำหรับ ผญ. เยี่ยงเรา พอคิดเสร็จ อ๊ะ เจอหนุ่มแว่นหน้ามลกะลังเดินมา เลยเดินเข้าไปหาจะถามทาง แน่ะ เห็นเราลากกระเป๋าเดินไปหาปุ๊บทำหลบตา
เราไม่สนจ่ะ helloๆๆ จากนั้นก็มัดมือชกถามว่ารุจัก รร. นี้ๆ มั้ย ผลคือ ยืนเงียบ ไม่ตอบ แต่หยิบโทรศัพท์เปิด gps ดู ลักษณะคงอยากบอกทางไป แต่ไม่รู้จะพูดไร เลยพาข้ามถนนไปส่งที่ รร. เอง ด้วยความที่เกรงใจ กัวเดินตามไม่ทัน แล้วเค้าจะรอ ไม่ล่งไม่ลากละกระเป๋า เราแบกเลยจ้า ซึ่งกระเป๋าเราหนักมากกก T_T ผช. คงสังเกตได้ ส่งสัญลักษณ์มือประมานว่าช่วยถือมั้ย เราก็ตอบแบบนางฟ้ากลับไป its ok ไม่หนัก ถือได้ ขณะที่หัวใจร้องไห้ และแล้วก็มาถึงที่พักด้วยดี #ขอบคุนน๊าาา
มาถึง รร. ก็วิ่งไปเปิด wifi ที่ห้องเลยข่ะ นอนกลิ้งๆ ส่งข้อความเข้าไปไฝว้กะ AIS ทำไมใช้ไม่ได้บลาๆๆ แอดมินบอกให้ทำนู่นนี่ คือทำหมด แต่ยังใช้ไม่ได้ เลยแบบ ช่างละ ปลงละ ออกไป Sweet Dynasty ดีกว่าเดี๋ยวไม่ทันดูไฟ
ซึ่งสรุปก็ไม่ทันดูจีจีดั้ว 😭 แค่หาร้านข้าวก็เป็น ชม. ละ คือ ป้ายถนนซ่อนไม่ได้โชว์ไว้หน้าซอย ต้องเดินเข้าซอยไปก่อนถึงจะเจอป้าย #ใครจะไปรู้วะ พอถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครรุจักอีก เจอคนเดินสวนมา เห็นเป็นนักศึกษา เลยเดินเข้าไปถาม นางเดินหนีเราจ่ะ 555
เราก็โรคจิตเดินตาม ก็เสตปเดิม หยิบมือถือ เปิด gps แต่ว่าก่อนจะบอกทาง อิน้องคนนี้หันมาถามเรา "ไม่มีมือถือหรอ!" #คือเราอยากบอกว่ามาจากพม่าทันที
จากนั้นน้องก็บอกทางๆๆ ซึ่งพอเดินไปแล้ว มันไม่ใช่โว๊ยยยไอตี๋! #แกล้งกุป่ะเนี่ยฮือ หลังจากนั้นถามใคร ก็บอกไปคนละทางหมดเลย เดินเปลี้ยมาก พอละ ไม่สนละ รีวงรีวิวไร ไม่ตามละฮือ กุคนง่ายๆ กุกินไรก็ได้ 😭
และบังเอิ๊ญมีเจ้คนนึงมาบอกว่า ถนนที่จะไปอ่ะ เค้าไม่ได้เรียกชื่อนี้กัน แล้วเจ้ก็จดชื่อเป็นภาษาจีนให้ แล้วพาไปถึงหัวถนน จากนั้นเจ้ก็บอกว่า ถ้าหาไม่เจอเอาข้อความให้เค้าดูละกัน ฮือ ในที่สุดกุก็ได้กินข้าว 🍤🍙
ตามหาป้ายนี้นานมาก คือมันไม่อยู่ต้นซอย! ต้องเดินเข้าไปถึงจะเจอ และคนแถวนั้นไม่รู้จักมันในชื่อภาษาอังกฤษอีก (ภาพนี้มาถ่ายตอนเช้าของอีกวัน แบบบังเอิญเจอ)
งานหากันจนเจอก็มา
บรรยากาศภายในร้าน
เราสั่ง ต้นหอมผักพริกกุ้งและหอยเชลส์ กินกะข้าวสวย ก็อร่อยดี
และสั่งฟองเต้าหู้ทอดห่อกุ้งมากินเล่น อร่อย แต่น้ำจิ้มควรเป็นน้ำจิ้มบ๊วย แต่ทางร้านไม่มี
สนนราคาทั้งหมดอยู่ที่
* สั่งไป 3 รายการ แต่พอบิลออกมามี 4 รายการ เดาว่าน่าจะเป็นค่าน้ำชาที่เอามาเสิร์ฟให้แต่แรกข่าา
👼 วิธีเดินทางไปไหว้พระใหญ่
นั่ง BUS จากสนามบิน สาย S1 หรือ MTR จากไหนก็ได้ ลงสถานี Tung Chung จากนั้นเลือกขึ้นกระเช้า หรือ BUS สาย 23 (สุดสาย) ไปได้เลย
👼 เดิมทีอารามโป๋หลินเป็นเพียงอารามที่อยู่ห่างไกล และหลบลี้ผู้คนด้วยทัศนียภาพที่เป็นป่าและภูเขา แต่อารามนี้ได้มีชื่อเสียงและปรากฏอยู่บนแผนที่โลกเมื่อมีการสร้างพระพุทธรูปเทียนถานที่มีความพิเศษ (มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่าพระใหญ่) ในปี 1993 พระพุทธรูปสำริดอันสง่างามนี้มีความสูง 34 เมตรและหันพระพักตร์ไปทางเหนือเพื่อเฝ้าดูชาวจีน เป็นที่ดึงดูดพุทธศาสนิกชนจากทั่วทั้งเอเชีย
กิริยาต่างๆ ขององค์พระ ได้แก่ พระเนตร พระโอษฐ์ การเอียงพระเศียร และพระหัตถ์ขวายกขึ้นให้พรแก่คนทั่วไป ได้ทำให้องค์พระใหญ่มีลักษณะอ่อนโยนและสง่างามอย่างลุ่มลึก โดยต้องใช้เวลาการก่อสร้างถึง 12 ปี หากคุณอยากจะสำรวจพระพุทธรูปที่โดดเด่นนี้อย่างใกล้ชิดขึ้น ให้ขึ้นบันไดไปอีก 268 ขั้น และยังจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทิวเขาและทะเลจากบริเวณฐานขององค์พระด้วย
องค์พระพุทธรูปหันพระพักตร์ไปทางเหนือสู่จีนแผ่นดินใหญ่ ประดิษฐานอยู่โดยมีความสูง 26.4 เมตร บนฐานดอกบัว หากนับรวมฐานแล้วมีความสูงทั้งสิ้น 34 เมตร ค่าก่อสร้างพระพุทธรูป 60 ล้านเหรียญฮ่องกง
ตรงข้ามพระพุทธรูป เป็นที่ตั้งของอารามโป๋หลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของชาวพุทธที่สำคัญที่สุดของฮ่องกง และถูกเรียกว่าเป็น "โลกของพุทธศาสนิกชนในตอนใต้" เป็นสถานที่จำวัดของพระสงฆ์ที่เคร่งครัด อารามแห่งนี้เต็มไปด้วยภาพของเกี่ยวกับพุทธศาสนาที่มีสีสันสวยงาม และรื่นรมย์ด้วยเสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้ในสวน คุณยังสามารถกระตุ้นความอยากอาหารได้ที่ร้านอาหารมังสวิรัติที่เป็นที่นิยมในอารามด้วย
🍝 วิธีไปร้าน Sweet Dynasty
นั่ง MTR จากไหนก็ได้ ลงสถานี Tsim Sha Tsui ออกทางออก A พอออกมาแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอย (Haiphong St.) ที่อยู่ข้างๆสถานี เดินตรงเข้ามาเจอซอยแรกทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปจะเจอป้าย (Hankow R.d.) ตามไปก็จะเจอร้าน (ร้านอยู่ใต้ดิน แต่ป้ายกะเมนูอยู่บนดินตรงทางเข้า)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น