เรื่องมันมีอยู่ว่า เราลืมคอมไว้บนเครื่องบินสองครั้งแล้ว
กระทู้นี้ขอตั้งเป็นวิทยาทาน(หื้ม?)แก่คนขี้หลงขี้ลืม หรือคนที่มีอาการเบลอชั่วคราวหลังจากตื่นนอนบนเครื่องบิน นี่ไม่ใช่กระทู้รีวิวบริการสายการบิน เพราะ full service และปังอยู่แล้ว แต่อยากเล่ารายละเอียดการติดตามคอมของเราเผื่อใครโป๊ะลืมไว้เหมือนกันจะได้มีทางออกนาจา
คอมเราเนี่ย หน้าจอ13นิ้ว ว่าง่ายๆ คือขนาดพอดีกับนิตยสารบนเครื่องบินเลย และเคสสีขาวลายหินอ่อน(อมเหลืองจากความเก่า) ดูผ่านๆ มองไม่เห็นแน่นอน
ครั้งแรกที่ทำหายก็เมื่อเดือนพ.ค.ปีก่อนนี่เอง เราเดินทางกับ Emirates ไฟลท์ DXB(ดูไบ)-CDG(ปารีส) พอถึงสนามบินก็ออกมารอกระเป๋าที่สายพานปกติ จนนึกได้ว่ามือมันว่างๆ ชิบห-ย ลืมคอมค่ะ!
เราเลยรีบตั้งสติแล้วหา Lost and Found อธิบายสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่ภาคพื้น (Ground staff) ฟัง ไม่ได้เข้าไปหาเจ้าหน้าที่สายการบินนะ เพราะตอนนั้นอยู่ที่สายพานแล้วไง มาไกลแล้ว
ยื่นตั๋วเครื่องบินให้เขาเลย เพราะมันมีรายละเอียดไฟลท์หมด ถ้าต้องติดต่อสายการบินก็มีชื่อเราและ booking reference จะจัดการข้อมูลง่ายขึ้น
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อไปที่เครื่องบินให้เรา เช็คว่ามีคอมตรงเลขที่นั่ง***มั้ย ตอนแรก crew เองก็ไม่เห็นเพราะคอมเราสีกลืนกับเบาะมาก แต่เขาก็เช็คให้แล้วเจอ รอดไปจย้า รอไม่เกินครึ่งชั่วโมงเราก็ได้คอมคืน หลังจากนั้นก็หากระเป๋าใส่คอมสีดำกันเหนียวไว้เลยเพราะเป็นคนขี้ลืมมาก
แต่พอมาครั้งที่สอง เมื่อวันเสาร์ก่อนนี้เอง มีเหตุให้เราต้องยัดกระเป๋าคอมโหลดใต้เครื่อง แล้วถือคอมมามือเปล่า คราวนี้เดินทางกับ Etihad ไฟลท์ GVA(เจนีวา)-AUH(อาบู ดาบี)
เรานึกได้ตอนขึ้นรถบัสจะเข้าสนามบิน fast forward ไป พอรถเทียบท่าเราก็วิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่สายการบินทันที เขาก็บอกว่าให้เราติดต่อ Transfer Desk
เราก็ตามหาจนเจอเจ้าหน้าที่ภาคพื้น เขาก็แจ้งว่าต้องส่งอีเมล์ไปที่ auhbaggageservices@etihad.ae แล้วจะมีการติดตามดำเนินการต่อ ต้องเป็นขั้นเป็นตอน มีอย่างเดียวเท่านั้นที่เขาได้รับอนุญาตให้เข้าเครื่องไปหยิบทันทีหลัง disembarkment คือพาสปอร์ต พี่คนข้างๆ เราลืมกระเป๋าตังก็หยิบไม่ได้เช่นกัน
ตอนนั้นเราร้อนใจมาก ถึงเราจะนั่งแถวหลังๆ แล้วตอนเราลงเหลือแค่ป้าสองคนตามหลังเรามา แต่เราก็กลัวโดนหยิบไป เลยขอให้เจ้าหน้าที่โทรเช็คกับเครื่องบินว่าคอมอยู่มั้ย รอประมาณครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งว่าเจอคอมเราแล้วนะ แค่ส่งอีเมล์มาตามขั้นตอนเลย เดี๋ยวเขาจะให้ crew ส่งไปให้ที่ BKK เราก็โล่งใจไปหนึ่ง เขียนอีเมล์เสร็จก็รีบไปขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ
แต่พอมาถึงกรุงเทพ เรากลับได้ reply ว่าไม่พบและยังไม่ได้คอม คราวนี้แพนิคมาก รีบเดินหาเจ้าหน้าที่ Etihad ทันทีแล้วอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง เขาก็ขอให้forwardเมล์ไปให้ที่ bagbkk@etihad.ae แล้วจะช่วยตามเรื่อง
กลับบ้านมาเราก็อีเมล์หา AUH Baggage Services อีกรอบ อธิบายไปว่าเราคุยกับ Desk แล้วเจอนะ และให้ booking reference ไปเพิ่มเติม แต่จนวันอังคารเราก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ
หลังจากนั้นเราเลยหาเบอร์Etihad office ในไทย ปรากฏว่าที่เจอจาก Google ยังไม่เปิดให้บริการ เราเลยตามหาจากเว็บไซต์ Etihad แล้วติดต่อไปทาง Call center จากเว็บไซต์นี้
http://www.etihad.com/th-th/about-us/contact-us/our-offices/ เขาก็จัดการส่งเมล์ไป AUH อีกรอบเพื่อตามให้ และแจ้งว่าตอนนั้นเราทำได้อย่างเดียวคือรอ (แง้)
เราก็รอเรื่อยๆ อย่างงงๆ จนถึงวันพฤหัส เราหาทางติดต่อ Lost and Found ของ AUH แต่เจอแค่อีเมล์ contact@abudhabi.ae ซึ่งรู้กันว่าต้องได้รับเมล์กระหน่ำต่อวันแล้วอาจจะไม่เห็นเมล์เรา แต่เราก็ส่งไปก่อน แล้ว cc auhbaggageservices และอีเมล์ของที่ BKK
ตอนนั้นมั่นใจมากว่าคอมไม่ถูกขโมย แต่ค้างอยู่ที่ไหนซักแห่ง และกลัวว่าการสื่อสารที่ต้องผ่านขั้นตอนเยอะอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด แล้วเราจะไม่ได้คอมคืน
แต่สุดท้ายพอวันเสาร์ ก็มีreplyว่าเจอคอมเราแล้ว เดี๋ยวจะส่งมาในไฟลท์ EY402 พอถึงไทยแล้วเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ไทยจะติดต่อเราเอง ตอนนั้นกระโดดโลดเต้นบอกทุกคน ดีใจสุดๆ แล้วก็รีบกลับมานั่งรอโทรศัพท์วันรุ่งขึ้น เพราะไฟลท์จะลงประมาณ 6.35 น.
เรารอจนบ่ายสองก็ไม่มีคนติดต่อมา เลยโทรไปสนามบินสุวรรณภูมิ ขอให้เขาโอนสายให้ แต่ระบบไม่สามารถโอนให้ได้เขาเลยให้เบอร์ 02-312-7494 เรามา ซึ่งโทรออกไม่ได้เลย
เราเลยโทรไปสุวรรณภูมิใหม่ แต่เป็นแผนก Lost and Found แล้วขอเบอร์ Etihad ได้เป็นเบอร์ 02-314-7494 คราวนี้โทรออกได้ แต่ไม่มีใครรับ เราก็หาเวลาเที่ยวบิน BKK-AUH ทั้งหมด เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่สายการบินอาจอยู่รับโทรศัพท์เฉพาะเวลา check-in แต่ก็ไม่มีใครรับอยู่ดี
สุดท้ายตัดสินใจไปสนามบินเองเลย ไม่อยากฝากชะตาชีวิตคอมลูกรักไว้กับการติดต่อสื่อสาร พอไปถึงก็พุ่งไป check-in counter ของ Etihad แจ้งรายละเอียดและให้เขาดูอีเมล์ เจ้าหน้าที่บอกว่าคอมเราพึ่งมาในไฟลท์ EY 408 ซึ่งถึงประมาณ 18.05 น. นี่เอง
แล้วในที่สุดเราก็ได้ลูกรักกลับมา เย่ๆ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. แต่ละสายการบินมีกฎและระเบียบการติดตามของหายต่างกัน รวมถึงนโยบายการรับผิดชอบค่าเสียหายและบริการหลังการขาย ถ้าศึกษาไว้ก่อนจะดีกว่า
2. การติดตามของที่ลืมบนเครื่องบินเป็นงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ภาคพื้นและเจ้าหน้าที่สายการบิน การสื่อสารระหว่างทั้งสองฝ่ายอาจคลาดเคลื่อน ขอให้ใจเย็นๆ แล้วติดต่อทั้งสองฝ่ายและอธิบายสถานการณ์ให้ดี
3. ถึงเราจะนั่ง Etihad ไม่ได้หมายความว่าการลืมของไว้บนเครื่อง Etihad จะต้องผ่านขั้นตอนแบบนี้เสมอไป อาจจะเป็นนโยบายของสนามบิน แต่ที่แน่ๆ คือถ้าติดต่อ Lost and Found ที่ DXB เขาจะหยิบจากบนเครื่องให้เลย (เคยลืมของไว้ที่นั่นเช่นกัน)
4. เราถามเพื่อนที่เป็น crew แล้วเขาอธิบายว่า ตัว crew เองถ้า disembark แล้วก็ห้ามเข้าเครื่องบินเช่นกัน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นจะเป็นคนจัดการต่อ ถ้าเจอของลืมไว้บนเครื่อง เขาจะตรวจสอบอย่างดี เพราะข้อกังวลเรื่องความปลอดภัย (เผื่อใครตั้งใจทิ้งคอมระเบิดได้ไว้ ไรงี้)
5. ถ้าเรากลับไปแก้ไขอดีตได้ นอกจากจะขอให้ตัวเองไม่ลืมคอมแล้ว เราคงจะเนียนบอก Transfer Desk ที่ AUH ว่าพาสปอร์ตชั้นอยู่กะคอมย่ะ! แล้วเขาก็จะหยิบมาให้ทันที (แต่ถ้าไม่เห็นพาสปอร์ตอาจโดนด่าทีหลัง 55555)
จบ
ลืมของไว้บนเครื่องบินอะแกร ทำไงดี?
กระทู้นี้ขอตั้งเป็นวิทยาทาน(หื้ม?)แก่คนขี้หลงขี้ลืม หรือคนที่มีอาการเบลอชั่วคราวหลังจากตื่นนอนบนเครื่องบิน นี่ไม่ใช่กระทู้รีวิวบริการสายการบิน เพราะ full service และปังอยู่แล้ว แต่อยากเล่ารายละเอียดการติดตามคอมของเราเผื่อใครโป๊ะลืมไว้เหมือนกันจะได้มีทางออกนาจา
คอมเราเนี่ย หน้าจอ13นิ้ว ว่าง่ายๆ คือขนาดพอดีกับนิตยสารบนเครื่องบินเลย และเคสสีขาวลายหินอ่อน(อมเหลืองจากความเก่า) ดูผ่านๆ มองไม่เห็นแน่นอน
ครั้งแรกที่ทำหายก็เมื่อเดือนพ.ค.ปีก่อนนี่เอง เราเดินทางกับ Emirates ไฟลท์ DXB(ดูไบ)-CDG(ปารีส) พอถึงสนามบินก็ออกมารอกระเป๋าที่สายพานปกติ จนนึกได้ว่ามือมันว่างๆ ชิบห-ย ลืมคอมค่ะ!
เราเลยรีบตั้งสติแล้วหา Lost and Found อธิบายสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่ภาคพื้น (Ground staff) ฟัง ไม่ได้เข้าไปหาเจ้าหน้าที่สายการบินนะ เพราะตอนนั้นอยู่ที่สายพานแล้วไง มาไกลแล้ว
ยื่นตั๋วเครื่องบินให้เขาเลย เพราะมันมีรายละเอียดไฟลท์หมด ถ้าต้องติดต่อสายการบินก็มีชื่อเราและ booking reference จะจัดการข้อมูลง่ายขึ้น
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อไปที่เครื่องบินให้เรา เช็คว่ามีคอมตรงเลขที่นั่ง***มั้ย ตอนแรก crew เองก็ไม่เห็นเพราะคอมเราสีกลืนกับเบาะมาก แต่เขาก็เช็คให้แล้วเจอ รอดไปจย้า รอไม่เกินครึ่งชั่วโมงเราก็ได้คอมคืน หลังจากนั้นก็หากระเป๋าใส่คอมสีดำกันเหนียวไว้เลยเพราะเป็นคนขี้ลืมมาก
แต่พอมาครั้งที่สอง เมื่อวันเสาร์ก่อนนี้เอง มีเหตุให้เราต้องยัดกระเป๋าคอมโหลดใต้เครื่อง แล้วถือคอมมามือเปล่า คราวนี้เดินทางกับ Etihad ไฟลท์ GVA(เจนีวา)-AUH(อาบู ดาบี)
เรานึกได้ตอนขึ้นรถบัสจะเข้าสนามบิน fast forward ไป พอรถเทียบท่าเราก็วิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่สายการบินทันที เขาก็บอกว่าให้เราติดต่อ Transfer Desk
เราก็ตามหาจนเจอเจ้าหน้าที่ภาคพื้น เขาก็แจ้งว่าต้องส่งอีเมล์ไปที่ auhbaggageservices@etihad.ae แล้วจะมีการติดตามดำเนินการต่อ ต้องเป็นขั้นเป็นตอน มีอย่างเดียวเท่านั้นที่เขาได้รับอนุญาตให้เข้าเครื่องไปหยิบทันทีหลัง disembarkment คือพาสปอร์ต พี่คนข้างๆ เราลืมกระเป๋าตังก็หยิบไม่ได้เช่นกัน
ตอนนั้นเราร้อนใจมาก ถึงเราจะนั่งแถวหลังๆ แล้วตอนเราลงเหลือแค่ป้าสองคนตามหลังเรามา แต่เราก็กลัวโดนหยิบไป เลยขอให้เจ้าหน้าที่โทรเช็คกับเครื่องบินว่าคอมอยู่มั้ย รอประมาณครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งว่าเจอคอมเราแล้วนะ แค่ส่งอีเมล์มาตามขั้นตอนเลย เดี๋ยวเขาจะให้ crew ส่งไปให้ที่ BKK เราก็โล่งใจไปหนึ่ง เขียนอีเมล์เสร็จก็รีบไปขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ
แต่พอมาถึงกรุงเทพ เรากลับได้ reply ว่าไม่พบและยังไม่ได้คอม คราวนี้แพนิคมาก รีบเดินหาเจ้าหน้าที่ Etihad ทันทีแล้วอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง เขาก็ขอให้forwardเมล์ไปให้ที่ bagbkk@etihad.ae แล้วจะช่วยตามเรื่อง
กลับบ้านมาเราก็อีเมล์หา AUH Baggage Services อีกรอบ อธิบายไปว่าเราคุยกับ Desk แล้วเจอนะ และให้ booking reference ไปเพิ่มเติม แต่จนวันอังคารเราก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ
หลังจากนั้นเราเลยหาเบอร์Etihad office ในไทย ปรากฏว่าที่เจอจาก Google ยังไม่เปิดให้บริการ เราเลยตามหาจากเว็บไซต์ Etihad แล้วติดต่อไปทาง Call center จากเว็บไซต์นี้ http://www.etihad.com/th-th/about-us/contact-us/our-offices/ เขาก็จัดการส่งเมล์ไป AUH อีกรอบเพื่อตามให้ และแจ้งว่าตอนนั้นเราทำได้อย่างเดียวคือรอ (แง้)
เราก็รอเรื่อยๆ อย่างงงๆ จนถึงวันพฤหัส เราหาทางติดต่อ Lost and Found ของ AUH แต่เจอแค่อีเมล์ contact@abudhabi.ae ซึ่งรู้กันว่าต้องได้รับเมล์กระหน่ำต่อวันแล้วอาจจะไม่เห็นเมล์เรา แต่เราก็ส่งไปก่อน แล้ว cc auhbaggageservices และอีเมล์ของที่ BKK
ตอนนั้นมั่นใจมากว่าคอมไม่ถูกขโมย แต่ค้างอยู่ที่ไหนซักแห่ง และกลัวว่าการสื่อสารที่ต้องผ่านขั้นตอนเยอะอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด แล้วเราจะไม่ได้คอมคืน
แต่สุดท้ายพอวันเสาร์ ก็มีreplyว่าเจอคอมเราแล้ว เดี๋ยวจะส่งมาในไฟลท์ EY402 พอถึงไทยแล้วเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ไทยจะติดต่อเราเอง ตอนนั้นกระโดดโลดเต้นบอกทุกคน ดีใจสุดๆ แล้วก็รีบกลับมานั่งรอโทรศัพท์วันรุ่งขึ้น เพราะไฟลท์จะลงประมาณ 6.35 น.
เรารอจนบ่ายสองก็ไม่มีคนติดต่อมา เลยโทรไปสนามบินสุวรรณภูมิ ขอให้เขาโอนสายให้ แต่ระบบไม่สามารถโอนให้ได้เขาเลยให้เบอร์ 02-312-7494 เรามา ซึ่งโทรออกไม่ได้เลย
เราเลยโทรไปสุวรรณภูมิใหม่ แต่เป็นแผนก Lost and Found แล้วขอเบอร์ Etihad ได้เป็นเบอร์ 02-314-7494 คราวนี้โทรออกได้ แต่ไม่มีใครรับ เราก็หาเวลาเที่ยวบิน BKK-AUH ทั้งหมด เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่สายการบินอาจอยู่รับโทรศัพท์เฉพาะเวลา check-in แต่ก็ไม่มีใครรับอยู่ดี
สุดท้ายตัดสินใจไปสนามบินเองเลย ไม่อยากฝากชะตาชีวิตคอมลูกรักไว้กับการติดต่อสื่อสาร พอไปถึงก็พุ่งไป check-in counter ของ Etihad แจ้งรายละเอียดและให้เขาดูอีเมล์ เจ้าหน้าที่บอกว่าคอมเราพึ่งมาในไฟลท์ EY 408 ซึ่งถึงประมาณ 18.05 น. นี่เอง
แล้วในที่สุดเราก็ได้ลูกรักกลับมา เย่ๆ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. แต่ละสายการบินมีกฎและระเบียบการติดตามของหายต่างกัน รวมถึงนโยบายการรับผิดชอบค่าเสียหายและบริการหลังการขาย ถ้าศึกษาไว้ก่อนจะดีกว่า
2. การติดตามของที่ลืมบนเครื่องบินเป็นงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ภาคพื้นและเจ้าหน้าที่สายการบิน การสื่อสารระหว่างทั้งสองฝ่ายอาจคลาดเคลื่อน ขอให้ใจเย็นๆ แล้วติดต่อทั้งสองฝ่ายและอธิบายสถานการณ์ให้ดี
3. ถึงเราจะนั่ง Etihad ไม่ได้หมายความว่าการลืมของไว้บนเครื่อง Etihad จะต้องผ่านขั้นตอนแบบนี้เสมอไป อาจจะเป็นนโยบายของสนามบิน แต่ที่แน่ๆ คือถ้าติดต่อ Lost and Found ที่ DXB เขาจะหยิบจากบนเครื่องให้เลย (เคยลืมของไว้ที่นั่นเช่นกัน)
4. เราถามเพื่อนที่เป็น crew แล้วเขาอธิบายว่า ตัว crew เองถ้า disembark แล้วก็ห้ามเข้าเครื่องบินเช่นกัน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นจะเป็นคนจัดการต่อ ถ้าเจอของลืมไว้บนเครื่อง เขาจะตรวจสอบอย่างดี เพราะข้อกังวลเรื่องความปลอดภัย (เผื่อใครตั้งใจทิ้งคอมระเบิดได้ไว้ ไรงี้)
5. ถ้าเรากลับไปแก้ไขอดีตได้ นอกจากจะขอให้ตัวเองไม่ลืมคอมแล้ว เราคงจะเนียนบอก Transfer Desk ที่ AUH ว่าพาสปอร์ตชั้นอยู่กะคอมย่ะ! แล้วเขาก็จะหยิบมาให้ทันที (แต่ถ้าไม่เห็นพาสปอร์ตอาจโดนด่าทีหลัง 55555)
จบ