ทุกวันนี้เราบอกว่าตัวเองไม่ได้งมงาย
ลองอ่านสนุกๆ เชื่อว่าท่านก็คิดอยู่เหมือนกัน
ผมลองนิยามความเชื่อและงมงายก่อน
1. เชื่อ ไม่มีเหตุผล = งมงาย
2. เชื่อ แบบคิดตามแต่ยังสงสัย = ก็งมงาย
3. เชื่อ แบบเริ่มศึกษาเห็นแนวโน้ม = ก็งมงาย
(การรู้เพียงด้านเดียว แล้วตัดสินว่าใช่หรือไม่
เป็นการตัดสินที่อคติ คุณคงไม่อยากโดน
พิพากษาทั้งที่ ศาลฟังแต่คนที่ฟ้องคุณ)
4. พิสูจน์เองจนเข้าใจ = แบบนี้ไม่งมงาย
มาลองดูความเชื่อเล็กๆในชีวิตประจำวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอสมมติ...มีวัดแห่งหนึ่งบอกว่า
กินน้ำมันหมูดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันพืช
เขาบอกว่ารู้ได้ด้วยการรับรู้ของตัวเอง
คุณจะเชื่อไหม แล้วคนที่เชื่องมงายไหม?
จากนั้นไม่นานก็มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
บอกว่าน้ำมันพืชดีต่อสุขภาพกว่าน้ำมันหมู
ในวงการฮือฮา มีข้อมูลสารประกอบครบ
มีรายการคำนวณแสดงด้วย เราจะเชื่อไหม?
10 ปีต่อมาก็มีการเปลี่ยนแปลงการทดลอง
ผลว่าน้ำมันหมูดีต่อสุขภาพกว่าน้ำมันพืช
และอีก 10 ปีต่อมากลับบอกว่าน้ำมันพืชดีกว่าอีก
เปลี่ยนไปมาแบบนี้เราไม่ควรจะซื้อน้ำมันไหนดี?
(แบบว่านี่แค่เรื่องน้ำมันพืช เรากินทุกวัน
ผลิตภัณฑ์ออกมาสู่ตลาดก็มาจากการทดลอง
เราได้แต่ฟัง เชื่อ และซื้อตาม แล้วความรู้อื่นๆ
เราก็เชื่อเหมือนแบบนี้ แล้วบอกว่าเราไม่งมงาย)
มาลองดูความเชื่อเล็กๆในเรื่องศาสนาบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีอาจารย์บอกว่าในห้องมีของ A อยู่
เราใช้เวลาหาทั้งชีวิตเจอแต่ของ B และ C
เราบอกว่าไม่มีของ A หาไม่เจอเลย
อาจารย์ว่าด่วนสรุปไป คนโบราณยังเจอ
คุณใช้เวลาในการพิสูจน์ 10 ปีแต่ก็ยืนยันไม่มี
คุณบอกอาจารย์หนะเชื่อว่า A มีจริง
อาจารย์บอกว่าคุณหนะก็เชื่อเหมือนกัน
แค่เชื่อว่า A ไม่มีจริง ด่วนสรุปไปได้
(แบบนี้ก็เห็นว่าทั้งสองฝ่ายต่าง "เชื่อ"
เหมือนทั้งสองคนจะพิสูจน์และเข้าใจ
แต่กลับไม่มีใครสามารถตอบออกได้เต็มปาก
ผมว่าเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์)
ว่าไปแล้ว ชีวิตเราเหมือนความเชื่อ
หลักการ ความรู้เปลี่ยนตลอดเวลา
เราเองก็ไม่เคยพิสูจน์หลักการอะไรจริงๆจังๆ
คิดว่าใช่ ก็เชื่อ คิดว่าไม่ใช่ ก็ไม่เชื่อ
สรุป เราทุกคนต้องเชื่อก่อน งมงายก่อน
ใครว่าผู้อื่นงมงาย ตนก็อาจงมงายอยู่เช่นกัน
ชีวิตเราสั้น ไม่มีเวลาพิสูจน์ทุกอย่างได้ทัน
เราควรเอาเวลาไปพิสูจน์สิ่งที่สำคัญก่อน
(สำหรับคนที่รู้ทุกข์ สิ่งที่ควรพิสูจน์และทำคือ
การทำตามแนวทางเพื่อพ้นทุกข์)
เพื่อนๆคิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ
เราเชื่อกันหมด งมงายกันหมด เวลาก็แสนสั้น ต้องเลือกพิสูจน์
ลองอ่านสนุกๆ เชื่อว่าท่านก็คิดอยู่เหมือนกัน
ผมลองนิยามความเชื่อและงมงายก่อน
1. เชื่อ ไม่มีเหตุผล = งมงาย
2. เชื่อ แบบคิดตามแต่ยังสงสัย = ก็งมงาย
3. เชื่อ แบบเริ่มศึกษาเห็นแนวโน้ม = ก็งมงาย
(การรู้เพียงด้านเดียว แล้วตัดสินว่าใช่หรือไม่
เป็นการตัดสินที่อคติ คุณคงไม่อยากโดน
พิพากษาทั้งที่ ศาลฟังแต่คนที่ฟ้องคุณ)
4. พิสูจน์เองจนเข้าใจ = แบบนี้ไม่งมงาย
มาลองดูความเชื่อเล็กๆในชีวิตประจำวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาลองดูความเชื่อเล็กๆในเรื่องศาสนาบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ว่าไปแล้ว ชีวิตเราเหมือนความเชื่อ
หลักการ ความรู้เปลี่ยนตลอดเวลา
เราเองก็ไม่เคยพิสูจน์หลักการอะไรจริงๆจังๆ
คิดว่าใช่ ก็เชื่อ คิดว่าไม่ใช่ ก็ไม่เชื่อ
สรุป เราทุกคนต้องเชื่อก่อน งมงายก่อน
ใครว่าผู้อื่นงมงาย ตนก็อาจงมงายอยู่เช่นกัน
ชีวิตเราสั้น ไม่มีเวลาพิสูจน์ทุกอย่างได้ทัน
เราควรเอาเวลาไปพิสูจน์สิ่งที่สำคัญก่อน
(สำหรับคนที่รู้ทุกข์ สิ่งที่ควรพิสูจน์และทำคือ
การทำตามแนวทางเพื่อพ้นทุกข์)
เพื่อนๆคิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ