แชร์ประสบการณ์ "จับจังหวะ" การลงทุนในหุ้นเติบโต

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การ "จับจังหวะ" การลงทุนในหุ้นเติบโตค่ะ
หากเราอยากลงทุนในหุ้นเติบโต เราต้องรู้ก่อนว่า หุ้นเติบโต คืออะไร แล้วมีคุณสมบัติอย่างไรค่ะ

ลักษณะของหุ้นเติบโต (Growth Stock) คือ หุ้นที่มีรายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น มีการขยายตัวของรายได้มากกว่าธุรกิจอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน

หุ้นเติบโต คือ มักจะเป็นหุ้นที่มีราคาสูง (หุ้นดี ราคาแพง) ดูจาก P/E  P/BV มักจะสูง ปันผลต่ำ เพราะส่วนใหญ่กิจการจะนำกำไรไปลงทุนเพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องค่ะ



ประเด็นต่อมาที่สำคัญมากคือ เราจะแยกหุ้นที่ราคาหุ้นโตจากธุรกิจ ออกจากหุ้นที่ราคาหุ้นโตจากการเป็นหุ้นปั่นได้อย่างไร?


คำตอบคือ เราต้องดูว่า  หุ้นตัวนั้นมี “วิธีการโต” อย่างไร?


วิธีการโตจะทำให้เรามีความมั่นใจว่า การเติบโตนั้นจะไม่ใช่การเติบโตในระยะสั้น แต่โตต่อเนื่องได้ในระยะยาว ซึ่งดูได้จาก

1. มีการขยายตัวของฐานลูกค้า เช่นขยายสาขา ขยายไปต่างประเทศ  มีการขยายตัวของกำลังซื้อมากขึ้น

2. มียอดขายสูงขึ้น ต่อเนื่อง บางครั้งก้าวกระโดด

3. มียอดสั่งซื้อ หรืองานในมือมาก

4. ต้นทุนต่ำ กำไรสุทธิสูง โตขึ้นทุกปี

5. ลักษณะสินค้าหรือบริการ มีเอกลักษณ์ ทำให้ซื้อแล้ว ต้องซื้อซ้ำ

6. กิจการได้เปรียบทางการตลาดสูง หรือการแข่งขันของสินค้าเป็นแบบผูกขาด

ตรงนี้ถือว่าเป็นหัวใจของหุ้นเติบโตเลยก็ว่าได้ค่ะ ตรงตามตำราของอาจารย์ฟิลลิป ฟิชเชอร์ ค่ะ ยิ้ม
ขออนุญาตแนะนำหนังสือที่เราอ่านแล้วชอบมากค่ะ ถือเป็นเล่มที่เปลี่ยนความคิดเรื่องการลงทุนของเราเลยก็ว่าได้ค่ะ
และขออนุญาตเปิดการ์ดป้องกันดราม่าด้วยค่ะ เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับการแนะนำหนังสือค่ะ 555



หนังสือสองเล่มนี้ถ้าจะให้เรารีวิว เราขอรีวิวอย่างนี้ค่ะ อ่านยาก อ่านแล้วง่วง อ่านแล้วไม่สนุกค่ะ
แต่สิ่งที่หนังสือเล่มนี้ต้องการเสนอเป็นสิ่งสำคัญของหัวใจการลงทุนค่ะ คุ้มค่าแก่การอ่านอย่างแน่นอนค่ะ ยิ้ม




จบภาคทฤษฎีกันไปแล้วค่ะ 55555 ยาวเชียว ต่อมาเรามาลงภาคปฏิบัติกันค่ะ ว่าเราจะค้นฟ้าคว้าดาว หาหุ้นเติบโตได้อย่างไรกันค่ะ



ไม่มีความสำเร็จใดได้มาโดยง่ายค่ะ เราเชื่อแบบนั้นในทุกเรื่องของชีวิต การลงทุนก็เช่นกันค่ะ

ตอนเด็กๆเวลาเราทำโจทย์คณิตศาสตร์ กว่าเราจะอ่านโจทย์แล้วรู้ว่าสมการข้อนี้ต้องแก้อย่างไร เราต้องตะลุยโจทย์ค่ะ ฝึกฝนให้เยอะ ทำไปเรื่อยๆ มีผิดบ้าง ถูกบ้าง ข้อไหนผิดก็กลับมาดูว่าผิดตรงไหน ต้องแก้อย่างไร แล้วแก้ให้ถูกต้อง หากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเราจะทำถูกมากกว่าทำผิดค่ะ เราคิดว่าการลงทุนก็เช่นกันค่ะ มีกำไรบ้าง มีขาดทุนบ้าง สิ่งสำคัญคือ เราต้องกลับมาแก้ไขข้อผิดพลาดของเรา เพื่อให้การลงทุนของเราดีขึ้น การแก้ไขข้อผิดพลาดในการลงทุนของเราจะทำให้วันหนึ่งเราลงทุนแล้วมีกำไรมากกว่าขาดทุนค่ะ



กลับมาค่ะ เราเริ่มพาออกทะเลอีกแล้ว อมยิ้ม16

เราเริ่มหาหุ้นเติบโตจากการฟัง Opp Day ค่ะ ฟังเพื่ออะไร จับหลักอย่างไร?
1. ฟังเพื่อให้ทราบว่าบริษัททำธุรกิจอะไร?
หากเรา"ตั้งใจ" ฟังแล้วไม่เข้าใจตัวธุรกิจจริงๆ ให้เปลี่ยนบริษัทเลยค่ะ ให้เลือกเฉพาะธุรกิจที่เราเข้าใจค่ะ

2. กำไรของบริษัทมาจากไหน?
แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมจะมีการดำเนินธุรกิจต่างกัน  หากเราเข้าใจที่มาของกำไรจากการดำเนินธุรกิจ เราจะรู้ว่าปัจจัยใดที่ส่งผลให้กำไรมากขึ้นหรือน้อยลงค่ะ ข่าวหุ้นที่ออกมาจากสื่อต่างๆจะกระทบบริษัทในแง่บวกหรือลบ กระทบในระยะสั้นหรือทำให้ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนไปเลย  

3. มีกลยุทธ์การเพิ่มกำไรในอนาคตอย่างไร?
ตัวนี้จะเป็นการบอกถึงภาพการเติบโตในอนาคตค่ะ หากกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้บริษัทสามารถทำได้จริง บริษัทก็จะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นค่ะ


แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมจะมีความแตกต่างกันไปค่ะ แต่หากเราจับประเด็นการเติบโตได้ เราจะมีโอกาสพบหุ้นเติบโตค่ะ





เมื่อปีที่แล้วไตรมาส 3 เรามีโอกาสได้ฟัง Opp Day ของบริษัท HTECH ค่ะ เราเห็นว่าบริษัทนี้เข้าเกณฑ์หุ้นที่จะมีการเติบโตในอนาคตค่ะ

1. ที่ผ่านมาบริษัทมีผลการดำเนินการดีขึ้น ยอดขายโตขึ้น กำไรขั้นต้นดีขึ้น กำไรสุทธิดีขึ้น




2. บริษัทมีหนี้สินลดลง




3. บริษัทมีสินค้าใหม่ ตรงนี้เป็นภาพการเติบโตในอนาคตที่หากทำได้จริง ยอดขายก็จะโตขึ้น


บริษัทมา  OPPDAY HTECH Q3 2016 วันที่  30 พ.ย. 2016 ค่ะ
https://youtu.be/AQgn7GRcMmc





สิ่งเหล่านี้เป็นอดีตที่ผ่านมาแล้วค่ะ เราไม่มีเจตนาจะชี้นำใดๆนะคะ ขอกลต.เมตตาด้วยค่ะ อมยิ้ม17
แต่เราอยากชวนทุกคนมาฟัง Opp Day กันค่ะ โอกาสการลงทุนอาจอยู่ในบริษัทเหล่านี้ก็เป็นได้ค่ะ
http://www.dcs-digital.com/setweb/
โชคดีมีกำไรกันทุกคนค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่