
สวัสดีค่ะมารีวิวกันถี่ๆรัวๆทุกอาทิตย์ทำตัวเสมือนว่างงานการไม่มีทำ คิคิ พอดีช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีคนได้ส่งอายไลเนอร์ตัวนี้มาให้ลองของ ซึ่งส่วนตัวชอบลองของมากและกำลังมองหาอายไลเนอร์ใหม่อยู่ เนื่องจากของเก่าที่ใช้ประจำคือ Etude House Oh! my line มันเป็นแบบจิ้มจุ่มหัวพู่กันเรารู้สึกว่ามันต้องเล็งนานเสียเวลาในการแต่งหน้าก่อนไปทำงานตอนเช้าเลยกำลังมองหาของใหม่โดยเฉพาะแบบปากกาเมจิก อันนี้ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาส่วนตัวซื้อมาลองทุกยี่ห้อจริงๆ ทั้ง Mistine Kate Missha บลาบลาบลา อันไหนใครว่าดีพี่กวาดมาหมด แต่...เละเทะทุกยี่ห้อ 555 เพราะเราเป็นคนตาสองชั้นหลบในและหนังตามันมากถึงมากที่สุด พอตกบ่ายก็เริ่มไหลเลอะเทอะขอบตาล่างแล้ว ใครแนะนำยี่ห้อไหนลองแล้วไม่เคยรอดเล๊ย แต่พอมีคนบอกมีของมาให้ลองก็ต้องลองซิค้าาาา (ไม่เข็ดชอบลอง 555) รออะไรกำลังตามหาของใหม่มาโดนอยู่
ไอเทมที่วันนี้จะเอามาลองของคือ Ashley Perfect Eyes Long Lasting Eyeliner ค่ะ ยี่ห้อนี้บอกตามตรงนะไม่เคยเห็นตามร้านเครื่องสำอางค์เท่าไหร่ จำได้ว่าเคยเห็นครั้งนึงที่ร้านในสยามแต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจลองอะไร ผ่านนนนน ไม่รู้เลยว่าพลาดของดีซะและ 555
ตามคำเคลมข้างกล่องสรุปคร่าวๆว่าอายไลเนอร์เนื้อลิควิดตัวนี้เนื้อลื่น เขียนง่าย ติดทนทั้งวัน ไม่ลอกตามคุณสมบัติที่พึงประสงค์ของอายไลเนอร์ทั่วไปคือไม่ได้เคลมเยอะว่าติดนานถึงชาติหน้าหรืออะไร โอเคแฟร์ๆ Real มากไม่ได้เว่อร์อะไรนัก 555

แพกเกจเป็นสีชมพูเมทัลลิคลักษณะเหมือนลิควิดอายไลเนอร์ทั่วๆไปคือหมุนฝาออกมาจะเป็นหัวแปรง แต่หัวแปรงจะมีลักษณะต่างจากยี่ห้ออื่นที่เราเคยลองมาตรงที่หัวแปรงลักษณะเหมือนด้านพลาสติกแข็งๆ คงรูปได้ดีมาก แต่เมื่อกดก็ยืดหยุ่นไปตามรูปตานะ ถ้าเทียบกับแบบที่เป็นพู่กันขนๆปรายรูปสึกว่ามันคุมเส้นง่ายกว่าไม่บิดไปบิดมา ถ้าใครนึกภาพไม่ออกลองนึกภาพปากกาสีๆแบบหัวเล็กๆที่ปลายปากกาเป็นพลาสติกเวลาเขียนแล้วยังบิดงอไปตามน้ำหนักมือที่ลงได้ ส่วนตัวยังแอบสงสัยนะว่าหัวพู่กันมันเป็นแปรงที่อัดแข็งมาหรือจริงๆแล้วเป็นหัวพลาสติกเนื้ออ่อนกันแน่

อันนี้ลองบนหลังมือนะคะ เห็นได้ชัดเลยว่าหัวแปรงออกแบบมาได้เวิร์คมาก เพราะสามารถเขียนได้ทั้งเส้นหนาเส้นบางตามน้ำหนักมือและองศาที่เราจับแปรงเลยค่ะ แต่เส้นตวัดหรือเส้นที่บางมากๆนี่อาจจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการลงน้ำหนักมือนิดนึงด้วยความที่หัวแปรงมันไม่ใช่พู่กันขนๆ เวลาเขียนเส้นบางๆจะต้องใช้การยกมือให้น้ำหนักมือเบาลงแทน แต่ของอย่างนี้ฝึกกันได้ไม่ยากๆ
มาดูที่เรื่องเนื้ออายไลเนอร์นะอันนี้โดยรวมเราว่าดีทีเดียว เนื้อจะให้ finish look แบบ Shiny ถ้าใครชอบแบบแมตต์อาจจะไม่ชอบตัวนี้เท่าไหร่ค่ะ เนื้อสีไม่ได้เข้มดำปิ๊ดปี๋ทุกหยดมาก เห็นได้ว่าที่ปาดลองบนมือถ้าไม่ได้จุ่มเนื้ออายไลเนอร์มาเต็มๆก็ยังดูเนื้อโปร่งๆอยู่ แต่แห้งไวนี่ดีงามมากแห้งไวกว่า Etude เยอะ ไม่ได้ลองจับเวลาแต่คิดว่าไม่เกิน 30 วิอายไลเนอร์ก็แห้งแล้วจ้า
ส่วนเรื่องติดทนอันนี้บอกเลยว่าติดทนจริงๆตอนที่เขียนรีวิวอยู่นี่ก็เหมือนกับในภาพเลยหลังจากไปล้างจานล้างมือและพยายามใช้เล็บขูดออกมันก็ยังไม่ออกอยู่ทนจนกลัวแล้วจ้า แต่ถ้าล้างออกด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์ก็คือออกง่ายนะเป็นแผ่นๆหลุดออกมาง่ายดี
อันนี้มาทดสอบความทนบนหนังตาเราที่ปราบเซียนโคตร 555 ขอออกตัวก่อนว่า Etude ที่เราใช้ประจำซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความติดทนคือถ้าเราทาเช้ายันเย็นตอนเย็นนี่จะแอบที่ลอกเป็นแผ่นๆออกมาบ้างเพราะหนังตาเรามันจริงๆไม่ได้โม้ แต่วันนี้ที่เราลองคือแต่งหน้าเสร็จก่อนออกจากบ้านประมาณ 10 โมงเช้ายาวๆรัวๆทั้งวันพาหมาไปหาคุณหมอ กินข้าวกลางวัน ไปงานศพ ออกเดินนอกบ้านทั้งวันกับอากาศ 37 องศาเบาๆในกรุงเทพ ชีวิตดี๊ย์ดี ทั้งเหงื่อทั้งมัน ยังไม่พอเราแอบงีบๆในรถตอนบ่าย หาวไปน้ำตาไหลชุ่มมาก สังเกตได้ว่าอายแชโดว์ที่เปลือกตาล่างเราเลือนไปหมดแล้วเพราะวันนี้ไม่ได้ใช้ไพรเมอร์ เพื่อจะทดสอบประสิทธิภาพของอายไลเนอร์ตัวนี้แบบ real real 9 ชั่วโมงต่อมาผลออกมาคือเหมือนเดิมเป๊ะ ที่เพิ่มเติมคือขี้ตาประปราย 555
สรุปเลยละกันรู้สึกพิมพ์มายาวและ อายไลเนอร์ตัวนี้เป็นของดีที่ใครๆมองข้ามไปเลยแหละ บอกกันตามตรงเลยนะ เพราะตอนแรกที่ปรายได้มาไม่ได้คิดว่ามันจะดีขนาดนี้ ติดทน เขียนง่าย ล้างออกก็ง่าย ราคาก็ไม่น่าแรงมากส่วนตัวไม่รู้จริงๆเพราะมีคนให้มา ลองหาในเน็ตก็ไม่เจอ 555 ถ้าจะให้คะแนนขอหักไว้หน่อยนะ 9/10 หักตรงที่หาซื้อยาก และเรื่องหัวแปรงที่ดีเกือบสุดและเสียแค่เรื่องการเขียนเส้นตวัดที่ยังแอบยากต้องอาศัยความเชี่ยวชาญนิดนึง ส่วนตัวก็ชอบคิดว่าใช้วันเสาร์อาทิตย์เหมาะมาก แต่ถ้าใช้วันธรรมดาทุกวันก่อนไปทำงานก็ยังต้องเล็งอยู่ ถึงแม้จะใช้ง่ายกว่า Etude ก็ตาม (ตอนนี้ก็ยังขอลองแบบปากกาเมจิกต่อไป อิอิ) ขอจบรีวิวแค่นี้ละกันนิ้วจะหัก 555 ถ้าเจอของดีน่าโดนจะเอามาแชร์อีกรัวๆจ้า
[CR] Ashley Long Lasting Eyeliner ติดทนจริงข้ามวัน ข้ามศตวรรษ
สวัสดีค่ะมารีวิวกันถี่ๆรัวๆทุกอาทิตย์ทำตัวเสมือนว่างงานการไม่มีทำ คิคิ พอดีช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีคนได้ส่งอายไลเนอร์ตัวนี้มาให้ลองของ ซึ่งส่วนตัวชอบลองของมากและกำลังมองหาอายไลเนอร์ใหม่อยู่ เนื่องจากของเก่าที่ใช้ประจำคือ Etude House Oh! my line มันเป็นแบบจิ้มจุ่มหัวพู่กันเรารู้สึกว่ามันต้องเล็งนานเสียเวลาในการแต่งหน้าก่อนไปทำงานตอนเช้าเลยกำลังมองหาของใหม่โดยเฉพาะแบบปากกาเมจิก อันนี้ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาส่วนตัวซื้อมาลองทุกยี่ห้อจริงๆ ทั้ง Mistine Kate Missha บลาบลาบลา อันไหนใครว่าดีพี่กวาดมาหมด แต่...เละเทะทุกยี่ห้อ 555 เพราะเราเป็นคนตาสองชั้นหลบในและหนังตามันมากถึงมากที่สุด พอตกบ่ายก็เริ่มไหลเลอะเทอะขอบตาล่างแล้ว ใครแนะนำยี่ห้อไหนลองแล้วไม่เคยรอดเล๊ย แต่พอมีคนบอกมีของมาให้ลองก็ต้องลองซิค้าาาา (ไม่เข็ดชอบลอง 555) รออะไรกำลังตามหาของใหม่มาโดนอยู่
ไอเทมที่วันนี้จะเอามาลองของคือ Ashley Perfect Eyes Long Lasting Eyeliner ค่ะ ยี่ห้อนี้บอกตามตรงนะไม่เคยเห็นตามร้านเครื่องสำอางค์เท่าไหร่ จำได้ว่าเคยเห็นครั้งนึงที่ร้านในสยามแต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจลองอะไร ผ่านนนนน ไม่รู้เลยว่าพลาดของดีซะและ 555
ตามคำเคลมข้างกล่องสรุปคร่าวๆว่าอายไลเนอร์เนื้อลิควิดตัวนี้เนื้อลื่น เขียนง่าย ติดทนทั้งวัน ไม่ลอกตามคุณสมบัติที่พึงประสงค์ของอายไลเนอร์ทั่วไปคือไม่ได้เคลมเยอะว่าติดนานถึงชาติหน้าหรืออะไร โอเคแฟร์ๆ Real มากไม่ได้เว่อร์อะไรนัก 555
แพกเกจเป็นสีชมพูเมทัลลิคลักษณะเหมือนลิควิดอายไลเนอร์ทั่วๆไปคือหมุนฝาออกมาจะเป็นหัวแปรง แต่หัวแปรงจะมีลักษณะต่างจากยี่ห้ออื่นที่เราเคยลองมาตรงที่หัวแปรงลักษณะเหมือนด้านพลาสติกแข็งๆ คงรูปได้ดีมาก แต่เมื่อกดก็ยืดหยุ่นไปตามรูปตานะ ถ้าเทียบกับแบบที่เป็นพู่กันขนๆปรายรูปสึกว่ามันคุมเส้นง่ายกว่าไม่บิดไปบิดมา ถ้าใครนึกภาพไม่ออกลองนึกภาพปากกาสีๆแบบหัวเล็กๆที่ปลายปากกาเป็นพลาสติกเวลาเขียนแล้วยังบิดงอไปตามน้ำหนักมือที่ลงได้ ส่วนตัวยังแอบสงสัยนะว่าหัวพู่กันมันเป็นแปรงที่อัดแข็งมาหรือจริงๆแล้วเป็นหัวพลาสติกเนื้ออ่อนกันแน่
อันนี้ลองบนหลังมือนะคะ เห็นได้ชัดเลยว่าหัวแปรงออกแบบมาได้เวิร์คมาก เพราะสามารถเขียนได้ทั้งเส้นหนาเส้นบางตามน้ำหนักมือและองศาที่เราจับแปรงเลยค่ะ แต่เส้นตวัดหรือเส้นที่บางมากๆนี่อาจจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการลงน้ำหนักมือนิดนึงด้วยความที่หัวแปรงมันไม่ใช่พู่กันขนๆ เวลาเขียนเส้นบางๆจะต้องใช้การยกมือให้น้ำหนักมือเบาลงแทน แต่ของอย่างนี้ฝึกกันได้ไม่ยากๆ
มาดูที่เรื่องเนื้ออายไลเนอร์นะอันนี้โดยรวมเราว่าดีทีเดียว เนื้อจะให้ finish look แบบ Shiny ถ้าใครชอบแบบแมตต์อาจจะไม่ชอบตัวนี้เท่าไหร่ค่ะ เนื้อสีไม่ได้เข้มดำปิ๊ดปี๋ทุกหยดมาก เห็นได้ว่าที่ปาดลองบนมือถ้าไม่ได้จุ่มเนื้ออายไลเนอร์มาเต็มๆก็ยังดูเนื้อโปร่งๆอยู่ แต่แห้งไวนี่ดีงามมากแห้งไวกว่า Etude เยอะ ไม่ได้ลองจับเวลาแต่คิดว่าไม่เกิน 30 วิอายไลเนอร์ก็แห้งแล้วจ้า
ส่วนเรื่องติดทนอันนี้บอกเลยว่าติดทนจริงๆตอนที่เขียนรีวิวอยู่นี่ก็เหมือนกับในภาพเลยหลังจากไปล้างจานล้างมือและพยายามใช้เล็บขูดออกมันก็ยังไม่ออกอยู่ทนจนกลัวแล้วจ้า แต่ถ้าล้างออกด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์ก็คือออกง่ายนะเป็นแผ่นๆหลุดออกมาง่ายดี
อันนี้มาทดสอบความทนบนหนังตาเราที่ปราบเซียนโคตร 555 ขอออกตัวก่อนว่า Etude ที่เราใช้ประจำซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความติดทนคือถ้าเราทาเช้ายันเย็นตอนเย็นนี่จะแอบที่ลอกเป็นแผ่นๆออกมาบ้างเพราะหนังตาเรามันจริงๆไม่ได้โม้ แต่วันนี้ที่เราลองคือแต่งหน้าเสร็จก่อนออกจากบ้านประมาณ 10 โมงเช้ายาวๆรัวๆทั้งวันพาหมาไปหาคุณหมอ กินข้าวกลางวัน ไปงานศพ ออกเดินนอกบ้านทั้งวันกับอากาศ 37 องศาเบาๆในกรุงเทพ ชีวิตดี๊ย์ดี ทั้งเหงื่อทั้งมัน ยังไม่พอเราแอบงีบๆในรถตอนบ่าย หาวไปน้ำตาไหลชุ่มมาก สังเกตได้ว่าอายแชโดว์ที่เปลือกตาล่างเราเลือนไปหมดแล้วเพราะวันนี้ไม่ได้ใช้ไพรเมอร์ เพื่อจะทดสอบประสิทธิภาพของอายไลเนอร์ตัวนี้แบบ real real 9 ชั่วโมงต่อมาผลออกมาคือเหมือนเดิมเป๊ะ ที่เพิ่มเติมคือขี้ตาประปราย 555
สรุปเลยละกันรู้สึกพิมพ์มายาวและ อายไลเนอร์ตัวนี้เป็นของดีที่ใครๆมองข้ามไปเลยแหละ บอกกันตามตรงเลยนะ เพราะตอนแรกที่ปรายได้มาไม่ได้คิดว่ามันจะดีขนาดนี้ ติดทน เขียนง่าย ล้างออกก็ง่าย ราคาก็ไม่น่าแรงมากส่วนตัวไม่รู้จริงๆเพราะมีคนให้มา ลองหาในเน็ตก็ไม่เจอ 555 ถ้าจะให้คะแนนขอหักไว้หน่อยนะ 9/10 หักตรงที่หาซื้อยาก และเรื่องหัวแปรงที่ดีเกือบสุดและเสียแค่เรื่องการเขียนเส้นตวัดที่ยังแอบยากต้องอาศัยความเชี่ยวชาญนิดนึง ส่วนตัวก็ชอบคิดว่าใช้วันเสาร์อาทิตย์เหมาะมาก แต่ถ้าใช้วันธรรมดาทุกวันก่อนไปทำงานก็ยังต้องเล็งอยู่ ถึงแม้จะใช้ง่ายกว่า Etude ก็ตาม (ตอนนี้ก็ยังขอลองแบบปากกาเมจิกต่อไป อิอิ) ขอจบรีวิวแค่นี้ละกันนิ้วจะหัก 555 ถ้าเจอของดีน่าโดนจะเอามาแชร์อีกรัวๆจ้า