ทำไมแจ๊คหม่าถึงเลือกไปลงทุนที่มาเลเซียครับ


สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
เพราะมาเลย์ให้ digital free trade zone (DFTZ)


อธิบาย digital free trade zone (DFTZ) คืออะไร

มันคือเขตการค้าเสรี (free trade zone) แบบนึง โดยทางมาเลเซียไม่คิดภาษีใดๆ ต่อตัวสินค้าเลยที่อยู่ในพื้นที่เขตการค้านี้ (ไม่คิดภาษี นำเข้า, ส่งออก, มูลค่าเพิ่ม)


แต่ที่เหนือกว่าคือ ครั้งที่เป็นครั้งแรกของโลกที่เป็นแขตการค้าเสรีแบบดิจิตอล
คือเขตการค้าเสรี ปกติจะมีพื้นที่ขอบเขตข้อกำหนดชัดเจน

อย่างของไทย สิทธิพิเศษ BOI มันก็คล้ายกับ (free trade zone) แบบนึง แต่มีการกำหนดขอบเขตชัดเจนว่าให้เฉพาะใครที่ไหน แล้วมีวิธีการที่กำหนดขึ้นมา(ซึ่งค่อนข้างซับซ้อน และลำบากเรื่องเอกสาร)

แต่ของมาเลเซียเที่ยวนี้ ที่เค้าเรียก digital free trade zone (DFTZ) คือมันไร้ขอบเขตครับ คือไม่จำกัดว่าของมันจะไปวางอยู่ที่ไหน ไม่จำกัดว่าใครจะทำได้บ้าง และไม่พิธีการอะไรซับซ้อน


ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น Alibaba เมื่อได้อนุญาติ DFTZ แล้ว สินค้าทุกอย่างของกลุ่ม Alibaba ไม่ว่าจะของเค้าเอง หรือของคู่ค้า หรือของร้านค้าใน ali เมื่อส่งเข้ามาเลเซีย จะไม่มีการคิดภาษีใดๆ ทั้งขานำเข้า และขาส่งออก รวมทั้งไม่มีพิธีการ หรือเอกสารอะไรยุ่งยาก เพราะทั้งหมดทำให้อัตโนมัติบนระบบ digital เลย (ประมาณว่าระบบของ Ali จะเชื่อมกับระบบของรัฐบาลมาเลเซียเลย ทุกอย่างเป็นอัตโนมัติหมด)

ถามว่าดียังไง คือยกตัวอย่างเพิ่มเติมอย่างงี้นะครับ

ทุกวันนี้สมมุติคนไทย 1 คน สั่งของจาก Ali เข้ามาส่งในไทย ทุกวันนี้ พ่อค้าจีนก็จะส่งของทีละ 1 order ออกมา
ก็จะโดน พิธีศุลกากรขาออกจากจีน => ถ้าผ่านประเทศที่ 3 ก็จะเจอพิธีศุลกากรเข้า+ออก => มาถึงพิธีศุลกากรขาเข้าที่ไทย

ซึ่งทำให้ของที่ส่งมามันมาถึงช้ามาก เพราะติดขั้นตอนศุลกากรเยอะ และเผอๆอาจจะซวยเจอภาษีในบางจังหวะได้


แต่พอมาใช้ digital free trade zone (DFTZ) ร่วมกับมาเลเซีย เค้าจะทำยังไง

1. Ali ก็จะให้พ่อค้าทั้งหลาย ส่งสินค้าเป็น lot ใหญ่ๆ มาเก็บไว้ที่มาเลเซีย โดยใช้มาเลเซียเป็นคลังสินค้า
ซึ่งตรงนี้การส่งสินค้า lot ใหญ่ ก็จะส่งมาผ่าน FTA อาเซียน-จีน แปลว่า ขาส่งออกจากจีนไม่เสียภาษีขาออก
ส่วนขาเข้ามาเลย มันเป็น DFTZ อยู่แล้ว ก็จบไปเลย
และว่าของจากโรงงาน จะเสียเวลาขนส่งรอบเดียวเพื่อมาพักไว้ทั้งล๊อตที่โกดังที่มาเล

2. เมื่อมีคนสั่งสินค้า Ali ก็จะดึงของออกจากโกดังที่มาเลไปส่งยังประเทศต่างๆได้เลย(คงเลือกส่งไปยังประเทศอาเซียนเท่านั้น เพราะส่งไกลกว่านี้จะไม่คุ้มค่าส่ง เค้าน่าจะไปเจรจา DFTZ กับแต่ละภูมิภาคไว้)
ทำให้ระยะเวลาการส่งสินค้าเร็วขึ้น เพราะของจะออกจากมาเลย์ได้เลยโดยไม่มีพิธีการหรือเอกสารใดๆ (คิดง่ายๆ เหมือนส่งของในประเทศเลยล่ะ)
และยังการันตีว่าจะไม่โดนภาษีใดๆระหว่างทางอีกด้วย (ยกเว้น ภาษีนำเข้าของประเทศปลายทาง)



หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้จะงง อ้าว??? แล้วมาเลเซียได้อะไร???

ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ เพราะถ้าระบบมัน Work แล้ว Ali ย้ายฐานมาจริงๆ แปลว่าสินค้าของ Ali ทั้งหมดที่ขายให้กับอาเซียนทั้งภูมิภาค จะโดนย้ายมากองกันที่มาเลทันที สิ่งที่มาเลจะได้ทันทีเลย คือ
1. การลงทุนในมาเลยในระดับสูง - โกดัง ออฟฟิต เค้าต้องมาสร้างไว้เก็บของและบริหารสินค้าอยู่แล้ว
2. อัตราการจ้างงานในระดับสูง - ali มันคงไม่สามารถขนคนจีนทั้งประเทศมาทำงานที่มาเลได้หรอก ยังไงก็ต้องจ้างคนท้องถิ่น เช่น วิศวะคอม, โปรแกรมเมอร์, จนท.ขนส่ง, จนท.คลังสินค้า, จนท.ตรวจสอบ, จนท.บัญชี ฯลฯ
3. เกิดกิจกรรมเศรษฐกิจจำนวนมากในประเทศ - เช่น รถยนต์, เรือ, เครื่องบิน มันจะวิ่งเข้าวิ่งออกมาเล เพิ่มวันละกี่พันกี่หมื่นเที่ยว เพื่อขนของเข้าออก แล้วไอ้พวกนี้มันอิ่มทิพย์หรือไง อาหาร,น้ำ,น้ำมัน,การบำรุงรักษา ทุกอย่างมันต้องหาซื้อหาใช้จากมาเล ตลอดระยะเวลาที่มันต้องว่ิ่งเข้าวิ่งออกส่งของ


ปล. แล้วที่ว่าเพิ่มการส่งออก SME ได้ยังไง
- คือปกติการส่งออกมันยุ่งยากใช่ไหมครับ นึกง่ายๆนะ อย่างคนไทยเนี่ย SME จะส่งออกต้องทำไงบ้าง????
ก็มีตั้งแต่ ติดต่อขนส่ง, ติดต่อชิปปิ้ง, เตรียมเอกสารให้ศุลกากร, ประสานปลายทางรับของ

แต่พอมีระบบของ Ali ไปลงทุนในมาเล พวก SME มาเล ก็จะส่งของออกไปขายได้ทั้งโลกผ่านระบบง่ายๆ ของ Ali เลยครับ
ไม่ต้องวุ่นวายอะไรทั้งสิ้น แค่สมัครบริการ Ali เค้าก็จะมาบริการให้ทุกอย่าง หน้าที่คุณคือพอมีคนสั่งของก็เตรียมของไว้ แล้ว Ali จะมารับไปส่งเองทั้งหมด โดยคิดค่าบริการถูกๆ เป็น % จากยอดขาย (ถ้าของคุณมี margin เยอะ เรียกได้ว่าแทบไม่เสียอะไรเลย)

หรือถ้าเรียกให้ง่ายกว่านั้นแบบไทยๆ คือทุกวันนี้ พ่อค้าแม่ค้าไทย ขายของในเน็ตให้คนไทยยังไง ก็ทำแบบเดิมนั่นล่ะ ต้นทุนเสียเท่าเดิม แต่สามารถส่งขายได้ทั่วโลก โดยไม่ต้องวุ่นวายอะไรไปมากกว่าเดิม (ฟังแบบนี้ดูดีไหมครับ... แต่เสียใจนะครับ อันนี้ของมาเล เค้า ของไทย ร้องเพลงรอไปก่อน)
ความคิดเห็นที่ 16
อยู่ก็เรียกภาษีนั่นนี่ ยึดทรัพย์นู้นนี่
แบบใช่ อภินิหารทางกฎหมายมั่ง ม44 มั่ง ใครเขาจะกล้ามาให้โง่
สังเกตสิ ใครมีตังเย้ออออ จะโดนใส่ไฟอะรัยสักอย่าง เพื่อหาเรื่องยึดทรัพย์
ทั้ง บ.ทัวร์ศูนย์เหรียญ  วัดธรรมกาย ขายหุ้นชิน
ความคิดเห็นที่ 7
เดียวแม่มเปลี่ยนกฎเอาดื้อๆตามสด.ก็ชวยดิ ใครจะโง่มา
ความคิดเห็นที่ 21
เพราะมาเลย์เหมาะสมกว่าครับ
ถ้าเป็นผม ผมก็คิดว่ามาเลย์เหมาะสมกว่าเช่นกัน
ถ้าหาก Ali จะมองหาประเทศสักประเทศในอาเซี่ยน ที่จเป็นแหล่งพักสินค้า
และพร้อมที่จะพัฒนาเป็นแหล่งส่งออกสินค้า ผ่าน Ali ผมก็คิดว่ามาเลย์นี่แหละครับ เหมาะสมที่สุด
ในขณะที่ ลาว พม่า กัมพูชา แม้ว่าจะมีราคาค่าแรงถูก ที่ดินถูก แต่โดยรวมแล้วสาธารณูปโภค แพงมาก หากมองราคาต่อคุณภาพ
แม้พม่าเองกำลังอยู่ในช่วงการเติบโต แต่อาจจะยังใช้เวลานานมากกว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นแหล่งพัฒนาสินค้าส่งออก

ส่วนประเทศที่พร้อมแล้วในทุกด้านอย่างสิงคโปร์ แม้ทุกอย่างจะพร้อม แต่เพราะสิงคโปร์พร้อมอยู่แล้ว
จึงไม่ได้ประโยชน์จากการสนับสนุนการพัฒนาที่เป็นรูปธรรม เมื่อเทียบกับการผลักดันในพื้นที่อื่น

ดูๆแล้วจะเหลือประเทศที่พร้อมอีกเพียง 4 ประเทศ คือ อินโดฯ มาเลย์ ไทย และฟิลิปปินส์
อาจจะเป็นไปได้ว่า อินโด และฟิลิปปินส์ อยู่ห่างจะภาคพื้นทวีป เลยดูจะเสียเปรียบในการเป็นแหล่งพักสินค้า
เพราะจะไม่ได้ประโยชน์จากโครงข่ายระบบราง ที่ทำให้การขนส่งราคาถูกลงเลย

หากมองมาเลย์กับไทย ดูสูสีกันมาก ทั้งด้านราคา และคุณภาพของสาธารณูปโภค และทรัพยากรบุคคล
แต่หากมองไปที่นโยบาย ความจริงจังในการผลักดัน ให้เกิดการพัฒนาสินค้าเพื่อส่งออก
จากสถิติการลงทุน เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลในอดีต 10ปี ที่ผ่านมา มาเลย์ดูจะจริงจังในการผลักดันด้านนี้มากกว่า
และที่สำคัญ ดูแล้วจะเริ่มเห็นผลชัดเจนกว่าในช่วง 3ปีหลัง ในขณะที่ไทย ดูเหมือนจะเลือกเดินบนอีกเส้นทางหนึ่ง
โดยไทยในช่วง 3ปีหลัง เน้นไปที่ระบบอุตสาหกรรมการผลิตแบบเดิม ที่เน้นการจ้างงาน เน้นไปที่ตัวเลขการว่างงาน
เพื่อดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศ โดยอาศัยการมีระบบพื้นฐานที่ดี และค่าแรงที่ถูก เมื่อเทียบกับประเทศที่มีพื้นฐานระดับเดียวกัน
ดังนั้น ถ้าหาก Ali อยากจะตั้งโรงงานผลิต มากกว่าพื้นที่กระจายสินค้า Ali จะเลือกไทย ก่อนมาเลย์แน่นอน
(และแน่นอน ไทยอาจจะเป็นตัวเลือกรองจาก จีน และเวียดนาม เพราะขนาด CP เองยังเลือกประเทศค่าแรงสูงอย่างจีนในการผลิตเกี๊ยวกุ้งเลย แต่โรงงานใหม่นั้นใช้หุ่นยนต์นะ ไม่ได้ใช้คนมากมายในการผลิต และจีนได้ประโยชน์จากการลดอัตราว่างงานน้อยมาก)

ดังนั้นในแง่นี้ มาเลย์เค้าใช่กว่าเราจริงๆ
แต่ถ้าเป็นโรงงานผลิตแบตเตอร์รี่ล่ะก็ เรามีโอกาสสูงกว่ามาเลย์แน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่