สวัสดีค่ะ แนะนำตัวก่อน คือเราเป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน
พอกลับมาเราก็กลับมาเรียนมอปลายที่ไทย ซึ่งเราบอกตรงๆว่าไม่อยากเรียน
อยากเข้ามหาลัยไปเรียนคณะที่เราสนใจมากกว่า
คราวนี้มีพี่ที่รู้จัก บอกมหาลัยเค้ารับเด็กจบ GED
นิเลยไปหาว่ามันคืออะไร GED คือ การสอบเทียบวุฒิม.6 ซึ่งผลการสอบนั้นเป็นมาตรฐานสากล
มานั่งคำนวนแล้วค่าสอบมันถูกกว่า ค่าเทอมที่เราต้องจ่ายจนเราจบมอปลายซะอีก
แต่มันไม่ง่ายเลยนะ ลองหาดูคอสติวดังๆในสยาม ปรากฏว่าแพงอยู่นะ แต่เค้าก็รับประกันผลนะ
มีเพื่อนเราเรียนอยู่ที่ดังๆ house of griffin, Chulatutor , Aim , The advisor
เพื่อนก็สอบผ่านกัน แต่เราคือแบบจ่ายไม่ไหว ราคารวมค่าสอบเฉียดแสนเลยทีเดียว
อยากร้องไห้ แต่เราอยากเข้าการโรงแรม ของ มหิดลอินเตอร์ หรือ MUIC ซึ่งต้องการ
คะแนนรวม 3600 !!! ต่อวิชาก็ 720 คะแนน
เพื่อนเราไม่มีใครเข้าได้เลย ติวก็แล้วอะไรก็แล้ว สุดท้ายไปอยู่เอแบคบ้าง มอกรุงเทพบ้าง
แต่เรานิฮึดมาก อ่านหนังสือของ Barron ทำจนหมดเล่ม และก็ได้พี่คนนึงที่เค้าทำเพจ GED อยู่มาช่วยติวตัวต่อตัวเลย
แอดไลท์พี่เค้าไปได้ @tza6971s (มี@ด้วย) ชื่อพี่สา ใจดีมากกก
สุดท้าย ผ่านจ้าาาาา เราเขียน writing เยอะมากๆเรียกได้ว่า 1 เดือนก่อนสอบนิเก็บตัวไม่พูดไม่จากับใครเลย
วันนี้เลยอยากจะมารีวิวข้อสอบและการเตรียมตัวที่ได้รู้มาจากพี่เค้าให้เพื่อนๆคนไหนที่
กำลังเตรียมตัวสอบ GED นะ
การสอบมันก็คือการเอาวุฒิ ม.6 เพื่อใช้ยื่นประกอบการเข้ามหาลัยสำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนจนมอปลายแบบปกติ
ส่วนมากคนที่สอบก็จะมีเหตุผลว่า สอบ IGSCE ไม่ผ่าน เลยต้องใช้วุฒิ GED แทน
หรือไม่ก็จะเป็นเด็กที่เรียนต่างประเทศมาแต่ไม่มี diploma ติดตัวมา
หรือคนที่มีปัญหากับการเรียนมอปลายในรร เช่น มีปัญหากับเพื่อน ทะเลาะกับครู เรียนไม่รู้เรื่อง ไม่ชอบระบบที่รร เป็นต้น
และที่เราจะมารีวิวอันนี้เพราะ ข้อสอบกำลังจะเปลี่ยนวันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นเวอชั่น GED 2014
ซึ่งเรายังไม่เห็นใครมารีวิว เลยจะมาอธิบายความแตกต่างให้ฟัง เวอชั่นใหม่
จะประกอบด้วย 4 วิชา(น้อยลงจากเดิม 1 วิชา)
วิชาที่ 1 คือ Reasoning through Language Arts
รวมทั้งอ่านและเขียนในการสอบ 150 นาที มีพักเบรก 10 นาที และก็มีเขียน essay 45 นาที
วัดทั้งความสามารถการอ่านและความเข้าใจและความสามารถในการวิเคราะห์ ต้องได้ grammar เพราะใช้ตอบคำถามประเภท error และมีพาทที่ให้อ่านเรื่องเพื่อมาตอบ อาจจะเป็นบทความ , บทละคร ,กลอน
พยายามฝึกอ่านให้เร็วและจับใจความให้ดี ส่วนของ essay นั้นต้องเขียนตอบคำถามให้ตรงประเด็น
ซึ่งจะไม่เหมือนกับเวอชั่นเก่าตรงที่เค้าจะมีบทความมาให้อ่านแล้ว เราต้องสรุปหรือให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เค้าให้มาอ่าน
ซึ่งเรื่องที่เค้าให้มานั้นก็ไม่ใช่สั้นๆนะ อ่านให้ดี อ่านให้ไว เวลาตอบ ให้ตอบเป็น paragraph อย่าได้ลิสเป็นข้อๆออกมาเชียว ไม่อยากนั้นจะโดนปรับตกได้
วิชาที่ 2 คือ Social Studies
คือสังคม ใช้เวลาในการสอบ 90 นาที ข้อสอบส่วนมากจะเป็น multiple choice แบ่งเป็น
Geography 15%
Economics 15%
U.S. History 20%
Civics & Government 50%
เพื่อนๆ คนไหนที่เรียนนานาชาติมา น่าจะได้เปรียบในวิชานี้เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์อเมริกาเน้นๆ
เวอชั่นเก่ามีแต่ข้อช้อย แต่เวอชั่นนี้มี essay 1 หัวข้อให้เวลาเขียน 25 นาทีนะ
วิชาที่ 3 คือ Mathematics
ใช้เวลาในการสอบ 115 นาที ข้อสอบมี 2 ส่วนคือมีส่วนที่ใช้เครื่องคิดเลขได้ (จะมีให้ในห้องสอบ) และอีกส่วนจะไม่ให้ใช้
มีเป็น Quantitative 45% และ Algebraic 55%
เครื่องคิดเลขต้องใช้ให้คล่องนิดนึงเพราะเวลาสอบค่อนข้างน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ยากมากถือว่าพื้นๆ
เช่น กราฟ เศษส่วน เป็นต้น ถ้าเทียบกับเลขมอปลายบ้านเรา
วิชานี้เป็นวิชาเก็บคะแนน พยายามมีสติในการทำ ไม่มีสูตรอะไรที่เกินความคาดหมาย
วิชาที่ 4 คือ Science
ใช้เวลาในการสอบ 90 นาที มีเป็นตอบคำถามสั้นๆด้วย และบางข้อก็มีให้ใช้เครื่องคิดเลข
ต้องรู้ทั้งชีววิทยา ฟิสิกส์ และเคมี รวมทั้งการคิดวิเคราะห์ การแก้ไขโจทย์ ประกอบไปด้วย
Earth & Space 20%
Life Science 40%
Physical Science 40%
เรื่องที่ถามจะมีตั้งแต่ธาตุ, สสาร, วงจรชีวิตสัตว์ , วงจรไฟฟ้า , คาน เป็นต้น โดยต้องมีศัพท์อยู่ในหัวจำนวนนึง ที่จะทำให้เข้าใจโจทย์
โดยส่วนตัวแล้ววิชานี้ถือว่ายากพอสมควร แต่ในคำถามจะมีรูปเพิ่มเติม อาจจะช่วยได้สำหรับคนที่ไม่ได้ศัพท์เฉพาะ
เวอชั่นนี้มี short answer ให้ตอบด้วย 2ข้อ ให้เวลาข้อละ 10 นาที ถ้าเขียนไม่ได้ก็แอบหนาวเหมือนกัน
สรุปแล้วก็คือเวอชั่นใหม่นี้ยากขึ้นมากมาย เน้นทักษะการเขียนมากขึ้น ไม่สามารถสุ่มๆเดาๆจากช้อยได้แล้ว
เพิ่มคำถามแบบ short answer, fill in the blank , และการเขียน essay เพื่อสรุปจากบทความที่อ่านมา
รวมทั้งหมด 4 วิชา น้อยลงจากเดิม 1 วิชา จากเดิมเค้าแยกวิชา writing กับ reading ออกจากกัน แต่เวอชั่นใหม่นำมารวมกันในชื่อ
Reasoning through Language Arts เป็น 4 วิชาเน้นๆ และแต่อัดแน่นด้วยวิชาการเหมือนเดิม
ส่วนการคิดคะแนน ก็จะต่างออกไปซึ่งจะมีตารางคะแนนตั้งแต่ 100 - 200
ซึ่ง ถ้าได้ 145 จะเท่ากับ the Passing Standard for high school
ถ้าได้ 165 จะเท่ากับ the GED® College Ready score level, reflective of readiness for career and college.
และถ้าได้ 175 จะเท่ากับ the GED® College Ready + Credit score level.
ถ้าใครมีคะแนนในเวอชั่นเก่าบางวิชา จะไม่สามารถรวมกับเวอชั่นนี้ได้ ฉะนั้นใครที่สอบเวอชั่นปัจจุบันอยู่ หลังจากวันที่ 1 พฤษภา
ถ้าคะแนนยังไม่ครบทุกวิชาก็ซวยไป ต้องเริ่มสอบใหม่ทั้งหมด
สถานที่สอบปัจจุบันมี 2 ที่แล้วนะ มีแถวถนนเพชรบุรี กับ อโศก เวลาสมัครก็เลือกให้ดี ในกรุงเทพ กลัวว่าจะไปผิดที่
คนที่จะสอบสามารถสอบได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปนะ ละปัจจุบันเค้าเข้มงวดขึ้น เพราะมีคนซื้อเข้ามหาลัยวุฒิกันเยอะ
ดังนั้นหลายๆมหาลัยในไทย ก็ต้องเอาชื่อไปเทียบกับในระบบ GED จริงๆ จะมายื่นแค่ใบเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะคะ
อยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม หลังไมค์มาได้ วิธีการเตรียมตัวนุ้นนี้ หรือโทรมา 0645938990 แนะนำให้ได้ค่ะ
[CR] รีวิว การสอบ NEW GED 2014
พอกลับมาเราก็กลับมาเรียนมอปลายที่ไทย ซึ่งเราบอกตรงๆว่าไม่อยากเรียน
อยากเข้ามหาลัยไปเรียนคณะที่เราสนใจมากกว่า
คราวนี้มีพี่ที่รู้จัก บอกมหาลัยเค้ารับเด็กจบ GED
นิเลยไปหาว่ามันคืออะไร GED คือ การสอบเทียบวุฒิม.6 ซึ่งผลการสอบนั้นเป็นมาตรฐานสากล
มานั่งคำนวนแล้วค่าสอบมันถูกกว่า ค่าเทอมที่เราต้องจ่ายจนเราจบมอปลายซะอีก
แต่มันไม่ง่ายเลยนะ ลองหาดูคอสติวดังๆในสยาม ปรากฏว่าแพงอยู่นะ แต่เค้าก็รับประกันผลนะ
มีเพื่อนเราเรียนอยู่ที่ดังๆ house of griffin, Chulatutor , Aim , The advisor
เพื่อนก็สอบผ่านกัน แต่เราคือแบบจ่ายไม่ไหว ราคารวมค่าสอบเฉียดแสนเลยทีเดียว
อยากร้องไห้ แต่เราอยากเข้าการโรงแรม ของ มหิดลอินเตอร์ หรือ MUIC ซึ่งต้องการ
คะแนนรวม 3600 !!! ต่อวิชาก็ 720 คะแนน
เพื่อนเราไม่มีใครเข้าได้เลย ติวก็แล้วอะไรก็แล้ว สุดท้ายไปอยู่เอแบคบ้าง มอกรุงเทพบ้าง
แต่เรานิฮึดมาก อ่านหนังสือของ Barron ทำจนหมดเล่ม และก็ได้พี่คนนึงที่เค้าทำเพจ GED อยู่มาช่วยติวตัวต่อตัวเลย
แอดไลท์พี่เค้าไปได้ @tza6971s (มี@ด้วย) ชื่อพี่สา ใจดีมากกก
สุดท้าย ผ่านจ้าาาาา เราเขียน writing เยอะมากๆเรียกได้ว่า 1 เดือนก่อนสอบนิเก็บตัวไม่พูดไม่จากับใครเลย
วันนี้เลยอยากจะมารีวิวข้อสอบและการเตรียมตัวที่ได้รู้มาจากพี่เค้าให้เพื่อนๆคนไหนที่
กำลังเตรียมตัวสอบ GED นะ
การสอบมันก็คือการเอาวุฒิ ม.6 เพื่อใช้ยื่นประกอบการเข้ามหาลัยสำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนจนมอปลายแบบปกติ
ส่วนมากคนที่สอบก็จะมีเหตุผลว่า สอบ IGSCE ไม่ผ่าน เลยต้องใช้วุฒิ GED แทน
หรือไม่ก็จะเป็นเด็กที่เรียนต่างประเทศมาแต่ไม่มี diploma ติดตัวมา
หรือคนที่มีปัญหากับการเรียนมอปลายในรร เช่น มีปัญหากับเพื่อน ทะเลาะกับครู เรียนไม่รู้เรื่อง ไม่ชอบระบบที่รร เป็นต้น
และที่เราจะมารีวิวอันนี้เพราะ ข้อสอบกำลังจะเปลี่ยนวันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นเวอชั่น GED 2014
ซึ่งเรายังไม่เห็นใครมารีวิว เลยจะมาอธิบายความแตกต่างให้ฟัง เวอชั่นใหม่
จะประกอบด้วย 4 วิชา(น้อยลงจากเดิม 1 วิชา)
วิชาที่ 1 คือ Reasoning through Language Arts
รวมทั้งอ่านและเขียนในการสอบ 150 นาที มีพักเบรก 10 นาที และก็มีเขียน essay 45 นาที
วัดทั้งความสามารถการอ่านและความเข้าใจและความสามารถในการวิเคราะห์ ต้องได้ grammar เพราะใช้ตอบคำถามประเภท error และมีพาทที่ให้อ่านเรื่องเพื่อมาตอบ อาจจะเป็นบทความ , บทละคร ,กลอน
พยายามฝึกอ่านให้เร็วและจับใจความให้ดี ส่วนของ essay นั้นต้องเขียนตอบคำถามให้ตรงประเด็น
ซึ่งจะไม่เหมือนกับเวอชั่นเก่าตรงที่เค้าจะมีบทความมาให้อ่านแล้ว เราต้องสรุปหรือให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เค้าให้มาอ่าน
ซึ่งเรื่องที่เค้าให้มานั้นก็ไม่ใช่สั้นๆนะ อ่านให้ดี อ่านให้ไว เวลาตอบ ให้ตอบเป็น paragraph อย่าได้ลิสเป็นข้อๆออกมาเชียว ไม่อยากนั้นจะโดนปรับตกได้
วิชาที่ 2 คือ Social Studies
คือสังคม ใช้เวลาในการสอบ 90 นาที ข้อสอบส่วนมากจะเป็น multiple choice แบ่งเป็น
Geography 15%
Economics 15%
U.S. History 20%
Civics & Government 50%
เพื่อนๆ คนไหนที่เรียนนานาชาติมา น่าจะได้เปรียบในวิชานี้เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์อเมริกาเน้นๆ
เวอชั่นเก่ามีแต่ข้อช้อย แต่เวอชั่นนี้มี essay 1 หัวข้อให้เวลาเขียน 25 นาทีนะ
วิชาที่ 3 คือ Mathematics
ใช้เวลาในการสอบ 115 นาที ข้อสอบมี 2 ส่วนคือมีส่วนที่ใช้เครื่องคิดเลขได้ (จะมีให้ในห้องสอบ) และอีกส่วนจะไม่ให้ใช้
มีเป็น Quantitative 45% และ Algebraic 55%
เครื่องคิดเลขต้องใช้ให้คล่องนิดนึงเพราะเวลาสอบค่อนข้างน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ยากมากถือว่าพื้นๆ
เช่น กราฟ เศษส่วน เป็นต้น ถ้าเทียบกับเลขมอปลายบ้านเรา
วิชานี้เป็นวิชาเก็บคะแนน พยายามมีสติในการทำ ไม่มีสูตรอะไรที่เกินความคาดหมาย
วิชาที่ 4 คือ Science
ใช้เวลาในการสอบ 90 นาที มีเป็นตอบคำถามสั้นๆด้วย และบางข้อก็มีให้ใช้เครื่องคิดเลข
ต้องรู้ทั้งชีววิทยา ฟิสิกส์ และเคมี รวมทั้งการคิดวิเคราะห์ การแก้ไขโจทย์ ประกอบไปด้วย
Earth & Space 20%
Life Science 40%
Physical Science 40%
เรื่องที่ถามจะมีตั้งแต่ธาตุ, สสาร, วงจรชีวิตสัตว์ , วงจรไฟฟ้า , คาน เป็นต้น โดยต้องมีศัพท์อยู่ในหัวจำนวนนึง ที่จะทำให้เข้าใจโจทย์
โดยส่วนตัวแล้ววิชานี้ถือว่ายากพอสมควร แต่ในคำถามจะมีรูปเพิ่มเติม อาจจะช่วยได้สำหรับคนที่ไม่ได้ศัพท์เฉพาะ
เวอชั่นนี้มี short answer ให้ตอบด้วย 2ข้อ ให้เวลาข้อละ 10 นาที ถ้าเขียนไม่ได้ก็แอบหนาวเหมือนกัน
สรุปแล้วก็คือเวอชั่นใหม่นี้ยากขึ้นมากมาย เน้นทักษะการเขียนมากขึ้น ไม่สามารถสุ่มๆเดาๆจากช้อยได้แล้ว
เพิ่มคำถามแบบ short answer, fill in the blank , และการเขียน essay เพื่อสรุปจากบทความที่อ่านมา
รวมทั้งหมด 4 วิชา น้อยลงจากเดิม 1 วิชา จากเดิมเค้าแยกวิชา writing กับ reading ออกจากกัน แต่เวอชั่นใหม่นำมารวมกันในชื่อ
Reasoning through Language Arts เป็น 4 วิชาเน้นๆ และแต่อัดแน่นด้วยวิชาการเหมือนเดิม
ส่วนการคิดคะแนน ก็จะต่างออกไปซึ่งจะมีตารางคะแนนตั้งแต่ 100 - 200
ซึ่ง ถ้าได้ 145 จะเท่ากับ the Passing Standard for high school
ถ้าได้ 165 จะเท่ากับ the GED® College Ready score level, reflective of readiness for career and college.
และถ้าได้ 175 จะเท่ากับ the GED® College Ready + Credit score level.
ถ้าใครมีคะแนนในเวอชั่นเก่าบางวิชา จะไม่สามารถรวมกับเวอชั่นนี้ได้ ฉะนั้นใครที่สอบเวอชั่นปัจจุบันอยู่ หลังจากวันที่ 1 พฤษภา
ถ้าคะแนนยังไม่ครบทุกวิชาก็ซวยไป ต้องเริ่มสอบใหม่ทั้งหมด
สถานที่สอบปัจจุบันมี 2 ที่แล้วนะ มีแถวถนนเพชรบุรี กับ อโศก เวลาสมัครก็เลือกให้ดี ในกรุงเทพ กลัวว่าจะไปผิดที่
คนที่จะสอบสามารถสอบได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปนะ ละปัจจุบันเค้าเข้มงวดขึ้น เพราะมีคนซื้อเข้ามหาลัยวุฒิกันเยอะ
ดังนั้นหลายๆมหาลัยในไทย ก็ต้องเอาชื่อไปเทียบกับในระบบ GED จริงๆ จะมายื่นแค่ใบเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะคะ
อยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม หลังไมค์มาได้ วิธีการเตรียมตัวนุ้นนี้ หรือโทรมา 0645938990 แนะนำให้ได้ค่ะ