สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคนเราอยากแบ่งปันเรื่องของเราให้กับเพื่อนๆเพราะเราคิดว่ายังมีคนที่เหมือนเราอยู่บนโลกนี้ คนที่ชีวิตไม่ได้สวยหรู คนที่บ้านแตก คนที่ใจร้ายและมองโลกแง่ลบก่อนทุกครั้ง เข้าเรื่องกันเลยนะ เราชื่อมี่ค่ะ เราอยู่กับยาย2คน แม่เราแต่งงานใหม่มีครอบครัวใหม่ ส่วนพ่อเรากลับประเทศตั้งแต่รู้ว่าแม่ตั้งท้องเรา เราเป็นลูกครึ่งไทย-เกาหลี ชีวิตเราไม่ได้ดีไปกว่าใคร เราหาเงินส่งตัวเองเรียน เพราะสงสารยาย แม่เราส่งเงินมาบ้าง บางเดือนก็ไม่ได้ส่ง ยายเราเปิดร้านขนมไทยที่อร่อยที่สุดเลยนะในแถบนั้น ร้านเล็กๆค่ะ มี่ทำงานตั้งแต่มอต้นค่ะ ตั้งแต่เสิร์ฟอาหาร ทำร้านกาแฟ และสตาฟงานอีเว้นท์ทั่วๆไป จนมอปลาย มีรุ่นพี่mc ชักชวนให้มี่ไปลองโฟนดู หลังจากนั้นมามี่ก็ยึดอาชีพmc พิธีกร มาตลอด เงินที่ได้มามี่จะเเบ่งเป็นเป็นส่วนๆ ให้ยาย การเรียน และตัวมี่ โชคดีทีพี่ๆmc คนอื่นๆเอ็นดูมี่ เลยป้อนงานมาให้ตลอด มี่เก็บตังได้ก้อนนึงจึงตัดสินใจไปเกาหลี เพื่อโมดิฟายตัวเอง หากจะยึดอาชีพนี้ คุณต้องดูดีอยู่เสมอ ทุกวันนี้มี่กล้าพูดว่าตัวเองสวย55555 เพราะมี่ทำมาแพง ทั้งร่างกายมี่มีแค่นมที่ไม่ปลอม นับเป็นความโชคดีของมี่ มี่ยังเป็นเด็กใฝ่ดีนะ ยังเรียน จนสอบติดมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งคณะเกี่ยวกับเทคโนโลยี ระหว่างรอเปิดเทอมมี่ก็ทำงานต่อไป ชีวิตการเป็นmc หลายคนอาจจะคิดว่า สบายแค่ขึ้นพูด แต่การเป็นmcต้องมีไหวพริบตลอดเวลา และเหนื่อยมาก พูดก็เหนื่อย บางงานต้องยืนเป็นชั่วโมงๆ จนต้นเหตุของเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะงานๆนี้แหละค่ะ มี่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรให้กับงาน ประกวดแข่งขันเทคโนโลยี ก็มีผู้สมัคร และคณะกรรมการ มี่ก็แนะนำคณะกรรมการ จนไปสะดุดที่ผู้ชายคนนึง พี่เค้าเป็น co-founder ของบริษัทแห่งหนึ่ง คือที่ต้องบอกว่าสะดุดตา คือพี่เค้าเล่นจ้องแบบตั้งใจฟังเรามาก มากๆ เราก็อดทนโฟนจนจบในใจก็คิดอีตานี่ต้องการอะไร จะจับผิดกันหรือไง จนงานเสร็จแล้วมี่เก็บของอยู่ด้านหลังเวที พี่เค้าให้ทีมงานมาตามเรา ให้ออกไปหาข้างนอก เราก็ตามออกไป เราขอใช้นามสมมติพี่เค้าแล้วกันนะค่ะ
พี่แม๊กซ์ : สวัสดีครับ ผมแม๊กซ์คับ เป็น ...
(ยังไม่ทันได้พูดจบเราก็ตัดบทไปเลย เพราะคิดว่ายังไงมาแนวนี้ก็ไม่พ้นหลีชัวร์ จะว่ามี่หลงตัวเอง หรือเป็นคนเสียมารยาทก็มี่ก็ไม่ว่านะแต่เพราะแต่ละคนเจอเรื่องฝังใจหรือมีปมไม่เท่ากัน มี่บอกเลยตัวเองเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย และใจดำมากๆมี่ต้องเกริ่นก่อน แต่อย่าเพิ่งเกลียดมี่กันนะ อ่านกันก่อน)
มี่: ทราบแล้วค่ะ มี่เป็นคนแนะนำตัวคุณเมื่อกี้
พี่แม๊กซ์ : ชื่อมี่เหรอครับ
มี่: มีธุระอะไรค่ะ
พี่แม๊กซ์ : อ่ออออ คือว่าน้องมี่เก่งมากเลยครับพูดได้ดีมากๆเลยพี่อยาก...
มี่: มี่ไม่ชอบพี่ค่ะ (เท่านั้นหละค่ะท่านผู้ชม นางเงียบไปเลย แล้วนางก็ขอตัว ส่วนมี่ก็กลับ เหตุการณ์ตอนนั้นฝังใจมี่มาจนถึงทุกวันนี้ว่าการเป็นคนที่พูดออกไปโดยไม่คิดดีๆคนที่ฟังจะรู้สึกแย่แค่ไหน)
จนมี่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ชีวิตในวัยเรียนเค้าบอกว่าสบาย แต่ใช้ไม่ได้กับคนที่เรียนไปทำงานไป เพราะมันโคตรเหนื่อยเลย คนที่เป็นเหมือนมี่จะเข้าใจ เรียนเสร็จก็ต้องตื่นเช้าไปซื้อของมาทำขนมหวานกับยาย แต่มี่ไม่เคยเหนื่อยให้ยายเห็นเลย ยายก็เช่นกัน เราเหมือนทุกๆอย่างในชีวิตกันและกัน ตลอดเวลาเรียนมีผู้ชายเข้าหามี่ก็ไปปากหมาใส่เค้าเหมือนกันทุกๆราย มี่คิดว่ามี่ยังไม่พร้อมเอาใครมาทำให้ชีวิตวุ่นวาย แค่นี้ตัวมี่ก็วุ่นวายพอแล้ว อีกอย่างมี่ไม่มีเวลาให้ใครด้วย เลยเลือกที่จะอยู่คนเดียวดีกว่า
อยู่มหาลัยก็ต้องมีเพื่อนที่สนิทรู้ใจกัน มี่มีเพื่อน2คนค่ะ เป็นชายทั้งคู่ (ชายเทียมหรือเกย์นั่นเอง) มี่คิดว่าคนแบบพวกเค้าจริงใจนะ ด่าก็ด่า ชมก็ชม จริงใจดี คนแรกชื่อ ริม คนที่สองชื่อ ไนท์ คือถ้คนทั่วๆไปมองเข้ามาก็จะคิดว่า มีคบแต่ผู้ชายเพื่ออ่อยบ้างแหละ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าสองคนนี้เป็นเกย์ถ้าไม่สนิทก็ไม่รู้ สองคนนี้เป็นลูกพ่อแม่โอ๋ อีกคนก็บ้านรวย มันเลยยากหากจะมานั่งป่าวประกาศว่าฉันคือเกย์นะ ฉันกินผู้ชาย ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างนั้นเอง รู้จักเพื่อนมี่กันไปแล้วเนอะ
ทุกอย่างก็ปกติดีค่ะ มี่ใช้ชีวิตในมหาลัยแบบคุ้มมาก อ้อ! มี่เกือบลืม มีรับจ็อบร้องเพลงด้วยนะ ที่ร้านเพื่อนมี่นั่นแหละ ร้านของริม เป็นกึ่งร้านอาหารกึ่งบาร์ บอกแล้วมี่ทำได้ทุกอย่างมี่ใช้ชีวิตแบบนี้วนลูปเดิม จนมี่ขึ้นปี2 และการกลับมาของพี่แม๊กซ์อีกครั้ง
วันนี้มี่มีอบรมและทำเวิคช้อปโครงการเกี่ยวกับออกแบบนวัตกรรมเทคโนโลยี และแน่นอนคนที่มาเป็นวิทยากรคือพี่แม๊กซ์และทีม ซึ่งไม่ได้ตกใจอะไรเพราะก่อนหน้านี้ตกใจไปหลายครั้งแล้ว เตรียมใจรับไว้แล้ว โลกกลมนะ ที่ปรึกษามี่เป็นรุ่นพี่มหาลัยของพี่แม๊กซ์ ซึ่งเค้ามาเวิคช้อปที่นี่หลายรุ่นแล้ว แล้วมี่ก็ดันนั่งหน้าไง เป็นอะไรที่แบบอึดอัด ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มันบอกไม่ถูก จนคณะวิทยากรมาถึง มี่นั่งก้มหน้าตลอด ดูเหมือนวิทยากรจะเริ่มแนะนำตัวกันแล้ว จนมาถึงพี่แม๊กซ์
พี่แม๊กซ์ : สวัสดีครับน้อง พี่ชื่อ .... หรือเรียกพี่แม๊กซ์ก็ได้นะครับ คือผู้ชายคนนี้เสียงกับหน้าตาไปในทางเดียวกัน ทำให้สาวๆหลายๆคนกรี้ดกร้าดกันใหญ่ แต่พี่แม๊กซ์ตอนนี้ดูหล่อขึ้นมาก จากตอนนั้น เค้าดูผอมลง และเริ่มมีกล้ามมากขึ้น ขออธิบายรูปลักษณ์พี่แม๊กซ์นิดนึง เค้าเป็นหนุ่มตี๋ค่ะ ขาว สูงมาก แต่ตาโตนะ คือถ้านึกภาพไม่ออกจะออกแนว ธีร์ วณิชนันทธาดา ดาราช่อง7 คือคล้ายมาก แต่หล่อน้อยกว่านะ หลังจากนั้นพี่แม๊กซ์ก็เริ่มเข้าเนื้อหาบรรยาย จนถึงเวลาเวิคช้อป เป็นการให้ต่อยอดผลงานที่พี่ๆได้ทำมา เราโดนถีบหัวส่งให้ออกมานำเสนอ โดยมีพี่แม๊กซ์และพี่อีกคนนึง เราให้ชื่อพี่ธีแล้วกัน (พี่แม๊กซ์พอเห็นหน้าเราก็ดูตกใจอยูพักนึงเเล้วก็เดินไปซุบซิบกับที่ปรึกษาเรา เจอคนที่เคยปากเสียใส่เป็นใครก็ต้องจำหน้าแม่น555)
พี่ธี : หวัดดีครับ ไหนต่อยอดยังไงเอ่ย
มี่: มี่จะต่อยอดจากระบบเซนเซอร์ บลาๆ (ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถบอกได้ เพราะพี่แม๊กซ์เป็นคนร่วมกันคิดระบบนึงที่เราจะพูดถึง เพราะถ้าพูดแล้วเอาไปเสิจกูเกิลคือรู้เลย เราต้องขอละไว้ในฐานที่เข้าใจนะค่ะเพื่อนๆ)
พี่ธี: น่ารักแล้วแถมฉลาดอีก สนใจมาร่วมทีมกับพี่ไหมครับ ถ้าพี่ให้ทุนไปพัฒนา10ล้านพี่ขอ2ล้านพอ (พี่ธีเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์นึงที่ประสบความสำเร็จในยุคนั้น)
เท่านั้นแหละพี่แม๊กซ์นางใส่เรายับเลย ถามจนเราตอบไม่ได้ ยืนจ้องหน้าแบบนั้นหลายนาที จนพี่ธีพูดออกไมค์ว่าอย่ารังแกน้องสิพี่แม๊กซ์ ถึงจะยอมปล่อยเรากลับไปนั่งที่ นี่สินะ เอาคืนสินะ
เราเวิคช้อปภาคเช้าเสร็จก็แยกย้ายกันไปกินข้าว รอมาต่อกันในภาคบ่าย
พี่แม๊กซ์ : ไม่เจอกันนานเลยนะ
มี่: ค่ะ
พี่แม๊กซ์ :ขอพี่ไปด้วยคนสิจะไปกินข้าวกันใช่ไหม พี่ไม่ใช่เจ้าถิ่นเลยไม่รู้จะกินที่ไหน หรืออะไรอร่อยอะ
มี่: โรงอาหารสิค่ะ ง่ายดี
พี่แม๊กซ์ : โห ใจร้ายเหมือนเดิมเลยนะครับ พี่แค่อยากกินร้านอร่อยๆแถวนี้จริงๆนะครับ
ใจเราก็จะปฏิเสธแต่เพื่อนเจ้ากรรมก็เห็นผู้ชายหล่อๆไม่ได้
ริม: ไปทานกับพวกผมก็ได้ครับ กำลังจะไปร้านประจำกันพอดี
พี่แม๊กซ์ : เยี่ยมเลยครับน้อง จากนั้นก็ขนพรรคขนพวกแห่ตามกันมา
ระหว่างทางพี่แม๊กซ์ ก็พยายามชวนเราคุยนะ แต่เราก็ถามคำตอบคำ จนถึงร้านประจำเรา สั่งอาหารเสร็จก็นั่งคุยกัน ริมกับไนท์ก็คุบกับพวกพี่ๆแบบออกรสออกชาติจนเกือบลืมแอ๊บแมนกันเลย
ส่วนเราก็นั่งก้มหน้าก้มตาเขี่ยอาหารเล่น จนพี่แม๊กซ์คงรำคาญมั้งเลยพูดขึ้นมา
พี่แม๊กซ์ : มีแฟนหรือยัง
ตอนนั้นทุกคนเงียบ เราก็งงดิ หน้าแบบเหว๋อมาก
พี่1ชื่อสมมุติพี่ในทีม : โหจีบน้องเค้าแบบนี้เลยเหรอว่ะ
พี่2สมมุติพี่ในทีม : นั่นดิเฮีย นี่เสียใจนะเนี้ยน้องอุตส่าห์แอบมองไว้
พี่ธี: ให้มันเถอะจะ30ละ เดี๋ยวลูกไม่ทันใช้ หน้าตาก็ดี อาภัพรักชิบเป๋ง บออกแล้วคารมเป็นต่อรูปหล่ออด-5555 น้องมี่จ๊ะ เพื่อนพี่กำลังหาคนช่วยใช้ตัง วันๆก็หาแต่เงิน รู้ตัวอีกทีก็จะเลข3ละ
พี่แม๊กซ์ : ให้ผมได้เดินสะดวกๆเถอะครับทุกคน
ไนท์: ห้ะ พี่แม๊กซ์จะ30แล้ว ดูพวกผม20 แก่อะไรเบอร์นี้ ผมนึกว่าพี่20 กว่าๆเอง ยังหน้าเด็กอยู่เลยอะพี่
พี่แม๊กซ์ : พี่อยากให้ตัวเองดูดี เพื่อยืนอยู่ข้างๆใครสักคนแล้วไม่ทำให้เค้าอายครับ แล้วยิ่งถ้าพี่กำลังจะจีบเด็ก พี่ก็ต้องยิ่งดูแลตัวเองเลยครับ พูดจบนางก็ยิ้ม
เราก็ยิ้มเจื่อนๆไม่ใช่หยิ่งนะ เเต่เราไม่เคยรู้จักความรัก ไม่รู้ควรรู้สึกเช่นไร คือตั้งแต่เกิดมาก็ทำงาน เพื่อนๆรุ่นเดียวกันมีแฟน มี่ทำแต่งาน อย่างว่าแหละต้นทุนชีวิตมี่ไม่ได้ดี ต้องรับผิดชอบตัวเองตั้งแต่เด็กๆ
พี่แม๊กซ์เห็นแบบนี้คงไม่ถามต่อเพราะอาจกลัวเราตอกกลับแบบรุนแรงแบบครั้งแรกอีก
พี่แม๊กซ์ :เดี๋ยวพวกพี่เลี้ยงเอง ขอบคุณที่พามากินร้านอร่อยๆแบบนี้นะครับน้องๆ นะครับน้องมี่ นางพูดเบาๆแล้วหันมาทางเรา เเล้วยิ้มให้
คือตอนนั้นเราเข้าใจแล้ว ความรู้สึกหวิวๆเหมือนโดนจู่โจม หวิวๆที่ใจ เป็นยังๆง
รักครั้งแรกของมี่ ❤️
พี่แม๊กซ์ : สวัสดีครับ ผมแม๊กซ์คับ เป็น ...
(ยังไม่ทันได้พูดจบเราก็ตัดบทไปเลย เพราะคิดว่ายังไงมาแนวนี้ก็ไม่พ้นหลีชัวร์ จะว่ามี่หลงตัวเอง หรือเป็นคนเสียมารยาทก็มี่ก็ไม่ว่านะแต่เพราะแต่ละคนเจอเรื่องฝังใจหรือมีปมไม่เท่ากัน มี่บอกเลยตัวเองเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย และใจดำมากๆมี่ต้องเกริ่นก่อน แต่อย่าเพิ่งเกลียดมี่กันนะ อ่านกันก่อน)
มี่: ทราบแล้วค่ะ มี่เป็นคนแนะนำตัวคุณเมื่อกี้
พี่แม๊กซ์ : ชื่อมี่เหรอครับ
มี่: มีธุระอะไรค่ะ
พี่แม๊กซ์ : อ่ออออ คือว่าน้องมี่เก่งมากเลยครับพูดได้ดีมากๆเลยพี่อยาก...
มี่: มี่ไม่ชอบพี่ค่ะ (เท่านั้นหละค่ะท่านผู้ชม นางเงียบไปเลย แล้วนางก็ขอตัว ส่วนมี่ก็กลับ เหตุการณ์ตอนนั้นฝังใจมี่มาจนถึงทุกวันนี้ว่าการเป็นคนที่พูดออกไปโดยไม่คิดดีๆคนที่ฟังจะรู้สึกแย่แค่ไหน)
จนมี่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ชีวิตในวัยเรียนเค้าบอกว่าสบาย แต่ใช้ไม่ได้กับคนที่เรียนไปทำงานไป เพราะมันโคตรเหนื่อยเลย คนที่เป็นเหมือนมี่จะเข้าใจ เรียนเสร็จก็ต้องตื่นเช้าไปซื้อของมาทำขนมหวานกับยาย แต่มี่ไม่เคยเหนื่อยให้ยายเห็นเลย ยายก็เช่นกัน เราเหมือนทุกๆอย่างในชีวิตกันและกัน ตลอดเวลาเรียนมีผู้ชายเข้าหามี่ก็ไปปากหมาใส่เค้าเหมือนกันทุกๆราย มี่คิดว่ามี่ยังไม่พร้อมเอาใครมาทำให้ชีวิตวุ่นวาย แค่นี้ตัวมี่ก็วุ่นวายพอแล้ว อีกอย่างมี่ไม่มีเวลาให้ใครด้วย เลยเลือกที่จะอยู่คนเดียวดีกว่า
อยู่มหาลัยก็ต้องมีเพื่อนที่สนิทรู้ใจกัน มี่มีเพื่อน2คนค่ะ เป็นชายทั้งคู่ (ชายเทียมหรือเกย์นั่นเอง) มี่คิดว่าคนแบบพวกเค้าจริงใจนะ ด่าก็ด่า ชมก็ชม จริงใจดี คนแรกชื่อ ริม คนที่สองชื่อ ไนท์ คือถ้คนทั่วๆไปมองเข้ามาก็จะคิดว่า มีคบแต่ผู้ชายเพื่ออ่อยบ้างแหละ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าสองคนนี้เป็นเกย์ถ้าไม่สนิทก็ไม่รู้ สองคนนี้เป็นลูกพ่อแม่โอ๋ อีกคนก็บ้านรวย มันเลยยากหากจะมานั่งป่าวประกาศว่าฉันคือเกย์นะ ฉันกินผู้ชาย ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างนั้นเอง รู้จักเพื่อนมี่กันไปแล้วเนอะ
ทุกอย่างก็ปกติดีค่ะ มี่ใช้ชีวิตในมหาลัยแบบคุ้มมาก อ้อ! มี่เกือบลืม มีรับจ็อบร้องเพลงด้วยนะ ที่ร้านเพื่อนมี่นั่นแหละ ร้านของริม เป็นกึ่งร้านอาหารกึ่งบาร์ บอกแล้วมี่ทำได้ทุกอย่างมี่ใช้ชีวิตแบบนี้วนลูปเดิม จนมี่ขึ้นปี2 และการกลับมาของพี่แม๊กซ์อีกครั้ง
วันนี้มี่มีอบรมและทำเวิคช้อปโครงการเกี่ยวกับออกแบบนวัตกรรมเทคโนโลยี และแน่นอนคนที่มาเป็นวิทยากรคือพี่แม๊กซ์และทีม ซึ่งไม่ได้ตกใจอะไรเพราะก่อนหน้านี้ตกใจไปหลายครั้งแล้ว เตรียมใจรับไว้แล้ว โลกกลมนะ ที่ปรึกษามี่เป็นรุ่นพี่มหาลัยของพี่แม๊กซ์ ซึ่งเค้ามาเวิคช้อปที่นี่หลายรุ่นแล้ว แล้วมี่ก็ดันนั่งหน้าไง เป็นอะไรที่แบบอึดอัด ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มันบอกไม่ถูก จนคณะวิทยากรมาถึง มี่นั่งก้มหน้าตลอด ดูเหมือนวิทยากรจะเริ่มแนะนำตัวกันแล้ว จนมาถึงพี่แม๊กซ์
พี่แม๊กซ์ : สวัสดีครับน้อง พี่ชื่อ .... หรือเรียกพี่แม๊กซ์ก็ได้นะครับ คือผู้ชายคนนี้เสียงกับหน้าตาไปในทางเดียวกัน ทำให้สาวๆหลายๆคนกรี้ดกร้าดกันใหญ่ แต่พี่แม๊กซ์ตอนนี้ดูหล่อขึ้นมาก จากตอนนั้น เค้าดูผอมลง และเริ่มมีกล้ามมากขึ้น ขออธิบายรูปลักษณ์พี่แม๊กซ์นิดนึง เค้าเป็นหนุ่มตี๋ค่ะ ขาว สูงมาก แต่ตาโตนะ คือถ้านึกภาพไม่ออกจะออกแนว ธีร์ วณิชนันทธาดา ดาราช่อง7 คือคล้ายมาก แต่หล่อน้อยกว่านะ หลังจากนั้นพี่แม๊กซ์ก็เริ่มเข้าเนื้อหาบรรยาย จนถึงเวลาเวิคช้อป เป็นการให้ต่อยอดผลงานที่พี่ๆได้ทำมา เราโดนถีบหัวส่งให้ออกมานำเสนอ โดยมีพี่แม๊กซ์และพี่อีกคนนึง เราให้ชื่อพี่ธีแล้วกัน (พี่แม๊กซ์พอเห็นหน้าเราก็ดูตกใจอยูพักนึงเเล้วก็เดินไปซุบซิบกับที่ปรึกษาเรา เจอคนที่เคยปากเสียใส่เป็นใครก็ต้องจำหน้าแม่น555)
พี่ธี : หวัดดีครับ ไหนต่อยอดยังไงเอ่ย
มี่: มี่จะต่อยอดจากระบบเซนเซอร์ บลาๆ (ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถบอกได้ เพราะพี่แม๊กซ์เป็นคนร่วมกันคิดระบบนึงที่เราจะพูดถึง เพราะถ้าพูดแล้วเอาไปเสิจกูเกิลคือรู้เลย เราต้องขอละไว้ในฐานที่เข้าใจนะค่ะเพื่อนๆ)
พี่ธี: น่ารักแล้วแถมฉลาดอีก สนใจมาร่วมทีมกับพี่ไหมครับ ถ้าพี่ให้ทุนไปพัฒนา10ล้านพี่ขอ2ล้านพอ (พี่ธีเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์นึงที่ประสบความสำเร็จในยุคนั้น)
เท่านั้นแหละพี่แม๊กซ์นางใส่เรายับเลย ถามจนเราตอบไม่ได้ ยืนจ้องหน้าแบบนั้นหลายนาที จนพี่ธีพูดออกไมค์ว่าอย่ารังแกน้องสิพี่แม๊กซ์ ถึงจะยอมปล่อยเรากลับไปนั่งที่ นี่สินะ เอาคืนสินะ
เราเวิคช้อปภาคเช้าเสร็จก็แยกย้ายกันไปกินข้าว รอมาต่อกันในภาคบ่าย
พี่แม๊กซ์ : ไม่เจอกันนานเลยนะ
มี่: ค่ะ
พี่แม๊กซ์ :ขอพี่ไปด้วยคนสิจะไปกินข้าวกันใช่ไหม พี่ไม่ใช่เจ้าถิ่นเลยไม่รู้จะกินที่ไหน หรืออะไรอร่อยอะ
มี่: โรงอาหารสิค่ะ ง่ายดี
พี่แม๊กซ์ : โห ใจร้ายเหมือนเดิมเลยนะครับ พี่แค่อยากกินร้านอร่อยๆแถวนี้จริงๆนะครับ
ใจเราก็จะปฏิเสธแต่เพื่อนเจ้ากรรมก็เห็นผู้ชายหล่อๆไม่ได้
ริม: ไปทานกับพวกผมก็ได้ครับ กำลังจะไปร้านประจำกันพอดี
พี่แม๊กซ์ : เยี่ยมเลยครับน้อง จากนั้นก็ขนพรรคขนพวกแห่ตามกันมา
ระหว่างทางพี่แม๊กซ์ ก็พยายามชวนเราคุยนะ แต่เราก็ถามคำตอบคำ จนถึงร้านประจำเรา สั่งอาหารเสร็จก็นั่งคุยกัน ริมกับไนท์ก็คุบกับพวกพี่ๆแบบออกรสออกชาติจนเกือบลืมแอ๊บแมนกันเลย
ส่วนเราก็นั่งก้มหน้าก้มตาเขี่ยอาหารเล่น จนพี่แม๊กซ์คงรำคาญมั้งเลยพูดขึ้นมา
พี่แม๊กซ์ : มีแฟนหรือยัง
ตอนนั้นทุกคนเงียบ เราก็งงดิ หน้าแบบเหว๋อมาก
พี่1ชื่อสมมุติพี่ในทีม : โหจีบน้องเค้าแบบนี้เลยเหรอว่ะ
พี่2สมมุติพี่ในทีม : นั่นดิเฮีย นี่เสียใจนะเนี้ยน้องอุตส่าห์แอบมองไว้
พี่ธี: ให้มันเถอะจะ30ละ เดี๋ยวลูกไม่ทันใช้ หน้าตาก็ดี อาภัพรักชิบเป๋ง บออกแล้วคารมเป็นต่อรูปหล่ออด-5555 น้องมี่จ๊ะ เพื่อนพี่กำลังหาคนช่วยใช้ตัง วันๆก็หาแต่เงิน รู้ตัวอีกทีก็จะเลข3ละ
พี่แม๊กซ์ : ให้ผมได้เดินสะดวกๆเถอะครับทุกคน
ไนท์: ห้ะ พี่แม๊กซ์จะ30แล้ว ดูพวกผม20 แก่อะไรเบอร์นี้ ผมนึกว่าพี่20 กว่าๆเอง ยังหน้าเด็กอยู่เลยอะพี่
พี่แม๊กซ์ : พี่อยากให้ตัวเองดูดี เพื่อยืนอยู่ข้างๆใครสักคนแล้วไม่ทำให้เค้าอายครับ แล้วยิ่งถ้าพี่กำลังจะจีบเด็ก พี่ก็ต้องยิ่งดูแลตัวเองเลยครับ พูดจบนางก็ยิ้ม
เราก็ยิ้มเจื่อนๆไม่ใช่หยิ่งนะ เเต่เราไม่เคยรู้จักความรัก ไม่รู้ควรรู้สึกเช่นไร คือตั้งแต่เกิดมาก็ทำงาน เพื่อนๆรุ่นเดียวกันมีแฟน มี่ทำแต่งาน อย่างว่าแหละต้นทุนชีวิตมี่ไม่ได้ดี ต้องรับผิดชอบตัวเองตั้งแต่เด็กๆ
พี่แม๊กซ์เห็นแบบนี้คงไม่ถามต่อเพราะอาจกลัวเราตอกกลับแบบรุนแรงแบบครั้งแรกอีก
พี่แม๊กซ์ :เดี๋ยวพวกพี่เลี้ยงเอง ขอบคุณที่พามากินร้านอร่อยๆแบบนี้นะครับน้องๆ นะครับน้องมี่ นางพูดเบาๆแล้วหันมาทางเรา เเล้วยิ้มให้
คือตอนนั้นเราเข้าใจแล้ว ความรู้สึกหวิวๆเหมือนโดนจู่โจม หวิวๆที่ใจ เป็นยังๆง