เธอกับฉัน เราพบกันในครัว (ฉบับบริติช)

สวัสดีค่ะ

บอกก่อนนะคะว่ามันยาว 555 เขียนสั้น ๆ ไม่เป็นอ่าาา

เริ่มเลยค่ะ เราคือหญิงไทยใจห้าวหาญ ผู้หญิงที่เคยอกหักมาสองครั้ง แต่งงานมารอบนึงแล้วก็เลิกกัน เหตุผลเหมือนกับหลาย ๆ คู่ที่เคยได้ยินคือ "เราไปกันไม่ได้" แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกัน ดูแลลูกร่วมกันอย่างดีค่ะ

เมื่อเราเลิกรากะสามีคนเดิม ประกอบกับเบื่องานที่ทำอยู่ เราเลยขออนุญาตลูกและแม่ ลางานมาสักพักเพื่อมาเรียนภาษาที่ออสเตรเลียค่ะ

ระยะเวลาในการเรียนนั้นแสนสั้น ด้วยกำลังทรัพย์อันน้อยนิดและสามารถลางานมาได้แค่หกเดือน เราเลยลงเรียนภาษาที่นี่หกเดือน พกเงินติดตัวไปห้าหมื่นบาทไทย ไปขออาศัยอยู่กับคนรู้จักที่ใจดีให้ที่อยู่ระหว่างที่เรียน และแน่นอนค่ะ เรียนต้องใช้เงิน อยู่เมืองนอกต้องใช้เงินเยอะมาก ๆ ด้วย ทุกสิ่งอย่าง ดังนั้นเมื่อวีซ่าผ่าน ทันทีที่เครื่องแตะรันเวย์ วันที่สองเราก็มองหางาน 5555

และแน่นอนว่า เรามาเพื่อฝึกฝนภาษาอังกฤษ เราจึงมีเป้าหมายหางานที่มีพนักงานส่วนมากเป็นเจ้าของภาษา หนึ่งคือ ทำงานได้ตังค์ สองคือได้ฝึกภาษาอังกฤษในระหว่างการทำงานด้วยเลย (ร้านไทยก็ฝึกภาษาอังกฤษได้ แต่เพราะทำงานกับสมาชิกชาวไทยดังนั้นจะใช้ภาษาอังกฤษก็ต่อเมื่อคุยกับลูกค้าเท่านั้น)  

ดังนั้นเมื่อวันนึงที่เราเปิดเจอเว็บสมัครงานของคนไทย 5555 ประกาศรับสมัคร Kitchen hand (คนทำงานในครัว เตรียมของ หั่นผัก ล้างจาน บลา ๆ) โดยประกาศจากคนไทยที่รู้จักเชฟร้านอาหาร ซึ่งเชฟต้องการคนทำงานในครัว และคุณสมบัติที่สำคัญคือต้องพูดภาษาอังกฤษได้ ให้ส่งข้อความที่เบอร์ xxxxxxx เข้าทางสิค่ะ ชั้นอยากฝึกภาษาอังกฤษ ชั้นอยากได้งานทำ ชั้นอยากได้เงิน เราเลยตัดสินใจส่งข้อความไปหาเชฟดู

วันถัดมา เชฟคนนั้น ส่งข้อความตอบกลับ บอกว่ายินดีให้มาทดลองงาน โดยนัดวัน เวลา และสถานที่เป็นที่เรียบร้อย เราดีใจมาก ถึงจะยังไม่รู้ว่าจะได้งานมั้ย แต่เราก็ดีใจทีเชฟติดต่อมา จากนั้นก็ไปตามวันและเวลาที่เชฟบอก

และวันนั้นคือวันแรกที่เราได้พบกัน หัวเราะ

เราไม่เคยไปหรอก แต่อาศัย Google Map ตามหาร้านจนเจอ เชฟใจดีและคล่องแคล่วมาก วิ่งเร็ว ๆ ขึ้นลงระหว่างชั้น 1 กับชั้น 2 โดยชั้นหนึ่งคือตัวร้าน ส่วนชั้นสองคือที่เตรียมของ ห้องเย็น กับที่เก็บของแห้ง

เชฟสัมภาษณ์เรานิดหน่อย แล้วบอกให้เราลองช่วยเตรียมของในครัว โดยช่วยเชฟหยิบจับโน่นนี่อยู่ข้าง ๆ เชฟนี่แหละ วันแรกเราตื่นตาตื่นใจไปกับหน้าตาอาหารที่ดูน่ารักน่ากิน เราแอบเห็นเชฟพอทำเสร็จก็ถ่ายรูป เราเลยขอเชฟถ่ายรูปอาหารบ้าง เชฟบอกตามสบายเลย เราทำวันแรกได้ประมาณสามชั่วโมงเชฟบอกว่า เราผ่าน เย้ ๆ ดีใจ ให้มาอีกทีวันพรุ่งนี้เดี๋ยวจะให้ไปลองเตรียมของข้างบนดู

วันต่อมาเรามาถึง คราวนี้เชฟ ให้เราขึ้นไปเตรียมของทำอาหารอิตาเลี่ยน ชื่ออะไรจำไม่ได้ 555 รู้แต่ต้องตัดแป้งให้มีขนาดเท่า ๆ กัน ชุบไข่ครั้งที่หนึ่ง ชุบขนมปัง และทำแบบนี้อีกสามรอบ เหนื่อย 555 แล้วเชฟก็ทิ้งเราไว้ในห้องนี้คนเดียว 5555 ผ่านไปสักชั่วโมงเชฟก็กลับมาตรวจงาน แล้วถามเราว่า น้ำมั้ย (เป็นภาษาไทย) เรางง ทำไมเชฟพูดภาษาไทยได้ สงสัยมีเมียไทย 555555 ผ่านไปอีกชั่วโมงเชฟกลับมาบอกให้เราเปิดเพลง ให้เราฟังเพลงได้ตามสบายเลย ทำงานไปด้วยฟังเพลงไปด้วย เชฟบอก เราก็งงอีก เออ ใจดีหว่ะ 55555 สรุปวันนั้นเราทำอีกสามชั่วโมงก่อนเชฟจะอนุญาตให้เรากลับบ้านได้ เชฟบอกว่ารับเราทำงาน ดีใจมากกกกกกกกกกกกกกกกก ยิ่งกว่าได้ทอง เราเลยขออนุญาตถามเชฟว่า เชฟค่ะ เชฟอายุเท่าไหร่ (เพราะว่าดูแล้วเชฟน่าจะมีอายุไล่เลี่ยกันกับเรา) เชฟเลยบอกอายุ สรุป จริงด้วย 5555555555 วันนั้นเรากลับบ้านด้วยความดีใจที่ได้ทำงานสักที

เรากลับบ้านไปด้วยความหวังว่าจะได้ไปทำงานเร็ว ๆ เพราะเงินห้าหมื่นที่ติดตัวมาร่อยหรอลงแล้ว ถ้าเราได้ทำงานเราก็จะได้มีเงินใช้จ่ายระหว่างเรียน ผลปรากฎว่า เชฟเงียบ เศร้า เชฟไม่ส่งตารางงานให้เราเลย เราสงสัยเราเลยส่งข้อความไปถาม เมื่อไหร่เราจะได้ไปทำงาน เชฟบอก เดี๋ยวจัดตารางเสร็จจะส่งเมล์ให้ แต่ยังไงก็ลองหางานอื่น ๆ ดูด้วยนะ อ้าวเชฟค่ะ ทำไมเชฟพูดแบบนี้คะ สรุป ผ่านไปอีกสองวันเชฟก็ยังไม่มีทีท่าจะเรียกไปทำงาน ประกอบกับเราได้งานที่ร้านอาหารไทยด้วย เราเลยส่งขัอความไปบอกเชฟว่า ขอบคุณมากค่าที่จะรับเข้าทำงาน แต่เธอไม่เรียกไปทำงานสักที ตอนนี้ชั้นได้งานร้านไทยแล้ว คราวนี้เชฟคงโล่ง ตอบมาว่า ดีใจด้วยนะ น่านงัย เชฟนะเชฟ เขียนยาวมากเลย ขอบคุณที่อ่านนะคะ ยังไม่จบ ขอไปเรียบเรียงมาอีกรอบก่อนค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่