แทคติก (tactic) และ ความฉลาดภายใต้ "หน้ากากทุเรียน"

ต้องบอกทุกท่าน   ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ก่อน
เนื่องจากเจ้าของกระทู้ชื่นชอบและรักใน "หน้ากากทุเรียน"
กระทู้นี้จึงเรียกได้ว่าเป็น "กระทู้อวยหน้ากากทุเรียน" ล้วนๆ
สำหรับแฟนคลับหน้ากากอื่นๆ
ถ้าไม่อยากหมั่นไส้เจ้าของกระทู้มากไปกว่านี้
ให้ผ่านกระทู้นี้ไปได้เลยนะจ๊ะ  
และสำหรับแฟนคลับหน้ากากทุเรียน
เรามาฟินไปด้วยกันในกระทู้นี้
คลิก "Spoil" เลย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอาหละ เรามาดู แทคติก (tactic)
และความฉลาดภายใต้ "หน้ากากทุเรียน"
แชมป์คนแรกของรายการ
The Mask Singer Thailand กัน
"เมื่อวาน(23-03-2560) มีดราม่าเล็กๆ
ตรงที่ไม่ยอมเฉลยว่าหน้ากากทุเรียนเป็นใคร?
ผมไม่ตื่นเต้นเพราะ ผมมั่นใจชัวร์
ว่าเป็น "ทอม Room39" แน่นวล"

เรามาดูการวางแทคติก
และการเดินทางของ "หน้ากากทุเรียน" กัน

รอบที่ 1
หน้ากากทุเรียน VS หน้ากาก ทักซิโด้
เนื่องจากตัวเองภาษาดีอยู่แล้วเลยเอาจุดแข็ง
ของตัวเองมาใช้และเลือกใช้เพลง "If I ain't got you"
เป็นเพลงแนวที่ถนัด หรือ เราเรียกว่า "เพลงเข้าปาก"
เพื่อเปิดตัวและบอกตัวตนของตัวเองว่า
"กูหน้ากากทุเรียน ร้อง R&B"
ไปฟังเพลงนี้กัน "If I ain't got you"
https://www.youtube.com/watch?v=IITQ9PW4eIA


รอบที่ 2
หน้ากากทุเรียน VS หน้ากากระฆัง
เป็นรอบที่เริ่มใช้ แทคติกที่เตรียมมา
หน้ากากทุเรียน ใช้เพลง "มือปืน"
ต้องบอกว่าเป็น "เพลงเพื่อชีวิต แนว R&B"
ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
(โดยส่วนตัวผมชอบมากกว่าต้นฉบับอีก
มันกลมกล่อมดี)
เหมือนค่อยๆ สร้างความชื่นชอบให้กับคนดู
และ ยังบอกอีกว่า
"กูร้องสากลได้ เพลงไทยกูก็ร้องดีนะ"
เรียกคะแนนจากกรรมการ
และคนดูในห้องส่งได้เป็นกอบเป็นกำ
เนื่องจากพลิกแนวเพลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
สร้างตัวตนเดิมเพิ่มเติมคือความแปลกใหม่
โดยใช้เพลงนี้ "มือปืน"
https://www.youtube.com/watch?v=4TrDsI56i24&t=246s


รอบที่ 3 (รอบก่อนรอง)
หน้ากากทุเรียน VS หน้ากากโพนี่
เป็นรอบที่ยากอีกรอบนึง
เนื่องจากโพนี่เป็นนักร้องเสียงดีมาก
หน้ากากทุเรียน วางแผนแบบ
ปลอดภัยไว้ก่อน "Play Safe"
กลับไปใช้แนวเพลงที่ตัวเองถนัด
ผ่านเพลง "Lay Me Down"
เพื่อตอกย้ำความเป็น R&B ของตัวเอง
รวมไปถึงเพิ่มลูกเล่นลงไปในเพลง
พร้อมโชว์ ลูกคอ R&B ที่ถนัด
และที่สำคัญ "เพิ่มความยากของเพลงไปที่ละนิด"
แต่ทุกเพลงที่ทุเรียนเลือกจะเป็นเพลงดังที่ทุกคน
สามารถเข้าถึง "ความเป็นทุเรียนได้"
ไปฟังเพลงนี้ "Lay Me Down"
https://www.youtube.com/watch?v=bFjQ-A7_AZg


รอบที่ 4 (รอบรอง)
หน้ากากทุเรียน VS หน้ากากจิงโจ้
เป็นรอบที่ Battle ระหว่างเจ้าพ่อ R&B ทั้ง 2 คน
เป็นรอบที่สูสี คู่คี่ สุดๆ ชนะกันแค่ปลายเล็บ
ทุเรียนยังคงคอนเซ็ปต์เดิม
คือเลือกเพลงที่ทุกคนคุ้นเคย เข้าถึงได้ง่าย
ร้องเป็นแนวของตัวเองคือ R&B
รวมไปถึงเพิ่มความยากและ
ความแตกต่างลงไปในเพลง
โดยการโปรเจคเสียงที่แตกต่างกันลงไป
ในท่อนแรกและท่อนท้ายของเพลง
เพื่อสร้างความแตกต่างและบอกคนดูว่า
"เทคนิคตูแพรวพราว และแตกต่างจากคู่แข่งนะ"
ทุเรียนใช้เพลง "Set Fire To The Rain" เป็นเครื่องมือ
https://www.youtube.com/watch?v=nFs1yl0Y_EM


รอบที่ 5(รอบชิง)
หน้ากากทุเรียน VS หน้ากากอีกาดำ
รอบนี้หน้ากากทุเรียนวางแผนมาแล้ว  และ
รู้ว่ารอบนี้คนโหวตไม่ใช่ คณะกรรมการ
และคนในห้องส่งอีกต่อไป
แต่คือ "คนไทยทั่งประเทศ"
ทุเรียนเลย เลือก "เพลงลูกทุ่ง"
ที่ทุกคนเข้าถึงได้(อีกแล้ว)
รากฐานของคนไทยถ้าไม่นับกรุงเทพฯ
ฟังเพลงลูกทุ่งเป็นหลักอยู่แล้ว
ด้วยกลยุทธ์นี้จึงทำให้หน้ากากทุเรียนเป็น "แชมป์"
กลยุทธ์ที่วางไว้นั้น
ยังแสดงให้เห็นถึงความครบเครื่องของ
"หน้ากากทุกเรียน แชมป์คนแรก
ของรายการ The Mask Singer Thailand"
ด้วยเพลงนี้ "จดหมายฉบับสุดท้าย"
https://www.youtube.com/watch?v=mmJ15thT6w0


แผนทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
ถ้าหน้ากากทุเรียน "ไม่มีความสามารถถึงขั้นนี้"
และอีกสิ่งที่สำคัญที่ผลักดัน
ให้หน้ากากทุเรียนเป็นแชมป์
คือ "ความตะมุตะมิ"
ในการตอบคำถามคณะกรรมการของทุเรียนนั้นเอง
https://www.youtube.com/watch?v=BhuadIqW-Vk


ว่าแต่ทำไม "Work Point"
ทำกับแชมป์ของผมแบบนี้หละ


ขอบคุณรูปจาก "Internet"
และ คลิปจาก www.youtube.com

"พงพาเพลิน รายงาน"