ขอระบายความอัดอั้นนะคะ
อาจจะจัดหน้าไม่ดีหรือพิมพ์ผิดบ้าง ถ้าได้เล่นในคอมจะกลับมาแก้ค่ะ
.
เข้าเรื่องนะคะ
เนื่องจากเมื่อวานนี้โดนพี่คนนึงสั่งสอนมาด้วยความเป็นห่วง
แต่เราไม่มีโอกาสอธิบายในตอนนั้นค่ะ
ตอนนั้นก็คุยเรื่องเกาหลีกับน้องอีกคน น้องเขาชอบดูซีรีส์ ส่วนเราเป็นแฟนคลับของบอยแบนด์วงหนึ่งค่ะ
แล้วพี่คนนั้นก็แทรกมา ประมาณว่า
ทำไมถึงต้องชอบเกาหลี ไม่เข้าใจเด็กสมัยนี้เลย
จะเสียเงินเสียทองไปให้เขารวยทำไม
ถ้าพี่มีลูกพี่จะสอนลูกไม่ให้เป็นแบบพวกแก
และอีกมากมาย บลาๆๆๆ
ก่อนอื่นขอบอกว่ารู้สึกโชคดีมากค่ะที่หนูไม่ได้เป็นลูกของพี่
.
มนุษย์เราทุกคนต่างแสวงหาความสุขค่ะ ตราบใดที่ยังไม่บรรลุธรรม ความสุขของเราก็มาจากกามคุณทั้งนั้น
กามคุณก็มี รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ (อารมณ์,ความรู้สึก) อันนี้หลายคนก็น่าจะรู้
แต่ความสุขของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันค่ะ
บางคนสุขจากการกิน บางคนสุขจากการไปเที่ยว ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ บางคนชอบฟังเพลง บางคนชอบเสพเรื่องราวจากหนังสือ บางคนก็รวมหมด ฯลฯ
ทั้งที่มันก็คือความสุขเหมือนกัน แต่ทำไมผู้ใหญ่ถึงชอบมองว่าการฟังเพลง อ่านนิยาย ติดการ์ตูน ติ่งเกาหลี เต้น วาดรูป ฯลฯ เป็นสิ่งที่ไร้สาระ
แต่พอเราไปกินเนื้อย่าง ชาบู หมูกระทะ บลาๆๆ กลับไม่ค่อยจะโดนว่าเท่าไร
ถามว่าเรากินเพื่ออะไรคะ เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายหรอ? เพื่ออิ่มหรอ?
เปล่าค่ะ หมูกระทะมีสารก่อมะเร็ง กินเสร็จก็แน่นท้อง นมปั่น โทส บิงซู ความอ้วนทั้งนั้น
ที่กินเพราะเวลากินมันมีความสุขค่ะ มันได้ทั้งรูปของอาหาร รสชาติ กลิ่นหอม ๆ เสียงหมูตอนโดนกระทะร้อน ๆ สัมผัสตอนมันโดนลิ้น มันฟินค่ะ ไปกับเพื่อนเม้าท์ไปกินยิ่งสนุก
ถามว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมั้ย? ไม่ค่ะ ถามเปลืองมั้ย? เปลืองค่ะ ..ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้ 55
กลับมามองที่การติ่งนะคะ ติ่งมีโทษต่อสุขภาพมั้ย มีค่ะ นอนดึก สายตาเสียเพราะมองจอ แล้วก็หมดเงินเหมือนกัน ส่วนความฟินก็คงไม่ต้องอธิบายนะคะ
.
สรุปก็คือ อยากให้มองว่าการที่เราชอบอะไรมันเป็นสิทธิของแต่ละคนนะคะ
การเอาความคิดของตัวเองมาตัดสินว่าอะไรดีไม่ดีมันดูอคติเกินไปค่ะ
.
.
ต่อไปมาถึงประโยคที่ว่า จะเอาเงินไปให้เขารวยทำไม?
.
ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะ ว่าตั้งแต่เด็กจนโตมาป่านนี้ ไม่เคยขอเงินผู้ปกครองไปติ่งค่ะ
เก็บหอมรอมริบเองบ้าง หารายได้พิเศษบ้าง ถ้ารอบไหนไม่มีตังค์ก็ยอมรับความผิดหวังและเป็นโซนหน้าคอมที่ดีค่ะ
เราจะรู้สึกผิดถ้าเอาเงินที่พ่อแม่ให้ด้วยความหวังว่าลูกจะเอาไปเรียน ไปซื้อของดี ๆ กิน ฯลฯ
ถ้าเราเอาไปเปย์ผู้ หรือทำอย่างอื่นเพื่อความสุขตัวเองคนเดียว เราจะรู้สึกผิดค่ะ
เพราะฉะนั้นพ่อแม่เราก็ไม่ได้เดือดร้อนกับเราเรื่องนี้นะคะ
.
ศิลปินเป็นอาชีพ ๆ หนึ่งค่ะ ก็เหมือน ๆ กับอาชีพอื่น คือถ้าไม่ขยัน ไม่อดทน ไม่พยายาม ก็ไม่ได้ตังค์ค่ะ
ใช่ว่าแค่เกิดมาหล่อแล้วก็จะมีติ่งวิ่งไปเปย์ให้เลย
บางคนเป็นเด็กฝึก 5-6 ปี โดยไม่มีรายได้ มีแต่ความหวังริบหรี่ว่าความฝันจะเป็นจริงในอนาคต
ซ้อมหนัก เหนื่อย พอดังก็ยังต้องซ้อมเหมือนเดิม มีแรงกดดันเพิ่ม แถมต้องคีพลุคเพราะเป็นคนของประชาชนอีก
เขาก็เหนื่อยไม่ต่างจากพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องนอนดึกตื่นเช้าหรอกค่ะ
.
อาชีพของคนเราคือการทำให้คนที่รับสินค้าและบริการจาคเรามีความสุข
ช่างเสริมสวยให้ความสุขคือความสวยงามของลูกค้า
หมอให้ความสุขที่ไม่ต้องทุกข์จากการเจ็บป่วย
ร้านอาหารให้ความสุขจากรสชาติ
นักเขียนให้ความสุขที่เป็นความรู้สึกจากการอ่านเรื่องราว
ครูให้ความรู้ที่เป็นพื้นฐานนำไปสู่ความสุข (อันนี้อธิบายยาก เอาเป็นว่าถ้าไม่มีครูเราก็คงอ่านนิยายไม่ได้ ฯลฯ) ถ้าคนไหนสอนสนุกก็จะเห็นความสุขชัดขึ้น
คนขับรถให้ความสุขเป็นความสะดวกสบาย
และอีกมากมายหลายอาชีพ แต่นึกถึงความสุขที่ได้จากปลาหยุดอันโอชาไม่ออก ข้ามไปละกัน 5555
.
คนบางคนโชคดีที่ได้ทำงานที่ตนเองก็มีความสุขไปด้วย
ส่วนมากความสุขก็เป็นรอยยิ้มของผู้รับบริการนั่นแหละ
แต่บางคนก็โชคร้ายเพราะได้แค่เงินที่จะต้องเอาไปซื้อความสุขจากคนอื่นอีกที
.
ถ้าเกิดพูดว่า จะเอาเงินไปให้เขารวยทำไม..
ถ้าเราไม่ไปกินบุฟเฟต์ล่ะ ไม่ไปร้านอาหาร ร้านบิงซู ไม่กินข้าวนอกบ้านเลย เราเสียสละความสุขจากการกินก็ได้
กินไข่เจียวหรือผัดผักที่ทำเองเพื่อประทังชีวิตทุกมื้อ ไม่ต้องเปลืองตังค์
ถ้าเราไม่ซื้อหนังสือล่ะ กลัวนักเขียนรวย เราก็อยู่ในโลกที่ไม่มีจินตนาการแบบประหยัด ๆ ไป
ถ้าเราไม่ซื้อเครื่องสำอาง ไม่ทาแป้งไม่ทาโลชั่นครีมบำรุงเลย ไม่ต้องเสพความสุขจากการมองตัวเองในกระจกหรือคำชมของคนอื่น
ถ้าเราไม่ออกไปเที่ยวล่ะ ไม่อยากเอาเงินไปให้โรงแรม ร้านข้างทาง รถประจำทาง ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ ก็ประหยัดไปอีกเนอะ 555
นอกจากนี้ก็มีอีกมากมายค่ะ ถ้าเกิดไม่อยากจะเสียเงิน ก็เก็บให้มันเยอะๆๆๆๆๆ จนทับตัวเองตายไปเลยค่ะ
.
โอเคค่ะ พี่คนที่ว่าเราเป็นเจ้าของร้านนมปั่น ขายดีมาก ถ้าหนูและคนอื่น ๆ กลัวอ้วน และอยากเก็บเงินไว้ ไม่อยากเอาเงินไปให้พี่รวย พี่จะอยู่ยังไงคะ
.
คนอื่น ๆ ก็ด้วยค่ะ ตราบใดที่คุณยังหาความสุขใส่ตัว
คุณยังขายกามคุณเพื่อเลี้ยงปากท้องและเพื่อความสุข
คุณก็ไม่ควรไปว่าใครทั้งนั้นค่ะ
เราควรจะเคารพ ให้เกียรติ และเอาใจเขามาใส่ใจเรา
คิดในมุมคนอื่นบ้างค่ะ
.
.
จบแล้วค่ะ ใครจะแย้งอะไรก็แย้งได้เลย เราก็ไม่อยากเป็นคนที่มีทัศนคติผิด ๆ
ถ้าตรงไหนเราผิดพลาดก็ยินดีรับคำแนะนำค่ะ เพราะเราก็พึ่งอยู่บนโลกนี้มาไม่กี่ปีเอง
อย่าโลกแคบค่ะป้า (กระทู้บ่น)
อาจจะจัดหน้าไม่ดีหรือพิมพ์ผิดบ้าง ถ้าได้เล่นในคอมจะกลับมาแก้ค่ะ
.
เข้าเรื่องนะคะ
เนื่องจากเมื่อวานนี้โดนพี่คนนึงสั่งสอนมาด้วยความเป็นห่วง
แต่เราไม่มีโอกาสอธิบายในตอนนั้นค่ะ
ตอนนั้นก็คุยเรื่องเกาหลีกับน้องอีกคน น้องเขาชอบดูซีรีส์ ส่วนเราเป็นแฟนคลับของบอยแบนด์วงหนึ่งค่ะ
แล้วพี่คนนั้นก็แทรกมา ประมาณว่า
ทำไมถึงต้องชอบเกาหลี ไม่เข้าใจเด็กสมัยนี้เลย
จะเสียเงินเสียทองไปให้เขารวยทำไม
ถ้าพี่มีลูกพี่จะสอนลูกไม่ให้เป็นแบบพวกแก
และอีกมากมาย บลาๆๆๆ
ก่อนอื่นขอบอกว่ารู้สึกโชคดีมากค่ะที่หนูไม่ได้เป็นลูกของพี่
.
มนุษย์เราทุกคนต่างแสวงหาความสุขค่ะ ตราบใดที่ยังไม่บรรลุธรรม ความสุขของเราก็มาจากกามคุณทั้งนั้น
กามคุณก็มี รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ (อารมณ์,ความรู้สึก) อันนี้หลายคนก็น่าจะรู้
แต่ความสุขของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันค่ะ
บางคนสุขจากการกิน บางคนสุขจากการไปเที่ยว ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ บางคนชอบฟังเพลง บางคนชอบเสพเรื่องราวจากหนังสือ บางคนก็รวมหมด ฯลฯ
ทั้งที่มันก็คือความสุขเหมือนกัน แต่ทำไมผู้ใหญ่ถึงชอบมองว่าการฟังเพลง อ่านนิยาย ติดการ์ตูน ติ่งเกาหลี เต้น วาดรูป ฯลฯ เป็นสิ่งที่ไร้สาระ
แต่พอเราไปกินเนื้อย่าง ชาบู หมูกระทะ บลาๆๆ กลับไม่ค่อยจะโดนว่าเท่าไร
ถามว่าเรากินเพื่ออะไรคะ เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายหรอ? เพื่ออิ่มหรอ?
เปล่าค่ะ หมูกระทะมีสารก่อมะเร็ง กินเสร็จก็แน่นท้อง นมปั่น โทส บิงซู ความอ้วนทั้งนั้น
ที่กินเพราะเวลากินมันมีความสุขค่ะ มันได้ทั้งรูปของอาหาร รสชาติ กลิ่นหอม ๆ เสียงหมูตอนโดนกระทะร้อน ๆ สัมผัสตอนมันโดนลิ้น มันฟินค่ะ ไปกับเพื่อนเม้าท์ไปกินยิ่งสนุก
ถามว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมั้ย? ไม่ค่ะ ถามเปลืองมั้ย? เปลืองค่ะ ..ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้ 55
กลับมามองที่การติ่งนะคะ ติ่งมีโทษต่อสุขภาพมั้ย มีค่ะ นอนดึก สายตาเสียเพราะมองจอ แล้วก็หมดเงินเหมือนกัน ส่วนความฟินก็คงไม่ต้องอธิบายนะคะ
.
สรุปก็คือ อยากให้มองว่าการที่เราชอบอะไรมันเป็นสิทธิของแต่ละคนนะคะ
การเอาความคิดของตัวเองมาตัดสินว่าอะไรดีไม่ดีมันดูอคติเกินไปค่ะ
.
.
ต่อไปมาถึงประโยคที่ว่า จะเอาเงินไปให้เขารวยทำไม?
.
ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะ ว่าตั้งแต่เด็กจนโตมาป่านนี้ ไม่เคยขอเงินผู้ปกครองไปติ่งค่ะ
เก็บหอมรอมริบเองบ้าง หารายได้พิเศษบ้าง ถ้ารอบไหนไม่มีตังค์ก็ยอมรับความผิดหวังและเป็นโซนหน้าคอมที่ดีค่ะ
เราจะรู้สึกผิดถ้าเอาเงินที่พ่อแม่ให้ด้วยความหวังว่าลูกจะเอาไปเรียน ไปซื้อของดี ๆ กิน ฯลฯ
ถ้าเราเอาไปเปย์ผู้ หรือทำอย่างอื่นเพื่อความสุขตัวเองคนเดียว เราจะรู้สึกผิดค่ะ
เพราะฉะนั้นพ่อแม่เราก็ไม่ได้เดือดร้อนกับเราเรื่องนี้นะคะ
.
ศิลปินเป็นอาชีพ ๆ หนึ่งค่ะ ก็เหมือน ๆ กับอาชีพอื่น คือถ้าไม่ขยัน ไม่อดทน ไม่พยายาม ก็ไม่ได้ตังค์ค่ะ
ใช่ว่าแค่เกิดมาหล่อแล้วก็จะมีติ่งวิ่งไปเปย์ให้เลย
บางคนเป็นเด็กฝึก 5-6 ปี โดยไม่มีรายได้ มีแต่ความหวังริบหรี่ว่าความฝันจะเป็นจริงในอนาคต
ซ้อมหนัก เหนื่อย พอดังก็ยังต้องซ้อมเหมือนเดิม มีแรงกดดันเพิ่ม แถมต้องคีพลุคเพราะเป็นคนของประชาชนอีก
เขาก็เหนื่อยไม่ต่างจากพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องนอนดึกตื่นเช้าหรอกค่ะ
.
อาชีพของคนเราคือการทำให้คนที่รับสินค้าและบริการจาคเรามีความสุข
ช่างเสริมสวยให้ความสุขคือความสวยงามของลูกค้า
หมอให้ความสุขที่ไม่ต้องทุกข์จากการเจ็บป่วย
ร้านอาหารให้ความสุขจากรสชาติ
นักเขียนให้ความสุขที่เป็นความรู้สึกจากการอ่านเรื่องราว
ครูให้ความรู้ที่เป็นพื้นฐานนำไปสู่ความสุข (อันนี้อธิบายยาก เอาเป็นว่าถ้าไม่มีครูเราก็คงอ่านนิยายไม่ได้ ฯลฯ) ถ้าคนไหนสอนสนุกก็จะเห็นความสุขชัดขึ้น
คนขับรถให้ความสุขเป็นความสะดวกสบาย
และอีกมากมายหลายอาชีพ แต่นึกถึงความสุขที่ได้จากปลาหยุดอันโอชาไม่ออก ข้ามไปละกัน 5555
.
คนบางคนโชคดีที่ได้ทำงานที่ตนเองก็มีความสุขไปด้วย
ส่วนมากความสุขก็เป็นรอยยิ้มของผู้รับบริการนั่นแหละ
แต่บางคนก็โชคร้ายเพราะได้แค่เงินที่จะต้องเอาไปซื้อความสุขจากคนอื่นอีกที
.
ถ้าเกิดพูดว่า จะเอาเงินไปให้เขารวยทำไม..
ถ้าเราไม่ไปกินบุฟเฟต์ล่ะ ไม่ไปร้านอาหาร ร้านบิงซู ไม่กินข้าวนอกบ้านเลย เราเสียสละความสุขจากการกินก็ได้
กินไข่เจียวหรือผัดผักที่ทำเองเพื่อประทังชีวิตทุกมื้อ ไม่ต้องเปลืองตังค์
ถ้าเราไม่ซื้อหนังสือล่ะ กลัวนักเขียนรวย เราก็อยู่ในโลกที่ไม่มีจินตนาการแบบประหยัด ๆ ไป
ถ้าเราไม่ซื้อเครื่องสำอาง ไม่ทาแป้งไม่ทาโลชั่นครีมบำรุงเลย ไม่ต้องเสพความสุขจากการมองตัวเองในกระจกหรือคำชมของคนอื่น
ถ้าเราไม่ออกไปเที่ยวล่ะ ไม่อยากเอาเงินไปให้โรงแรม ร้านข้างทาง รถประจำทาง ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ ก็ประหยัดไปอีกเนอะ 555
นอกจากนี้ก็มีอีกมากมายค่ะ ถ้าเกิดไม่อยากจะเสียเงิน ก็เก็บให้มันเยอะๆๆๆๆๆ จนทับตัวเองตายไปเลยค่ะ
.
โอเคค่ะ พี่คนที่ว่าเราเป็นเจ้าของร้านนมปั่น ขายดีมาก ถ้าหนูและคนอื่น ๆ กลัวอ้วน และอยากเก็บเงินไว้ ไม่อยากเอาเงินไปให้พี่รวย พี่จะอยู่ยังไงคะ
.
คนอื่น ๆ ก็ด้วยค่ะ ตราบใดที่คุณยังหาความสุขใส่ตัว
คุณยังขายกามคุณเพื่อเลี้ยงปากท้องและเพื่อความสุข
คุณก็ไม่ควรไปว่าใครทั้งนั้นค่ะ
เราควรจะเคารพ ให้เกียรติ และเอาใจเขามาใส่ใจเรา
คิดในมุมคนอื่นบ้างค่ะ
.
.
จบแล้วค่ะ ใครจะแย้งอะไรก็แย้งได้เลย เราก็ไม่อยากเป็นคนที่มีทัศนคติผิด ๆ
ถ้าตรงไหนเราผิดพลาดก็ยินดีรับคำแนะนำค่ะ เพราะเราก็พึ่งอยู่บนโลกนี้มาไม่กี่ปีเอง