ทุน AFS จำเป็นแค่ไหน? [ เรียนที่จีนยังไงให้ไม่ต้องเสียตัง ]

สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาบอกเล่าประสบการณ์นักเรียนทุนแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมของสถาบันขงจื่อ เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมก็เป็นนักเรียน ม.ปลายคนนึงที่เลือกเรียนแผนศิลปศาสตร์ภาษาจีน ในช่วงเรกๆก็เฉยๆกับภาษาจีนนะ แต่พอมาช่วงหลังๆได้มีโอกาสไปที่จีนได้ไปเรียนไปใช้ภาษาจริงๆก็เลยเสพติดประเทศจีน เสพติดความเป็นจีนไปเลยครับ ปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปสอบชิงทุน ( เรียกว่าทุนก็แปลกๆนะเพราะค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่ากับไปเองได้ 3 ปีเลย ) ของ American Field Service หรือที่รู้จักกันในนามสั้นๆว่า AFS ครับ ผมเลือกสอบเป็นโครงการรับตรง ประเทศจีน ข้อสอบก็จะเป็นภาษาจีนทั้งหมดและวัฒนธรรมต่างๆที่ถามเป็นภาษาไทยนิดหน่อยครับ คล้ายๆ PAT7.4 อาจจะง่ายกว่าไม่มาก ก็สอบไปครับพอเกริ่นๆกับทางบ้านบ้างแล้วว่าไปสอบค่าใช้จ่ายก็บลาๆๆก็พูดให้ที่บ้านฟังครับ สอบเสร็จเรียบร้อย ก็มีลุ้นๆไว้บ้างครับเตรียมใจไว้นิดหน่อย แต่เอาจริงๆคืออยากไปนะ ที่บ้านก็ไม่ได้อะไรครับ เค้าเฉยๆเพราะคิดว่าผมก็ไม่ติดอยู่แล้ว พอดีก่อนหน้าที่จะสมัครสอบโครงการนี้ก็ได้สมัครเรียนระยะสั้นที่ประเทศจีนไปครับ ผลสอบ AFS ก็ออกระหว่างผมอยู่ที่จีนพอดี วันที่ผลสอบออก ผมก็นั่งรีโหลดเว็บตั้งแต่เที่ยงคืน จนถึงตอนเช้าตื่นไปเรียนก็ยังนั่งรีโหลด ผลสอบก็ออกช่วงเที่ยงๆครับ ปรากฏว่าผมติดครับ ผ่านทั้งสัมภาษณ์และข้อเขียน วินาทีนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยครับทั้งดีใจทั้งเสียใจ โลกมันมืด เพราะว่าปัญหาต่อไปคือ…พ่อและแม่ครับ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวเลยว่าจะพูดยังไงกับพ่อแม่ จริงๆที่บ้านผมก็ฐานะกลางๆมีพี่น้อง 3 คนคนโตกำลังจะต่อปริญญาโท คนกลางกำลังจะต่อปริญญาตรี ผมเป็นคนสุดท้องที่กำลังจะขึ้น ม.6 ก็ส่งผลสอบไปให้แม่ดูครับ แม่ก็บอกว่าดีใจด้วยนะลูกทำดีที่สุดแล้ว พอเลิกเรียนตอนบ่ายผมก็โทรไปหาแม่ เอาจริงๆผมรู้อยู่แล้วแหละครับว่าคำตอบมันคืออะไร แต่ก็มาถึงนี่แล้ว สอบไม่ติดยังไม่เจ็บเท่าสอบติดแต่ไม่ได้ไปนะครับ ฮ่า ก็เลยลองคุยกับแม่ดูเผื่อฟลุ๊ค แน่นอนครับ คำตอบมันเป็นเหมือนที่ผมคิดไว้ เอาจริงๆท่านก็ส่งผมไปเรียนได้นะแต่ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดมันต้องจ่ายช่วงซัมเมอร์ซึ่งทางบ้านของผมช่วงซัมเมอร์เป็นอะไรที่มันยากมากๆครับ ผมก็ โอเคครับแม่ไม่เป็นไร แม่ก็พูดทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้ามันจะได้ไปสักวันมันก็ต้องได้ไปนะลูกแค่โอกาสนี้มันยังไม่ใช่ของเรา ลูกเข้าใจใช่มั้ยว่าทำไมแม่ถึงไม่ให้ไป ไม่ใช่เพราะว่าแม่ไม่รักลูกนะ ผมก็ตอบกลับไปว่า เข้าใจครับแม่ ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เพราะตอนนั้นเราไม่ได้อยู่กับแม่แล้วเพิ่งมาจีนได้สักพักนึง อารมณ์ตอนนั้นมันคิดถึงบ้านมากๆนะครับ มาเจอเรื่องแบบนี้มันก็แย่พอสมควร พอวางสายจากแม่ผมก็ร้องโฮเลยครับ ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจแม่นะ เราคิดว่าทำไมแม่ไม่ยอมลองให้โอกาสเราสักครั้งบ้าง หลังจากเย็นวันนั้นก็ไม่ได้กินข้าวเลยครับ หนังสือก็ไม่ได้อ่าน รู้สึกว่าตอนนั้นตัวเองแย่มากๆแต่ผมก็ไม่ได้โทษแม่นะ ผมก็คิดว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองที่ไม่สามารถบอกคนอื่นได้ ผ่านไปสักสี่ห้าวันก็โอขึ้นนิดหน่อยครับ พอเสาร์อาทิตย์ก็ดีหน่อยได้ออกไปข้างนอกเปิดหูเปิดตา มันก็ดีครับ หลายๆวันที่ผ่านมาทุกคืนผมคิดคำพูดที่แม่พูดเสมอ สักวันมันต้องเป็นโอกาสของเรา แล้วไหนละโอกาสของเรา หลังจากกลับมาจากจีน เพื่อนๆที่โรงเรียนก็เปิดเทอมกันได้สักพักแล้วแหละครับ ผมก็เรียนจีนตามปกติ ก่อนหน้านี้ก็ได้ยินคำว่าทุนขงจื่อมาบ้างแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะผมคิดว่ามันคงยากเกินไปสำหรับผม เปิดเทอมมาผมก็อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ HSK ตามปกติบังเอิญมันมีไวยากรณ์ที่ผมไม่เข้าใจ ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนผมก็เลยเข้าไปถามให้อาจารย์อธิบายอาจารย์ก็อธิบายจนจบครับ หลังจานั้นก็คุยเรื่องไร้สาระกับอาจารย์กันสักพัก อาจารย์ก็พูดขึ้นว่า ปีนี้โรงเรียนเราไม่มีใครสมัครทุนขงจื่อเลยนะเราสนใจมั้ย ผมก็รีบตอบกับไปทันทีว่า ครับ หลังจากเย็นวันนั้นผมก็ไปหาข้อมูลของปีก่อนๆ วิธีการสมัคร คุณสมบัติต่างๆ แล้วก็อ่านจนเข้าใจ แล้วผมก้ตัดสินใจเลือกทุนเรียนภาษา 1 ปีครับ แล้วก็ได้มาคุยกับอาจารย์ว่าจะเอาทุน 1 ปี อาจารย์ก็ไม่ค่อยสนับสนุนทุนประเภทนี้เท่าไหร่ครับแล้วก้อธิบายไปว่าทำไม หนึ่งเลยครับนี่ทุนขงจื่อไม่ใช่เอเอฟเอส ไม่มีคนดูแลครับ บวกกับผมยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ มันมีหลายๆอย่างที่เราไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ครับ ที่เหลือกีเป็นทุน 1 เทอมกับ 4 สัปดาห์ครับ อาจารย์ก็แนะนำ 4 สัปดาห์มา เพราะมันจะได้ไม่กระทบกับระบบการเรียนที่โรงเรียนมาก เนื่องจากการเปิดเทอมที่จีนกับที่ไทยไม่ตรงกัน ผมก็โอเคครับผมเลือก 4 สัปดาห์ ก็ตัดสินใจสมัครครับ ผมก็นึกคำพูดที่แม่เคยพูดไว้กับผมตอน 5 เดือนก่อน แล้วคิดว่า นี่แหละคือโอกาสของเราแล้ว เราต้องทำมันให้เต็มที่ที่สุด ก็ทำการสมัครไปเรียบร้อยครับ แล้วก้เป็นไปตามความตั้งใจครับ ผมได้ทุนนี้แต่ยังไม่ทราบมหาลัย ผมเลือกไปสองอันดับแล้วก็เลือกไปเดือนกรกฏาคมปีนี้ครับ ผมภูมิใจนะถึงจะเป็นแค่ทุนระยะสั้น แต่มันคือความสำเร็จก้าวแรกของเราที่เราทำมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ เพราะทุนนี้เป็นทุนเต็มจำนวนครับ ทางสถาบันเหมาจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เราแค่มีหน้าที่ไปเรียนอย่างเดียว ตอนสมัครมันก็จะท้อบ้างครับ เพราะการสมัครมันต้องใช้เอกสารหลายอย่าง และกว่าจะผ่านได้แต่ละขั้นตอนก็ยุ่งยากพอสมควรครับ สำหรับใครที่มีโอกาสสมัครทุนนี้ก็ลองสมัครดูครับ มันไม่ได้ยากอย่างทีคิดถ้าเรามุ่งมั่นและพยายาม ผมไม่ได้บอกว่าเอเอฟเอสมันไม่ดีนะ แต่มันยังมีอีกหลายๆทางที่สามารถทำให้เรามีประสบการณ์แบบที่ไม่ต้องไปเสียเงินเยอะขนาดนั้นได้ ส่วนคนที่พลาดโอกาสของเอเอฟเอสไปก็ไม่ต้องเสียใจนะครับ ถ้ามันเป็นของเราก็เป็นของเรา แต่ถ้าใครมีโอกาสได้ไปผมก็ยินดีด้วยครับ เพราะคุณคือคนที่โชคดีกว่าผม ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคืออยากหาประสบการณ์และความรู้ สำหรับคนที่หลงใหลในด้านนี้มันมีได้หลายๆทางครับ ถ้าไปเองก็ตกแสนกว่าๆถึงสองแสนบาทต่อปีไม่รวมค่าครองชีพ ส่วทุนก็มีเยอะแยะครับ ทั้งทุนขงจื่อ ทุนรัฐบาลจีน ทุนมหาวิทยาลัยจีน ทุนอุปถัมภ์ เยอะแยะครับ ยังมีอีกเยอะแยะ เป้าหมายต่อไปของผมคือทุนรัฐบาลจีนปริญญาตรี ใครที่รอลุ้นทุนอยู่ช่วงนี้ก็สู้ๆนะครับ ครั้งนี้ไม่ใช่ของเรา ครั้งหน้าต้องเป็นของเราถ้าเรามุ่งมั่นและตั้งใจ เดี๋ยวหลังจากกลับมาผมจะมารีวิวอีกครั้งนึงนะครับ เพราะทุนรอบนี้ผมได้โฮสด้วย ขอให้ทุกคนโชคดีนะครับ ขอบคุณครับ ;p
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่