สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ความเห็นส่วนตัวนะ
ภายใต้สมมติฐานว่า จขกท.
เป็นผู้คนทั่ว ๆ ไป ที่ภูมิต้านทานแข็งแรงดี
และ
ที่อยู่อาศัย มีโครงสร้างพื้นฐานอย่างระบบน้ำประปารองรับแล้ว (รัฐทำการบำบัดน้ำดิบไปเรียบร้อยแล้ว สำคัญมาก ๆ นะ ไม่เช่นนั้นจะเจอปัญหาน่าปวดหัวไปอีกมากมายเลยทีเดียว)
มีจุดประสงค์ของการใช้น้ำ คือ น้ำไปใช้บริโภคทั่วไป
(จุดประสงค์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะต้องรู้ก่อนว่า นำน้ำไปใช้ทำอะไร จะได้เลือกเครื่องมือที่ ราคา/ประสิทธิภาพ คุ้มค่าที่สุด ที่สามารถตอบจุดประสงค์ได้ตรง
เราไม่ควร ขี่ช้างจับตั๊กแตน)
-----
ส่วนตัวมองว่า ถ้าจขกท.อยู่อาศัยในพื้นที่ ที่มีโครงสร้างพื้นฐานน้ำประปารองรับแล้ว
ตัวที่อาจจะสร้างปัญหาได้ จะเหลือ
สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
กับ
ปรสิตก่อโรค (เช่น Cryptosporidiosis, Giardia lamblia, ฯลฯ)
ถ้าใช้ตัวกรอง NSF53 ก็น่าจะโอเคแล้ว
นิยาม NSF53
NSF/ANSI 53: Drinking Water Treatment Units - Health Effects
NSF/ANSI 53 establishes the minimum requirements for the certification of POU/POE filtration systems designed to reduce specific health-related contaminants, such as Cryptosporidium, Giardia, lead, volatile organic chemicals (VOCs) and MTBE (methyl tertiary-butyl ether), that may be present in public or private drinking water.
The scope of NSF/ANSI 53 includes material safety, structural integrity and health-related contaminant reduction performance claims. The most common technology addressed by this standard is carbon filtration.
ที่มา
https://blog.ansi.org/nsf-ansi-53-2022-drinking-water-units-health-effect/#gref
https://www.nsf.org/th/en/knowledge-library/nsf-ansi-42-53-and-401-filtration-systems-standards
https://webstore.ansi.org/standards/nsf/nsfansi532022?source=blog&_gl=1*t1w9j*_gcl_au*MzYxMjY1MTE1LjE2OTY5OTE5Njk.
ลิงค์สำรอง
https://www.google.com/search?q=nsf+org+NSF%2FANSI+53+definition
-----
เรื่องเชื้อโรค
โดยปกติ โรงงานผลิตน้ำประปาจะทำการกำจัดไปเรียบร้อยแล้ว
ตอนขนส่งมาตามท่อก็จะโดนคลอรีนที่อยู่ในท่อประปา จัดการอีก จึงไม่ต้องห่วง
(น้ำประปาจะอัดคลอรีนมาเยอะเพื่อให้คลอรีนมันค้างในท่อ แล้วค่อย ๆ เจือจางไปตามระยะทางของท่อประปา + ทิ้งในบ่อพักน้ำดีของบ้านให้คลอรีนมันเจือจางลง)
ส่วนเรื่องที่ท่อแตกและจะปนเปื้อนเข้ามาในระบบประปา ก็น่าจะยาก เพราะแรงดันในท่อประปามันเป็นบวก (มีแต่ดันออก ไม่มีไหลเข้า)
(ยกเว้น มีคนมักง่าย เล่นต่อปั๊มเข้าท่อประปาโดยตรง (ผิดนะ) แบบนี้จะก่อปัญหาได้ เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนได้)
หรือ
ถ้าเราภูมิต้านทานปกติ ก็ไม่ต้องไปกังวล
(แต่ถ้ามีภูมิต้านทานต่ำ ไม่ว่าจะจากโรค หรือ จากการรักษาทางการแพทย์
ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้รักษา
เพราะอาจจะต้องใช้ตัวกรองแบบซับซ้อนกว่านี้ หรือไม่ก็ต้องต้มน้ำดื่มตลอด แล้วแต่แพทย์ผู้รักษาจะประเมินมา)
-----
ดังนั้น ปัญหาที่เหลืออยู่จริง ๆ คือ
-สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
ซึ่งปกติทางประปาเขาก็ตรวจดูอยู่แล้ว
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2399673513435676&id=115582021844848
ถ้าเราจะกันเหนียวอีกชั้น
เครื่องกรอง NSF53 ช่วยได้
-cyst, parasite
ที่จริงในระบบของประปาทั้งในไทยและต่างประเทศเองต่างก็มีการตรวจสอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ในขั้นตอนตรวจเช็คคุณภาพน้ำประปาที่ผลิตออกมา (มีนักวิทยาศาสตร์ดูแลอยู่)
https://twitter.com/MWAthailand/status/1125981180682104833
ยกเว้นแจ็คพอต ที่จะมีพวกนี้หลุดเข้ามาในระบบ (ยากมาก)
อย่าง UK พอมีพวกนี้หลุดออกมาที ก็ได้ลงข่าว
https://www.bbc.com/news/uk-england-bristol-42655479
ถ้าเราจะกันเหนียวอีกชั้น ตัวกรองที่ผ่าน NSF53 จะกรองพวกนี้ได้ดีระดับหนึ่ง (เรียกว่ากันเหนียวก็ว่าได้ แต่ยังสู้การต้มไม่ได้)
https://www.cdc.gov/parasites/crypto/gen_info/filters.html
-----
ปล. เราไม่ได้เป็นคนขายเครื่องกรองน้ำ ไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนใด ๆ
ปล2. การดูแลเครื่องกรองน้ำ สาระสำคัญตัวหนึ่งคือ การเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาครบกำหนด
แปลว่า มันเกิดรายจ่ายระยะยาวแน่นอน
ถ้าซื้อโดยที่คำนึงถึง cost effective ก็จะประหยัดเงินไปได้มากโขเลยทีเดียว!
ปล3. ถ้าอยากได้น้ำสวยงาม กรองน้ำแล้ว น้ำใสปิ๊ง ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มองหาป้าย NSF42
(น้ำสวยงาม เป็นคนละเรื่องกับน้ำที่ปลอดภัยต่อการบริโภค;
เห็นน้ำใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ได้แปลว่า ปลอดภัยต่อการบริโภคเสมอไป;
ส่วนน้ำที่มีสี มีกลิ่น ก็ไม่ได้แปลว่าอันตรายเสมอไปเช่นกัน;
เรื่องพวกนี้ ให้การประปาหรือนักวิทยาศาสตร์ เป็นคนตรวจสอบจะดีกว่านะ (การประปาเองก็ทำตามเกณฑ์องค์การอนามัยโลก (WHO) อยู่))
แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ
แนะนำให้อ่านบทความของ Robert L. Wolke อาจารย์ด้านเคมี มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก
Robert L. Wolke. Getting Clear On Water Filters. The Washington Post, May 2, 2001. https://www.washingtonpost.com/archive/lifestyle/food/2001/05/02/getting-clear-on-water-filters/ff878536-1941-42e8-b65f-6056b8ce7ef3/ (accessed Aug. 10, 2020).
"Depending on your degree of paranoia,
you may feel like searching for a filter
that will remove everything from the water but its wetness.
Keep in mind, though,
that it's a waste of money to buy a device
to remove things that aren't there."
@06/02/2019 แก้ url NSF (ต้นทางมีการเปลี่ยนแปลง url)
@10/08/2020 เพิ่ม link บทความ "Getting Clear On Water Filters."
@12/08/2021 แก้ url NSF (ต้นทางมีการเปลี่ยนแปลง url), เพิ่ม link สำรอง
ภายใต้สมมติฐานว่า จขกท.
เป็นผู้คนทั่ว ๆ ไป ที่ภูมิต้านทานแข็งแรงดี
และ
ที่อยู่อาศัย มีโครงสร้างพื้นฐานอย่างระบบน้ำประปารองรับแล้ว (รัฐทำการบำบัดน้ำดิบไปเรียบร้อยแล้ว สำคัญมาก ๆ นะ ไม่เช่นนั้นจะเจอปัญหาน่าปวดหัวไปอีกมากมายเลยทีเดียว)
มีจุดประสงค์ของการใช้น้ำ คือ น้ำไปใช้บริโภคทั่วไป
(จุดประสงค์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะต้องรู้ก่อนว่า นำน้ำไปใช้ทำอะไร จะได้เลือกเครื่องมือที่ ราคา/ประสิทธิภาพ คุ้มค่าที่สุด ที่สามารถตอบจุดประสงค์ได้ตรง
เราไม่ควร ขี่ช้างจับตั๊กแตน)
-----
ส่วนตัวมองว่า ถ้าจขกท.อยู่อาศัยในพื้นที่ ที่มีโครงสร้างพื้นฐานน้ำประปารองรับแล้ว
ตัวที่อาจจะสร้างปัญหาได้ จะเหลือ
สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
กับ
ปรสิตก่อโรค (เช่น Cryptosporidiosis, Giardia lamblia, ฯลฯ)
ถ้าใช้ตัวกรอง NSF53 ก็น่าจะโอเคแล้ว
นิยาม NSF53
NSF/ANSI 53: Drinking Water Treatment Units - Health Effects
NSF/ANSI 53 establishes the minimum requirements for the certification of POU/POE filtration systems designed to reduce specific health-related contaminants, such as Cryptosporidium, Giardia, lead, volatile organic chemicals (VOCs) and MTBE (methyl tertiary-butyl ether), that may be present in public or private drinking water.
The scope of NSF/ANSI 53 includes material safety, structural integrity and health-related contaminant reduction performance claims. The most common technology addressed by this standard is carbon filtration.
ที่มา
https://blog.ansi.org/nsf-ansi-53-2022-drinking-water-units-health-effect/#gref
https://www.nsf.org/th/en/knowledge-library/nsf-ansi-42-53-and-401-filtration-systems-standards
https://webstore.ansi.org/standards/nsf/nsfansi532022?source=blog&_gl=1*t1w9j*_gcl_au*MzYxMjY1MTE1LjE2OTY5OTE5Njk.
ลิงค์สำรอง
https://www.google.com/search?q=nsf+org+NSF%2FANSI+53+definition
-----
เรื่องเชื้อโรค
โดยปกติ โรงงานผลิตน้ำประปาจะทำการกำจัดไปเรียบร้อยแล้ว
ตอนขนส่งมาตามท่อก็จะโดนคลอรีนที่อยู่ในท่อประปา จัดการอีก จึงไม่ต้องห่วง
(น้ำประปาจะอัดคลอรีนมาเยอะเพื่อให้คลอรีนมันค้างในท่อ แล้วค่อย ๆ เจือจางไปตามระยะทางของท่อประปา + ทิ้งในบ่อพักน้ำดีของบ้านให้คลอรีนมันเจือจางลง)
ส่วนเรื่องที่ท่อแตกและจะปนเปื้อนเข้ามาในระบบประปา ก็น่าจะยาก เพราะแรงดันในท่อประปามันเป็นบวก (มีแต่ดันออก ไม่มีไหลเข้า)
(ยกเว้น มีคนมักง่าย เล่นต่อปั๊มเข้าท่อประปาโดยตรง (ผิดนะ) แบบนี้จะก่อปัญหาได้ เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนได้)
หรือ
ถ้าเราภูมิต้านทานปกติ ก็ไม่ต้องไปกังวล
(แต่ถ้ามีภูมิต้านทานต่ำ ไม่ว่าจะจากโรค หรือ จากการรักษาทางการแพทย์
ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้รักษา
เพราะอาจจะต้องใช้ตัวกรองแบบซับซ้อนกว่านี้ หรือไม่ก็ต้องต้มน้ำดื่มตลอด แล้วแต่แพทย์ผู้รักษาจะประเมินมา)
-----
ดังนั้น ปัญหาที่เหลืออยู่จริง ๆ คือ
-สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
ซึ่งปกติทางประปาเขาก็ตรวจดูอยู่แล้ว
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2399673513435676&id=115582021844848
ถ้าเราจะกันเหนียวอีกชั้น
เครื่องกรอง NSF53 ช่วยได้
-cyst, parasite
ที่จริงในระบบของประปาทั้งในไทยและต่างประเทศเองต่างก็มีการตรวจสอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ในขั้นตอนตรวจเช็คคุณภาพน้ำประปาที่ผลิตออกมา (มีนักวิทยาศาสตร์ดูแลอยู่)
https://twitter.com/MWAthailand/status/1125981180682104833
ยกเว้นแจ็คพอต ที่จะมีพวกนี้หลุดเข้ามาในระบบ (ยากมาก)
อย่าง UK พอมีพวกนี้หลุดออกมาที ก็ได้ลงข่าว
https://www.bbc.com/news/uk-england-bristol-42655479
ถ้าเราจะกันเหนียวอีกชั้น ตัวกรองที่ผ่าน NSF53 จะกรองพวกนี้ได้ดีระดับหนึ่ง (เรียกว่ากันเหนียวก็ว่าได้ แต่ยังสู้การต้มไม่ได้)
https://www.cdc.gov/parasites/crypto/gen_info/filters.html
-----
ปล. เราไม่ได้เป็นคนขายเครื่องกรองน้ำ ไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนใด ๆ
ปล2. การดูแลเครื่องกรองน้ำ สาระสำคัญตัวหนึ่งคือ การเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาครบกำหนด
แปลว่า มันเกิดรายจ่ายระยะยาวแน่นอน
ถ้าซื้อโดยที่คำนึงถึง cost effective ก็จะประหยัดเงินไปได้มากโขเลยทีเดียว!
ปล3. ถ้าอยากได้น้ำสวยงาม กรองน้ำแล้ว น้ำใสปิ๊ง ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มองหาป้าย NSF42
(น้ำสวยงาม เป็นคนละเรื่องกับน้ำที่ปลอดภัยต่อการบริโภค;
เห็นน้ำใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ได้แปลว่า ปลอดภัยต่อการบริโภคเสมอไป;
ส่วนน้ำที่มีสี มีกลิ่น ก็ไม่ได้แปลว่าอันตรายเสมอไปเช่นกัน;
เรื่องพวกนี้ ให้การประปาหรือนักวิทยาศาสตร์ เป็นคนตรวจสอบจะดีกว่านะ (การประปาเองก็ทำตามเกณฑ์องค์การอนามัยโลก (WHO) อยู่))
แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ
แนะนำให้อ่านบทความของ Robert L. Wolke อาจารย์ด้านเคมี มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก
Robert L. Wolke. Getting Clear On Water Filters. The Washington Post, May 2, 2001. https://www.washingtonpost.com/archive/lifestyle/food/2001/05/02/getting-clear-on-water-filters/ff878536-1941-42e8-b65f-6056b8ce7ef3/ (accessed Aug. 10, 2020).
"Depending on your degree of paranoia,
you may feel like searching for a filter
that will remove everything from the water but its wetness.
Keep in mind, though,
that it's a waste of money to buy a device
to remove things that aren't there."
@06/02/2019 แก้ url NSF (ต้นทางมีการเปลี่ยนแปลง url)
@10/08/2020 เพิ่ม link บทความ "Getting Clear On Water Filters."
@12/08/2021 แก้ url NSF (ต้นทางมีการเปลี่ยนแปลง url), เพิ่ม link สำรอง
แสดงความคิดเห็น
เครื่องกรองน้ำ 3m ดีมั้ยครับ
ใช้ยี่ห้อนี้มา 20 ปี รู้สึกมานานแล้วว่าไส้กรองกับหลอด UV มันแพงเกินไป แถมที่บ้านใช้น้ำเยอะไม่ถึงปีต้องเปลี่ยนแล้วครับ
อยากได้ตัวที่ไส้กรองเปลี่ยนง่ายหาซื้อง่ายครับ และติดตั้งง่ายไม่เปลืองที่ เนื่องจากจะย้ายเครื่องกรองจากในครัวมาไว้ตรง pantry ก็เลยอยากให้ดูเรียบร้อยนิดนึงครับ
พอดีเจอตัวนี้ในเฟซ ราคาก็โอเคอยู่ เปลี่ยนไส้กรองง่ายดีครับ (จริงๆ เรื่องราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักครับ ขอแค่กรองได้ดีก็พอ)
เลยอยากรบกวนถามว่าตัวนี้คุณภาพพอได้มั้ยครับ (ปกติใช้แต่กรองที่มีหลอด UV พอมาดูตัวที่ไม่มีแล้วรู้สึกแปลกๆ นิดนึงครับ)