ผมอยากให้กระทู้ของผมได้เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนที่กำลังคิดจะทิ้งคนที่อยู่ข้างๆคุณเพื่อเปลี่ยนใจไปหาคนใหม่
ผมอยากให้คุณลองคิดทบทวนดูดีๆ ว่าใครที่คุณอยู่ด้วยแล้วสามารถเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดโดยที่เราไม่ต้องฝืนอะไร
ใครที่สามารถเป็นได้ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้อง เป็นได้แม้กระทั่งคนบ้าเพื่อทำให้เรายิ้ม หรือบางครั้งก็เป็นเหมือนพ่อแม่ของเรา
ผมอยากให้คุณรักษาคนๆนั้นไว้ครับ แล้วคุณจะไม่มีวันเสียใจ ไหนๆก็อ่านถึงตรงนี้แล้วยังไงก็ขอให้อ่านให้จบนะครับ
เรื่องของผมอาจจะยาวหน่อยเนาะ มี 3 หน้าด้วยกัน ....
สวัสดีครับผมชื่อเป้เป็นคนสมุทรปราการมีอาชีพเป็นวิศวกรต๊อกต๋อยทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ส่วนแฟนผมชื่อโบว์เธอเป็นคนสุราษธานี เราสองคนเจอกันตอนผมไปเทสงานที่ชลบุรี โบว์เป็นQCประจำแผนกที่ผมไปเทสงานครับ
โบว์เป็นคนนิสัยห้าวๆเหมือนผู้ชายตลกขี้เล่นกวนตีนพอหยอกกันไปหยอกกันมา ผมดันไปชอบโบว์เข้า เลยขอจีบซะเลย
และเรื่องมันก็เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ผมขึ้นสถานะคบกับโบว์ในเฟส จากนั้นผู้หญิงที่เป็นรักแรกของผมตอนม.ปลายเธอชื่อมินต์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นเพื่อนห้องเดียวกัน มินต์เป็นคนเฟรนลี่ สวย(มั่ง) เป็นสาวช่างฝัน และเป็นดาวประจำห้อง ผมกับมินต์สนิทกันในระดับหนึ่ง
เวลาเธอจะไปเที่ยวที่ไหน เธอมักจะชวนผมเป็นคนแรก จนทำให้ผมคิดไปไกลว่ามินต์ก็ชอบผมเหมือนกัน
เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยจนเพื่อนในห้องแซวว่าเราคบกัน วันนั้นแหละเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจผม
มินต์บอกกับผมว่า ให้ผมอยู่ห่างๆเธอหน่อยเพราะเธอชอบเพื่อนของผม เธอไม่อยากให้เพื่อนของผมเข้าใจผิด
มินต์ทำผมเสียใจอยู่ 6 ปี จนได้มาเจอโบว์นี้แหละ อยู่ๆเธอก็มาปรากฏตัวขึ้นทั้งๆที่ผมกับเธอไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่วันนั้น
เธอเข้ามาแสดงความยินดีกับผม แล้วหลังจากนั้นเธอก็ตามกดไลค์รูปผมกับโบว์ มาคอมเม้นโพสผมบ้าง แท็กข้อความมาหาผมบ้าง
ผมกับโบว์ต้องทะเลาะกันเรื่องของมินต์อยู่บ่อยๆ โบว์บอกว่ามันผิดปกติที่อยู่ๆมินต์จะเข้ามาสนิทกับผมตอนนี้เหมือนมินต์จะมาหวงก้าง
ผมก็เถียงโบว์ไปว่าโบว์คิดมากไปเอง (ตอนนั้นผมเองก็แอบหงุดหงิดแอบนึกอยู่ในใจว่าโบว์เริ่มจะเยอะงี่เง่าขี้ระแวงคิดมากน่ารำคาญฯลฯ)
ความคิดในแง่ลบของผมที่มีต่อโบว์ยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ แต่กลับกันผมดันไปคิดปกป้องมินต์ ผมคิดว่ามินต์ไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย
ช่วงนั้นผมก็ยอมรับนะว่าผมแอบไปส่องเฟสมินต์บ้างบางครั้งแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะผมก็มีโบว์อยู่แล้ว
ผมกับโบว์คบกันได้ 2 ปี เจอกันเดือนละครั้ง-สองครั้ง คุยโทรศัพท์ก็ทะเลาะกันบอกเลิกกันเกือบทุกวันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
ระหองระแหงกันมา มีอยู่วันหนึ่งผมเริ่มหงุดหงิดทนไม่ได้เลยพูดออกไปว่าถ้าทะเลาะกันแบบนี้ เราสองคนคงได้หยุดอยู่แค่นี้แหละ
โบว์ตอบกลับมาว่า เอ่อ คำเดียวแล้วก็วางสายไป จากนั้นเธอก็ไม่ติดต่อผมเลยตลอด 3 อาทิตย์ ปิดเฟสบล๊อกทุกอย่าง
จนสุดท้ายแล้วผมต้องเอาเบอร์เพื่อนโทรไปง้อโบว์กลับมา หลังจากวันนั้นรักของเราสองคนก็ดีขึ้นในระดับหนึ่ง
โบว์จึงตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่ชลบุรีในตำแหน่งหัวหน้าQCมาทำงานที่สมุทรปาการในตำแหน่งพนักงานในไลน์
ผมรู้สึกโชคดีมากที่ผมได้เจอผู้หญิงดีๆผู้หญิงคนหนึ่งที่ยอมเสียสละประโยชน์ของตัวเองเพื่อผมได้ขนาดนี้
ถ้าถามว่าทำไมผมไม่เป็นฝ่ายไปทำงานที่ชลบุรี เพราะผมพึ่งจะเสียพ่อไปเมื่อตอนคบกับมินต์ได้ 4 เดือน
ตอนนี้ผมเหลือแค่แม่และพี่ชายที่พิการเพราะเกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับ ผมเลยทิ้งพวกเขาไปทำงานไกลไม่ได้ครับ
โบว์ต้องอยู่หอพักซึ่งผมก็ไม่สามารถไปอยู่ดูแลโบว์ใกล้ๆได้เช่นเคย เพราะต้องกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวทุกวัน
จนผมรู้สึกว่าตัวผมเองเป็นต้นเหตุทำให้โบว์ลำบากหรือเปล่า ไหนจะเรื่องที่ผมไม่ได้เรื่องไม่เอาไหนทำผิดในเรื่องเดิมๆ
จนทำให้เราต้องทะเลาะกัน ไหนจะเรื่องมินต์ที่เข้ามาทำให้โบว์คิดมาก ผมจะทำให้โบว์มีความสุขได้จริงๆหรือเปล่า?
คำถามพวกนี้ก้องอยู่ในใจผมตลอดเวลา ประกอบกับตอนที่ทะเลาะกันโบว์ชอบพูดประชดผม มันก็ยิ่งขยี้ความรู้สึกของผมเข้าไปอีก
และบางครั้งผมก็แอบคิดว่าผมเองก็เป็นคนดีขนาดนี้ เหล้าไม่กินบุหรี่สูบไม่สนใจเรื่องผู้หญิงทัศนะคติผมก็ดี
ผู้หญิงคนไหนก็ต้องการผู้ชายแบบนี้ทั้งนั้น(แม่ผมบอก) แล้วทำไมผมต้องมาทนกับผู้หญิงเจ้าอารมณ์คนนี้ด้วย
แม่ผมบอกว่าผมยังสามารถเจอคนดีๆได้อีกเยอะ ผมเก็บเอาคำพูดของแม่มาคิด ประกอบกับช่วงนั้นผมติดเพื่อน
เพื่อนผมก็พูดเหมือนที่แม่ผมบอกว่ายังไงผมกับโบว์ก็ไม่เหมาะสมกัน จากที่โบว์ห้ามผมทำนั้นทำนี้
ผมก็เริ่มทำตามสิ่งที่ผมต้องการมากขึ้น โบว์บอกว่าผมเปลี่ยนไปผมก็เถียงสู้ว่าไม่ได้เปลี่ยนไปแค่อยากมีอิสระกว่านี้
โบว์พูดมาอยู่ประโยคหนึ่งว่า "อะไรที่โบว์เยอะเกินไปเป้ไม่ชอบทำไมเป้ไม่บอกโบว์ตั้งแต่เริ่มคบกันเป้ปล่อยไว้ทำไม"
(ผมก็ไม่เคยบอกโบว์จริงๆแหละครับ) เพราะผมอยากจะเอาเวลาของผมทั้งหมดให้โบว์ อะไรที่เป็นความสุขของผมผมก็ตัดออก
ผมเป็นคนชอบดูหนังเล่นเกมส์และออกไปสังสรรตามประสาเด็กวิศวะ ผมเป็นคนตัดสินใจทำให้เธอเองโดยที่เธอไม่ได้ขอ
พอผ่านปีที่ 1 ไป ความสัมพันธ์ของเราเริ่มอยู่ตัวผมเลยปลีตัวออกจากโบว์ทำในสิ่งที่ผมอยากทำ
มันก็กลายเป็นว่าทำให้เราต้องทะเลาะกัน เพราะผมทำในสิ่งที่ผมอยากทำ (เรื่องนี้ผมผิดเองครับที่ไม่ได้คุยกันตั้งแต่แรก)
โบว์ถามผมว่า โบว์เยอะขึ้นหรอโบว์ก็ทำเหมือนเดิม เป้เองหรือเปล่าที่อยากทำอะไรมากขึ้น
โบว์ยังเป็นคนที่เป้อยากอยู่ด้วยเหมือนที่เป้เคยบอกโบว์หรือเปล่า สองคำถามนี้ทำให้ผมรู้สึกรำคาญแทนที่จะเข้าใจเธอ
กลายเป็นผมมองโบว์เป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญที่สุด แต่ผมก็ยังเป็นแฟนที่ดีให้เธอไม่คิดนอกใจเธอ
จนกระทั่งถึงงานเลี้ยงรุ่นตอนช่วงเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ผมบอกโบว์ว่ายังไงผมก็จะไป โบว์จะห้ามผมไม่ได้แล้วนะ
โบว์ขอร้องผมว่าไม่ไปได้ไหม เพราะโบว์ไม่อยากให้ผมไปเจอกับมินต์ โบว์บอกว่าค่อยไปปีหน้าด้วยกันเธอจะลางานแล้วไปด้วย
แต่ผมก็ยืนยันว่าผมจะไป โบว์ร้องไห้ขอร้องผม กอดผมพูดอยู่ซ้ำๆว่าไม่ไปได้ไหม ตอนนั้นยิ่งโบว์ขอร้อง ผมยิ่งจะไปให้ได้
เหมือนผมต้องการเอาชนะเธอ แล้วสุดท้ายผมก็ชนะจริงๆครับ และการเอาชนะโบว์ครั้งนั้นมันทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป....
ต่อหน้าสองนะครับ ข้อความมันยาวกลัวพิมพ์ไม่พอครับ
[ประสบการณ์ชีวิต] ผมเสียผู้หญิงที่รักผมสุดหัวใจไปเพราะผมกลับไปหวั่นไหวกับรักแรกตอนม.ปลาย
ผมอยากให้คุณลองคิดทบทวนดูดีๆ ว่าใครที่คุณอยู่ด้วยแล้วสามารถเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดโดยที่เราไม่ต้องฝืนอะไร
ใครที่สามารถเป็นได้ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้อง เป็นได้แม้กระทั่งคนบ้าเพื่อทำให้เรายิ้ม หรือบางครั้งก็เป็นเหมือนพ่อแม่ของเรา
ผมอยากให้คุณรักษาคนๆนั้นไว้ครับ แล้วคุณจะไม่มีวันเสียใจ ไหนๆก็อ่านถึงตรงนี้แล้วยังไงก็ขอให้อ่านให้จบนะครับ
เรื่องของผมอาจจะยาวหน่อยเนาะ มี 3 หน้าด้วยกัน ....
สวัสดีครับผมชื่อเป้เป็นคนสมุทรปราการมีอาชีพเป็นวิศวกรต๊อกต๋อยทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ส่วนแฟนผมชื่อโบว์เธอเป็นคนสุราษธานี เราสองคนเจอกันตอนผมไปเทสงานที่ชลบุรี โบว์เป็นQCประจำแผนกที่ผมไปเทสงานครับ
โบว์เป็นคนนิสัยห้าวๆเหมือนผู้ชายตลกขี้เล่นกวนตีนพอหยอกกันไปหยอกกันมา ผมดันไปชอบโบว์เข้า เลยขอจีบซะเลย
และเรื่องมันก็เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ผมขึ้นสถานะคบกับโบว์ในเฟส จากนั้นผู้หญิงที่เป็นรักแรกของผมตอนม.ปลายเธอชื่อมินต์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ อยู่ๆเธอก็มาปรากฏตัวขึ้นทั้งๆที่ผมกับเธอไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่วันนั้น
เธอเข้ามาแสดงความยินดีกับผม แล้วหลังจากนั้นเธอก็ตามกดไลค์รูปผมกับโบว์ มาคอมเม้นโพสผมบ้าง แท็กข้อความมาหาผมบ้าง
ผมกับโบว์ต้องทะเลาะกันเรื่องของมินต์อยู่บ่อยๆ โบว์บอกว่ามันผิดปกติที่อยู่ๆมินต์จะเข้ามาสนิทกับผมตอนนี้เหมือนมินต์จะมาหวงก้าง
ผมก็เถียงโบว์ไปว่าโบว์คิดมากไปเอง (ตอนนั้นผมเองก็แอบหงุดหงิดแอบนึกอยู่ในใจว่าโบว์เริ่มจะเยอะงี่เง่าขี้ระแวงคิดมากน่ารำคาญฯลฯ)
ความคิดในแง่ลบของผมที่มีต่อโบว์ยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ แต่กลับกันผมดันไปคิดปกป้องมินต์ ผมคิดว่ามินต์ไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย
ช่วงนั้นผมก็ยอมรับนะว่าผมแอบไปส่องเฟสมินต์บ้างบางครั้งแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะผมก็มีโบว์อยู่แล้ว
ผมกับโบว์คบกันได้ 2 ปี เจอกันเดือนละครั้ง-สองครั้ง คุยโทรศัพท์ก็ทะเลาะกันบอกเลิกกันเกือบทุกวันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
ระหองระแหงกันมา มีอยู่วันหนึ่งผมเริ่มหงุดหงิดทนไม่ได้เลยพูดออกไปว่าถ้าทะเลาะกันแบบนี้ เราสองคนคงได้หยุดอยู่แค่นี้แหละ
โบว์ตอบกลับมาว่า เอ่อ คำเดียวแล้วก็วางสายไป จากนั้นเธอก็ไม่ติดต่อผมเลยตลอด 3 อาทิตย์ ปิดเฟสบล๊อกทุกอย่าง
จนสุดท้ายแล้วผมต้องเอาเบอร์เพื่อนโทรไปง้อโบว์กลับมา หลังจากวันนั้นรักของเราสองคนก็ดีขึ้นในระดับหนึ่ง
โบว์จึงตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่ชลบุรีในตำแหน่งหัวหน้าQCมาทำงานที่สมุทรปาการในตำแหน่งพนักงานในไลน์
ผมรู้สึกโชคดีมากที่ผมได้เจอผู้หญิงดีๆผู้หญิงคนหนึ่งที่ยอมเสียสละประโยชน์ของตัวเองเพื่อผมได้ขนาดนี้
ถ้าถามว่าทำไมผมไม่เป็นฝ่ายไปทำงานที่ชลบุรี เพราะผมพึ่งจะเสียพ่อไปเมื่อตอนคบกับมินต์ได้ 4 เดือน
ตอนนี้ผมเหลือแค่แม่และพี่ชายที่พิการเพราะเกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับ ผมเลยทิ้งพวกเขาไปทำงานไกลไม่ได้ครับ
โบว์ต้องอยู่หอพักซึ่งผมก็ไม่สามารถไปอยู่ดูแลโบว์ใกล้ๆได้เช่นเคย เพราะต้องกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวทุกวัน
จนผมรู้สึกว่าตัวผมเองเป็นต้นเหตุทำให้โบว์ลำบากหรือเปล่า ไหนจะเรื่องที่ผมไม่ได้เรื่องไม่เอาไหนทำผิดในเรื่องเดิมๆ
จนทำให้เราต้องทะเลาะกัน ไหนจะเรื่องมินต์ที่เข้ามาทำให้โบว์คิดมาก ผมจะทำให้โบว์มีความสุขได้จริงๆหรือเปล่า?
คำถามพวกนี้ก้องอยู่ในใจผมตลอดเวลา ประกอบกับตอนที่ทะเลาะกันโบว์ชอบพูดประชดผม มันก็ยิ่งขยี้ความรู้สึกของผมเข้าไปอีก
และบางครั้งผมก็แอบคิดว่าผมเองก็เป็นคนดีขนาดนี้ เหล้าไม่กินบุหรี่สูบไม่สนใจเรื่องผู้หญิงทัศนะคติผมก็ดี
ผู้หญิงคนไหนก็ต้องการผู้ชายแบบนี้ทั้งนั้น(แม่ผมบอก) แล้วทำไมผมต้องมาทนกับผู้หญิงเจ้าอารมณ์คนนี้ด้วย
แม่ผมบอกว่าผมยังสามารถเจอคนดีๆได้อีกเยอะ ผมเก็บเอาคำพูดของแม่มาคิด ประกอบกับช่วงนั้นผมติดเพื่อน
เพื่อนผมก็พูดเหมือนที่แม่ผมบอกว่ายังไงผมกับโบว์ก็ไม่เหมาะสมกัน จากที่โบว์ห้ามผมทำนั้นทำนี้
ผมก็เริ่มทำตามสิ่งที่ผมต้องการมากขึ้น โบว์บอกว่าผมเปลี่ยนไปผมก็เถียงสู้ว่าไม่ได้เปลี่ยนไปแค่อยากมีอิสระกว่านี้
โบว์พูดมาอยู่ประโยคหนึ่งว่า "อะไรที่โบว์เยอะเกินไปเป้ไม่ชอบทำไมเป้ไม่บอกโบว์ตั้งแต่เริ่มคบกันเป้ปล่อยไว้ทำไม"
(ผมก็ไม่เคยบอกโบว์จริงๆแหละครับ) เพราะผมอยากจะเอาเวลาของผมทั้งหมดให้โบว์ อะไรที่เป็นความสุขของผมผมก็ตัดออก
ผมเป็นคนชอบดูหนังเล่นเกมส์และออกไปสังสรรตามประสาเด็กวิศวะ ผมเป็นคนตัดสินใจทำให้เธอเองโดยที่เธอไม่ได้ขอ
พอผ่านปีที่ 1 ไป ความสัมพันธ์ของเราเริ่มอยู่ตัวผมเลยปลีตัวออกจากโบว์ทำในสิ่งที่ผมอยากทำ
มันก็กลายเป็นว่าทำให้เราต้องทะเลาะกัน เพราะผมทำในสิ่งที่ผมอยากทำ (เรื่องนี้ผมผิดเองครับที่ไม่ได้คุยกันตั้งแต่แรก)
โบว์ถามผมว่า โบว์เยอะขึ้นหรอโบว์ก็ทำเหมือนเดิม เป้เองหรือเปล่าที่อยากทำอะไรมากขึ้น
โบว์ยังเป็นคนที่เป้อยากอยู่ด้วยเหมือนที่เป้เคยบอกโบว์หรือเปล่า สองคำถามนี้ทำให้ผมรู้สึกรำคาญแทนที่จะเข้าใจเธอ
กลายเป็นผมมองโบว์เป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญที่สุด แต่ผมก็ยังเป็นแฟนที่ดีให้เธอไม่คิดนอกใจเธอ
จนกระทั่งถึงงานเลี้ยงรุ่นตอนช่วงเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ผมบอกโบว์ว่ายังไงผมก็จะไป โบว์จะห้ามผมไม่ได้แล้วนะ
โบว์ขอร้องผมว่าไม่ไปได้ไหม เพราะโบว์ไม่อยากให้ผมไปเจอกับมินต์ โบว์บอกว่าค่อยไปปีหน้าด้วยกันเธอจะลางานแล้วไปด้วย
แต่ผมก็ยืนยันว่าผมจะไป โบว์ร้องไห้ขอร้องผม กอดผมพูดอยู่ซ้ำๆว่าไม่ไปได้ไหม ตอนนั้นยิ่งโบว์ขอร้อง ผมยิ่งจะไปให้ได้
เหมือนผมต้องการเอาชนะเธอ แล้วสุดท้ายผมก็ชนะจริงๆครับ และการเอาชนะโบว์ครั้งนั้นมันทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป....
ต่อหน้าสองนะครับ ข้อความมันยาวกลัวพิมพ์ไม่พอครับ