มือใหม่หัดรีวิว ขออภัยหากผิดพลาดนะคะ
เนื่องจากเพิ่งกลับจากทริปประทับใจ ประเทศไทย ณ เกาะหลีเป๊ะ เลยมีความอยากอวด อยากแชร์ประสบการณ์ค่ะ
หลายครั้งที่เดินทางท่องเที่ยว แล้วก็ไม่ได้แบ่งปันประสบการณ์ แอบมาหาข้อมูลจากคนอื่นในพันทิป อย่างเดียว รู้สึกผิดนิดหน่อยค่ะ
คราวนี้ขอแบ่งปันบางนะคะ
ทริปนี้เกิดจากความโหยหาทะเลของตัวเอง และอยากพาครอบครัวไปเที่ยวช่วงปิดเทอมของลูกชายและหลานชาย เป็นช่วงที่ดูจะสบายๆ
และเหมาะที่สุดค่ะ ประกอบกับได้ดูรีวิวของคนที่ไปเที่ยวหลีเป๊ะ และประสบการณ์ตรงของคนรู้จัก เลยต้องจัด!!
เราเลือกจองตั๋วไว้ตั้งแต่เดือน 10 ปีที่แล้ว ตั๋วแอร์เอเซีย ราคาพันต้นๆ สำหรับสมาชิก 8 คนค่ะ
ก่อนจองตั๋วก็วางแผนสั้นๆ เหมือนทัวร์ทั่วๆไป แต่สุดท้ายคิดว่าคงจะเหนื่อยไปสำหรับคนสูงอายุ และเด็ก
ทริปนี้เลยกลายเป็นทริป ชิวๆ ฟินๆ 5 วัน 4 คืน ยาวๆ ไปค่ะ
เดินทางวันที่ 16 มีนาคม 2560 DMK 12:10-HDY 13.35 เรานั่งรถไปนอนเล่นปากบารา 1 คืน เพื่อความสดชื่นของร่างกาย
พอถึงที่พัก พรอารีย์ ตอน 4 โมงเย็น นอนเล่นฟินๆ นั่งมองทะเลจากม้าหินหลังห้องพัก เป็นอะไรที่รู้สึกว่าได้พักผ่อนจริงๆ
เด็กๆ ก็ไม่รีรอ ที่จะลงไปไล่จับปูลม เล่นทราย (ทรายไม่สวย แถมมีขยะ) แต่ก็สนุกดีค่ะ
รูปูลม เพียบเลย
เช้าวันที่ 17 มีนาคม 2560 ขึ้นเรือสปีดโบ๊ท รอบ 9.30 เราซื้อตั๋วผ่านอาดังซีทัวร์ เรือพลอยสยาม
จากที่พักพรอารีย์ อาดังซีทัวร์ท่าเรือปากบารา มีรถกระบะ มารับให้ด้วย
เนื่องจากระดับน้ำสูง เรือสปีดโบ๊ทก็เลยเข้าจอดได้ที่หาดพัทยา น้ำใสปิ๊งๆ สวยจริงๆ แต่หาดพัทยาคนมากมายดู พัทยาจริงๆ
ลงจากเรือ ก็จ่ายค่าอุทยาน 40 บาทต่อคน (เก็บบัตรไว้ด้วยนะจ้ะ ใช้ได้เรื่อยๆ ในวันดำน้ำ)
เราต้องเดินขนสมบัติ และน้ำดื่ม ที่ซื้อมาจากบนฝั่งไปที่ถนนคนเดิน เพื่อรอรถของวาปี รีสอร์ต มารับ
เห็นคนขับแล้ว ชอบใจสุดๆ ค่ะ
วาปีรีสอร์ท อยู่หาดซันไรซ์ เป็นหาดที่เงียบสงบ น้ำใส สวยถูกใจจริงๆ ค่ะ
เราได้ห้อง Family หน้าหาด 2 เตียงใหญ่ มองเห็นวิวทะเล มีต้นไม้บังๆ หน่อยค่ะ
มีเวลาช่วงบ่ายอยู่เยอะเลยไปอุดหนุนร้านนวดริมหาดของที่พัก ชั่วโมงละ 300 สำหรับนวดไทย นอนนวดสบาย ฟังเสียงคลื่น ชีวิตดี๊ดี
หลังจากนวดเสร็จที่วาปีมีจักรยานให้ยืม พวกเราก็เอาไปปั่นเล่น 4 คันว่าจะไปดูวิว ที่ Mountain แต่พ่อแม่ ปั่นขึ้นเข้าไม่ไหว
สรุปกลับมายืมหน้ากากที่ วาปี แล้ว ดำน้ำหน้าหาดแทนค่ะ
1 วันหมดไปอย่างรวดเร็ว อยากให้นาฬิกาตาย จะได้มีเวลาฟิน นานๆ หน่อยค่ะ คืนนั้นเดินหาของกิน สรุปได้ร้านอาหารหน้าซอย แต่จำชื่อไม่ได้ค่ะ จ่ายาวหรือป่าวไม่แน่นใจ แต่ที่แน่ๆ ได้กินปลาเก๋า ขนาด 2.8 กิโล เอาไปทำกับข้าว 3 อย่าง หม้อไฟ ผัดพริกไทยดำ ราดซีอิ๊ว ในราคา 840 บาท + กุ้งลายเสือ และอื่นๆ อีกมากมาย ค่าเสียหาย 2 พันกว่าบาท หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ไปเดินเล่นถนนคนเดิน กินโรตี ชาชัก และอื่นๆ จนเดินกลับที่พักแทบไม่ไหว
ถึงเวลาต้องนอนพักผ่อน เก็บแรงไปดำน้ำกันในวันรุ่งขึ้นแล้วค่ะ โซนนอก และ โซนใน ใช้บริการ บังจิ 086-965-1425
วันที่ 18 มีนาคม 2560 วันดำน้ำ โซนนอกและโซนใน BY บังจิ
นัดเจอกันตอน 9 โมงเช้า หน้าหาดเลยค่ะ ตอนแรกก็คิดอยู่ว่า น้ำจะใสหรือป่าว เพราะเมื่อคืนฝนตก ฟ้าร้องทั้งคืน แต่พอเช้ามาฟ้าก็สว่างๆ แบบมีเมฆเล็กน้อย ค่อยเบาใจหน่อย
ว่าด้วยบริการของบังจิ ขอบอกเลยว่าแจ่มมากๆ ดูแลครอบครัวเราเป็นอย่างดี สอนแม่ให้หัดใช้หน้ากากดำน้ำจนเป็น แล้วก็ลากห่วงยางพาไปดูปะการังในจุดที่สวยๆ ครั้งแรกที่พาแม่ไปดำน้ำแล้วแม่ได้เห็นปะการัง ไม่งั้น she ต้องรออยู่ในเรือตลอดๆ ขอขอบคุณบังจิ จริงๆ ที่เป็นธุระให้ ยังไม่พอมีบริการเสริมถ่ายรูปใต้น้ำให้ด้วย น่ารักจริงๆ
ดำน้ำกันตั้งแต่โซนนอก ยันโซนใน ร่างแทบแหลก ออกจากหาด 9 โมงนิดๆ กลับถึงหาดหน้ารีสอร์ท 6 โมงครึ่ง เป็นสุดยอดของการดำน้ำสำหรับครอบครัวเราจริงๆ แต่ละเกาะก็มีไฮไลท์ ต่างๆ กัน เที่ยวเมืองไทยสุขใจจริงๆ
เกาะรอกลอย
อ่าวลิง
เกาะผึ้งเล็ก
เกาะผึ้งใหญ่
หินซ้อน
หินงาม
แวะกินข้าวที่เกาะดงเจอปูเสฉวนเยอะมาก น่ารักจริงๆ
สำหรับวันนี้สุดๆ ไปเลย ทะเลไทยสวยจริงๆ อย่าลืมช่วยกันดูแลธรรมชาติให้ลูกหลานได้เชยชมกันนะคะ
พระอาทิตย์ตกที่หาดซันเซท
วันที่ 19 มีนาคม 2560 หมดเวลาสนุกที่หลีเป๊ะแล้ว อยากอยู่ต่ออีกสัก 2-3 วันจังเลย
ขึ้นเรือกลับรอบ 9.30 ที่หาดพัทยา ซึ่งทางรีสอร์ทวาปี บริการส่งให้ถึงจุด check in เรือเลยทีเดียว ณ หาดพัทยามีแต่ความวุ่นวาย
ถึงท่าเรือปากบารา ไปต่อกันที่ถ้ำภูผาเพชร ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ถ้ำผูภาเพชรเป็นถ้ำที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย และเป็นอันดับ 4 ของโลก มีหินงอก หินย้อย รูปร่างหน้าตาสวยงาม เดินขึ้นบันไดประมาณ 3 ร้อยกว่าขั้นกว่าจะถึงปากทางเข้าถ้ำ จากทริปฟินๆ กลายเป็นทริปทรมานคนแก่ กันเลยทีเดียว ภายในถ้ำมีทางเดินไม้เป็นระดับ การเข้าไปชมถ้ำนั้น ต้องมีไกด์นำทางค่ะ ใช้เวลาในถ้ำอีก 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
มุดรูเข้าถ้ำ
รูปภาพที่ลง ใช้กล้องมือถือซึ่งไม่สามารถเก็บภาพสวยงามมาให้ชมได้ค่ะ
สำหรับวันนี้ออกจาก ถ้ำภูผาเพชร เราก็ไปต่อกันที่หาดใหญ่ พัก 1 คืน ที่ P residence
รอกลับเครื่องตอน 12.25 ในวันรุ่งขึ้น เสียดายน่าจะจองไฟท์ที่ออกสักบ่ายๆ จะได้มีเวลาเดินเล่น ตลาดกิมหยง เพิ่มอีกนิด
ก่อนกลับแวะกิน โชคดีติ่มซำ อร่อยสมคำล่ำลือจริงๆ
[CR] หลีเป๊ะ เป๊ะเว่อร์ + ถ้ำภูผาเพชร
เนื่องจากเพิ่งกลับจากทริปประทับใจ ประเทศไทย ณ เกาะหลีเป๊ะ เลยมีความอยากอวด อยากแชร์ประสบการณ์ค่ะ
หลายครั้งที่เดินทางท่องเที่ยว แล้วก็ไม่ได้แบ่งปันประสบการณ์ แอบมาหาข้อมูลจากคนอื่นในพันทิป อย่างเดียว รู้สึกผิดนิดหน่อยค่ะ
คราวนี้ขอแบ่งปันบางนะคะ
ทริปนี้เกิดจากความโหยหาทะเลของตัวเอง และอยากพาครอบครัวไปเที่ยวช่วงปิดเทอมของลูกชายและหลานชาย เป็นช่วงที่ดูจะสบายๆ
และเหมาะที่สุดค่ะ ประกอบกับได้ดูรีวิวของคนที่ไปเที่ยวหลีเป๊ะ และประสบการณ์ตรงของคนรู้จัก เลยต้องจัด!!
เราเลือกจองตั๋วไว้ตั้งแต่เดือน 10 ปีที่แล้ว ตั๋วแอร์เอเซีย ราคาพันต้นๆ สำหรับสมาชิก 8 คนค่ะ
ก่อนจองตั๋วก็วางแผนสั้นๆ เหมือนทัวร์ทั่วๆไป แต่สุดท้ายคิดว่าคงจะเหนื่อยไปสำหรับคนสูงอายุ และเด็ก
ทริปนี้เลยกลายเป็นทริป ชิวๆ ฟินๆ 5 วัน 4 คืน ยาวๆ ไปค่ะ
เดินทางวันที่ 16 มีนาคม 2560 DMK 12:10-HDY 13.35 เรานั่งรถไปนอนเล่นปากบารา 1 คืน เพื่อความสดชื่นของร่างกาย
พอถึงที่พัก พรอารีย์ ตอน 4 โมงเย็น นอนเล่นฟินๆ นั่งมองทะเลจากม้าหินหลังห้องพัก เป็นอะไรที่รู้สึกว่าได้พักผ่อนจริงๆ
เด็กๆ ก็ไม่รีรอ ที่จะลงไปไล่จับปูลม เล่นทราย (ทรายไม่สวย แถมมีขยะ) แต่ก็สนุกดีค่ะ
รูปูลม เพียบเลย
เช้าวันที่ 17 มีนาคม 2560 ขึ้นเรือสปีดโบ๊ท รอบ 9.30 เราซื้อตั๋วผ่านอาดังซีทัวร์ เรือพลอยสยาม
จากที่พักพรอารีย์ อาดังซีทัวร์ท่าเรือปากบารา มีรถกระบะ มารับให้ด้วย
เนื่องจากระดับน้ำสูง เรือสปีดโบ๊ทก็เลยเข้าจอดได้ที่หาดพัทยา น้ำใสปิ๊งๆ สวยจริงๆ แต่หาดพัทยาคนมากมายดู พัทยาจริงๆ
ลงจากเรือ ก็จ่ายค่าอุทยาน 40 บาทต่อคน (เก็บบัตรไว้ด้วยนะจ้ะ ใช้ได้เรื่อยๆ ในวันดำน้ำ)
เราต้องเดินขนสมบัติ และน้ำดื่ม ที่ซื้อมาจากบนฝั่งไปที่ถนนคนเดิน เพื่อรอรถของวาปี รีสอร์ต มารับ
เห็นคนขับแล้ว ชอบใจสุดๆ ค่ะ
วาปีรีสอร์ท อยู่หาดซันไรซ์ เป็นหาดที่เงียบสงบ น้ำใส สวยถูกใจจริงๆ ค่ะ
เราได้ห้อง Family หน้าหาด 2 เตียงใหญ่ มองเห็นวิวทะเล มีต้นไม้บังๆ หน่อยค่ะ
มีเวลาช่วงบ่ายอยู่เยอะเลยไปอุดหนุนร้านนวดริมหาดของที่พัก ชั่วโมงละ 300 สำหรับนวดไทย นอนนวดสบาย ฟังเสียงคลื่น ชีวิตดี๊ดี
หลังจากนวดเสร็จที่วาปีมีจักรยานให้ยืม พวกเราก็เอาไปปั่นเล่น 4 คันว่าจะไปดูวิว ที่ Mountain แต่พ่อแม่ ปั่นขึ้นเข้าไม่ไหว
สรุปกลับมายืมหน้ากากที่ วาปี แล้ว ดำน้ำหน้าหาดแทนค่ะ
1 วันหมดไปอย่างรวดเร็ว อยากให้นาฬิกาตาย จะได้มีเวลาฟิน นานๆ หน่อยค่ะ คืนนั้นเดินหาของกิน สรุปได้ร้านอาหารหน้าซอย แต่จำชื่อไม่ได้ค่ะ จ่ายาวหรือป่าวไม่แน่นใจ แต่ที่แน่ๆ ได้กินปลาเก๋า ขนาด 2.8 กิโล เอาไปทำกับข้าว 3 อย่าง หม้อไฟ ผัดพริกไทยดำ ราดซีอิ๊ว ในราคา 840 บาท + กุ้งลายเสือ และอื่นๆ อีกมากมาย ค่าเสียหาย 2 พันกว่าบาท หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ไปเดินเล่นถนนคนเดิน กินโรตี ชาชัก และอื่นๆ จนเดินกลับที่พักแทบไม่ไหว
ถึงเวลาต้องนอนพักผ่อน เก็บแรงไปดำน้ำกันในวันรุ่งขึ้นแล้วค่ะ โซนนอก และ โซนใน ใช้บริการ บังจิ 086-965-1425
วันที่ 18 มีนาคม 2560 วันดำน้ำ โซนนอกและโซนใน BY บังจิ
นัดเจอกันตอน 9 โมงเช้า หน้าหาดเลยค่ะ ตอนแรกก็คิดอยู่ว่า น้ำจะใสหรือป่าว เพราะเมื่อคืนฝนตก ฟ้าร้องทั้งคืน แต่พอเช้ามาฟ้าก็สว่างๆ แบบมีเมฆเล็กน้อย ค่อยเบาใจหน่อย
ว่าด้วยบริการของบังจิ ขอบอกเลยว่าแจ่มมากๆ ดูแลครอบครัวเราเป็นอย่างดี สอนแม่ให้หัดใช้หน้ากากดำน้ำจนเป็น แล้วก็ลากห่วงยางพาไปดูปะการังในจุดที่สวยๆ ครั้งแรกที่พาแม่ไปดำน้ำแล้วแม่ได้เห็นปะการัง ไม่งั้น she ต้องรออยู่ในเรือตลอดๆ ขอขอบคุณบังจิ จริงๆ ที่เป็นธุระให้ ยังไม่พอมีบริการเสริมถ่ายรูปใต้น้ำให้ด้วย น่ารักจริงๆ
ดำน้ำกันตั้งแต่โซนนอก ยันโซนใน ร่างแทบแหลก ออกจากหาด 9 โมงนิดๆ กลับถึงหาดหน้ารีสอร์ท 6 โมงครึ่ง เป็นสุดยอดของการดำน้ำสำหรับครอบครัวเราจริงๆ แต่ละเกาะก็มีไฮไลท์ ต่างๆ กัน เที่ยวเมืองไทยสุขใจจริงๆ
เกาะรอกลอย
อ่าวลิง
เกาะผึ้งเล็ก
เกาะผึ้งใหญ่
หินซ้อน
หินงาม
แวะกินข้าวที่เกาะดงเจอปูเสฉวนเยอะมาก น่ารักจริงๆ
สำหรับวันนี้สุดๆ ไปเลย ทะเลไทยสวยจริงๆ อย่าลืมช่วยกันดูแลธรรมชาติให้ลูกหลานได้เชยชมกันนะคะ
พระอาทิตย์ตกที่หาดซันเซท
วันที่ 19 มีนาคม 2560 หมดเวลาสนุกที่หลีเป๊ะแล้ว อยากอยู่ต่ออีกสัก 2-3 วันจังเลย
ขึ้นเรือกลับรอบ 9.30 ที่หาดพัทยา ซึ่งทางรีสอร์ทวาปี บริการส่งให้ถึงจุด check in เรือเลยทีเดียว ณ หาดพัทยามีแต่ความวุ่นวาย
ถึงท่าเรือปากบารา ไปต่อกันที่ถ้ำภูผาเพชร ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ถ้ำผูภาเพชรเป็นถ้ำที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย และเป็นอันดับ 4 ของโลก มีหินงอก หินย้อย รูปร่างหน้าตาสวยงาม เดินขึ้นบันไดประมาณ 3 ร้อยกว่าขั้นกว่าจะถึงปากทางเข้าถ้ำ จากทริปฟินๆ กลายเป็นทริปทรมานคนแก่ กันเลยทีเดียว ภายในถ้ำมีทางเดินไม้เป็นระดับ การเข้าไปชมถ้ำนั้น ต้องมีไกด์นำทางค่ะ ใช้เวลาในถ้ำอีก 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
มุดรูเข้าถ้ำ
รูปภาพที่ลง ใช้กล้องมือถือซึ่งไม่สามารถเก็บภาพสวยงามมาให้ชมได้ค่ะ
สำหรับวันนี้ออกจาก ถ้ำภูผาเพชร เราก็ไปต่อกันที่หาดใหญ่ พัก 1 คืน ที่ P residence
รอกลับเครื่องตอน 12.25 ในวันรุ่งขึ้น เสียดายน่าจะจองไฟท์ที่ออกสักบ่ายๆ จะได้มีเวลาเดินเล่น ตลาดกิมหยง เพิ่มอีกนิด
ก่อนกลับแวะกิน โชคดีติ่มซำ อร่อยสมคำล่ำลือจริงๆ