มาถึงวันสุดท้ายใน Okinawa แล้วค่ะ ขออภัยที่หายไปหลายวันนะคะ
พอดีไปทำงานที่ต่างจังหวัดเพิ่งกลับมาค่ะ จะรีบรีวิวให้เสร็จเพราะสัปดาห์หน้าจะไปเที่ยวไต้หวันค่ะ จะดองกระทู้ไม่ได้ 555+
เราพักที่ Spice motel อยู่กลางๆเกาะโอกินาว่าค่ะ เป็นโรงแรมวัยรุ่นชิคๆ ติสๆหน่อยค่ะ


ตอนเช้าจะมีกาแฟ และ Okinawa donut ให้ทานฟรีด้วยค่ะ
แต่ไม่อร่อยเลยสำหรับเรา เมื่อวานลองกินแล้ว วันนี้ให้ฟรีก็ไม่กิน 555+



ที่โรงแรมจะมีห้อง Lobby เก๋ๆๆให้นั่งเล่นได้ค่ะ จะมีเบอชัวของร้านอาหารเก๋ๆละแวกนี้วางอยู่ให้ลองศึกษาได้ค่ะ



ด้านบนเป็นห้องพักแบบ 2 คนนะคะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด ส่วนห้องเราอยู่ชั้นล่าง มีโรงจอดรถเป็นของตัวเอง ขนของสะดวกมากเลยค่ะ



ด้านบนนั่งชมวิวได้ด้วย

เรากับเพื่อนก็เชคเอ้าท์จากโรงแล้ว แล้วเดินทางต่อไป Okinawa world ทางตอนใต้ ใช้เวลาขับรถประมาณ 40 นาทีค่ะ
ไปถึงฝนตกค่อนข้างหนักเลยค่ะ หนาวเข้าไปอีก

บัตรเข้า Okinawa world เราซื้อไว้แล้วที่บริษัทรถเช่าค่ะ จาก 1250 เหลือ 1120 yen
เนื่องจากฝนตกก็เลยเดินชมถ้ำก่อนเลยค่ะ

กว่าจะเดินชมถ้ำเสร็จใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ
หลังจากนั้นออกมาข้างนอกฝนตกหนักกว่าเดิมอีกค่ะ เสียใจแปป
ก็เลยเดินชมร้านขายแก้วริวกิวค่ะ และมีโซนที่ทำแก้วจริงๆให้ดูด้วยค่ะ

ชอบตัวนี้ค่ะน่ารักดี

มีกล้องให้มองแก้วด้วยค่ะ แต่เราถ่ายรูปมาไม่ค่อยสวยเลย 555+


ฝนก็ยังไม่หยุดตก เดินเที่ยวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ค่ะลมแรงด้วย




เดินมาสักพักก็เริ่มหิวค่ะ กินเป็นมื้อเช้าประมาณ 11 โมงค่ะ
ร้านอาหารที่นี่ราคาไม่แพงค่ะ [ยกเว้นมะพร้าวลูกละ 1,000 yen] ก็เลยกิน Okinawa soba อีก

รสชาติก็เหมือนกับร้านที่กินวันที่ 3 เลยค่ะ ส่วนตัวเฉยๆนะคะ เราอาจจะชอบกินพวกข้าวมากกว่า


เรากินโซบะด้วย กินข้าวปั้นด้วย ข้าวปั้นอร่อยดีค่ะ ไม่รู้ปลาอะไร มันเป็นแบบดอง เค็มนิดๆ เคี้ยวหนึบๆ

ทานข้าวเสร็จก็เดินดูอะไรนิดๆหน่อย ฝนยังตกอยู่เลย



ที่ Okinawa World จะแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ราคาบัตรเข้าก็จะขึ้นอยู่กับจะเข้าส่วนไหนบ้างค่ะ
1. Kingdom Village
2. Gyokusendo Cave
3. งู ตึกในรูปด้านล่างค่ะ
เราเที่ยวแค่ 2 ส่วนก็คือ Kingdom Village และ Gyokusendo Cave ส่วนงูนี่เรากลัวก็เลยไม่ดูค่ะ

หลังจากนั้นก็กลับมาขึ้นรถค่ะ ฝนก็ยังไม่หยุดเลย เที่ยวก็ไม่สนุก เศร้าใจ
แต่ก็ว่าจะลองขับรถไป Bibi beach ที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะค่ะ
ขับรถประมาณ 25 นาที ค่ะ
ไปถึง Bibi beach เงียบมากเลย ถ้าฝนไม่ตกท่าทางคนจะเยอะมากค่ะ เพราะมีที่จอดรถกว้างมากเลย
เรากับเพื่อนก็เลยขับรถไปใกล้หน่อย แล้วถ่ายรูปกันในรถค่ะ ไม่อยากออกไปข้างนอกเลยเพราะหนาวมาก
เสียดายอ่ะ เพราะแพลนไว้ว่าจะมานั่งเล่นชายหาดกันก่อนบินกลับค่ะ

หลังจากนั้นก็แวะมาช็อปปิ้งทิ้งทวนที่ Ashibinaa Outlet ทั้งๆที่ไม่รู้จะซื้ออะไรได้อีก เพราะกระเป๋าแทบจะปิดไม่ลงอยู่แล้ว
Ashibinaa Outlet จะอยู๋ใกล้โซนบริษัทรถเช่ามากๆ Shopping ก็จะได้คืนรถสะดวกเลย
ที่นี่เป็นแหล่ง Shopping แบบ Outdoor ซึ่งฝนก็ยังคงตกปอยๆ

มีโปรโมชั่นซื้อนาฬิกาSwatch 3 เรือนในราคานาทีทอง ประมาณ 4 พันกว่าบาท ตกเรือนละ 1,4xx บาท

แล้วก็หาข้าวเที่ยงทานกัน (ได้ข่าวว่าเมื่อกี้เพิ่งกินโซบะกันมา 555+)
มื้อนี้เปลี่ยนแนวบ้างค่ะ กินอาหาร Italian ที่อยู่ใน Outlet นั่นเอง
อร่อยใช้ได้เลย ตอนแรกนึกว่าจะแพง คิดเงินมาก็ 2,314 yen ประมาณ 740 บาท ทาน 2 คนค่ะ





ตอนฃ่วงบ่ายๆก็เลยตัดสินใจเอารถไปคืนเลยดีกว่า
กะว่าจะไปงีบที่สนามบิน Naha เพราะว่าเรากับเพื่อนมีบัตร JCB สามารถเข้าเล้าจ์ได้ค่ะ จะได้สักงีบก่อนขึ้นเครื่องค่ะ
ขับรถไปคืนรถที่ OTS ค่ะ อยู่ใกล้มากๆ เลยค่ะ (Rinku-Toyosaki Main Office ของ OTS มีบริการรถ Shuttle bus ไปสนามบินค่ะ)
ก่อนคืนก็ต้องเติมน้ำมันก่อนนะคะ จะมีปั๊มน้ำมันอยู่ในโซนบริษัทรถเช่าเลยค่ะ

ทริปนี้เช่ารถ 5 วัน วิ่งไป 420 km ค่ะ
พอคืนรถเสร็จ ก็นั่ง Shuttle bus ไปสนามบินค่ะ ตอนแรกเราเลยไป LCC terminal ก่อน เพื่อว่าจะ load กระเป๋าได้เลย แต่ยังไม่ได้นะคะ
ต้องรอให้ถึงเวลาก่อนค่ะ
ก็เลยไปเล้าจ์ที่ domestic terminal โดยการนั่งรถ Shuttle bus ของสนามบินค่ะ
พอเข้าไปในเล้าจ์คือแบบคนเยอะมากกกก พอได้ที่นั่งก็พยายามจะนอนสักงีบ แต่คนไหวจริงๆ คนเดินไปเดินมาตลอดเลย

ในเล้าจ์ไม่มีของกินนะคะ จะมีแค่พวกเครื่องดื่ม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ และน้ำอัดลมค่ะ
นั่งจนถึงเย็นๆก็ไปหาอะไรทานค่ะ
แน่นอนต้องทานปลาดิบทิ้งทวน ร้านนี้ราคาแพงหน่อยเพราะอยู่ในสนามบินค่ะ
แล้วพนักงานพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลยค่ะ เลยแปลกใจนิดหน่อยเพราะอยู่ในสนามบินด้วย




ทานเสร็จก็นั่ง Shuttle bus ไป LCC terminal ค่ะ คนรอรถเยอะเลยค่ะ ให้เผื่อเวลาไว้หน่อยก็ดีค่ะ
สำหรับ Peach airline ให้ไปที่เครื่อง Kios เพื่อปริ้น Boarding pass ด้วยตัวเองก่อนนะคะ แล้วค่อยไปเข้าแถวเช็คกระเป๋าเพื่อโหลดกระเป๋าค่ะ
ุถ้าใครไม่โหลดกระเป๋าพอปริ้น Boarding pass เสร็จให้ไปต่อแถวตรวจกระเป๋า Carry on ได้เลยค่ะ
สำหรับผู้ที่ซื้อของ Tax free อย่าลืมเอาใบที่ทางร้านค้าติดไว้ให้ใน Passport หย่อยลงกล่องก่อน แล้วค่อยผ่าน ต.ม. นะคะ

LCC Terminal นี้ค่อนข้างแออัดเลยค่ะ พอผ่านต.ม.เข้าไปด้านในแล้วที่นั่งไม่พอเลยค่ะ
ตอนนั้นอาจจะมี 2 ไฟลท์ใกล้ๆกันด้วย ทำใจนิดนึง
พอได้เวลาจนท.ก็เรียกขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังจะได้ขึ้นก่อนค่ะ และอย่าลืมว่า แถว 11 และ 12 เอนเบาะไม่ได้นะคะ
และแล้วก็กลับถึงไทยโดยสวัสดิภาพ
เราเคยไปญี่ปุ่น มา 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
ในความคิดเรานะคะ Okinawa เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบชิวๆหน่อย พักผ่อนสบายๆ แบบไม่วุ่ยวายค่ะ
ถ้าชอบทะเล หรือดำน้ำดูปะการังเราว่าที่นี่ก็น่าเที่ยวค่ะ ถ้าอยากเที่ยวแบบ advance หน่อยก็ไปเกาะเล็ก ๆ ด้วยก็น่าสนใจค่ะ
ปลาดิบที่นี่ก็สดมากๆ ไม่แพงด้วย ชอบปลาหมึกมากๆเลย ไม่เหนียวเลย ในไทยหาทานสดๆยาก
ทั้งนี้เหมาะกับการเที่ยวแบบเช่ารถค่ะ เพราะแต่ละที่ค่อนข้างห่างมาก Monorail ก็มีแค่สั้นๆค่ะ
และโดยรวมสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน ที่ Okinawa ก็สามารถแพลนให้อยู่ในงบที่จำกัดได้ค่ะ
สรุปค่าใช้จ่าย เที่ยว Okinawa 5 วัน 4 คืน ก.พ. 2017 => 25,6xx บาทต่อคน

Note *ทีแรกแพลนไว้ว่าจะไปเที่ยวกัน 3 คน แต่มีเพื่อนคนนึงที่พ่อป่วยไปไม่ได้จริงๆ
ก็จะมีค่า pocket wifi ค่าโรงแรม และค่าเช่ารถ ที่ หาร 3 นะคะ*
รายละเอียดค่าใช้จ่าย 5 วัน 4 คืน
- ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 25,665 บาทต่อคนค่ะ รวมค่ากินแล้วค่ะ
ก่อนไปเราประมาณค่าใช้จ่ายไว้ที่ 25,633 บาทต่อคนค่ะ ก็เป๊ะมากๆ อิอิ
- ค่าเครื่องบิน Peach airline คนละ 9,880 บาท เราไม่ได้จองแบบ Promotion นะคะ
เราจองแบบ Happy peach plus ให้เรียกง่ายๆก็คือแบบ Flexbile ซึ่งรวมค่ากระเป๋า 1 ใบ 20 kg
และรวมเลือกที่นั่ง Pleasure seat แล้วค่ะ และสามารถเลื่อนตั๋วได้ฟรีค่ะ (โชคดีของเพื่อนก็ได้เลื่อนจริงๆค่ะ)
คือจะบอกว่าถ้าใครหาตั๋วโปรได้ถูก และไม่ซีเรียสเรื่องเลือกที่นั่ง ก็จองแบบธรรมดาก็จะดีเลยค่ะ จะประหยัดไปอีก อาจจะเหลือ 20,000 บาทต้นๆต่อคนเอง
- เราเช่ารถของ OTS แบบ Early bird ล่วงหน้า 40 วัน เลยได้ราคาที่ไม่แพงค่ะ ตอนแรกจองรถ Nissan Note ค่ะ กะเอารถที่ถูกสุดแล้ว แล้วเค้า Upgrade ให้ฟรี เป็น Toyota Fielder ค่ะ ปลื้มปลิ่มกันไป
- ค่า Pocket wifi 500 บาท ค่ะ เราซื้อประกันเพิ่มอีก 300 บาท เป็น 800 บาท
- ที่พักควรจองอยากน้อย 1 เดือน เพราะยิ่งใกล้ๆจะเต็มค่ะ จะเหลือแบบแพงมากๆไปเลย ยิ่งส.-อา.ก็จะยิ่งเต็มเร็ว

สงสัยตรงไหนสอบถามได้นะคะ
[Review] เที่ยว Okinawa วันที่ 5 Okinawa world + Gyokusendo Cave - Bibi beach - Ashibinaa Outlet [สรุปค่าใช้จ่าย]
พอดีไปทำงานที่ต่างจังหวัดเพิ่งกลับมาค่ะ จะรีบรีวิวให้เสร็จเพราะสัปดาห์หน้าจะไปเที่ยวไต้หวันค่ะ จะดองกระทู้ไม่ได้ 555+
เราพักที่ Spice motel อยู่กลางๆเกาะโอกินาว่าค่ะ เป็นโรงแรมวัยรุ่นชิคๆ ติสๆหน่อยค่ะ
ตอนเช้าจะมีกาแฟ และ Okinawa donut ให้ทานฟรีด้วยค่ะ
แต่ไม่อร่อยเลยสำหรับเรา เมื่อวานลองกินแล้ว วันนี้ให้ฟรีก็ไม่กิน 555+
ที่โรงแรมจะมีห้อง Lobby เก๋ๆๆให้นั่งเล่นได้ค่ะ จะมีเบอชัวของร้านอาหารเก๋ๆละแวกนี้วางอยู่ให้ลองศึกษาได้ค่ะ
ด้านบนเป็นห้องพักแบบ 2 คนนะคะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด ส่วนห้องเราอยู่ชั้นล่าง มีโรงจอดรถเป็นของตัวเอง ขนของสะดวกมากเลยค่ะ
เรากับเพื่อนก็เชคเอ้าท์จากโรงแล้ว แล้วเดินทางต่อไป Okinawa world ทางตอนใต้ ใช้เวลาขับรถประมาณ 40 นาทีค่ะ
ไปถึงฝนตกค่อนข้างหนักเลยค่ะ หนาวเข้าไปอีก
บัตรเข้า Okinawa world เราซื้อไว้แล้วที่บริษัทรถเช่าค่ะ จาก 1250 เหลือ 1120 yen
เนื่องจากฝนตกก็เลยเดินชมถ้ำก่อนเลยค่ะ
กว่าจะเดินชมถ้ำเสร็จใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ
หลังจากนั้นออกมาข้างนอกฝนตกหนักกว่าเดิมอีกค่ะ เสียใจแปป
ก็เลยเดินชมร้านขายแก้วริวกิวค่ะ และมีโซนที่ทำแก้วจริงๆให้ดูด้วยค่ะ
ชอบตัวนี้ค่ะน่ารักดี
มีกล้องให้มองแก้วด้วยค่ะ แต่เราถ่ายรูปมาไม่ค่อยสวยเลย 555+
ฝนก็ยังไม่หยุดตก เดินเที่ยวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ค่ะลมแรงด้วย
เดินมาสักพักก็เริ่มหิวค่ะ กินเป็นมื้อเช้าประมาณ 11 โมงค่ะ
ร้านอาหารที่นี่ราคาไม่แพงค่ะ [ยกเว้นมะพร้าวลูกละ 1,000 yen] ก็เลยกิน Okinawa soba อีก
ทานข้าวเสร็จก็เดินดูอะไรนิดๆหน่อย ฝนยังตกอยู่เลย
ที่ Okinawa World จะแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ราคาบัตรเข้าก็จะขึ้นอยู่กับจะเข้าส่วนไหนบ้างค่ะ
1. Kingdom Village
2. Gyokusendo Cave
3. งู ตึกในรูปด้านล่างค่ะ
เราเที่ยวแค่ 2 ส่วนก็คือ Kingdom Village และ Gyokusendo Cave ส่วนงูนี่เรากลัวก็เลยไม่ดูค่ะ
หลังจากนั้นก็กลับมาขึ้นรถค่ะ ฝนก็ยังไม่หยุดเลย เที่ยวก็ไม่สนุก เศร้าใจ
แต่ก็ว่าจะลองขับรถไป Bibi beach ที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะค่ะ
ขับรถประมาณ 25 นาที ค่ะ
ไปถึง Bibi beach เงียบมากเลย ถ้าฝนไม่ตกท่าทางคนจะเยอะมากค่ะ เพราะมีที่จอดรถกว้างมากเลย
เรากับเพื่อนก็เลยขับรถไปใกล้หน่อย แล้วถ่ายรูปกันในรถค่ะ ไม่อยากออกไปข้างนอกเลยเพราะหนาวมาก
เสียดายอ่ะ เพราะแพลนไว้ว่าจะมานั่งเล่นชายหาดกันก่อนบินกลับค่ะ
หลังจากนั้นก็แวะมาช็อปปิ้งทิ้งทวนที่ Ashibinaa Outlet ทั้งๆที่ไม่รู้จะซื้ออะไรได้อีก เพราะกระเป๋าแทบจะปิดไม่ลงอยู่แล้ว
Ashibinaa Outlet จะอยู๋ใกล้โซนบริษัทรถเช่ามากๆ Shopping ก็จะได้คืนรถสะดวกเลย
ที่นี่เป็นแหล่ง Shopping แบบ Outdoor ซึ่งฝนก็ยังคงตกปอยๆ
มีโปรโมชั่นซื้อนาฬิกาSwatch 3 เรือนในราคานาทีทอง ประมาณ 4 พันกว่าบาท ตกเรือนละ 1,4xx บาท
แล้วก็หาข้าวเที่ยงทานกัน (ได้ข่าวว่าเมื่อกี้เพิ่งกินโซบะกันมา 555+)
มื้อนี้เปลี่ยนแนวบ้างค่ะ กินอาหาร Italian ที่อยู่ใน Outlet นั่นเอง
อร่อยใช้ได้เลย ตอนแรกนึกว่าจะแพง คิดเงินมาก็ 2,314 yen ประมาณ 740 บาท ทาน 2 คนค่ะ
ตอนฃ่วงบ่ายๆก็เลยตัดสินใจเอารถไปคืนเลยดีกว่า
กะว่าจะไปงีบที่สนามบิน Naha เพราะว่าเรากับเพื่อนมีบัตร JCB สามารถเข้าเล้าจ์ได้ค่ะ จะได้สักงีบก่อนขึ้นเครื่องค่ะ
ขับรถไปคืนรถที่ OTS ค่ะ อยู่ใกล้มากๆ เลยค่ะ (Rinku-Toyosaki Main Office ของ OTS มีบริการรถ Shuttle bus ไปสนามบินค่ะ)
ก่อนคืนก็ต้องเติมน้ำมันก่อนนะคะ จะมีปั๊มน้ำมันอยู่ในโซนบริษัทรถเช่าเลยค่ะ
ทริปนี้เช่ารถ 5 วัน วิ่งไป 420 km ค่ะ
พอคืนรถเสร็จ ก็นั่ง Shuttle bus ไปสนามบินค่ะ ตอนแรกเราเลยไป LCC terminal ก่อน เพื่อว่าจะ load กระเป๋าได้เลย แต่ยังไม่ได้นะคะ
ต้องรอให้ถึงเวลาก่อนค่ะ
ก็เลยไปเล้าจ์ที่ domestic terminal โดยการนั่งรถ Shuttle bus ของสนามบินค่ะ
พอเข้าไปในเล้าจ์คือแบบคนเยอะมากกกก พอได้ที่นั่งก็พยายามจะนอนสักงีบ แต่คนไหวจริงๆ คนเดินไปเดินมาตลอดเลย
นั่งจนถึงเย็นๆก็ไปหาอะไรทานค่ะ
แน่นอนต้องทานปลาดิบทิ้งทวน ร้านนี้ราคาแพงหน่อยเพราะอยู่ในสนามบินค่ะ
แล้วพนักงานพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลยค่ะ เลยแปลกใจนิดหน่อยเพราะอยู่ในสนามบินด้วย
ทานเสร็จก็นั่ง Shuttle bus ไป LCC terminal ค่ะ คนรอรถเยอะเลยค่ะ ให้เผื่อเวลาไว้หน่อยก็ดีค่ะ
สำหรับ Peach airline ให้ไปที่เครื่อง Kios เพื่อปริ้น Boarding pass ด้วยตัวเองก่อนนะคะ แล้วค่อยไปเข้าแถวเช็คกระเป๋าเพื่อโหลดกระเป๋าค่ะ
ุถ้าใครไม่โหลดกระเป๋าพอปริ้น Boarding pass เสร็จให้ไปต่อแถวตรวจกระเป๋า Carry on ได้เลยค่ะ
สำหรับผู้ที่ซื้อของ Tax free อย่าลืมเอาใบที่ทางร้านค้าติดไว้ให้ใน Passport หย่อยลงกล่องก่อน แล้วค่อยผ่าน ต.ม. นะคะ
ตอนนั้นอาจจะมี 2 ไฟลท์ใกล้ๆกันด้วย ทำใจนิดนึง
พอได้เวลาจนท.ก็เรียกขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังจะได้ขึ้นก่อนค่ะ และอย่าลืมว่า แถว 11 และ 12 เอนเบาะไม่ได้นะคะ
และแล้วก็กลับถึงไทยโดยสวัสดิภาพ
เราเคยไปญี่ปุ่น มา 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
ในความคิดเรานะคะ Okinawa เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบชิวๆหน่อย พักผ่อนสบายๆ แบบไม่วุ่ยวายค่ะ
ถ้าชอบทะเล หรือดำน้ำดูปะการังเราว่าที่นี่ก็น่าเที่ยวค่ะ ถ้าอยากเที่ยวแบบ advance หน่อยก็ไปเกาะเล็ก ๆ ด้วยก็น่าสนใจค่ะ
ปลาดิบที่นี่ก็สดมากๆ ไม่แพงด้วย ชอบปลาหมึกมากๆเลย ไม่เหนียวเลย ในไทยหาทานสดๆยาก
ทั้งนี้เหมาะกับการเที่ยวแบบเช่ารถค่ะ เพราะแต่ละที่ค่อนข้างห่างมาก Monorail ก็มีแค่สั้นๆค่ะ
และโดยรวมสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน ที่ Okinawa ก็สามารถแพลนให้อยู่ในงบที่จำกัดได้ค่ะ
สรุปค่าใช้จ่าย เที่ยว Okinawa 5 วัน 4 คืน ก.พ. 2017 => 25,6xx บาทต่อคน
Note *ทีแรกแพลนไว้ว่าจะไปเที่ยวกัน 3 คน แต่มีเพื่อนคนนึงที่พ่อป่วยไปไม่ได้จริงๆ
ก็จะมีค่า pocket wifi ค่าโรงแรม และค่าเช่ารถ ที่ หาร 3 นะคะ*
รายละเอียดค่าใช้จ่าย 5 วัน 4 คืน
- ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 25,665 บาทต่อคนค่ะ รวมค่ากินแล้วค่ะ
ก่อนไปเราประมาณค่าใช้จ่ายไว้ที่ 25,633 บาทต่อคนค่ะ ก็เป๊ะมากๆ อิอิ
- ค่าเครื่องบิน Peach airline คนละ 9,880 บาท เราไม่ได้จองแบบ Promotion นะคะ
เราจองแบบ Happy peach plus ให้เรียกง่ายๆก็คือแบบ Flexbile ซึ่งรวมค่ากระเป๋า 1 ใบ 20 kg
และรวมเลือกที่นั่ง Pleasure seat แล้วค่ะ และสามารถเลื่อนตั๋วได้ฟรีค่ะ (โชคดีของเพื่อนก็ได้เลื่อนจริงๆค่ะ)
คือจะบอกว่าถ้าใครหาตั๋วโปรได้ถูก และไม่ซีเรียสเรื่องเลือกที่นั่ง ก็จองแบบธรรมดาก็จะดีเลยค่ะ จะประหยัดไปอีก อาจจะเหลือ 20,000 บาทต้นๆต่อคนเอง
- เราเช่ารถของ OTS แบบ Early bird ล่วงหน้า 40 วัน เลยได้ราคาที่ไม่แพงค่ะ ตอนแรกจองรถ Nissan Note ค่ะ กะเอารถที่ถูกสุดแล้ว แล้วเค้า Upgrade ให้ฟรี เป็น Toyota Fielder ค่ะ ปลื้มปลิ่มกันไป
- ค่า Pocket wifi 500 บาท ค่ะ เราซื้อประกันเพิ่มอีก 300 บาท เป็น 800 บาท
- ที่พักควรจองอยากน้อย 1 เดือน เพราะยิ่งใกล้ๆจะเต็มค่ะ จะเหลือแบบแพงมากๆไปเลย ยิ่งส.-อา.ก็จะยิ่งเต็มเร็ว
สงสัยตรงไหนสอบถามได้นะคะ