กระทู้นี้ตั้งขึ้นไม่ได้ต้องการให้เกิดความแตกแยก เพียงแต่อยากให้ทุกคนเข้าใจ...(ความคิดเห็นส่วนตัว)
การศึกษาไทย เป็นวัฏจักรที่เมื่อถึงจุดจุดนึง ก็จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ตัวอย่างเช่นเมื่อล่าสุด ที่มีนโยบายการยืมหนังสือเรียน ซึ่งแต่ก่อนก็เคยเป็นเช่นนี้ ฯลฯ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เนื่องจากตอนนี้มีดราม่ามากมายเกี่ยวกับการเปิดกว้างในการสมัครครูผู้ช่วย ในปี 2560 ซึ่งหลายคนหลายความคิด คนที่เรียนมาก็พูดว่า ทำแบบนี้จะให้เรียนเพื่ออะไร เรียนทำไม ในเมื่อใครๆก็สมัครและเป็นครูได้ คุณคิดไหมว่าทำไม เพราะอะไรถึงมีนโยบายแบบนี้ออกมา ในความคิดส่วนตัวผม อย่างที่กล่าวมาตอนต้น การศึกษาไทยไม่ได้พัฒนา แต่มันเป็นเพียงวัฏจักร การสอบครูก็เช่นเดียวกัน เมื่อก่อนครูทีสอนๆเราบางคนก็ไม่ได้จบครู ไม่ได้เรียนครู เพียงแต่มีความเป็นครูและมีความรู้ความสามารถ เพียงแต่ว่าเมื่อบรรจุแล้วครูเหล่านั้นก็พัฒนาตนเองให้ได้เป็นครูที่ทุกท่านได้ร่ำเรียน (สมัยนี้คงเหลือน้อยแล้ว สำหรับครูที่ไม่ได้บรรจุด้วยวุฒิครู เพราะรุ่นนั้นก็เกษียณเกือบหมดแล้ว) แล้วทำไมถึงต้องดราม่า ในเมื่อคุณก็เคยร่ำเรียนจากครูที่มิได้บรรจุด้วยวุฒิครู หรือเพราะคุณกลัวว่ามีคู่แข่งขันมาก กลัวว่าจะสอบไม่ผ่าน กลัวจะไม่ได้บรรจุอย่างที่ตั้งใจ คุณเอาเวลาคิดดราม่าเหล่านี้มาอ่านหนังสือเตรียมสอบดีกว่า คุณอย่ากลัวไปเลย ในเมื่อคุณเรียนวิชาครูมา ไม่ว่าจะเรียน 5 ปี หรือเรียน 4 ปี ต่อด้วย ป.บัณฑิต คุณมีความรู้ด้านวิชาครูมากกว่า คนที่จบ ป.ตรี แต่มิได้เรียนครูด้วยซ้ำ แต่ถ้าคุณกลัวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น เท่ากับว่าคุณก็ยอมแพ้แล้ว ผมเชื่อว่าเหตุผลที่เปิดสอบแบบนี้ก็เพราะช่วยให้ ครูอัตราจ้างต่างๆ ที่มิได้มีวุฒิครูสามารถสอบแข่งขันได้ เพราะด้วยความเป็นครู แต่อาจจะด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถเรียนครูได้ จึงทำให้ได้เรียนแค่ ป.ตรีธรรมดาๆ ผมอยู่วงการการศึกษามา 8 ปี รู้อะไรมาเยอะ ครูบางคนจบการศึกษาวิชาชีพครู แต่มิได้มีความเป็นครูก็มีเยอะ ครูบางคนไม่ได้จบการศึกษาวิชาชีพครู มีความเป็นครู แต่ไม่มีโอกาสที่จะสอบแข่งขันเหมือนคนอื่นๆ เพียงเพราะใบประกอบวิชาชีพ
สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้คนที่สอบแข่งขันทุกท่าน การแข่งขันสมัยนี้เป็นการแข่งขันกับตัวเอง ไม่ได้แข่งขันกับคนอื่น
ไม่อยากให้ดราม่าเรื่องสอบครู ปี 60 เลยครับ
การศึกษาไทย เป็นวัฏจักรที่เมื่อถึงจุดจุดนึง ก็จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ตัวอย่างเช่นเมื่อล่าสุด ที่มีนโยบายการยืมหนังสือเรียน ซึ่งแต่ก่อนก็เคยเป็นเช่นนี้ ฯลฯ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เนื่องจากตอนนี้มีดราม่ามากมายเกี่ยวกับการเปิดกว้างในการสมัครครูผู้ช่วย ในปี 2560 ซึ่งหลายคนหลายความคิด คนที่เรียนมาก็พูดว่า ทำแบบนี้จะให้เรียนเพื่ออะไร เรียนทำไม ในเมื่อใครๆก็สมัครและเป็นครูได้ คุณคิดไหมว่าทำไม เพราะอะไรถึงมีนโยบายแบบนี้ออกมา ในความคิดส่วนตัวผม อย่างที่กล่าวมาตอนต้น การศึกษาไทยไม่ได้พัฒนา แต่มันเป็นเพียงวัฏจักร การสอบครูก็เช่นเดียวกัน เมื่อก่อนครูทีสอนๆเราบางคนก็ไม่ได้จบครู ไม่ได้เรียนครู เพียงแต่มีความเป็นครูและมีความรู้ความสามารถ เพียงแต่ว่าเมื่อบรรจุแล้วครูเหล่านั้นก็พัฒนาตนเองให้ได้เป็นครูที่ทุกท่านได้ร่ำเรียน (สมัยนี้คงเหลือน้อยแล้ว สำหรับครูที่ไม่ได้บรรจุด้วยวุฒิครู เพราะรุ่นนั้นก็เกษียณเกือบหมดแล้ว) แล้วทำไมถึงต้องดราม่า ในเมื่อคุณก็เคยร่ำเรียนจากครูที่มิได้บรรจุด้วยวุฒิครู หรือเพราะคุณกลัวว่ามีคู่แข่งขันมาก กลัวว่าจะสอบไม่ผ่าน กลัวจะไม่ได้บรรจุอย่างที่ตั้งใจ คุณเอาเวลาคิดดราม่าเหล่านี้มาอ่านหนังสือเตรียมสอบดีกว่า คุณอย่ากลัวไปเลย ในเมื่อคุณเรียนวิชาครูมา ไม่ว่าจะเรียน 5 ปี หรือเรียน 4 ปี ต่อด้วย ป.บัณฑิต คุณมีความรู้ด้านวิชาครูมากกว่า คนที่จบ ป.ตรี แต่มิได้เรียนครูด้วยซ้ำ แต่ถ้าคุณกลัวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น เท่ากับว่าคุณก็ยอมแพ้แล้ว ผมเชื่อว่าเหตุผลที่เปิดสอบแบบนี้ก็เพราะช่วยให้ ครูอัตราจ้างต่างๆ ที่มิได้มีวุฒิครูสามารถสอบแข่งขันได้ เพราะด้วยความเป็นครู แต่อาจจะด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถเรียนครูได้ จึงทำให้ได้เรียนแค่ ป.ตรีธรรมดาๆ ผมอยู่วงการการศึกษามา 8 ปี รู้อะไรมาเยอะ ครูบางคนจบการศึกษาวิชาชีพครู แต่มิได้มีความเป็นครูก็มีเยอะ ครูบางคนไม่ได้จบการศึกษาวิชาชีพครู มีความเป็นครู แต่ไม่มีโอกาสที่จะสอบแข่งขันเหมือนคนอื่นๆ เพียงเพราะใบประกอบวิชาชีพ
สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้คนที่สอบแข่งขันทุกท่าน การแข่งขันสมัยนี้เป็นการแข่งขันกับตัวเอง ไม่ได้แข่งขันกับคนอื่น