สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
งานนี้ Uber ก็แถไปค่ะ เพราะก็ผิดกฎหมายจริงๆ ทำไมอูเบอไม่ให้คนขับของตัวเองไปทำใบขับขี่สาธารณะ และจดทะเบียนรถเป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง คล้ายๆ รถของบริษัทรถเช่า/รถลีมูซีนสนามบินล่ะคะ
ป.ล.เราไม่ได้บอกว่ารถแท็กซี่ดี แต่การที่แท็กซี่แย่ๆ ก็ไม่ใช่เหตุผลให้ใครเอามาเป็นข้ออ้างในการทำผิดกฎหมายค่ะ
ป.ล.เราไม่ได้บอกว่ารถแท็กซี่ดี แต่การที่แท็กซี่แย่ๆ ก็ไม่ใช่เหตุผลให้ใครเอามาเป็นข้ออ้างในการทำผิดกฎหมายค่ะ
ความคิดเห็นที่ 5
Uber ผิดกฎหมายและในหลายประเทศก็มีปัญหา คือยังผิดกฎหมายอยู่ดี และถ้ามาเจรจกันอาจจะกลายเป็นทำให้ Uber ถูกกฎหมาย ซึ่งไม่ควรทำและไม่ควรรองรับ Uber ด้วย เหมือนกับที่เคยเอามอเตอร์ไซด์รับจ้างกับรถตู้ขึ้นมาให้ถูกกฎหมายแบบนี้ไม่ควรทำเช่นกัน
ทางแก้คือขนส่งควรไปเล่นงานพวกแท๊กซี่ถูกฎหมายก่อน ล่อซื้อแมร่มเลย แล้วก็จัดระเบียบแท๊กซี่กันครั้งใหญ่ซักที ถ้าให้แท๊กซี่ในระบบมันดีได้ Uber มันจะค่อย ๆ หายไปเอง
ทางแก้คือขนส่งควรไปเล่นงานพวกแท๊กซี่ถูกฎหมายก่อน ล่อซื้อแมร่มเลย แล้วก็จัดระเบียบแท๊กซี่กันครั้งใหญ่ซักที ถ้าให้แท๊กซี่ในระบบมันดีได้ Uber มันจะค่อย ๆ หายไปเอง
ความคิดเห็นที่ 16
ก็ถ้าอ้างว่าผิดกฎหมาย ขนาดแท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร เต็มบ้านเต็มเมือง ทำไมไม่ขยันล่อซื้อจับกันบ้าง ให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น ที่จับต้องได้จริง ตัวเลข 1% ของแท็กซี่ทั้งหมด คิดเป็นกี่เปอร์เซน สำหรับมุมผู้โดยสาร โบกไม่ไป 1 คัน ไปคันที่ 2 ก็นับว่า 50% แล้วนะครับ ไม่เกิน 3 คันนี่คือโชคดีแล้ว
วันไหน รถติดโบกไปเถอะ 7 - 8 คัน ดีไม่ดี 10 คัน+ นู้น กว่าจะไป คิดเป็นกี่เปอร์เซนดี สำหรับผู้โดยสาร นั่นแหละครับ ความรู้สึกที่แท้จริง ที่คนที่จะต้องใช้บริการ
แล้วถ้าไปเจอนานๆ ที กว่าจะมาซัก1คันที่ว่าง..
ตรวจสภาพรถทุกวันนี้ ถามว่า สภาพรถผ่านมาตรฐานทุกคัน ดีจริงๆ ?
ก็หน่วยงานรัฐ ทำงานแบบนี้ สนใจแค่ถูกกฎหมาย (หลับตาข้างนึง มองไม่เห็นปัญหา) จบ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ถูกกฎหมายทั้งหมดจริงๆ
แล้วก็บอก เท่านี้ดีแล้ว
ทำไมเมืองนอก ที่ทำได้ดีกว่าบ้านเราละครับ ? ตั้ง standard แบบนั้นสิครับ คนในประเทศเขาก็ไปเห็นมากันเยอะแยะ ว่าที่ดีๆเป็นยังไง แล้วที่ไม่ดีเป็นยังไง
เราเป็นคนต่างชาติสำหรับบ้านเขา เขาก็คิดราคาตามปกติของมิเตอร์ ไม่เห็นมีปัญหาโบกไม่จอด วิ่งไกลๆจะปิดมิเตอร์ ขอราคาเหมา ไม่เห็นจะมีความรู้สึกว่า ต่างชาติมานั่งแท็กซี่ จะได้คิดราคาแพงๆ
ถามว่าหน่วยงานรัฐ จะใช้ว่ากี่สิบปีในการปรับปรุง ? คือ พอเป็นหน่วยงานรัฐ ประชาชนเขาไม่คิดว่า ระยะเป็นเดือน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรด้วยซ้ำ เพราะขนาดผ่านไปเป็นสิบๆปี ก็ยังเรื่องเดิมๆ
ถามว่า ทำอะไรกันอยู่
แต่ถ้าไปเทียบกับเอกชนสิครับ ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ให้ดีขึ้น เขาจะต้องรอทำไมครับ เวลาเป็นสิ่งมี่ค่า แต่หน่วยงานรัฐกลับมองไม่เห็น อยู่เฉยๆ พอแล้ว
ถ้าตัวเองทำได้ไม่ดี สิ่งที่ดีกว่าคือการแข่งขัน จะต้องมีการปรับตัวอย่างแน่นอน เมื่อไหร่ก็ตามเป็นการผูกขาดเรื่องเดิมๆ บางอย่างก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
วันไหน รถติดโบกไปเถอะ 7 - 8 คัน ดีไม่ดี 10 คัน+ นู้น กว่าจะไป คิดเป็นกี่เปอร์เซนดี สำหรับผู้โดยสาร นั่นแหละครับ ความรู้สึกที่แท้จริง ที่คนที่จะต้องใช้บริการ
แล้วถ้าไปเจอนานๆ ที กว่าจะมาซัก1คันที่ว่าง..
ตรวจสภาพรถทุกวันนี้ ถามว่า สภาพรถผ่านมาตรฐานทุกคัน ดีจริงๆ ?
ก็หน่วยงานรัฐ ทำงานแบบนี้ สนใจแค่ถูกกฎหมาย (หลับตาข้างนึง มองไม่เห็นปัญหา) จบ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ถูกกฎหมายทั้งหมดจริงๆ
แล้วก็บอก เท่านี้ดีแล้ว
ทำไมเมืองนอก ที่ทำได้ดีกว่าบ้านเราละครับ ? ตั้ง standard แบบนั้นสิครับ คนในประเทศเขาก็ไปเห็นมากันเยอะแยะ ว่าที่ดีๆเป็นยังไง แล้วที่ไม่ดีเป็นยังไง
เราเป็นคนต่างชาติสำหรับบ้านเขา เขาก็คิดราคาตามปกติของมิเตอร์ ไม่เห็นมีปัญหาโบกไม่จอด วิ่งไกลๆจะปิดมิเตอร์ ขอราคาเหมา ไม่เห็นจะมีความรู้สึกว่า ต่างชาติมานั่งแท็กซี่ จะได้คิดราคาแพงๆ
ถามว่าหน่วยงานรัฐ จะใช้ว่ากี่สิบปีในการปรับปรุง ? คือ พอเป็นหน่วยงานรัฐ ประชาชนเขาไม่คิดว่า ระยะเป็นเดือน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรด้วยซ้ำ เพราะขนาดผ่านไปเป็นสิบๆปี ก็ยังเรื่องเดิมๆ
ถามว่า ทำอะไรกันอยู่
แต่ถ้าไปเทียบกับเอกชนสิครับ ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ให้ดีขึ้น เขาจะต้องรอทำไมครับ เวลาเป็นสิ่งมี่ค่า แต่หน่วยงานรัฐกลับมองไม่เห็น อยู่เฉยๆ พอแล้ว
ถ้าตัวเองทำได้ไม่ดี สิ่งที่ดีกว่าคือการแข่งขัน จะต้องมีการปรับตัวอย่างแน่นอน เมื่อไหร่ก็ตามเป็นการผูกขาดเรื่องเดิมๆ บางอย่างก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ความคิดเห็นที่ 21
Uber มันคือการ share ride ไม่ใช่รถรับจ้างสาธารณะ ซึ่งมันเปลี่ยน concept การเดินทางจากอดีตเลยที่มีแค่รถส่วนตัว กับรถสาธารณะ ซึ่ง uber ไม่มีทางทำให้ถูกกฎหมายได้ ถึงแม้จะอยากทำเพราะ มันไม่ใช่รถสาธารณะ มันคือรถส่วนตัวที่มา Share กับคนอื่น
ที่รัฐควรทำคือไปปรับปรุงกฎหมายใหม่ ให้ uber ถูกกฎหมายซะ เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว กฎหมายก็ต้องปรับปรุงให้ทันสมัย เหมือนพวกกฎหมายอื่นๆ เช่น พรบ คอม
แต่ถ้ารัฐไม่เห็นด้วย ไม่อยากให้มีการแข่งขัน ต้องการปกป้องรถ taxi ในกรุงเทพ คิดว่าตัวเองสามารถคุมคุณภาพการให้บริการของรถ taxi ได้ ประชาชนน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ก็ไปแก้กฎหมายให้ uber ผิดแบบชัดเจนก็จบเรื่อง
ที่รัฐควรทำคือไปปรับปรุงกฎหมายใหม่ ให้ uber ถูกกฎหมายซะ เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว กฎหมายก็ต้องปรับปรุงให้ทันสมัย เหมือนพวกกฎหมายอื่นๆ เช่น พรบ คอม
แต่ถ้ารัฐไม่เห็นด้วย ไม่อยากให้มีการแข่งขัน ต้องการปกป้องรถ taxi ในกรุงเทพ คิดว่าตัวเองสามารถคุมคุณภาพการให้บริการของรถ taxi ได้ ประชาชนน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ก็ไปแก้กฎหมายให้ uber ผิดแบบชัดเจนก็จบเรื่อง
แสดงความคิดเห็น
รู้สึกกลืนไม่เข้า คายไม่ออก บอกไม่ถูก อนาถใจ ยังไงก็ไม่รู้ครับ กับสถานการณ์ระหว่างกระทรวงของไทยกับ Uber
ตัวแทน Uber บอกว่า "ไม่หยุด" เพราะเราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพียงแต่กฎหมายไทยไม่รองรับเอง
ทางกระทรวงก็ว่า หากไม่หยุด ก็ต้องจับปรับ
======= ต่อไปเป็นข้อคิดเห็นของผมเอง =======
จะเห็นว่า การทำงานของทางกระทรวงไม่ make sense หลายประการ
1. หากเค้าไม่ผิด จะไปขอให้เค้าหยุดให้บริการได้อย่างไร ธุรกิจเป็นเงินเป็นทองทุกวินาที คุณจะศึกษาก็ศึกษาไป ทำไมธุรกิจต้องมาหยุดรอคุณศึกษา ?
แต่หากเค้าผิด ต้องบังคับให้เค้าหยุด ไม่ใช่หนอมแน้ม ขอร้องได้มั๊ย .... หยุดเถอะนะ ผมว่ามันตลกยังไงก็ไม่รู้ ทีกับคนไทยฟันธงเอา ฟันธงเอา กับต่างชาติทำอะไรไม่ค่อยได้ ล่าสุดจะทำใบขับขี่ต้องเสียอีกเท่าไรก็ไม่รู้
2. หากผมเป็น Uber กระทรวงอ้างจะจับปรับก็ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว โดนจับปรับทีหนึ่ง Uber ไม่มีอะไรต้องเสีย คนที่เสียคือประชาชนของไทยเอง คนขับโดนปรับ ผู้โดยสารอดใช้บริการใหม่ ๆ
3. ผมคิดว่าในทางเทคนิค ทางการไทยน่าจะสามารถ Block แอปพลิเคชั่น Uber ได้ ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง (ส่วนใครจะมีเทคนิคเข้าถึงก็ปล่อยไป แต่คนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง) แต่ทางกระทรวงก็ไม่ทำ อ้างว่าเราไม่มีเจตนาจะขัดขวางเศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ sharing economy ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 (แต่การ block แบบนี้อาจมีผลข้างเคียงที่คาดไม่ถึง)
4. บริการแท็กซี่ของไทย ผมก็งงว่าทำไมไม่พัฒนาซักที กระทรวงก็น่าจะทำ App ออกมาสู้ (อย่าบอกนะว่ากำลังทำ) ให้พี่น้อง Taxi ที่ถูกกฎหมายลงทะเบียนขับรถผ่าน App ระบบมิเตอร์ก็ควรเลิกใช้เป็นหลักได้แล้ว (แต่ต้องมีไว้) ในเมื่อ App มันคำนวณเงินได้ ก็คำนวณผ่าน App ไปเลย จะได้เข้าใจตรงกันทั้งผู้โดยสารและคนขับ ส่วนเรื่องรถใหม่ รถเก่า ก็ให้ App มันบอกปีของรถด้วย ผู้โดยสารก็เลือกเอา ว่าจะเอารถเก่า รถใหม่ (หรือใครจะเรียก All Thai Taxi ก็ยังได้) รายละเอียดคนขับก็ขึ้นมาใน App นั้นแหละ ใครจะขึ้นทะเบียนขับรถผ่าน App ก็ต้องตรวจประวัติอาชญากรรมให้เรียบร้อย อาจจะบังคับให้ลงทะเบียน Prompt Pay ด้วย ผู้โดยสารจะได้เลือกเอาว่าจะจ่าย Prompt Pay หรือ เงินสด
สรุป หากกระทรวงเป็นเสมือนบริษัทเอกชน ผมว่าคงมีอะไรเปลี่ยนแปลงมาสู้กับ Uber แน่นอน (เหมือนสิ่งที่ All Thai Taxi ทำ) ไม่อยู่เฉย ๆ หรอก แต่นี่เป็นราชการ ไม่มีใครอยากทำอะไรมากมาย จะเหนื่อยไปทำไม ทำก็โดนฝ่ายหนึ่งว่า ไม่ทำก็โดนฝ่ายหนึ่งว่า งั้นไม่ต้องทำอะไรให้ทั้งสองฝ่ายว่าดีกว่า
เงินเดือนก็ได้อยู่แล้ว เดี๋ยวอีกหน่อยก็ต้องไป คนอื่นก็มาแทน
====== อันนี้ขอนอกเรื่อง ==========
ส่วนตัว เคยอ่านวิธีการคัดเลือกอาจารย์มาสอนที่ Harvard / MIT รวมถึงมหาลัยระดับโลกหลาย ๆ แห่ง
ทั้งการคัดเลือก การเตรียมการสอน และที่สำคัญคือการประเมินการสอนของนักศึกษา ล้วนส่งผลต่ออาจารย์คนนั้นอย่างมาก
โอโห้...หากนำกฎเกณฑ์แบบเค้ามาใช้ในวงการการศึกษา วงการราชการในบ้านเรา ผมว่าคงดูไม่จืดแน่ ๆ เลย
ส่วนตัวผมว่า บางทีเราต้องหาอะไรมาจูงใจให้ทางราชการทำงานให้ทันและฉับไวกว่านี้หรือเปล่าครับ ? ทำไมเอกชนเค้าขับเคลื่อนได้เต็มที่ ? บริษัทใหญ่แค่ไหน เค้าก็จัดการได้อย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว อะไรคือความต่างของราชการและเอกชน ?
Margaret Thatcher พูดถูก "อะไรก็ตามที่รัฐเป็นเจ้าของ เท่ากับไม่มีเจ้าของ"