สวัสดีค่ะ

เนื่องจากอาทิตย์ที่ผ่านมาเราไปเซี่ยงไฮ้มาค่ะ
เป็นทริปกินและทริปดิสนีย์ ไปด้วยความติ่งดิสนีย์ล้วนๆ ๕๕๕
ตอนแรกจะมาเขียนรีพอร์ท Shanghai Disneyland แต่ก็เห็นมีหลายกระทู้แล้วเดี๋ยวจะซ้ำๆเดิมๆ
จึงมาเขียนข้อแตกต่างจากที่อื่นดีกว่า !
เพื่อให้หลายๆท่านได้ลองนำไปประกอบการตัดสินใจว่าจะไปดีหรือไม่นะคะ
โดยส่วนตัวเราไป Disneyland มาแล้วทุกที่
ยกเว้นที่สหรัฐอเมริกาค่ะ
หลังจากไป Shanghai Disneyland มาแล้ว เจอเรื่องตะกุกตะกักชวนอารมณ์เสียบ้าง
แต่ก็คิดว่าจะกลับไปอีกนะคะ !

เราใช้เวลาใน Shanghai Disneyland 2 วันค่ะ
โดยวันแรกลุยเล่นเครื่องเล่นเต็มวัน ไม่ดูโชว์ ไม่ดูพาเรท ไม่ดูพลุ
จึงได้เล่นเครื่องเล่นครบทุกเครื่อง และได้เล่นเครื่องเล่นที่ชอบซ้ำหลายรอบด้วยค่ะ
ส่วนวันที่2 เรามาดูโชว์ตั้งแต่รอบแรก โดยเริ่มจากโชว์ Golden Fairytale Fanfare ที่หน้าปราสาทเลยค่ะ
ถ้าใครอยากรู้ว่าเราจัดตารางอย่างไร วางแผนเล่น/ชมอะไรก่อนหลังก็บอกได้นะคะ
เดี๋ยวเราจะมาเขียนเพิ่มเติมให้ กลัวเขียนไปมากกว่านี้จะนอกเรื่องเอา ๕๕๕
PS ขออนุญาตใช้คำว่าข้อแตกต่างนะคะ ไม่อยากใช้คำว่าข้อเสีย มันดู Negative เกินไป
=================================================
ข้อดี
1. เครื่องเล่นหวาดเสียวสำหรับวัยรุ่นใช้เวลาต่อคิวน้อย
อาจจะเป็นค่านิยมของคนจีนมักพาลูกๆ(เด็กเล็ก)มาเที่ยวสวนสนุกกัน
ทำให้เครื่องเล่นหวาดเสียวเช่น Tron ใช้เวลาต่อคิวน้อยมากค่ะ
เครื่องเล่น Tron ช่วงเช้าที่คนเยอะ ใช้เวลาเพียง 20 นาที ส่วนช่วงเย็นใช้เวลาเพียง 10 นาทีเองค่ะ
เรียกได้ว่าเดินเข้าไปกว่าจะถึง(ทางเดินยาวมากกกกกกก) ใช้เวลาเรียงคิวเข้าประจำตำแหน่งเครื่องเล่นอีกนิดหน่อยก็ได้เล่นแล้วค่ะ
2.ไม่ต้องจองที่พาเรด
ขอยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น พาเรดดิสนีย์จะได้รับความนิยมมาก
บ้างคนเข้าปาร์คมาก็จะมาปูเสื่อจองคิวกันเลย
แต่ที่เซี่ยงไฮ้ อาจจะเพราะคนยังไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมจองคิวดูพาเรด หรือปาร์กกว้างมาก มีที่ยืนดูเยอะ
เราจึงสามารถมายื่นจองที่ล่วงหน้าแค่ 30 นาทีก่อนพาเรดเริ่มค่ะ
ที่นี่พาเรดเริ่ม 15:30
14:50 เราเดินมาซื้อซอฟครีมและวาฟเฟิลที่ร้าน Paparino ll ของโดนัลด์ ดั๊ก
และเดินไปซื้อกาแฟที่ร้าน Remy's Patisserie ที่อยู่ตรงข้ามกัน กลับมานั่งกินที่ม้านั่งสักพักแล้วค่อยเดินไปจับจองพื้นที่
ยังได้อยู่หน้าสุดเลยค่ะ
ซอฟครีมและวาฟเฟิลที่ร้าน Paparino ll
พาเรดค่ะ
3.สามารถถ่ายรูปกับตัวละครโดยไม่ต้องต่อคิวนาน
ที่นี่คนยังไม่นิยมถ่ายรูป พูดคุย ขอลายเซ็นต์กับตัวละครมากนัก
เป็นโอกาสที่ดีของหลายๆคนที่สะสมภาพกับลายเซ็นต์เลยล่ะค่ะ(เช่นเราเป็นต้น ๕๕๕)
แม้แต่ดาวเด่นอย่างมิกกี้,โดนัลด์คนก็ยังต่อคิวน้อย รอแค่ 10 นาทีก็ได้ถ่ายรูปด้วยแล้วล่ะค่ะ
ส่วนตัวเราเป็นแฟน Duffy & ShellieMay the Disney Bear
เวลาเข้าดิสนีย์ซีที่ญี่ปุ่น เลิกฝันไปเลยค่ะว่าจะได้ถ่ายรูปด้วย แถวยาวมากกกกกกกกกกก
แต่ที่เซี่ยงไฮ้ Duffy อาจจะใหม่เกินไปสำหรับคนที่นี่ ไม่มีใครถ่ายรูปด้วยเลยค่ะ T_T
หรือเราโชคดีก็ไม่รู้ ไปสองวันดัฟฟี่ว่างทั้งสองวันเลย
เราจึงเข้าไปถ่ายรูปด้วยทุกครั้ง ได้กอด ได้คุยนานมาก ฮืออออออ ฟินสุด เสียใจที่ไม่ได้เอาตุ๊กตามาถือด้วย
แต่คนที่นี่จะนิยมเจ้าหญิงค่ะ ที่ปราสาทจะมีเจ้าหญิงทุกองค์มาผลัดเปลี่ยนถ่ายรูป จะรอนานที่สุดคือ 30 นาทีค่ะ
แต่ก็ยังแค่ 30 นาทีเองนี่นา! เป็นที่อื่นถ้าเป็นเจ้าหญิงรอไปเลยชม.ครึ่ง แถมพวกนางไม่ยืนนานเท่าที่นี่ด้วย
4.เทียบกับในแถบเอเชีย เครื่องเล่นทันสมัยที่สุด
เครื่องเล่นที่ดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ทันสมัยมากค่ะ มีเทคนิกใหม่ๆนำมาใช้กับเครื่องเล่นมากมาย
เช่นเครื่องเล่น Pirates of the Caribbean for the Sunken Treasure
ก็จะเป็นตอนใหม่ที่ไม่ซ้ำกับที่อื่นในเอเชีย มีการใช้เทคนิกที่ทำให้ตื่นเต้นและอินขึ้นมากๆ
(ที่ญี่ปุ่นดูมาตั้งแต่เด็กยันโต ตอนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ๕๕๕)
เครื่องเล่น Tron ที่เราชอบมากๆ เล่นซ้ำไปทั้งหมดประมาณ 7 ครั้งได้ค่ะ
รางที่นี่ยาวมากกกก เห็นวิวได้ไกล ตอนกลางคืนเครื่องเล่นก็จะเป็นแสงนีออน สวยสุดๆเลยค่ะ
เรื่องเครื่องเล่นเราไม่อยากสปอยล์มาก อยากให้ไปลุ้นไปสนุกกันเองค่ะ
5.กว้างขวาง
ดิสนีย์แลนด์ที่เซี่ยงไฮ้ใหญ่มากค่ะ และมีแผนที่จะต่อเติมอีกเรื่อยๆ
เดินข้ามแดนกันทีขาลาก เรียกว่าเล่นเครื่องเล่นไหนต่อต้องวางแผนกันดีๆเลยล่ะค่ะ
ไม่ใช่เดินสามสี่ก้าวเปลี่ยนแดนกันสบายๆเหมือนที่ฮ่องกง ญี่ปุ่น หรือปารีส
แต่ข้อดีคือเครื่องเล่นก็ใหญ่ตามค่ะ ไม่ใช่กระจุกวิ่งวนๆๆแป๊ปเดียวจบ
พวกเครื่องเล่นรถไฟเหาะก็จะรางยาวมาก มองเห็นวิวได้รอบ มีจุดหักหวาดเสียวเยอะ
6.ราคาของในปาร์กถูกกว่าที่อื่น(นิดหน่อย)
เราลองเปรียบเทียบราคาดู
จริงๆถ้ามองผ่านก็ราคาพอๆกันทั่วโลกค่ะ แต่จากที่เราเทียบ เราว่าสินค้าที่นี่ถูกกว่าที่อื่นประมาณ 10 บาท
เช่นเหรียญที่ระลึก ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์จะขาย 60 บาท แต่ที่นี่จะขาย 50 บาทค่ะ
ค่าอาหารก็จะถูกกว่า ถึงจะบังคับขายเป็นเซ็ตแต่ก็จะราคาพอๆกันอาหารแยกชิ้นที่โตเกียว
เซ็ตข้าวไก่อบ มีน้ำให้ 60 หยวน(300บาท) ที่ดิสนีย์ซีเบอร์เกอร์ชิ้นเดียว 800 เยน(275 บาท) ไม่มีน้ำให้
7.นิยมแลก Pin
สังเกตว่าที่นี่จะได้รับอิทธิพลจากฝั่งอเมริกาซะเยอะคือการแลก Pin กับพนักงานค่ะ
เห็นหลายคนคล้องสาย Pin แลกกับพนักงานอย่างสนุกสนานเลย ที่ญี่ปุ่นกับฮ่องกงจะไม่ค่อยคึกคักเรื่อง Pin เท่า
เรียกว่าวัฒนธรรมดิสนีย์ของเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่การถ่ายรูปคู่ตัวละครหรือล่าสายเซ็นต์ค่ะ
แต่เป็นการแลก Pin !
เราเป็นแฟน Monster inc. ค่ะ นี่เป็น Pin ที่เราซื้อมาจาก Shanghai Disneyland
8.มีโชว์ที่ยูนีคของตนเอง
ที่เซี่ยงไฮ้จะมีโชว์ที่มีที่นี่ที่เดียวคือโชว์ Golden Fairytale Fanfare ที่หน้าปราสาทค่ะ
มีการ่ายรำแนวจีน การควงธง ชุดของเจ้าหญิงก็จะถูกตกแต่งไม่เหมือนที่อื่น สวยงามมากค่ะ
เครื่องเล่น Voyage to the Crystal Grotto จะเป็นการล่องเรือชมเจ้าหญิง ลอดใต้ปราสาท
ชุดที่เจ้าหญิงใส่ก็จะเป็นชุดรุ่นใหม่ มีการประดับเพชรวิ้งๆ ลายกระโปรงไม่เหมือนรุ่นเก่าด้วยค่ะ
โชว์ Tarzan ก็จะมีจุดเด่นใช้กายกรรมจีนมาผสมทำให้ดูแปลกตาและสนุกสนานมากเช่นกันค่ะ
9.ซื้อบัตรออนไลน์ก็ยังได้บัตรแข็ง
ที่นี่เพียงเราซื้อบัตรออนไลน์ แล้วปริ๊นท์เอกสารมาให้พนักงาน
เขาก็จะคีย์เลขลงระบบแล้วปริ๊นท์บัตรแข็งให้เราฟรีค่ะ น่ารักมากด้วย
ที่โตเกียวรู้สึกว่าถ้าอยากได้บัตรแข็งต้องจ่ายเงินเพิ่ม 200-300 เยนนี่แหละค่ะ
เราเลยใช้กระดาษที่ปริ๊นท์มาเข้าปาร์คตลอด ใช้กดฟาสพาสยากมาก T_T
10.มีขนมที่เป็นเอกลักษณ์
ในดิสนีย์แลนด์แต่ละที่ก็จะมี Snack ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่นี่ก็เช่นกันค่ะ
เราขอแนะนำ Bubble tea และซาลาเปามิกกี้
ซาลาเปามิกกี้จะเขียนว่าเป็นซาลาเปาหมูธรรมดา แต่จริงๆคือหูหมูค่ะ! ถ้าใครชอบหูหมูต้องรักมากแน่ๆ
เราชอบหูหมูมาก เคี้ยวเพลินเลยค่ะ
=================================================
พอเขียนรวมในโพสต์เดียวแล้วยาวเกินไป ขออนุญาตต่อที่เมนท์แรกนะคะ
ข้อดี-ข้อแตกต่าง(จากที่อื่น)ใน ✰ Shanghai Disneyland
เป็นทริปกินและทริปดิสนีย์ ไปด้วยความติ่งดิสนีย์ล้วนๆ ๕๕๕
ตอนแรกจะมาเขียนรีพอร์ท Shanghai Disneyland แต่ก็เห็นมีหลายกระทู้แล้วเดี๋ยวจะซ้ำๆเดิมๆ
จึงมาเขียนข้อแตกต่างจากที่อื่นดีกว่า !
เพื่อให้หลายๆท่านได้ลองนำไปประกอบการตัดสินใจว่าจะไปดีหรือไม่นะคะ
หลังจากไป Shanghai Disneyland มาแล้ว เจอเรื่องตะกุกตะกักชวนอารมณ์เสียบ้าง
แต่ก็คิดว่าจะกลับไปอีกนะคะ !
โดยวันแรกลุยเล่นเครื่องเล่นเต็มวัน ไม่ดูโชว์ ไม่ดูพาเรท ไม่ดูพลุ
จึงได้เล่นเครื่องเล่นครบทุกเครื่อง และได้เล่นเครื่องเล่นที่ชอบซ้ำหลายรอบด้วยค่ะ
ส่วนวันที่2 เรามาดูโชว์ตั้งแต่รอบแรก โดยเริ่มจากโชว์ Golden Fairytale Fanfare ที่หน้าปราสาทเลยค่ะ
ถ้าใครอยากรู้ว่าเราจัดตารางอย่างไร วางแผนเล่น/ชมอะไรก่อนหลังก็บอกได้นะคะ
เดี๋ยวเราจะมาเขียนเพิ่มเติมให้ กลัวเขียนไปมากกว่านี้จะนอกเรื่องเอา ๕๕๕
PS ขออนุญาตใช้คำว่าข้อแตกต่างนะคะ ไม่อยากใช้คำว่าข้อเสีย มันดู Negative เกินไป
ทำให้เครื่องเล่นหวาดเสียวเช่น Tron ใช้เวลาต่อคิวน้อยมากค่ะ
เครื่องเล่น Tron ช่วงเช้าที่คนเยอะ ใช้เวลาเพียง 20 นาที ส่วนช่วงเย็นใช้เวลาเพียง 10 นาทีเองค่ะ
เรียกได้ว่าเดินเข้าไปกว่าจะถึง(ทางเดินยาวมากกกกกกก) ใช้เวลาเรียงคิวเข้าประจำตำแหน่งเครื่องเล่นอีกนิดหน่อยก็ได้เล่นแล้วค่ะ
บ้างคนเข้าปาร์คมาก็จะมาปูเสื่อจองคิวกันเลย
แต่ที่เซี่ยงไฮ้ อาจจะเพราะคนยังไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมจองคิวดูพาเรด หรือปาร์กกว้างมาก มีที่ยืนดูเยอะ
เราจึงสามารถมายื่นจองที่ล่วงหน้าแค่ 30 นาทีก่อนพาเรดเริ่มค่ะ
ที่นี่พาเรดเริ่ม 15:30
14:50 เราเดินมาซื้อซอฟครีมและวาฟเฟิลที่ร้าน Paparino ll ของโดนัลด์ ดั๊ก
และเดินไปซื้อกาแฟที่ร้าน Remy's Patisserie ที่อยู่ตรงข้ามกัน กลับมานั่งกินที่ม้านั่งสักพักแล้วค่อยเดินไปจับจองพื้นที่
ยังได้อยู่หน้าสุดเลยค่ะ
เป็นโอกาสที่ดีของหลายๆคนที่สะสมภาพกับลายเซ็นต์เลยล่ะค่ะ(เช่นเราเป็นต้น ๕๕๕)
แม้แต่ดาวเด่นอย่างมิกกี้,โดนัลด์คนก็ยังต่อคิวน้อย รอแค่ 10 นาทีก็ได้ถ่ายรูปด้วยแล้วล่ะค่ะ
ส่วนตัวเราเป็นแฟน Duffy & ShellieMay the Disney Bear
เวลาเข้าดิสนีย์ซีที่ญี่ปุ่น เลิกฝันไปเลยค่ะว่าจะได้ถ่ายรูปด้วย แถวยาวมากกกกกกกกกกก
แต่ที่เซี่ยงไฮ้ Duffy อาจจะใหม่เกินไปสำหรับคนที่นี่ ไม่มีใครถ่ายรูปด้วยเลยค่ะ T_T
หรือเราโชคดีก็ไม่รู้ ไปสองวันดัฟฟี่ว่างทั้งสองวันเลย
เราจึงเข้าไปถ่ายรูปด้วยทุกครั้ง ได้กอด ได้คุยนานมาก ฮืออออออ ฟินสุด เสียใจที่ไม่ได้เอาตุ๊กตามาถือด้วย
แต่คนที่นี่จะนิยมเจ้าหญิงค่ะ ที่ปราสาทจะมีเจ้าหญิงทุกองค์มาผลัดเปลี่ยนถ่ายรูป จะรอนานที่สุดคือ 30 นาทีค่ะ
แต่ก็ยังแค่ 30 นาทีเองนี่นา! เป็นที่อื่นถ้าเป็นเจ้าหญิงรอไปเลยชม.ครึ่ง แถมพวกนางไม่ยืนนานเท่าที่นี่ด้วย
เช่นเครื่องเล่น Pirates of the Caribbean for the Sunken Treasure
ก็จะเป็นตอนใหม่ที่ไม่ซ้ำกับที่อื่นในเอเชีย มีการใช้เทคนิกที่ทำให้ตื่นเต้นและอินขึ้นมากๆ
(ที่ญี่ปุ่นดูมาตั้งแต่เด็กยันโต ตอนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ๕๕๕)
เครื่องเล่น Tron ที่เราชอบมากๆ เล่นซ้ำไปทั้งหมดประมาณ 7 ครั้งได้ค่ะ
รางที่นี่ยาวมากกกก เห็นวิวได้ไกล ตอนกลางคืนเครื่องเล่นก็จะเป็นแสงนีออน สวยสุดๆเลยค่ะ
เรื่องเครื่องเล่นเราไม่อยากสปอยล์มาก อยากให้ไปลุ้นไปสนุกกันเองค่ะ
เดินข้ามแดนกันทีขาลาก เรียกว่าเล่นเครื่องเล่นไหนต่อต้องวางแผนกันดีๆเลยล่ะค่ะ
ไม่ใช่เดินสามสี่ก้าวเปลี่ยนแดนกันสบายๆเหมือนที่ฮ่องกง ญี่ปุ่น หรือปารีส
แต่ข้อดีคือเครื่องเล่นก็ใหญ่ตามค่ะ ไม่ใช่กระจุกวิ่งวนๆๆแป๊ปเดียวจบ
พวกเครื่องเล่นรถไฟเหาะก็จะรางยาวมาก มองเห็นวิวได้รอบ มีจุดหักหวาดเสียวเยอะ
จริงๆถ้ามองผ่านก็ราคาพอๆกันทั่วโลกค่ะ แต่จากที่เราเทียบ เราว่าสินค้าที่นี่ถูกกว่าที่อื่นประมาณ 10 บาท
เช่นเหรียญที่ระลึก ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์จะขาย 60 บาท แต่ที่นี่จะขาย 50 บาทค่ะ
ค่าอาหารก็จะถูกกว่า ถึงจะบังคับขายเป็นเซ็ตแต่ก็จะราคาพอๆกันอาหารแยกชิ้นที่โตเกียว
เซ็ตข้าวไก่อบ มีน้ำให้ 60 หยวน(300บาท) ที่ดิสนีย์ซีเบอร์เกอร์ชิ้นเดียว 800 เยน(275 บาท) ไม่มีน้ำให้
เห็นหลายคนคล้องสาย Pin แลกกับพนักงานอย่างสนุกสนานเลย ที่ญี่ปุ่นกับฮ่องกงจะไม่ค่อยคึกคักเรื่อง Pin เท่า
เรียกว่าวัฒนธรรมดิสนีย์ของเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่การถ่ายรูปคู่ตัวละครหรือล่าสายเซ็นต์ค่ะ
แต่เป็นการแลก Pin !
มีการ่ายรำแนวจีน การควงธง ชุดของเจ้าหญิงก็จะถูกตกแต่งไม่เหมือนที่อื่น สวยงามมากค่ะ
เครื่องเล่น Voyage to the Crystal Grotto จะเป็นการล่องเรือชมเจ้าหญิง ลอดใต้ปราสาท
ชุดที่เจ้าหญิงใส่ก็จะเป็นชุดรุ่นใหม่ มีการประดับเพชรวิ้งๆ ลายกระโปรงไม่เหมือนรุ่นเก่าด้วยค่ะ
โชว์ Tarzan ก็จะมีจุดเด่นใช้กายกรรมจีนมาผสมทำให้ดูแปลกตาและสนุกสนานมากเช่นกันค่ะ
เขาก็จะคีย์เลขลงระบบแล้วปริ๊นท์บัตรแข็งให้เราฟรีค่ะ น่ารักมากด้วย
ที่โตเกียวรู้สึกว่าถ้าอยากได้บัตรแข็งต้องจ่ายเงินเพิ่ม 200-300 เยนนี่แหละค่ะ
เราเลยใช้กระดาษที่ปริ๊นท์มาเข้าปาร์คตลอด ใช้กดฟาสพาสยากมาก T_T
เราขอแนะนำ Bubble tea และซาลาเปามิกกี้
ซาลาเปามิกกี้จะเขียนว่าเป็นซาลาเปาหมูธรรมดา แต่จริงๆคือหูหมูค่ะ! ถ้าใครชอบหูหมูต้องรักมากแน่ๆ
เราชอบหูหมูมาก เคี้ยวเพลินเลยค่ะ