รัฐบาลลุงตู่ทยอยคืนความสุขกันมาเรื่อยๆค่ะ
ยิ่งมีความสุขเพิ่มขึ้นๆทุกปี
มีรอยยิ้มเพิ่มขึ้นทุกปี
ขอบคุณที่ดูแลบ้านเมืองและประชาชนนะคะ...


อ่านอย่างมีความสุขกันค่ะ....


ไทยติดอันดับ 32 รายงานความสุขโลกปี 2560 ของยูเอ็น ขยับขึ้นหนึ่งอันดับจากรายงานของปีก่อน ขณะที่แชมป์สุขที่สุดในโลกคือนอร์เวย์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ว่า เครือข่ายการแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (เอสดีเอสเอ็น) โครงการริเริ่มในเครือข่ายของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยรายงานความสุขโลกประจำปี 2560 (World Happiness Report 2017) เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ซึ่งตรงกับวันความสุขสากล (International Day of Happiness) ประเมินความสุขของประชากรโลกใน 155 ประเทศ
ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 32 ขยับขึ้นมาหนึ่งอันดับจากรายงานการประเมินในปีก่อน จัดเป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากสิงคโปร์ที่อยู่ในอันดับที่ 26 ส่วนประเทศอาเซียนอื่นๆ ได้แก่ มาเลเซีย อันดับ 42 ฟิลิปปินส์ อันดับ 72 อินโดนีเซีย อันดับ 81 เวียดนาม อันดับ 94 เมียนมา อันดับ 114 และกัมพูชา อันดับ 129 ส่วนประเทศมหาอำนาจอื่นๆ สหรัฐจัดอยู่ในอันดับ 14 รัสเซีย อันดับ 49 และจีน อันดับ 79 ขณะที่อิสราเอลเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในเอเชีย
อันดับ 1-10 ของประเทศที่มีความสุขมากที่สุด ได้แก่ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และสวีเดน ส่วน 10 อันดับสุดท้ายที่มีความสุขน้อยที่สุด ได้แก่ เยเมน ซูดานใต้ ไลบีเรีย กินี โตโก รวันดา แทนซาเนีย บุรุนดี และแอฟริกากลาง
รายงานความสุขโลกจัดทำขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2555 ฉบับนี้นับเป็นฉบับที่ 5 การประเมินอาศัยตัวชี้วัด 6 ด้าน ประกอบด้วย ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ต่อหัวประชากร อัตราการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพ เสรีภาพ ความเอื้ออาทร การสนับสนุนทางสังคม และความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐและเอกชน
รายงานยังบ่งชี้ว่า ในกลุ่มประเทศที่ร่ำรวย ปัจจัยที่ส่งผลสำคัญคือสุขภาพจิต สุขภาพกาย และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ขณะที่ในกลุ่มประเทศที่ยากจนกว่า ปัจจัยที่มีผลมากคือความแตกต่างด้านรายได้ นอกจากนี้ การมีงานทำและความเท่าเทียมในการทำงานก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราความสุขเช่นกัน
นายเจฟฟรีย์ แซคส์ ผู้อำนวยการเอสดีเอสเอ็น และที่ปรึกษาเลขาธิการยูเอ็น กล่าววว่า ประเทศที่มีอัตราความสุขอยู่ในระดับสูง คือประเทศที่รักษาสมดุลระหว่างความเจริญรุ่งเรืองซึ่งเป็นตัวชี้วัดดั้งเดิม และต้นทุนทางสังคม ซึ่งหมายถึงการมีความไว้วางใจในสังคมในระดับสูง มีความไม่เท่าเทียมอยู่ในระดับต่ำ และประชาชนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาล.... อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/foreign/562982
((มาลาริน)) ^_^ ว้าววววววว...อ่านแล้วไม่อยากกระพริบตาเลยค่ะ..👉รายงานความสุขโลก 2017 ยูเอ็นชี้คนไทยสุขเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
ยิ่งมีความสุขเพิ่มขึ้นๆทุกปี
มีรอยยิ้มเพิ่มขึ้นทุกปี
ขอบคุณที่ดูแลบ้านเมืองและประชาชนนะคะ...
อ่านอย่างมีความสุขกันค่ะ....
ไทยติดอันดับ 32 รายงานความสุขโลกปี 2560 ของยูเอ็น ขยับขึ้นหนึ่งอันดับจากรายงานของปีก่อน ขณะที่แชมป์สุขที่สุดในโลกคือนอร์เวย์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ว่า เครือข่ายการแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (เอสดีเอสเอ็น) โครงการริเริ่มในเครือข่ายของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยรายงานความสุขโลกประจำปี 2560 (World Happiness Report 2017) เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ซึ่งตรงกับวันความสุขสากล (International Day of Happiness) ประเมินความสุขของประชากรโลกใน 155 ประเทศ
ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 32 ขยับขึ้นมาหนึ่งอันดับจากรายงานการประเมินในปีก่อน จัดเป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากสิงคโปร์ที่อยู่ในอันดับที่ 26 ส่วนประเทศอาเซียนอื่นๆ ได้แก่ มาเลเซีย อันดับ 42 ฟิลิปปินส์ อันดับ 72 อินโดนีเซีย อันดับ 81 เวียดนาม อันดับ 94 เมียนมา อันดับ 114 และกัมพูชา อันดับ 129 ส่วนประเทศมหาอำนาจอื่นๆ สหรัฐจัดอยู่ในอันดับ 14 รัสเซีย อันดับ 49 และจีน อันดับ 79 ขณะที่อิสราเอลเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในเอเชีย
อันดับ 1-10 ของประเทศที่มีความสุขมากที่สุด ได้แก่ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และสวีเดน ส่วน 10 อันดับสุดท้ายที่มีความสุขน้อยที่สุด ได้แก่ เยเมน ซูดานใต้ ไลบีเรีย กินี โตโก รวันดา แทนซาเนีย บุรุนดี และแอฟริกากลาง
รายงานความสุขโลกจัดทำขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2555 ฉบับนี้นับเป็นฉบับที่ 5 การประเมินอาศัยตัวชี้วัด 6 ด้าน ประกอบด้วย ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ต่อหัวประชากร อัตราการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพ เสรีภาพ ความเอื้ออาทร การสนับสนุนทางสังคม และความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐและเอกชน
รายงานยังบ่งชี้ว่า ในกลุ่มประเทศที่ร่ำรวย ปัจจัยที่ส่งผลสำคัญคือสุขภาพจิต สุขภาพกาย และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ขณะที่ในกลุ่มประเทศที่ยากจนกว่า ปัจจัยที่มีผลมากคือความแตกต่างด้านรายได้ นอกจากนี้ การมีงานทำและความเท่าเทียมในการทำงานก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราความสุขเช่นกัน
นายเจฟฟรีย์ แซคส์ ผู้อำนวยการเอสดีเอสเอ็น และที่ปรึกษาเลขาธิการยูเอ็น กล่าววว่า ประเทศที่มีอัตราความสุขอยู่ในระดับสูง คือประเทศที่รักษาสมดุลระหว่างความเจริญรุ่งเรืองซึ่งเป็นตัวชี้วัดดั้งเดิม และต้นทุนทางสังคม ซึ่งหมายถึงการมีความไว้วางใจในสังคมในระดับสูง มีความไม่เท่าเทียมอยู่ในระดับต่ำ และประชาชนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาล.... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/foreign/562982