สโลว์ไลฟ์ เชียงราย ชีวิตติดเบรค เที่ยวๆหยุดๆ เหนื่อยก็พัก ลัดเลาะริมโขง เชียงของ-เวียงแก่น-ภูชี้ฟ้า

ทุกๆปีผมต้องหาโอกาสเที่ยวยาวๆ มีทริปกับครอบครัวอย่างน้อยปีละครั้ง โดยทุกครั้งมีเหตุผลหลักๆที่สำคัญมากคือการได้สร้างเมมโมรี่ในการเดินทางด้วยกันให้กับลูกชายก่อนที่จะเติบโตไปสู่โลกกว้างต่อไปด้วยตัวเอง ...ปีนี้สำหรับตัวผมเองอาจจะต่างกับอีกหลายๆปีที่ผ่านมา เป็นอีกปีที่มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆเกิดขึ้นในชีวิตค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือส่วนตัว ตั้งแต่เรื่องการเจ็บป่วยสูญเสียบุคคลที่รัก จนไปถึงการตัดสินใจหันเหเส้นทางชีวิตอีกครั้ง ทริปนี้เลยเลือกที่จะขับรถขึ้นเหนือโดยมีปลายทางที่จังหวัดเชียงราย เมืองแห่งศิลป-วัฒนธรรมล้านนาในอดีต ขับตามเส้นทางเรียบแม่น้ำโขง โดยมีเป้าหมายเพื่อพาลูกชายไปดูแสงตะวันแรกยามเช้าด้วยกันบนยอดภูชี้ฟ้า ไปแบบเหนื่อยก็พัก เพื่อที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเอง กับครอบครัว ทบทวนหลายๆอย่างที่เกิดขึ้น ก่อนจะเริ่มต้นชีวิตในปีใหม่ที่กำลังจะเข้ามาอีกครั้ง

เริ่มเดินทางวันแรกเราออกจากกรุงเทพกันแต่เช้าเพื่อเลี่ยงการจราจรในช่วงใกล้สิ้นปี โดยตัดสินใจแวะพักที่เชียงใหม่ก่อนเดินทางต่อเพื่อเข้าเชียงราย
หลังจากเข้าถึงตัวเมืองเชียงใหม่ช่วงเย็นๆ เข้าที่พักแถวดอยสุเทพไม่ห่างจากตัวเมืองมาก

ช่วงหัวค่ำออกมาเดินเล่นที่ถนนคนเดินวัวลาย สินค้าหลากหลายกับถนนคนเดินวันเสาร์ที่นี่ ...อากาศเย็นสบายครับกับช่วงสิ้นปี

   
เริ่มออกเดินทางกันต่อแต่เช้าหลังจากพักผ่อนเพื่อเข้าสู่เชียงราย โดยใช้เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย ออกจากตัวเมืองผ่านดอยสะเก็ดเพื่อเข้าสู่เชียงรายทางแม่ขะจาน อ.เวียงป่าเป้า ระยะทางรวมประมาน190กม. อาจจะใช้เวลามากกว่าขับปกติซักหน่อยเพราะเป็นเส้นทางขึ้นลงเขาบางช่วง(2ช่วงหลักหลังออกจากดอยสะเก็ด อีกทีก่อนเข้าตัวเมืองเชียงรายแถวอ.แม่สรวย)แต่ถนนดีเลย ไปช้าๆเน้นปลอดภัย วิวภูเขาระหว่างทางสวยครับ

หลังจากขับผ่านเส้นทางภูเขาซักพักใหญ่ก็เข้าสู่เขตจังหวัดเชียงราย ผ่านทางแม่ขะจาน หยุดแวะพักชมงานเซรามิคเครื่องปั้นดินเผาแบบโบราณที่ตำบลเวียงกาหลง สถานที่สำคัญทางประวัติศาตร์ที่มีการขุดพบเตาเผาโบราณนับพันๆเตา เมืองโบราณที่เป็นแหล่งของดินภูเขาไฟชั้นดีที่เหมาะกับงานปั้นดินเผา ต้นกำเนิดของตำนานพญากาหลงหรือแม่กาขาวที่มาหลงทางตามหาลูกที่เมืองโบราณแห่งนี้


วันนั้นผมไม่ได้เข้าไปดูศูนย์พัฒนาศีลธรรมเวียงกาหลงซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธพัณฑ์รวมถึงพื้นที่อนุรักษ์เมืองโบราณเวียงกาหลงซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่วัดพระยอดขุนพล ...แต่มีโอกาสแวะเข้าชมเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงของอ.ทัน ธิจิตตัง งานปั้นดินเผาที่มีการถ่ายทอดรูปแบบเอกลักษณ์การปั้นดินเผาแบบโบราณที่ถูกค้นพบในอดีต โดยแฝงข้อคิดทางธรรมะเพื่อสืบสานงานศิลปะเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงให้คงอยู่ต่อถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

ป้ายระหว่างทางก่อนเข้าถึงบ้าน


รอบๆบริเวณบ้านซึ่งเป็นสถานที่ในการทำงานปั้นดินเผาด้วย


เข้ามาชมงานซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการทำเริ่มตั้งแต่ขึ้นรูป ลงลาย ไปจนถึงขั้นตอนการเผาชิ้นงานต่างๆ


มีโอกาสเข้าชมงานเครื่องปั้นดินเผาส่วนตัวของอาจารย์ หลายชิ้นถือเป็นงานศิลปะที่คงคุณค่าสามารถถ่ายทอดการปั้นดินเผาแบบโบราณมาจนถึงทุกวันนี้


อาจารย์ทันให้เกียรติถ่ายรูปที่ระลึกอย่างเป็นกันเอง หลังจากฟังเรื่องเล่าความเป็นมาต่างๆของเวียงกาหลง


ก่อนเดินทางต่อแวะเติมความสดชื่นกันที่ร้านกาแฟหอมด่วนร้านชื่อน่ารักวิวทุ่งนา อยู่เยื้องกับปากทางเข้าศูนย์พัฒนาศีลธรรมเวียงกาหลง


ขับถึงตัวเมืองเชียงรายช่วงเย็น ใช้เวลารวมประมาน4ชม.ไม่รวมแวะพักครับ ...หลังเข้าเชคอิน ก็มาเดินเล่นงานดอกไม้อาเซียน ที่สวนไม้งามริมกก งานดอกไม้ใหญ่จัดช่วงปลายปีติดริมแม่น้ำกก ออกจากตัวเมืองมาแค่4-5กม. ปีนี้เป็นการจัดงานดอกไม้เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของในหลวงรัชกาลที่9 บนเนื้อที่กว่า25ไร่ประดับด้วยดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์


ผลงานของพ่อหลวงหรือภาพพระราชกรณียกิจต่างๆ เช่น ฝนหลวง กังหันน้ำชัยพัฒนา พบเห็นได้ตามจุดต่างๆภายในงาน



เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนเดินทางเพื่อขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทางริมโขง เราวางแผนเส้นทางการขับรถโดยเข้าสู่แม่สายก่อน ใช้เวลาประมานชั่วโมงเสษๆกับระยะทางกว่า60กม. เพื่อแวะชมตลาดแม่สาย ด่านท่าขี้เหล็กประตูผ่านเข้าสู่เมียนม่า

บรรยากาศตลาดแม่สายโดยรอบ


รถต่อคิวเรียงรายหน้าด่านประตูทางเข้าสู่ท่าขี้เหล็กพม่า


ป้ายเหนือสุดแดนสยาม ใกล้สะพานข้ามไปฝั่งท่าขี้เหล็กของพม่า


ช่องยื่นเรื่องหนังสือเดินทาง เอกสารบัตรผ่านแดนชั่วคราว สำหรับคนไทยใช้บัตรประชาชนแค่ใบเดียวเดินเรื่องไม่ถึงชั่วโมงครับ


หลังจากออกจากแม่สาย ขับมาซักพักประมาน 30กม. จะผ่านสามเหลี่ยมทองคำ(Golden Triangle)ที่มีแม่น้ำโขงและแม่น้ำรวกมาบรรจบกันเรียกพื้นที่บริเวณนั้นว่า สบรวก เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างสามประเทศคือ ไทย(อ.เชียงแสน จ.เชียงราย) ลาว(แขวงบ่อแก้ว) พม่า(แขวงท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน) บริเวณรอบจะมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจเช่นหอฝิ่นซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมประวัติความเป็นมาของสามเหลี่ยมทองคำได้โดยละเอียด(ทางเข้าอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมอนันตราสามเหลี่ยมทองคำเลย ...แต่วันนั้นไปถึงช่วงบ่ายแก่ๆแล้วเลยมีเวลาไม่พอแวะเข้าชมครับ เสียดายมาก ต้องติดไว้ทริปหน้า

ถ่ายรูปกับป้ายสามเหลี่ยมทองคำและหลักกิโล


พระเชียงแสนสี่แผ่นดินหรือพระพุทธนวล้านตื้อ ตั้งให้นักท่องเที่ยวได้นมัสการอยู่บริเวณจุดชมวิว


จากสามเหลี่ยมทองคำประมาน10กม. ก็จะเข้าสู่เชียงแสน ระหว่างทางจะเริ่มเห็นเส้นทางเรียบโขง สวยงามมากครับ
...แวะชมความงามของโบราณสถาน ซากวัดเก่าแก่ วัตถุโบราณในเชียงแสน ก่อนขับรถต่ออีก60กม. เพื่อเข้าพักที่เชียงของวันนี้



ผมแวะพักที่เชียงของ2คืนสำหรับทริปนี้ ....ระหว่างทางก่อนเข้าเชียงของวิวสวยมากๆ เป็นเส้นทางเรียบริมโขงที่สามารถชมวิวแม่น้ำโขงได้ตลอดทาง
เกาะแก่งสามารถเห็นได้เรื่อยๆในช่วงที่ขับรถ ได้บรรยากาศสวยงามไปอีกแบบ


แวะทานกาแฟระหว่างทาง วิวจากด้านบนของร้านสวยงามพาโนรามามาก มองเห็นทางน้ำโขงยาวขนานไปกับชายฝั่งลาว อากาศเย็นๆทำให้การดื่มด่ำรสชาติกาแฟเป็นไปอย่างกลมกล่อม ...แทบไม่อยากลุกเดินทางต่อเลย


คืนแรกจองห้องพักไว้ที่โรงแรมเด วอเตอร์ฟรอนท์ ...เจ้าของน่ารักและป็นกันเองมาก


วิวยามเช้า สูดอากาศริมโขงได้เต็มที่ตั้งแต่ห้องพัก ออกมาวิ่งรอบๆ วันนั้นวิ่งจ็อกกิ้งจากที่พักไปจนถึงท่าเรือเชียงของครับ ...ก่อนกลับมาทานอาหารเช้าที่โรงแรม เติมพลังก่อนออกเดินทางไปบ้านหาดบ้าย เพื่อไปชมผ้าไทลื้อที่มีชื่อของจังหวัดเชียงราย