****** ส่องวิบากกรรม หลวงพ่อธัมมชโย ความจริงเป็นอย่างไร ******


ณ ตอนนี้คงต้องบอกว่า “สปอตไลต์” ทุกดวงแห่งสยามประเทศ กำลังส่องไปยังวัดดังย่านปทุมธานี ที่หยั่งราก ฝังความคิด แผ่อิทธิพลต่อประชาชนคนไทยมาหลายสิบปี และแล้ววันนี้ก็มาถึง
เมื่อคณะอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร พร้อมพวกรวมทั้งหมด 5 คน ในคดีสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น และสั่งให้เจ้าหน้าที่จับกุม พระเทพญาณมหามุนี หรือ ธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาที่ 2 หลังจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ผู้ต้องหาที่ 1 รับสารภาพและถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำ
ผ่านมานับปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ห่มผ้าเหลือง ยังคงไม่ทราบว่าอยู่แห่งหนใด หลายคนเชื่อว่า หลวงพ่อจีวรบินเผ่นหนีไปแล้ว แต่ในขณะที่หลายๆ คนก็ยังคงเชื่อว่า ท่านยังจำวัดอยู่ “อาคารภาวนา” ไม่ได้ไปไหน จะให้รู้แจ้งคงต้องขอค้นดูเท่านั้นจึงจะหายเคลือบแคลง..



สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ เจ้าหน้าที่งัดมาตรการกดดันอย่างหนัก
ดำเนินคดีกับพระธัมมชโย และผู้เกี่ยวข้องนับร้อยคดี รวมไปถึงการงัดไม้เด็ด ด้วยกลวิธีจ่อ “ตัดน้ำตัดไฟ” จากในภาวะสุ่มเสี่ยงใช้กำลังนี้เอง ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ต่อสายพูดคุยกับ นพ.มโน เลาหวณิช อดีตพระและศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่เคยออกมาเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย จนทำให้สาธารณชนเกิดความสงสัยมาแล้วเสียหลายครั้งหลายครา

เชื่อยังอยู่ในวัด พรสวรรค์ “ธัมมชโย” บุคลิกแม่เหล็ก ใช่เทคนิคคุมกองเชียร์ลีดเดอร์ สู่วิธีคอนโทรลศิษยานุศิษย์!
นพ.มโน เริ่มต้นกล่าวอย่างหนักแน่นและเชื่อมั่นว่า“ส่วนตัวเชื่อว่าท่านยังอยู่ในวัด...อยู่แน่นอน และคงป่วยอยู่ แต่อาการไม่หนักหนาสาหัสอย่างที่เข้าใจ ขาที่ดูดำๆ ภาพที่ DSI ได้มาเผยแพร่นั้น เชื่อว่าไม่เป็นความจริง สีดำดังกล่าวมาจากการทาช็อกโกเลต”
แค่เริ่มต้นก็มาดุเดือดแล้ว ทีมข่าวฯ ไม่พลาดเดินหน้าถามต่อไปทันทีว่าเพราะเหตุใด พระธัมมชโย จึงมีศิษยานุศิษย์มากมาย นพ.มโน กล่าวว่า



พระธัมมชโย มีบุคลิกที่เป็นแม่เหล็ก ท่านเป็นคนปากหวาน เอาใจคนเก่ง หน้าตาดี ผิวพรรณดี ดูแล้วเป็นคนนุ่มนวล พรสวรรค์ที่มีอย่างหนึ่งคือ เวลาได้พูดคุยกับใคร จะสร้างความประทับใจให้กับบุคคลคนนั้นทันที ซึ่งสิ่งนี้เองเป็นพื้นฐานมาจากวัยเด็กของพระธัมมชโย โดยพ่อแม่ของท่านได้แยกทางกันตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ซึ่งไม่มีความมั่นคงในชีวิต จึงคาดว่าพื้นฐานของจิตใจจึงต้องการแสวงหาอำนาจ ต้องการความเป็นใหญ่ จนกระทั่งมาอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง คือ ปาฏิหาริย์ คุณยายจันทร์ ซึ่งเป็นเรื่องฤทธิ์ อำนาจ จากนั้นจึงได้เดินทางไปวัดปากน้ำเพื่อศึกษา
ซึ่งตอนนั้นยังเรียนมัธยมอยู่ จากนั้นก็ได้มาเป็นศิษย์เอกคุณยายจันทร์
ท่านเป็นคนที่มีภาวะผู้นำสูง เมื่อก่อนเคยทำเชียร์ลีดเดอร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เวลาจะควบคุมคนร้องเชียร์ลีดเดอร์ไม่ให้คุยกัน ก็จะใช้วิธีการให้ร้องเพลงเยอะๆ ด้วยทักษะดังกล่าว
ทำให้ชำนาญในการบริหารคนจำนวนมากได้ และวิธีนี้เองก็นำมาปรับใช้ปกครองหมู่คณะวัดพระธรรมกาย การจะทำให้คนไม่วอกแวก ตั้งใจฟัง ท่านจะให้ศิษย์ทุกคนสวดมนต์ก่อนครึ่งชั่วโมง
เมื่อสวดมนต์แล้วจะรู้สึกเหนื่อย...เมื่อเหนื่อยก็จะเงียบไม่คุยกัน
จากนั้นค่อยสอน ดังนั้น เวลาสอนสิ่งใดคนก็จะฟัง แล้วท่านก็จะสอนให้คนบริจาคเงินเยอะๆ เพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์
“ส่วนลีลาการสอน จะสอนคล้ายกับการสะกดจิต สอนให้เคลิ้ม
โดยนำคำสอนของวัดปากน้ำมาต่อยอด ซึ่งสำนักวัดปากน้ำมีคำสอนที่แตกต่างจากสำนักอื่น โดยมีชื่อเสียงเรื่อง อิทธิฤทธิ์ รักษาโรค และความสำเร็จ ส่วนเรื่องเล่าต่างๆ นั้นก็มีการอ้างว่า มีการให้ไปเชิญมาจากสวรรค์” อดีตศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าว

ระดมบุญ จนเกิดปรากฏการณ์ทุ่มบริจาคจนหมดตัว มีจริง
หมอมโน อ้างว่า คนที่บริจาคจนหมดตัวมีจริง และมีมานานแล้ว
คนที่หมดตัวบางคน ทางวัดได้ทำการเลี้ยงดูอยู่ โดยภายในวัดมีโรงแจกทานอยู่ และจะแจกทุกวัน วันละ 2 มื้อ คนที่บริจาคเงินจนหมดตัวเหล่านี้เอง เขารู้สึกอับอาย เพราะเป็น “คนเคยรวย” มาก่อน
ที่ผ่านมา ทางวัดจะมีการสรรเสริญว่า หากใครทำบุญมาก เขาก็จะยกย่อง ใครที่ได้นั่งแถวหน้า ได้อยู่ในห้องแอร์ ซึ่งเป็นเครื่องแสดงว่า บริจาคเงินเป็นล้านบาทต่อครั้ง
แต่หากบริจาคน้อยหน่อย...ก็จะได้นั่งอยู่แถวหลังๆ ไป
ปล่อยกู้สาธุชนทำบุญ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 12% ต่อปี!
นอกจากนี้ ทางวัดยังมีการตั้งสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนขึ้นมา สำหรับ
คนที่มีเบี้ยน้อยหอยน้อยแต่ใจใหญ่ หากกู้ไปทำบุญ เขาจะปล่อยให้ทันทีเลย เสียดอกร้อยละ 12% ต่อปี ซึ่งเงินจากตรงนี้ จึงมาปั่นสร้างสิ่งปลูกสร้างรอบวัดพระธรรมกาย


รู้กันไหม? ห้องนอน ธัมมชโย สุดแสน luxury ใช้สบู่ก้อนหลักพัน ชำระร่างกาย
ขณะเดียวกัน ภายในวัดก็ยังมีห้องซาลอน สำหรับไว้บริการ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย เอาไว้ด้วย ด้วยเหตุเพราะ
ท่าน เป็น คนเจ้าสำอาง!
เวลาฉันข้าวจะเนี้ยบมาก อาหารต้องร้อน รสชาติไม่จัด กระดาษทิชชู่จะถูกพับไว้อย่างดี ส่วนสบู่ที่ท่านใช้ สบู่ยี่ห้อ “ดร.ปาโยต์” เป็นสบู่ที่มีขายในปารีสที่เดียวซึ่งไม่มีขายที่อื่นและราคาก้อนละหลายพันบาท ซึ่งมีสีกาคนหนึ่งเป็นคนสั่งซื้อมา ซึ่งตัวท่านให้ความสำคัญเรื่องผิวพรรณเป็นอย่างมาก ลักษณะคล้ายกับเหล่าศิลปิน

ทีมข่าวฯ ถามว่า ด้วยเหตุที่อัฐบริขารต่างๆ ค่อนข้างอยู่อย่างสะดวกสบาย ทำให้ หลวงพ่อธัมมชโย ยังอยู่จำวัด ไม่หนีไปไหนหรือไม่ นพ.มโน อดีตศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า “นี่เป็นปัจจัยหนึ่ง โดยเฉพาะห้องที่ท่านอยู่ มีลักษณะเป็น ห้อง luxury มากๆ
อาคารภาวนาบริเวณห้องของท่าน เมื่อท่านเปิดม่านออกมา จะเห็นเป็นทะเลสาบ มีน้ำพุตรงกลาง สวยมากๆ มองสองข้างเขียวชอุ่ม มีนกยูง นกชนิดต่างๆ เดินและบินไป ในพื้นที่เป็นห้องแอร์ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีคนนวดตลอด รวมทั้งยังมีพยาบาลสาวคนหนึ่งนวดหน้าให้วันละ 3 ครั้ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เปิดเผย นอกจากนี้
ยังมีพระลูกวัดช่วยนวดขาอีกด้วย

เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล? โอกาสเข้าตราจน ถูกคนกันเองบีบให้จนตรอกของธัมมชโย มีแค่ไหน
เนื่องจากภาครัฐมีการกดดันอย่างหนัก มีโอกาสไหมที่ทางวัดโดยลูกศิษย์วัด หรือผู้ที่ดูแลผลประโยชน์ของวัด จะทำการกดดันพระธัมมชโย ให้มอบตัวเอง ในเรื่องนี้ นพ.มโน กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะธัมมชโย ไม่ได้ทำงานด้วยเหตุด้วยผล แต่ท่านทำอะไรด้วยอารมณ์ และท่านเองเคยประกาศหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะท่านทนให้ถูกปั๊มนิ้วไม่ได้ ท่านเหมือนไข่ในหิน ถูกประคบประหงมมากว่า 30 ปี การถูกแจ้งข้อกล่าวหา และถูกสืบสวน ซึ่งที่ผ่านมา ท่านเคยขึ้นศาลเป็นร้อยๆ ครั้งในอดีตในปี 2542-2549 ท่านเครียดถึงขนาดอาเจียนเป็นเลือดมาแล้ว เรียกว่าตอนนั้น “หมดสภาพ”
“หนทางที่จะเป็นไปได้ก็คือ “หนี” หรือไม่ก็ถูกจับ”



เชื่อ...ธรรมกาย อาณาจักรฟอกเงิน คาดหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าแสนล้าน!
นพ.มโน เปิดเผยว่า ธุรกิจวัดธรรมกายมีเยอะมาก เริ่มตั้งแต่ปี 2526 ตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มีธุรกิจเพชร พลอยและเครื่องประดับ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ มีมาก ส่วนตัวเชื่อว่ามีเงินหมุนเวียนในธุรกิจทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้าน ผมได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ทราบว่า ในปี พ.ศ. 2551-2556 มีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาท ตรงนี้คือ อาณาจักรแห่งการฟอกเงิน ที่สำคัญ คือ ฝึกคนในวัดเป็นอย่างดี คือ สอนให้ตัดอกตัดใจ และไม่ให้สงสัยเงินในวัดว่าจะไปทำอะไร
หากมองที่ส่วนอสังหาริมทรัพย์ภายในวัด การก่อสร้าง อาคาร 100 ปี งบการก่อสร้าง 4 พันกว่าล้าน ที่เป็นอาคารทรงกลมคล้ายกับลูกฟุตบอล ซึ่งอาคารนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างมาแล้ว 6-7 ปี แต่ก็ไม่เสร็จเสียที ทำให้ดูเหมือนกับว่ามีการก่อสร้างอยู่ตลอด แต่แท้ที่จริงมันเสร็จตั้งนานแล้ว แต่คนทั่วไปไม่รู้คิดว่าขาดงบประมาณที่จะสร้าง นอกจากนี้ วัดสาขาของธรรมกาย ในต่างประเทศ ก็ไม่เคยส่งเงินไปเลย วัดแต่ละสาขาต้องหาเงินเลี้ยงด้วยตัวเอง โดยญาติโยมส่งเงินเข้ามาด้วยตัวเอง

อาณาจักรฟอกเงินนี้ มีมหาเศรษฐีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ หมอมโน กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่ามี โดยเฉพาะมหาเศรษฐีรายหนึ่ง เขารวยขึ้นทุกปี เพราะแกทำธุรกิจร่วมกับทางวัด ทำให้มีเงินเพิ่มขึ้นปีละหลายพันล้าน
ขุมกำลังกุนซือธรรมกาย ปริศนา...พื้นที่ 2 พันไร่ อุโมงค์ลับ เครื่องปั่นไฟ
เชื่อว่าตำรวจเขารู้ว่า พระธัมมชโย อยู่ตรงจุดไหน เพราะไม่ว่าผมไปออกรายการไหนผมก็ชี้เป้าไปที่ อาคารภาวนาอาคารทั้งหมด มีที่ 2 พันไร่ ไม่เคยขออนุญาตทางการ น้ำบาดาลก็ทำเอง โรงปั่นไฟของวัดก็ทำเอง ทั้งหมดที่ทำเถื่อนหมด บริเวณ 130 ไร่ที่ติดกับทางทิศใต้ที่มีหอฉันท์
“อุโมงค์ลับมีอยู่ที่บริเวณ อาคารภาวนา 60 ปี ในเขต 2 พันไร่ สร้างขึ้นมาเป็นที่นั่งสมาธิ และเป็นที่เดินออกกำลังกาย ท่านชอบเดินออกกำลังกายเป็นประจำ จะเดินในอุโมงค์แบบนี้แล้วจะมีประตูโผล่ออกมา ส่วนคนสำคัญของวัด ตอนนี้มี พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว) รองเจ้าอาวาสวัด ท่านมีลักษณะนิสัยค่อนข้างใจใหญ่ และเชื่อว่าคนนี้แหละ ที่อยู่เบื้องหลังการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น”

สุดท้าย หมอมโน กล่าวว่า เชื่อว่า วัดพระธรรมกาย มีสายอยู่ในหน่วยงานต่างๆ หลายระดับ ฉะนั้นเวลาที่ภาครัฐจะทำอะไร เช่นไปขอหมายค้น ทางวัดเขาก็จะรู้สถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างดี การข่าวอาจจะดีกว่าภาครัฐด้วยซ้ำ กลับกัน ภายในวัดเองก็เครียด ส่วนตัวเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐพยายามที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่ที่ต้องมีเปลี่ยนแผนบ้างเพราะการข่าวรั่วไหล จึงต้องเปลี่ยนแผนมาดำเนินการด้านข้อกฎหมายด้วยการดำเนินคดีกว่า 100 คดีแล้ว...
กรณีนี้ คงต้องจับตาดูกันอย่างใจจดจ่อว่า กฎหมาย VS ศรัทธา จะนำพาคดีนี้ไปถึงตรงไหน... หลวงพ่อธัมมชโย ยังคงอยู่ในวัดหรือไม่ อุโมงค์ลับมีจริงหรือเปล่า ธรรมกายจะใช่แหล่งฟอกเงินระดับมโหฬารดั่งที่ถูกกล่าวหาหรือไม่? คงต้องรอการพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่เท่านั้น

ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/814102
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่