อยากให้เพื่อนๆ ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ไปตรวจเลือดกันบ่อยๆ 3 เดือนครั้งก็ได้
My story.
ผมคนนึงที่กลัวการตรวจเลือดมาก จนไม่เคยคิดกล้าตรวจ ไม่กล้าบริจาตเลือด(เพราะกลัวเข็ม) ในวันเรียน ปี4 อายุประมาณ22 ปี ผมใช้ชีวิตแบบเซฟตี้สุดๆ ไม่มั่ว จึงไม่คิดกังวัลเรื่อง hiv จนกระทั้งเวลาผ่าน มาจนผมเรียนจบ ผมเริ่มใช้ชีวิตแบบไม่ดีเท่าไร เริ่มมีความสัมพันธ์ชั่วคราว จนผมอายุ 25 ผมจึงตัดสินใจตรวจเลือดผลปรากฏว่า ผมมีเลือดบวก หมอบอกผมว่าน่าจะมีเขื้อมาได้ 3-4 ปี เข่าทรุดเลย นับเวลาย้อนไปตอนนั้น คือใสๆ วัยเรียน ยังไม่รู้จักโลกมากเลย ติดได้ไงอ่ะ เอาจริงๆชีวิตในวัยทำงานผมน่าจะติดมากกว่าอีก ผมเซฟตลอดนะครับ ยกเว้นออรัล (ผมยังนึกเลยว่าระยะเวลาที่เราไม่ทราบว่าเรามีเชื้อ เราได้ไปทำร้ายใครหรือไม่ ผมขอโทษนะครับถ้าผมเกิดแพร่ให้ใคร ผมไม่รู้ตัว) และผมก็ไม่โทษคนที่นำมาให้ผม
ผมได้คุยกับพยาบาลและหมอ ผมก็โอเคที่จะรับยา ใช้ชีวิตต่อ ระหว่างทางขับรถกลับ คนแรกที่ผมตัดสินใจบอกคือแม่ และครอบครัว ทุกคนโอบกอดผมด้วยคำพูดที่รักและห่วง บอกให้เราอยู่ต่อ อย่าคิดสั้น ต่อมาคือแฟนล่าสุดที่พึ่งตัดสินใจคบกัน 3-4 เดือน หลังจากที่บอกผมก็บอกว่าให้เขาเลิกกับผมได้นะ และก็ให้เขาไปตรวจ ความสัมพันธ์เริ่มเจือจางค่อยๆจางหายภายใน 3 เดือน ตลอดเวลา 3 เดือน เขาคงพยายามทำให้เหมือนเดิมที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน (ไม่มีอะไรกัน) พยายามคุยแต่เขาก็ได้รู้ตัวเองว่ามันไม่ใช่สำหรับเขา ในเดือน มกรา ผมเริ่มอึดอัดกับสถานะเลยถาม เขาบอกที่ผ่านมา ห่วงเหมือนน้อง ที่บอกเพราะไม่ใช่ว่าเขามีคนใหม่ ผมก็โอเคในสถานะ พี่น้องและสบายใจโอเค แต่พอหลังจากวันที่เราโอเคในสถานะพี่น้อง เขาก็หายไปเลยปิด บลอคทุกอย่าง ผมอยากรู้ว่านี่หรือคือคำว่า ห่วงผมเหมือนน้อง
ตอนนี้ผมโอเคที่จะใช้ชีวิตอย่างเดียวดาย มีความสุข ได้รักตัวเอง ได้ดูแลตัวเอง ได้รู้ว่าคนที่รักเรามากคือครอบครัวและญาติ
อยากเล่าเพื่อเป็นประสบการณ์อุทาหรณ์ เตือนใจและสติ ถึงชายรักชาย ชายรักหญิง ก็ตาม ถ้ามีรักเดียวดีที่สุดครับ ใช่ว่าชีวิตผมจะอยากเปลี่ยนแฟนหรือคู่นอนบ่อยๆ ผมก็อยากมีแฟนเป็นตัวตน แต่ผมก็มักโดนเทตลอด
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนไปตรวจเลือดกันนะครับ เพื่อตัวเอง และคนอื่น ยินดีให้คำปรึกษานะครับ
Hiv รู้เร็ว รักษาได้ แต่ถ้ารู้ช้าก็ใช่ว่าจะรักษาไม่ได้ อยู่ที่ใจของเรา
My story.
ผมคนนึงที่กลัวการตรวจเลือดมาก จนไม่เคยคิดกล้าตรวจ ไม่กล้าบริจาตเลือด(เพราะกลัวเข็ม) ในวันเรียน ปี4 อายุประมาณ22 ปี ผมใช้ชีวิตแบบเซฟตี้สุดๆ ไม่มั่ว จึงไม่คิดกังวัลเรื่อง hiv จนกระทั้งเวลาผ่าน มาจนผมเรียนจบ ผมเริ่มใช้ชีวิตแบบไม่ดีเท่าไร เริ่มมีความสัมพันธ์ชั่วคราว จนผมอายุ 25 ผมจึงตัดสินใจตรวจเลือดผลปรากฏว่า ผมมีเลือดบวก หมอบอกผมว่าน่าจะมีเขื้อมาได้ 3-4 ปี เข่าทรุดเลย นับเวลาย้อนไปตอนนั้น คือใสๆ วัยเรียน ยังไม่รู้จักโลกมากเลย ติดได้ไงอ่ะ เอาจริงๆชีวิตในวัยทำงานผมน่าจะติดมากกว่าอีก ผมเซฟตลอดนะครับ ยกเว้นออรัล (ผมยังนึกเลยว่าระยะเวลาที่เราไม่ทราบว่าเรามีเชื้อ เราได้ไปทำร้ายใครหรือไม่ ผมขอโทษนะครับถ้าผมเกิดแพร่ให้ใคร ผมไม่รู้ตัว) และผมก็ไม่โทษคนที่นำมาให้ผม
ผมได้คุยกับพยาบาลและหมอ ผมก็โอเคที่จะรับยา ใช้ชีวิตต่อ ระหว่างทางขับรถกลับ คนแรกที่ผมตัดสินใจบอกคือแม่ และครอบครัว ทุกคนโอบกอดผมด้วยคำพูดที่รักและห่วง บอกให้เราอยู่ต่อ อย่าคิดสั้น ต่อมาคือแฟนล่าสุดที่พึ่งตัดสินใจคบกัน 3-4 เดือน หลังจากที่บอกผมก็บอกว่าให้เขาเลิกกับผมได้นะ และก็ให้เขาไปตรวจ ความสัมพันธ์เริ่มเจือจางค่อยๆจางหายภายใน 3 เดือน ตลอดเวลา 3 เดือน เขาคงพยายามทำให้เหมือนเดิมที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน (ไม่มีอะไรกัน) พยายามคุยแต่เขาก็ได้รู้ตัวเองว่ามันไม่ใช่สำหรับเขา ในเดือน มกรา ผมเริ่มอึดอัดกับสถานะเลยถาม เขาบอกที่ผ่านมา ห่วงเหมือนน้อง ที่บอกเพราะไม่ใช่ว่าเขามีคนใหม่ ผมก็โอเคในสถานะ พี่น้องและสบายใจโอเค แต่พอหลังจากวันที่เราโอเคในสถานะพี่น้อง เขาก็หายไปเลยปิด บลอคทุกอย่าง ผมอยากรู้ว่านี่หรือคือคำว่า ห่วงผมเหมือนน้อง
ตอนนี้ผมโอเคที่จะใช้ชีวิตอย่างเดียวดาย มีความสุข ได้รักตัวเอง ได้ดูแลตัวเอง ได้รู้ว่าคนที่รักเรามากคือครอบครัวและญาติ
อยากเล่าเพื่อเป็นประสบการณ์อุทาหรณ์ เตือนใจและสติ ถึงชายรักชาย ชายรักหญิง ก็ตาม ถ้ามีรักเดียวดีที่สุดครับ ใช่ว่าชีวิตผมจะอยากเปลี่ยนแฟนหรือคู่นอนบ่อยๆ ผมก็อยากมีแฟนเป็นตัวตน แต่ผมก็มักโดนเทตลอด
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนไปตรวจเลือดกันนะครับ เพื่อตัวเอง และคนอื่น ยินดีให้คำปรึกษานะครับ