[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ 2017 : 6 วัดเจดีย์หลวงฯ, วัดพันเตา, สวนผักโอ้ กะ จู๋

เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ 2017 : 6 วัดเจดีย์หลวงฯ, วัดพันเตา, สวนผักโอ้ กะ จู๋

เป็นตอนที่ 6 ของการเที่ยวเชียงใหม่ของปี 2017 ต่อจาก

"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ 2017 : 1 เฮือนจันทร์เป็ง, น้ำพุร้อนสันกำแพง, The Giant"

https://pantip.com/topic/36162624

"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ 2017 : 2 บ้านแม่กำปอง, นาซิ จำปู๋, ออย-โอ๊ดหมูกระทะ"

https://pantip.com/topic/36173974

"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ 2017 : 3 นางพญาเสือโคร่งจอมทอง, วัดต้นเกว๋น, แยกรินคำ"

https://pantip.com/topic/36186402

"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ 2017 : 4 โจ๊กช้างม่อย, ปาท่องโก๋โกเหน่ง, แหนมบุญศรี กาดหลวง"

https://pantip.com/topic/36210128

และ "เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ 2017 : 5 วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน, วัดหนองโค้ง, ข้าวซอยนิมมาน"


16.40 น.จากร้านข้าวซอยนิมมาน นั่งรถไปวัดพันเตาที่ถนนพระปกเกล้า

แต่เนื่องจากวัดพันเตาไม่มีที่จอดรถ จึงต้องไปจอดรถในวัดเจดีย์หลวงฯ ที่อยู่ติดกัน



สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องเสียค่าเข้าชมวัดเจดีย์หลวง



วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงในจังหวัดเชียงใหม่ มีชื่อเรียกหลายชื่อ

ได้แก่ ราชกุฏาคาร วัดโชติการาม สร้างขึ้นในรัชสมัยพญาแสนเมืองมา พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 7

แห่งราชวงศ์มังราย ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ. 1928 - 1945

และมีการบูรณะมาหลายสมัย โดยเฉพาะพระเจดีย์ ที่ปัจจุบันมีขนาดความกว้างด้านละ 60 เมตร

เป็นองค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญอีกองค์หนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ สร้างอยู่กลางใจเมืองเชียงใหม่

ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของอาณาจักรล้านนา แต่เดิมวัดเจดีย์หลวง ชื่อ “โชติการามวิหาร”

แปลว่า พระอารามที่มีแต่ความรุ่งเรืองสว่างไสว เนื่องจากเป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุ และพระธาตุ

ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ในกาลครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าอโศกมหาราช

ส่งสมณะทูต 8 รูป ภายใต้การนำพระโสณะ และ พระอุตตะระ เข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนา

ในเขตสุวรรณภูมิ รวมทั้งภูมิภาคนี้ด้วย ได้นำเอาพระบรมธาตุมาบรรจุไว้ในองค์เจดีย์องค์เล็กสูง 3 ศอก

ที่สร้างขึ้น ณ บริเวณอันเป็นที่ตั้งของพระธาตุเจดีย์หลวงในปัจจุบัน ในเวลานั้นมีมีชายผู้หนึ่ง อายุ 120 ปี

มีใจเลื่อมใส ได้แก้เอาผ้าห่มชุบน้ำมันจุดบูชา และได้ทำนายว่า ต่อไปในภายภาคหน้า ตรงนี้จะเป็นอารามใหญ่

ชื่อโชติการาม พวกลัวะทั้งหลายเอาข้าวของบูชาพระธาตุพระพุทธเจ้า จึงก่อเจดีย์หลังหนึ่งสูง 3 ศอก

ไว้เป็นที่สักการบูชา นอกจากนี้ยังมีอีกนัยหนึ่งของคำว่า “โชติการาม” คือ เวลาที่มีการจุดประทีปโคมไฟไ

ปประดับบูชาองค์พระธาตุเจดีย์หลวง จะปรากฏจะปรากฏแสงสีสว่างไสว มองเห็นองค์พระเจดีย์คล้ายเชิงเทียน

ที่มีเปลวไฟลุกโชติช่วงสว่างไสว ดูแล้วมีความงดงามยิ่งนัก สามารถมองเห็นได้แต่ไกล

ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “วัดเจดีย์หลวง” เนื่องจากในภาษาเหนือ หรือคำเมือง หลวงแปลว่า “ใหญ่”

หมายถึง พระธาตุเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ (วิกิ)



ไม่ได้ตั้งใจมาวัดนี้ เพราะเคยมาแล้วหลายครั้ง

แต่เมื่ออาศัยวัดเป็นที่จอดรถ จึงแวะกราบพระประธานในพระอุโบสถ



พระประธานในพระวิหารหลวง คือ พระอัฎฐารส หล่อด้วยทองสำริด ปางห้ามญาติสูง 18 ศอก

พระนางติโลกะจุดา ราชมารดาของพญาติโลกราช โปรดฯให้หล่อขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1954

สมัยรัชกาลที่ 5 ใช้วิหารวัดเจดีย์หลวงเป็นที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัจจา แทนการใช้ที่วิหารวัดเชียงมั่น

http://www.dhammathai.org/watthai/north/watchediluang.php



ทางด้านซ้ายและขวา คือ พระอัครสาวก

ชื่อสินค้า:   วัดเจดีย์หลวงฯ, วัดพันเตา, โอ้ กะ จู๋
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่