หมอตรวจอาการผมผิดพลาด จากอาการแพ้และตาแดง ไปสู่อาการของงูสวัด

อาการตั้งแต่วันแรก อย่างละเอียด
วันที่ 1-2 มีอาการปวดตาขวา และก็แพ้เเสงนิดหน่อย เราเองนึกว่าเป็นเพราะอาจจะนอนดึกเกินไปทำให้ตาอ่อนล้า เลยไปซื้อยาแผงมากินเอง พอตกคืนที่สองอาการไม่ดีขึ้นเพราะมันปวดจนถึงกระบอกตา ลามไปถึงหัว เลยเอาผ้าประคบน้ำเเข็งมาวางที่ตาขวาเพื่อบรรเทาอาการ
วันที่ 3 อาการยังไม่บรรเทาลงกลับมีผื่นแดงขึ้นระหว่างจมูกจนถึงหน้าผากและบนหัวด้านขวาทั้งหมด(ความคิดตอนนั้นคิดว่าแพ้ผ้าหรือน้ำแข็งอาจจะไม่สะอาด) ตาแดงขึ้น แพ้แสงมากขึ้นจนต้องใส่แว่นกันแดดปิดผ้าม่านอยู่ในห้อง เผื่อลดอาการแพ้แสงและอาการปวดกระบอกตาและหัว มีตุ่มขึ้นหลังใบหูขวาสองตุ่ม กดไปก็ปวด เรารอจนบ่ายๆ แดดน้อยลงจึงไปหาหมอโดยใช้ประกันสังคมที่โรงพยบาลหัวเฉียว พอไปถึงคลินิกประกันสังของ รพ. จะอยู่ด้านหลังตรงที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ ผมก็ได้ไปลงทะเบียนเพื่อรอเรียกคิว เวลานั้นเป็นเวลาที่ทรมานมากน้ำตาไหลสามสี่รอบตรงตาที่ปวด แต่ดีหน่อยที่วันนั้นคนไม่เยอะเลยได้ตรวจไว พอถึงตาเราพยาบาลขานชื่อเราก็เขาไปที่ห้องตรวจ 6 พบกับหมอผู้หญิงวัยยังรุ่นๆอยู่ เราก็เล่าอาการให้หมอฟังว่าปวดตามาก 2 วันแล้ว ปวดจนถึงกระปอกตายันหัวข้างขวาทั้งซีก หมอก็เอามือมาจับที่หัวผมแล้วก็ถามว่าแพ้อะไรมาหรือเปล่า ผมก็ตอบว่าอาจจะเเพ้ผ้าหรือเปล่าไม่รู้เพราะเมื่อคืนเอาใส่น้ำแข็งมาประคบ เเล้วหมอก็เอามือมาเปิดเปลือกตาขวาเรา โดยให้มองลง มองขึ้น เเล้วเขาก็เขียนยาลงในใบตรวจแล้วก็มาว่า แพ้อะไรมาก็ไม่รู้เนอะ แล้วก็ตาแดง ผมก็เลยนึกได้ว่ามีตุ่มบวมหลังหูและหันไปให้หมอดู แต่ผมก็ไม่รู้เขาสนใจหรือเปล่านะครับ หลังจากนั้นก็ออกไปรอรับยาที่ชั้นสอง ยาที่คือ 1.ยาลดอาการปวดอักเสบ Ibuprofen 400 mg 30 เม็ด 2.ยาแก้แพ้ Loratadine 10 mg 10 เม็ด 3.ยาหลอดตา Allergis 1 หลอด กลับมาถึงบ้านก็หยอดตาทำตามที่หมดสั่ง ช่วงเวลานั้นต้องนอนหลับอย่างเดียวไม่ยังงั้นจะปวดแบบทรมานมาก แต่พอหลับไปสักพักก็ตื่นเพราะปวด เป็นอย่างนี้จนเช้าของอีกวัน
วันที่ 4 อาการที่เกิดขึ้นตามมาอีกคือ เปลือกตาขวาบวม ตุ่มหลังหูปวดมากขึ้น อะไรที่เข้าหูมานิดหน่อยก็ปวดขึ้นสมอง แต่ก็ไม่มากเท่ากับปวดตาแสงเข้าตาขวานิดเดียวก็ไม่ได้ อยากบอกว่าทรมานมาก บางทีก็มีอาการร้อนๆหนาวๆเหมือนจะเป็นไข้ ผมก็เลยโทรเข้า รพ. หัวเฉียวช่วงเย็นปรึกษาหมอแผนกฉุกเฉินเล่าให้หมอฟังว่าเมื่อวานมาหาหมอที่คลินิกประกันสังคมเล่าอาการแบบนี้ๆๆให้หมอฟัง แต่วันนี้อาการมันเหมือนจะแย่ลงเปลือกตาบวม หมอก็เลยบอกให้รีบกลับมาหาหมอได้เลยเผื่อแพ้ยาอะไร และได้บอกรหัส HN ให้หมอไป คืนนั้นผมก็ไปเลย ลงทะเบียน รอหมอเรียก พอถอดเเว่นออก หมอบอกเลยว่าเป็นงูสวัดถ้าเป็นผื่นแบบนี้ แล้วเขาก็ดูประวัติตรวจหมอคนที่แล้วแล้วเขาก็ถามว่า หมอคนนั้นได้ให้ไปตรวจตาไหม ผมก็เลยตอบว่าไม่ได้ให้ไปตรวจ ผมก็เลยถามกลับหมอคนนั้นตรวจผิดใช่ไหม หมอก็ไม่พูดอะไรแต่ให้เราลืมตาขึ้นขึ้นแล้วก็ให้เรามองบน ล่าง และบอกว่า พรุ่งนี้หมอจะนัดให้พบกับหมอตาเพื่อตรวจว่าไปถึงกระจกหรือยังถ้ายังก็โชคดีไป แต่ถ้าถึงก็เรื่องใหญ่เลยละ ยาที่ใช้อยู่ปัจจุบันให้ยกเลิกทั้งหมด หมอจะให้ยาต้านไวรัสไป 1 แผง มี 5 เม็ดต้องกินให้ตรงเวลาอย่าขาด อย่าขยี้ตา อย่าเอามือไปโดนแผลที่อยู่บนหน้า เดี๋ยวมันจะติดเชื้อได้ หลังจากนั้นก็นั่งรอรับยา ยาที่ได้ก็จะมี 1. ยาน้านไวรัส Acyclovir 800 mg 50 เม็ด 2. Amitriptyline 10 mg 10 เม็ด กลับมาถึงห้องก็นอน
วันที่ 5 ที่นี้ตาปิดหมดเลย เลยรีบไปหาหมอตาที่นัดไว้ ตอนที่นั่งรถไปหาหมออยากบอกว่าทรมานมากเพราะตกหลุมทีกระดูกตั้งแต่ต้นคอจนถึงก้นกบมันเหมือนกับโดนทุบปวดร้าวไปหมด กว่าจะถึง รพ. แทบตาย แล้วก็เหมือนเดิมที่ทำประจำ ลงทะเบียน รอคิวแต่วันนี้นานมากเพราะคนเยอะมาก น้ำตาไหลไปสี่ห้ารอบ ต้องไปตรวจวัดสายตาอีกเหมือนคนจะตัดแว่นตา ที่อ่านตัวเลขบนกำแพง ตาเราก็ลืมไม่ขึ้นมองเห็นไหมก็มองเห็นแต่เต็มไปด้วยน้ำตาเลยมองไม่ค่อยเห็น พอถึงคิวเราเข้าห้องตรวจหมอเขาก็เอากล้องส่องตาเราให้มองบน ล่าง ซ้าย ขวา เเล้วก็เอาสีทาทีตาเพื่อให้เชื้อติดจะได้รู้ว่าไปถึงไหนละ พอเสร็จแล้วหมอก็บอกว่า ดีที่เชื่อยังไม่ถึงกระจกตา มันอยู่แค่เปลือกตากับเนื้อเยื่อบุตา มีอาการเคืองตาไหมเพราะหมอจะให้น้ำเทียมไปหยอดเพิ่ม และหมอถามถึงสาเหตุว่าเป็นเพราะนอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงหรือว่ายังไงเราก็เลยบอกว่าใช่ หมอก็เลยบอกว่ามันอาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เราเป็นเอดส์เพราะเป็นสาเหตุนึงที่คนที่เป็นโรคนี้เป็นกัน เป็นครั้งแรกถือว่าปกติ แต่ถ้าเราเป็นงูสวัดครั้งที่สองแสดงเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นเอดส์ ที่หมอพูดเพราะเราจะได้รักษาตรงจุด หลังจากนั้นเราก็กลับมาบ้าน ตั้งแต่วันแรกถึงวันที่ 5 ข้าวที่กินไปแค่ 8 คำ ที่เหลือคือน้ำเปล่า วันนี้เป็นวันแรกที่กินยา อาการที่จะทุเลาลงยังไม่มี
วันที่ 6 อาการปวดหัว ปวดกระบอกตาลดลง แต่ตาก็ยังบวม พยายามล้างตาอย่าให้ขี้ตาติดตาจนเป็นเยื่อเพราะมันจะล้างยาก พอเราพยายามลืมตา ตาน่ากลัวมากแดงจนเหมือนมันจะแตก แต่ก็ยังแพ้แสงอยู่แต่แพ้น้อยลง ข้าวก็ยังไม่กินเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่ามีกำลังขึ้นมานิดนึง แต่ยังมีอาการร้อนๆหนาวๆอยู่บ้าง
วันที่ 7 แผลเริ่มแห้ง ปวดแสบปวดร้อนตรงที่มีผื่น มีกำลังขึ้นอีกนิด กินข้าวได้แต่น้อย ผลไม้กินได้ แต่อาการแพ้แสงยังอยู่ ตุ่มหลังหูเริ่มยุบ ไม่ค่อยปวดเวลาโดน
วันที่ 8 เริ่มกลับมากินได้มากขึ้น ผื่นแผลบนหัวหาย ตาเริ่มลดอาการบวม แต่ยังลืมตาไม่ค่อยได้ เริ่มอยากเดินไปไหนมา
วันที่ 9 ปัจจุบัน กินได้ปกติ ตาปกติ แต่ยังสู้แสงไม่ค่อยได้ แสบตาเวลาน้ำตาเพราะโดนแผลที่เปลือกตา แผลที่หน้าแห้ง รอติดตามต่อนะครับจะอัพเดตเรื่อยๆ
ขอบคุณนะครับที่อ่าน ^_^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่