Review: Beauty and the Beast (Bill Condon, 2017) เขียนโดย Form Corleone

Beauty and the Beast (Bill Condon, 2017) คะแนน B


By Form Corleone

" รักแท้นั้นเกิดขึ้นยาก แต่รักที่เหนือกว่าคือรักกันที่จิตใจ " Beauty and the Beast ฉบับคนแสดงคือ ความพยายามที่จะให้เหมือนต้นฉบับการ์ตูน จนทำให้ทุกอย่างในเรื่องดูตั้งใจจนผิดถนัด เสมือนเอาคนมาทำให้เป็นการ์ตูน ไม่ใช่เปลี่ยนจากการ์ตูนให้กลายเป็นคน สำหรับเราเลยรู้สึกติดใจเล็กๆ ว่าทำไมถึงต้องพยายามที่จะให้เหมือนขนาดนั้น หนังเก็บรายละเอียดส่วนต่างๆค่อนข้างดีมาก ทั้งฉากหลัง งานภาพ งานโปรดักชั่น ทั้งหมดทำออกมาได้ตามมารฐานงานดิสนีย์ ถ้าจะมองข้อเสียหรือจุดไม่ดีของหนังเรื่องนี้คงจะมีค่อนข้างเยอะ เช่น ความสัมพันธ์ในเรื่องความรักระหว่าง 'Belle' กับ 'Beast' ที่รู้สึกว่าเบาบางเกินไปที่จะทำให้รักกันได้จริงๆ หนังมีการตัดสลับเหตุการณ์บางช่วงตัดเร็วมาก บางช่วงกลับเนิบช้า และบางมุมก็หมุนกล้องจนรู้สึกมึนหัว แม้ว่าหนังจะมาพีคในเรื่องความสัมพันธ์ในช่วงท้ายๆเรื่องก็ตาม มันก็ไม่ได้ช่วยให้ตัวหนังมีน้ำหนักที่สมดุล แต่ถ้ามองข้ามความเป็นเหตุเป็นผลหรือแรงจูงใจของตัวละครออกไป ประเด็นความดีของ 'Beauty and the Beast' ฉบับคนแสดงที่เกือบจะก็อปปี้ฉบับการ์ตูนแบบจับวางเลยนั้น คือข้อความระหว่าง 'อสูรกายกับมนุษย์' ที่ยังคงเป็นประเด็นที่เราชอบมากกว่าความรักระหว่างอสูรกับสาวงามเสียมากกว่า ประเด็นของเปลือกนอกที่ฉาบจิตใจที่อ่อนโยนเอาไว้ หรือการตีตราตัดสินสิ่งที่เห็นโดยปราศจากการคิดพิจารณา ไม่ได้ทำความรู้จักกันอย่างแท้จริง ก่อนตัดสินว่าเจ้าสิ่งนั้นเป็นภัยต่อตัวเองและต่อคนอื่น มนุษย์ก็เพียงเชื่อว่าสิ่งนั้นคืออันตรายจากรูปลักษณ์ภายนอกไปเสียแล้ว และรุมทำร้ายเจ้าสิ่งนั้นอย่างป่าเถื่อน แท้จริงแล้วจิตใจที่โหดร้ายนั้นแหละคือ 'อสูรร้ายตัวจริง'


ถึงจะมีสิ่งที่เราไม่ชอบใจในหลายๆจุด แต่ภาพรวมของ 'Beauty and the Beast' ยังคงเป็นงานที่ดูได้เพลิน+สนุกไปพร้อมกับเสียงเพลงที่เพราะมากจนติดหู 'Emma Watson' ทำให้เรารู้สึกละลายตั้งแต่ฉากแรกที่ปรากฏตัว เสียงใสเพราะมาก ยิ่งใส่กระโปรง วิ่งไปวิ่งมา ร้องเพลงไปด้วยยิ่งทำให้มีเสน่ห์สุดๆ เรียกได้ 'Emma Watson' คือส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ในความคิดของเราเลย ในส่วนนักแสดงคนอื่นๆ สำหรับเราคิดว่า 'Luke Evans' ที่รับบทเป็น 'Gaston' แสดงได้ดีในบทบาทนี้ที่ดูเหมือนคนจริงๆ ไม่ใช่ร่างทรงการ์ตูนเหมือนตัวละครตัวอื่น (รวมถึง 'Emma Watson' ที่เหมือนร่างทรงของ Belle เหมือนกัน)


อย่างไรก็ตาม คงแล้วแต่มุมมองว่าใครชอบแบบไหน บางคนอาจจะชอบที่หนังทำได้เหมือนการ์ตูนมาก ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แต่สำหรับเรา การที่หนังเปลี่ยนจากการ์ตูนมาเป็นคนแสดงนั้น อารมณ์ร่วมถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะเวลาคนแสดงมันสามารถให้มิติที่แตกต่างไปจากการ์ตูนได้ สามารถแทรกความรู้สึกผ่านทางการกระทำได้มากกว่าการ์ตูน รวมถึงสอดแทรกความสมเหตุสมผลเข้าไปได้มากกว่าที่เป็นอยู่ แม้หนังจะใส่ในส่วนภูมิหลังของตัวละครไปบ้างเหมือนกัน แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้ให้น้ำหนักที่รองรับสิ่งต่างๆในหนังได้เท่าที่ควร มันเลยทำให้เรารู้สึกไม่อินเหมือนตอนเรานั่งดูฉบับการ์ตูน เพราะเราคาดหวังว่ามันจะมีอะไรที่เหนือไปกว่าหนังการ์ตูน ในส่วนของฉากมันก็สวยมากนะแต่มันไม่น่าจดจำ โดยเฉพาะฉากเต้นรำที่ควรจะเป็นฉากที่ทำให้เราจดจำได้ แต่หนังกลับทำได้เรียบเฉยมากๆ ยกเว้นแค่ตัว 'Emma Watson' ที่เจิดจรัสมากับชุดสีเหลืองเพียงเท่านั้น


ท้ายสุด 'Beauty and the Beast' ยังคงให้ความบันเทิงใจในระดับที่น่าพอใจ สามารถดูได้เพลินๆ ไม่ได้แย่จนรู้สึกเบื่อแต่ก็ไม่ได้ดีจนรู้สึกประทับใจ เป็นงานที่มีคุณภาพในส่วนของงานภาพ เสียง แสงสี เครื่องแต่งกาย ที่เจริญไปด้วยเทคนิคต่างๆตามยุคสมัย มาตรฐานงานของดิสนีย์ยังคงทำให้เรามั่นใจทุกครั้งที่ได้ดูว่าอย่างน้อยๆจะต้องมีสิ่งดีๆหลงเหลืออยู่บ้างไม่มากก็น้อย และสุดท้ายการกำกับของ 'Bill Condon' ยังคงทำได้น่าผิดหวังในความคาดหวังว่าเราน่าจะมีภาพจดจำได้สักฉากสองฉากก็ยังดี แต่มันไม่มีหลงเหลือหลังดูจบนอกจากภาพ 'Emma Watson' เพียงอย่างเดียวหรือเพราะว่าเราอาจจะโฟกัสแค่ 'Emma' จนลืมมององค์ประอื่นๆไปก็ได้...


ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ ยิ้ม)

ตัวอย่างหนัง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่