สวัสดีครับ ใครทราบแนะนำด้วยนะครับ อำนาจของตำรวจไทยมีขอบเขตจำกัดมากน้อยเพียงใด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผมได้ประสบพบเจอกับตัวเอง เนื่องจากน้องชายผมไปเที่ยวกับเพื่อนเพราะน้องหยุดงาน เหตุเกิดเวลาประมาณ11.30ถึงเวลา12.10 บริเวรใต้ทางด่วนแถวสมุทรปราการ น้องชายและเพื่อนน้องชายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ขับรถปาดหน้าแล้วลงจากรถ เข้ามารุมล้อมตัวน้องชายและเพื่อนน้อง พร้อมทั้งแย่งกุญแจรถจักรยานยนต์และกระเป๋าเงิน (มีการแย่งเอาโทรศัพท์น้องผมด้วย น้องผมแย่งมาคืน และหนึ่งในชายฉกรรจ์มาผลักอกน้องชายเหมือนจะทำร้าย)น้องผมตกใจ จึงวีดีโอคอลมาหาผมและผมก็เห็นเหตุการณ์ในขนะนั้นด้วย เขาบอกว่าเป็นตำรวจ ผมเลยบอกให้น้องเอาโทรศัพท์ให้คุยกับบุคคลดังกล่าวหน่อย เขาไม่แต่งเครื่องแบบเขาพยายามไม่ให้ผมเห็นหน้าเลย ผมขอดูบัตรข้าราชแต่เขาไม่แสดงเลย ผมเลยบอกไปว่าผมยังไม่เชื่อว่าพี่เป็นตร.ถ้าพี่ไม่แสดงบัตร ผมจะขอให้กองร้อยรักษาความสงบเข้าไปช่วยดูให้นะครับ สักพักเขาวางสาย ตอนนั้นผมตกใจมากคิดว่าคงเป็นแก๊งมิจฉาชีพ ผมเลยประสานขอความช่วยเหลือไปยังกองร้อยรักษาความสงบ พอสักพักผมโทรไปเบอร์น้องชาย(บันทึกเสียงไว้)ผมบอกน้องให้คุยกับตร.หน่อย พอคุยเขาก็คุยในทำนองข่มขู่ว่าเขารู้จักผบช.ผม จะให้ผบ.ร้อยซ่อมผมให้ตาย และยังขู่ว่าถ้าน้องพูดมากเดี๋ยวเขาจะย้ายนะต่อว่าผมต่างๆนาๆ เขาบอกว่าเดี๋ยวจะมีเรื่อง ทั้งที่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดพูดดีๆกับเค้าแล้าอธิบายเขากลับหาว่าผมใช้อำนาจ
ในตอนนั้นถ้าไม่ใช่ตร.จริงล่ะ น้องผมจะเป็นยังไง เวลานั้นใครก็ต้องการรู้ว่าเขาเป็นตร.จริงตามอ้างไหม เพราะการแอบอ้างใครก็สามารถแอบอ้างได้ แม้ว่าบุคคลที่ถูกแอบอ้าง จะมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ แต่ผมมารู้ภายหลังว่าเขาเป็นตร.เขาเป็นตร.สัญญาบัตรขู่จะย้ายทหารชั้นประทวนแปลกไหมครับ เขาเป็นร้อยตำรวจเอกและอยู่คนละเหล่าทัพ คนละกระทรวง การกระทำเยี่ยงนี้มันสมควรไหม เป็นการผิดวินัยหรือไม่และเป็นการผิดกฎหมายหรือไม่ครับ
ตำรวจหลงตัวเอง
ในตอนนั้นถ้าไม่ใช่ตร.จริงล่ะ น้องผมจะเป็นยังไง เวลานั้นใครก็ต้องการรู้ว่าเขาเป็นตร.จริงตามอ้างไหม เพราะการแอบอ้างใครก็สามารถแอบอ้างได้ แม้ว่าบุคคลที่ถูกแอบอ้าง จะมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ แต่ผมมารู้ภายหลังว่าเขาเป็นตร.เขาเป็นตร.สัญญาบัตรขู่จะย้ายทหารชั้นประทวนแปลกไหมครับ เขาเป็นร้อยตำรวจเอกและอยู่คนละเหล่าทัพ คนละกระทรวง การกระทำเยี่ยงนี้มันสมควรไหม เป็นการผิดวินัยหรือไม่และเป็นการผิดกฎหมายหรือไม่ครับ