เมืองทิพย์...เมืองไทย ดูละครแล้วย้อนดูตัว (เพลิงพระนาง)

เพิ่งดู เพิ่งรู้จักเรื่องราวของ 'เพลิงพระนาง' ก็จากเวอร์ชั่น ช่อง 7 นี่แหละ

           อ้าว! ดูไปดูมานี่มันละครการเมืองนี่(หว่า)  ไม่ใช่จะดูได้ทุกเพศทุกวัยแบบหนังนเรศวร(ภาคแรก)   แต่มันเป็นละครสำหรับผู้ใหญ่   แล้วก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ทุกคนจะชอบเพราะเป็นแนวขึ้งเครียดแย่งชิงอำนาจทั้งเรื่อง  จะว่าไปเป็นละครที่เหมาะกับผู้ชายด้วยซ้ำ  โดยเฉพาะคอการเมืองพลาดได้ไง!

          เห็นตบตี ด่าทอ กันครึ่งค่อนเรื่องนั่นมันแค่เปลือกนอก  แก่นแท้ความเป็น  'เพลิงพระนาง' เริ่มเผยให้เห็นแล้วตั้งแต่ทายาทถือกำเนิด  หลังจุดเพลิงแค้นจนลุกโชนได้ที่ก็ได้เวลาแผดเผา  แค่เสื้อผ้า หน้า ผม ของ 'เจ้านางอนัญทิพย์' รุ่นแม่โดยเฉพาะตอนยิ้มมุมปาก  จากนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
        
         ช่องและค่ายK อยากได้เรตติ้ง  แต่สำหรับคนดูอย่างเราในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้อยากให้ละครเรื่องนี้จุดประกายให้คนดูตื่นตัวเรื่องการเมือง การปกครองมากกว่า     แม้จะเป็นเรื่องสมมติแต่โศกนาฏกรรมของ 'เมืองทิพย์' ถือเป็นบทเรียนและกรณีศึกษาได้ทุกยุคทุกสมัย

        โดยเฉพาะ 'ผู้นำและอำนาจ'

ส่องละครสะท้อนประวัติศาสตร์ 'พม่าเสียเมือง' เรื่องจริงหรือตำนาน

       ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง   แต่อยากให้เกิดการต่อยอดศึกษาประวัติศาสตร์พม่าด้วย   ประเทศเพื่อนบ้านที่มีอิทธิพลต่อคนไทยเราตั้งแต่อดีต(กรุงแตก)จนปัจจุบัน(แรงงานพม่า+ปัญหาอาชญากรรม)ก็ว่าได้   ยังไม่นับ 'การเมือง' สู่ประชาธิปไตยเกิดใหม่ในนาม 'เมียนมาร์'

       ช่อง 7 และค่ายK ควรพลิกวิกฤติเป็นโอกาสจัดเสวนา ถก วิเคราะห์ประวัติศาสตร์พม่า  หยิบยกสองวรรณกรรมที่เป็นเค้าโครงเรื่องของ 'เพลิงพระนาง' มาวิเคราะห์ด้วย   นักวิชาการภาคประวัติศาตร์หลายมหาวิทยาลัยก็ได้  จัดที่หอประชุมธรรมศาสตร์   ไม่มีใครเขาว่าโปรโมตละครหรอกกระแสมีมาเป็นปีๆ ตั้งแต่ประกาศสร้างแล้ว    จัดเถอะดูก็รู้ว่าเพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ  กระจ่างแจ้งใจกันเสียที  

       ไม่ดีหรือกระตุ้นให้คนสนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์   แถมยังหันมาอ่านหนังสือกันมากขึ้นซึ่งไม่ได้มีแค่สองเล่มนี้หรอกที่เกี่ยวกับพม่า

       ทำเถอะ  นึกย้อนกลับไปจะได้ไม่เสียดายภายหลังว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่ทำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่