พระพุทธองค์ ทรงตรัสรู้ใน อริยสัจ ๔
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
สมุทัย , เหตุแห่งทุกข์นั้นคือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
เพราะความไม่รู้ จึงทะยานอยาก และตกอยู่ใต้อำนาจแห่งโทสะ เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่อยาก
ราคะ โทสะ โมหะ นี้คือไฟ ไฟที่แผดเผา ร้อนรน กระวนกระวาย อยู่ในจิตแห่งเหล่าเวไนยสัตว์ ให้ได้รับทุกขเวทนา
สัตว์นั้น เมื่อได้รับทุกข์เบียดเบียนตนแล้ว ย่อมไปกระทำการเบียดเบียนผู้อื่นด้วยอำนาจแห่งราคะ โทสะ และโมหะ
สัตว์นั้นเบียดเบียนกันก้อด้วยเหตุแห่งความทุกข์ ทุกข์จากไฟแห่งราคะ โทสะ และโมหะ
ผู้ไม่มีทุกข์ จึงจะไม่เบียดเบียนผู้อื่น หากแต่จะยังประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น
ผู้ที่เบียดเบียนผู้อื่น คือผู้ที่กำลังทุกข์ ทุกข์จากไฟราคะ โทสะ และโมหะ คือผู้ที่ถูกไฟแห่งราคะ โทสะ โมหะเบียดเบียน แล้วจึงไปสร้างความเบียดเบียน
ให้ผู้อื่นให้ได้รับทุกข์ต่ออีก
อริยมรรคแห่งพระพุทธองค์ คือหนทางดับทุกข์ให้ทั้งตนเอง และผู้อื่น
ผู้ปราศจากความทุกข์ คือผู้ที่ไม่เบียดเบียนตนเองแล้ว และจะไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น เป็นผู้ที่จะไม่ไปสร้างความเดือดร้อน วุ่นวาย ให้แก่ใครให้แก่สังคม
หากแต่เป็นผู้ยังประโยชน์ตน และยังประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อม
หากผู้คนในสังคมมีทุกข์เบาบางลง ปัญหา ความวุ่นวายของสังคมนั้นก้อจักเบาบางตามลงด้วย
และเหล่าเวไนยสัตว์ จะไม่เบียดเบียนกัน จะเบียดเบียนกันน้อยลง หากเวไนยสัตว์เหล่านั้นปราศจากความทุกข์ หรือมีความทุกข์น้อยลง
สัตว์เหล่านั้นก้อจะพ้นจากการเป็นเหล่าเวไนยสัตว์ในที่สุด
พุทธศาสนา คือศาสนาแห่งการพ้นทุกข์ คือศาสนาแห่งการไม่เบียดเบียนกัน เป็นศาสนาแห่งสันติสุข ทั้งต่อตนเอง และต่อสังคมส่วนรวม
พุทธศาสนา ศาสนาเพื่อสังคม และตนเอง
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
สมุทัย , เหตุแห่งทุกข์นั้นคือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
เพราะความไม่รู้ จึงทะยานอยาก และตกอยู่ใต้อำนาจแห่งโทสะ เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่อยาก
ราคะ โทสะ โมหะ นี้คือไฟ ไฟที่แผดเผา ร้อนรน กระวนกระวาย อยู่ในจิตแห่งเหล่าเวไนยสัตว์ ให้ได้รับทุกขเวทนา
สัตว์นั้น เมื่อได้รับทุกข์เบียดเบียนตนแล้ว ย่อมไปกระทำการเบียดเบียนผู้อื่นด้วยอำนาจแห่งราคะ โทสะ และโมหะ
สัตว์นั้นเบียดเบียนกันก้อด้วยเหตุแห่งความทุกข์ ทุกข์จากไฟแห่งราคะ โทสะ และโมหะ
ผู้ไม่มีทุกข์ จึงจะไม่เบียดเบียนผู้อื่น หากแต่จะยังประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น
ผู้ที่เบียดเบียนผู้อื่น คือผู้ที่กำลังทุกข์ ทุกข์จากไฟราคะ โทสะ และโมหะ คือผู้ที่ถูกไฟแห่งราคะ โทสะ โมหะเบียดเบียน แล้วจึงไปสร้างความเบียดเบียน
ให้ผู้อื่นให้ได้รับทุกข์ต่ออีก
อริยมรรคแห่งพระพุทธองค์ คือหนทางดับทุกข์ให้ทั้งตนเอง และผู้อื่น
ผู้ปราศจากความทุกข์ คือผู้ที่ไม่เบียดเบียนตนเองแล้ว และจะไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น เป็นผู้ที่จะไม่ไปสร้างความเดือดร้อน วุ่นวาย ให้แก่ใครให้แก่สังคม
หากแต่เป็นผู้ยังประโยชน์ตน และยังประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อม
หากผู้คนในสังคมมีทุกข์เบาบางลง ปัญหา ความวุ่นวายของสังคมนั้นก้อจักเบาบางตามลงด้วย
และเหล่าเวไนยสัตว์ จะไม่เบียดเบียนกัน จะเบียดเบียนกันน้อยลง หากเวไนยสัตว์เหล่านั้นปราศจากความทุกข์ หรือมีความทุกข์น้อยลง
สัตว์เหล่านั้นก้อจะพ้นจากการเป็นเหล่าเวไนยสัตว์ในที่สุด
พุทธศาสนา คือศาสนาแห่งการพ้นทุกข์ คือศาสนาแห่งการไม่เบียดเบียนกัน เป็นศาสนาแห่งสันติสุข ทั้งต่อตนเอง และต่อสังคมส่วนรวม