หลายครั้งเรามักรู้สึกเบื่อกับการทำอะไรแบบเดิมๆ
งานเดิมๆ เรื่องปวดหัวเดิมๆ ปัญหาแบบเดิมๆ #ความรักก็เช่นกัน
และในหลายๆ ครั้งที่ว่านั้น ใจมักเรียกร้องบอกให้เราพอก่อน…พักก่อนเถอะ!!



อ๊ะๆ…หากจะพักทั้งที่ใจยังเพลีย เราไปรัสเซียกันดีกว่า
ไปแล้วรับรองว่าเลือดสูบฉีดแน่ๆ เพราะที่นั่นมีอะไรดีๆ หลายอย่างรออยู่!!
เที่ยวยุโรปช่วงเดือนธันวาเป็นที่รู้กันว่าอาจเจออากาศหนาวสุดขั้ว
ชนิดหน้าชา มือชาและนิ้วเท้าไร้ความรู้สึกกันได้เลยทีเดียว
แล้วจู่ๆ แผนการไปรัสเซียก็เข้ามาอย่างกะทันหัน


ด้วยระยะเวลาที่มีจำกัดแค่ 4 คืน เมืองหลัก 2 เมืองอย่างเซ็นปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg) และ มอสโคว (Moscow) จึงเป็น 2 เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้

เราเลือกบินตรงรวดเดียวจากไทยไปมอสโคว แล้วต่อเครื่องจากมอสโควไปเซ็นปีเตอร์สเบิร์กในวันเดียวกันเลย เพราะยังไงช่วงต้นของการเดินทาง เราน่าจะยังมีความตื่นเต้นและมีแรงฮึดสำหรับการนั่งเครื่องได้นานๆ!!

ส่วนใครจะเลือกแพลนสลับกันก็ได้ มาถึงเที่ยวมอสโควก่อนค่อยไปเซ็นปีเตอร์ฯ แล้วขากลับบินจากเซ็นปีเตอร์มาลงมอสโควเพื่อต่อเครื่องกลับไทย ทั้งหมดไม่ใช่ปัญหา แค่เลือกไฟล์และคำนวณเวลาให้เหมาะก็พอ
ภาพบรรยากาศยามค่ำคืนวันนั้นยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
แสงไฟสีเหลืองส้มจากสปอตท์ไลท์ ส่องกระทบให้เห็นหิมะที่กำลังตกโปรยปราย หลายคนหลงเสน่ห์หิมะที่โมเม้นนี้ บรรยากาศที่ให้ความรู้สึกได้มากกว่าคำว่า “เหงา” เซ็นปีเตอร์สเบิร์กคืนนั้นช่างน่าหลงใหล ในขณะเดียวกันก็แลดูลึกลับน่าค้นหา


เซ็นปีเตอร์สเบิร์กเป็นเมืองใหญ่ลำดับที่ 2 ของรัสเซียรองจากมอสโคว สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่เน้นความหรูหรา อลังการและสง่างาม ผสมผสานกับประติมากรรมและสถาปัตยกรรมบาโรกที่มีมนต์ขลังยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือ



จำครั้งแรกตอนเดินทางจากลอนดอนมาถึงเซ็นปีเตอร์สเบิร์กเมื่อ 7 ปีก่อนได้ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนต้องมนต์สะกด นั่งรถผ่านเห็นบ้านเมืองที่นี่แล้วรู้สึกขนลุกมาก ทั้งที่สถาปัตยกรรมในลอนดอนก็เป็นสไตล์บาโรก แต่บาโรกของรัสเซียมันสะกดใจให้สตั๊นไปเลย จะว่าไปก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งรัก ใจเต้นแรง ตัวร้อนๆ แผ่ซ่านและรู้สึกปั่นป่วนในท้อง ทำให้นึกถึงบทกวีรัสเซียบทหนึ่ง โดย Alexander Pushkin ที่ว่า

I loved you, and I probably still do.
And for a while the feeling may remain.
But let my love no longer trouble you.

I do not wish to cause you any pain.
I loved you: and the hopelessness I knew.
The jealousy, the shyness – though in vain.
Made up a love so tender and so true
As may God grant you to be loved again.

อธิบายละเอียดกว่านี้ไม่ได้แล้วต้องมาสัมผัสและเห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้นถึงจะเข้าใจ

ว่าแล้วคืนนั้นก็หลับใหล หลับสนิทไปยิ่งกว่าเจ้าหญิงนิทรา


เช้าวันรุ่งขึ้นท่ามกลางอุณหภูมิติดลบกว่า 10 องศา เป็นสิ่งที่ไม่เหนือความคาดหมาย
เวลา 9 นาฬิกา เมื่อมองลอดหน้าต่างที่พักออกไป ท้องฟ้ายังมืดอยู่
แสงสว่างยามหน้าหนาวมาช้าเสมอ แล้วก็มักจะจากไปในเวลาอันรวดเร็ว
แน่นอนว่าเมื่อมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาว เราต้องปรับตัวให้คุ้นชินกับการทานข้าวเช้า
ในขณะที่ท้องฟ้ายังมืด และทานเบรคช่วงบ่ายแก่ๆ ขณะที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว




มา St.Petersburg ทั้งทีควรเริ่มจากตรงไหน
เอางี้…มาทั้งทีต้องรู้จัก Nevsky ก่อน!!
#เมื่อหลงรักใครเข้าแล้วก็ควรทำความรู้จักเขาให้ดีก่อนว่าไหม

Nevsky คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?

Nevsky Prospekt หรือเนฟสกี้เป็นชื่อถนนเส้นหนึ่ง

แล้วสำคัญยังไง?


ตลอดระยะทางเป็นเส้นตรงร่วม 4 กิโลเมตรของถนนเส้นนี้ และภายในรัศมีห่างออกไปไม่เกิน 1 กิโลเมตรจากถนนเป็นที่ตั้งของ Hermitage Museum, Admiralty Building, St.Isaac’s Cathedral, Church of the Saviour on Blood, Russia Museum, Mikhaylovsky Theatre, Kazan Cathedral, ห้าง Galeria และ Moscow Station (สถานีสำหรับต่อรถไฟไปมอสโคว)
ทั้งหมดเป็นสถานที่ต้องห้ามพลาดของเซ็นปีเตอร์สเบิร์ก

ด้วยเหตุนี้ หากรู้จัก Nevsky ดีพอ การเดินเล่นเที่ยวชมมหานครแห่งนี้จะกลายเป็นเรื่องไม่ยากอีกต่อไป


ถนนเนฟสกี้ทอดยาวเป็นเส้นตรงจากสถานีรถไฟมอสโคว (Moscow Station) กรุงเซ็นปีเตอร์สเบิร์ก ไปยังพระราชวังฤดูหนาว (Winter Palace) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ (Hermitage Musuem) ที่ตั้งอยู่สุดทางริมฝั่งแม่น้ำเนวา (Neva River) แม่น้ำใหญ่สายสำคัญของเมือง


มีสถานีรถไฟใต้ดินตั้งอยู่ตามแนวถนนเนฟสกี้ถึง 5 สถานี เริ่มจากต้นทาง Hermitage Museum ที่สถานี Admiralteyskaya จากสถานีนี้สามารถเดินไป Admiralty Building กับ St.Isaac’s Cathedral ได้ ถัดมาเป็นสถานี Nevskiy Prospekt จุดนี้ใกล้ Church of the Saviour on Blood หรือโบสถ์หยดเลือด และวิหารคาซาน (Kazan Cathedral) ตามมาด้วยสถานี Gostinyy dvor, Mayakovskaya และ Ploschad’ Vosstaniya


Moscow Station ที่ตั้งของสถานีรถไฟความเร็วสูงที่ใช้เดินทางเชื่อมต่อระหว่างเซ็นปีเตอร์สเบิร์กกับกรุงมอสโคว ตั้งอยู่ใกล้ห้าง Galeria ในระยะที่เดินเท้า 3 นาทีก็ถึง

(ใครกำลังงงว่าคงอ่านผิด…อ่านไม่ผิดค่ะ!!) สถานีรถไฟนี้ชื่อ Moscow Station แต่ตั้งอยู่ที่ St.Petersburg การเดินทางมายัง Moscow Station สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Mayakovskaya และ Ploschad’ Vosstaniya ได้


มี tip อย่างหนึ่งคือ ที่ตั้งของโบสถ์หยดเลือดและวิหารคาซานเป็นตำแหน่งที่อยู่เกือบกึ่งกลางตามความยาว 4 กิโลเมตรของถนนเนฟสกี้ จากจุดนี้จะเดินไปทางฝั่งพระราชวังฤดูหนาวก็ไม่ไกล จะเดินมาขึ้นรถไฟที่สถานีมอสโควก็ง่าย จึงเป็นทำเลที่เหมาะแก่การจองห้องพักอย่างมาก



เอาล่ะ…ทำความรู้จักกับหัวใจสำคัญของเซ็นปีเตอร์สเบิร์กไปแล้ว ตอนหน้าเราจะไปทำความรู้จักให้ลึกลงไปอีกว่าเซ็นปีเตอร์ฯ มีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง ต้องรอติดตามนะคะ  

ข้อควรรู้
***จากประเทศไทยมีไฟล์บินตรงไปมอสโคว ทั้งการบินไทยและ Aeroflot สัญชาติรัสเซีย ไม่มีบินตรงไปเซ็นปีเตอร์สเบิร์ก เพราะฉะนั้นหากเดินทางจากประเทศไทยไปเซ็นปีเตอร์สเบิร์กยังไงก็ต้องต่อเครื่อง

*** รถไฟความเร็วสูงจากเซ็นปีเตอร์สเบิร์กไปมอสโควมี 2 แบบ คือ รถไฟ Sapsan และ Nevsky Express ทั้ง 2 แบบมีปลายทางเดียวกันที่สถานี Leningradsky ในกรุงมอสโคว และใช้เวลาวิ่งพอกัน คือประมาณ 4 ชั่วโมง ความแตกต่างระหว่างรถไฟ Sapsan กับ Nevsky Express อยู่ที่ Sapsan (ซับซาน) เป็นรถไฟรุ่นใหม่หัวกระสุน ส่วนขบวนรถไฟของ Nevsky Express เป็นรถไฟรุ่นเก่าคล้ายรถไฟไทยที่นำมาพัฒนาจนมีความเร็วสูงเหมือนกัน

*** Nevsky Express วิ่งช้ากว่า Sapsan ประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น แต่ราคารถไฟ Sapsan แพงกว่า Nevsky Express กว่าครึ่ง โดยในหนึ่งวันจะมี Nevsky Express ให้บริการเพียงเที่ยวเดียว ส่วน Sapsan วิ่งบ่อยมาก แต่ละชั่วโมงมีวิ่งหลายขบวน ใครชอบแบบไหนก็เลือกจองตั๋วตามชอบใจที่http://pass.rzd.ru แล้วกดเลือกภาษาอังกฤษได้เลย

ลองเข้าไปดูทริคน่ารู้สำหรับการเตรียมตัวไปรัสเชียได้ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ
https://goo.gl/9zmaVK

+++ ตอน 2 มาแล้วจ้าาาาาาาาาา ตามมาได้เลย : ใจมันเพลียไปรัสเซียดีกว่า ตอน 2 ความลึกลับชวนหลงใหล The Mystery of Charm
https://pantip.com/topic/36238408

+++ ตอนที่  3 ก็มาแล้วนะค่ะ : ใจมันเพลียไปรัสเซียดีกว่า ตอนที่ 3 ความเงียบอันแสนโรแมนติก A ROMANTIC SILENCE https://pantip.com/topic/36296022