เขียนถึงคนที่คิดถึง

เราเจอกันครั้งแรกครั้งแรกในค่ายอาสา เป็นค่ายแรกที่เราตั่งใจอยากออกไปพบกับประสบการณ์ใหม่ๆโลกใหม่ๆ จึงตัดสินใจสมัครไปบนดอย มีเพื่อนอาสาไปทั้งสิ้น17คน แต่มีผู้หญิงคนนึงนางพูดเยอะและพยายามทำความรู้จักกับทุกคน รวมถึงเรา ถามนั่นถามนี่จนแรกๆก็รำคาน แต่สังเกตระหว่างเดินทางขึ้นดอยนางก็มีภาพน่ารักๆให้มองเหมือนกัน เรารู้จักกันมากขึ้นจากการจับคู่แนะนำตัว(เพราะเราไม่ได้อาบน้ำเหมือนกัน) “สวัสดีค่ะ เราชื่อ............บล๊าๆๆ”นางก็พูดของนางไปเรื่อยๆในขณะที่เรานั่งมองนางอย่างใจจดใจจ่อ สุดท้ายจำได้แค่ชื่อนางแค่นั้น วันที่2ของค่ายอาสา เราตื่นเช้าลุกมาวิ่งออกกำลังกายรอบหมู่บ้าน วิ่งผ่านหน้าบ้านที่นางพัก เลยหยุดแล้วเข้าไปแอบมองผ่านฟากไม้ไผ่เห็นนางกำลังนั่งตำอะไรสักอย่าง เลยตะโกนแซวไป”อะไรน่ะหอมจังเลย เดี๊ยวมากินด้วยนะ”แล้วเราก็รีบวิ่งกลับที่พักเพื่ออาบน้ำรอทำกิจกรรมขุดถนนขึ้นดอย ระหว่างเดินขึ้นดอยเพื่อไปขุดถนนเราพยายามเข้าไปใกล้ๆและขอถ่ายรูป เลยได้รูปคู่รูปแรกของเรา ระหว่างขุดถนนยอมรับเลยว่าวันนั้นเหนื่อยมากๆ แต่นางก็สู้ไม่ยอมถอยทั้งขุดดินงัดหิน นางทำได้หมดบอกได้เลยว่านางถึกจริงๆ ขุดดินต่อไปสักพัก เห็นนางกำลังนั่งพักเราเลยเดินเข้าไปหานางพร้อมกับส่งกระติกน้ำที่มีแต่กลิ่นเหล้าให้นาง(ตอนนั้นเราติดเหล้าหนักมาก) นางดื่มแล้วร้องหือ...
K: นี่กลิ่นเหล้านี่ ดื่มเหล้าหรอ
N: ครับ หมดแล้วเลยเอากระติกมาใส่น้ำ
K: ถ้ามีอีกก็ดีสินะ
เพิ่งมารู้ตอนหลังว่านางเองก็ดื่มเหมือนกัน เสร็จกิจกรรมขุดถนนเราก็ลงมาพักผ่อน  อาบน้ำทำภารกิจส่วนตัว เราก็วิ่งอีก(ยังไม่หมดพลัง555)วิ่งไปแซวนางอีก “เย็นนี้แกงอะไร?”เสียงนางตะโกนอะไรไม่รู้ออกมาจากในครัวจับใจความได้ว่า”แล้วมากินด้วยกันนะ” วันที่3ของค่ายวันนี้เป็นวันที่เราต้องทำกิจกรรมกับเด็กๆ พวกเราแบ่งงานกันทำ เราได้ตัดหญ้าใสสนามรอทำกิจกรรมตอนกลางคืน ส่วนนางได้ทำอาหาร+ขนม เรานี่รีบตัดหญ้าเลย เสร็จไม่ถึงชั่วโมง เรารีบเดินไปดูนางเห็นนางกำลังยุ่งๆกับการปอกฟักทอง เรานี่รีบหยิบมีดเลย มีคนแซวเหมือนกันนะว่าเราทำสนามไม่ใช่หรอทำไมมาปอกฟักทอง555 ในค่ายอาสานางทิ้งภาพทิ้งโม้เม้นน่ารักๆให้เก็บไว้เพียบเลย วันที่4วันอำลา เป็นวันที่เราต้องจากกันทั้งเพื่อนอาสาและเด็กบนดอย เราตื่นแต่เช้าเล้วออกไปวิ่งเหมือนเดิม แล้วต้องรีบกลับมาแพคสำภาระเป็นวันที่ค่อนข้างใจร้ายเพราะเราไม่มีโอกาสได้ลากันเลย แต่ก็ยังมีเฟซ มีไลน์ มีโอกาสแลกเบอร์กันไว้ เรากลับมาทำงานเหมือนเดิมส่วนนางยังอยู่ต่อ แต่ก็ไลน์หานางตลอด กลับมาทำงานได้ไม่กี่วันเราก็ได้ลาออก กลายเป็นคนตกงานช่วงนั้นว่างมากใครชวนไปไหนไม่มีปฏิเสธ แล้วนางก็ชวนไปเที่ยว+ทำบุญออกพรรษาที่สุรินทร์(บ้านเพื่อนอาสา) เรานี่รีบตกลงเลย เรานัดกันที่อนุสาวรีย์ชัย จากนั้นเราก็เดินทางไปที่ปราจีนบุรี “ครั้งนี้ตั่งใจมาก ต้องจีบนางมาเป็นแฟนให้ได้” เราเริ่มจากการแซวเล็กๆน้อยๆ เราพักกันที่บ้านเพื่อนอาสาที่ปราจีนบุรี1คืนและออกเดินทางต่อ ไปที่สุรินทร์ ถึงสุรินทร์เราก็เริ่มห่อขนมเทียนเพื่อไปทำบุญที่วัดกันเลย นางเป็นคนปั้นแป้ง ให้เราเป็นคนห่อ(เราห่อใบตองสวยกว่านาง)ห่อขนมไปด้วยจีบไปด้วย เราสังเกตเห็นมีวัยรุ่นแถวๆนั้นมามองๆแปลกๆแต่ไม่มีอะไร ห่อขนมเสร็จก็ท้ากันดื่มเหล้า ดื่มไปสักพักนางคงเมาเลยขอตัวไปอาบน้ำส่วนเราแค่พอตึงๆเลยออกไปซื้อมาอีกขวด กลับมาเดินไปดูนางเห็นนางนอนบนโซฟาอากาศมันหนาวๆเราเลยไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้นางด้วย  วันรุ่งขึ้นเราตื่นเช้าไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน  เราเริ่มแซวหนักขึ้นเรียกนางว่าที่รักบ้าง คำหวานๆบ้าง ตามประสา หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ออกเดินสายเที่ยว จำได้ว่าไปวัดๆหนึ่งภายนอกไม่มีอะไรแต่ภายในมีพระพุทธรูปไม้แกะสลักองค์ใหญ่มากและมีโอกาศเข้าไปกราบหลวงพ่อ มีเพื่อนอาสาเค้าไปเป็นคู่ ด้วยความที่แซวนางแกล้งนางตลอดและก็ดันทะเลาะกันต่อหน้าหลวงพ่อ ก็เลยแกล้งแซวนางต่อหน้าหลวงพ่อ “คู่โน้นคู่บุญ แต่คู่ผมคู่กรรมครับ” หลวงพ่อตอบมาจนเรานี่จุกเลย “คู่กรรมก็เปลี่ยนเป็นคู่บุญได้นะโยม”แต่นางดันยิ้ม คงสะใจที่ผมเขิน และได้เข้าไปเที่ยวน้ำตกในอุทยานที่หนึ่งจำชื่อไม่ได้ เด็กๆและเพื่อนอาสาลงเล่นน้ำกัน ส่วนนางเดินเข้าไปในป่าต้นน้ำเราเลยเดินตามนางไป เราสองคนไปตามลำน้ำยิ่งเดินก็ยิ่งรกทึบไปทุกทีเดินไปไกลมากห่างจากจุดเล่นน้ำประมาณ1-2กิโล เรารู้สึกมีสิ่งผิดปรกติเราเลยถามนางว่าจะไปต่อมั้ยเรามาไกลแล้วนะ นางหันมามองหน้าทันที แล้วถามเราว่าคิดเหมือนกันใช่มั้ย เราพยักหน้าแล้วพากันเดินกลับออกมา ออกมาถึงจุดที่เล่นน้ำตกเราก็นั่งพักและคุยกันสังเกตว่าเด็กๆในหมู่บ้านมีเยอะ เลยคุยกัน
n: คุณเด็กๆที่นี่เยอะ เราลองมาทำกิจกรรมกับเด็กมั้ย?
k: ก็ดีเหมือนกัน
เลยชวนเด็กๆมาเล่นด้วย วันแรกมีเด็กๆมาเล่นกับเรา7-10 คน   มีคิดเลขวาดภาพกิจกรรมเล็กๆน้อยๆเราเล่นด้วยกันสนุกทั้งวัน วันต่อมามีเด็กๆมากขึ้นวันนี้เราจัดเกมให้เด็กๆเล่นมีเด็กๆมาร่วมสนุกกัน40-50 คน (เด็กๆชวนๆกันมาเกือบทั้งหมู่บ้าน) วันนี้เราจัดกันสองคน แต่นางอยู่ได้ครึ่งวันก็มีอาการปวดหัวตัวร้อน เลยให้นางนอนตั่งแต่เที่ยง ส่วนเราออกมาจัดเกมกับเด็กๆต่อ เกือบๆ4โมงเย็น นางลุกออกมาเล่นด้วย นางบอกเด็กๆดูดพลังนางหมด  เราเล่นกันต่อจนค่ำปล่อยเด็กๆไปอาบน้ำกินข้าว แล้วบอกเด็กๆว่าเย็นนี้มีเกมให้เล่นอีก  มีเด็กๆมาเล่นด้วยประมาณ 30 คนมีผู้ปรกครองมาดูมีวัยรุ่นเพื่อนของเพื่อนอาสามากินเหล้า(บ้านที่เราจัดกิจกรรมเป็นบ้านของเพื่อนอาสา) เราสังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นมองนางแปลกๆ แต่นางเองก็คงรู้สึกแปลกๆ นางมาเอาหมวกเราไปใส่แล้วเทคเราเหมือนแฟน(เราเสียงแหบนางก็ไปนั่งคั้นน้ำมะนาวเอามาให้ดื่ม)คืนนั้นฟินมากก แต่ไม่สิพวกนั้นจ้องทำไม่ดีไม่ร้ายแฟนเราอยู่ ในใจนึกๆว่ายังไงให้ข้ามกูไปก่อน เราเรียกนางที่รักแล้วดูแลนางยิ่งกว่านางเป็นแฟนเรา เห็นท่าไม่ดีพวกนั้นแซวหนักขึ้นเริ่มลวนลามด้วยคำพูดและพยายามขยับเข้ามาใกล้ๆนาง จึงเรียกนางมาอยู่ข้างๆ แล้วรีบปิดกิจกรรมกับเด็ก  เรารีบเข้าบ้านหนีมานั่งคุยกันสองคน ก็ให้นางอาบน้ำเราเป็นคนเฝ้า อาบน้ำเสร็จเราก็มีโอกาสนั่งคุยกันจริงๆจังๆ(ไม่ใช่คุยหรอกจีบบ)เช้าวันต่อมาเป็นวันที่เราต้องกลับมีเด็กๆมารอเล่นด้วยตั่งแต่6โมงเช้า เราอาบน้ำจัดของกันเสร็จเราก็มาลาเด็กๆเป็นครั้งที่สองที่เรามีรูปถ่ายคู่กัน  และเราตัดสินใจตามนางไปบ้าน เพราะบ้านนางใกล้กับจุดหมายที่เราจะไป(คือเราจะไปหาหลวงพ่อและจะไปลาวด้วยกัน)เรายอมรับเข้าบ้านนางครั้งแรกเรายอมเข้าไปในฐานะเพื่อน คือนางห้ามให้เราพุดคำหวานๆต่อหน้าที่บ้านนาง(แต่ลับหลังเราหยอดทุกครั้งที่มีโอกาศ)งานวันแรกเลยคือเราไปช่วยที่บ้านนางฉีดยาข้าวเนื้อที่ประมาณ30-40ไร่ วันนั้นเดินจนขาลากเลยทีเดียว แต่สนุกมาก วันที่2เป็นการเก็บฟืนในสวน(บ้านนางทำสวนผลไม้) ตกเย็นมาก็จิบเหล้าและจีบนางทุกวัน อยู่บ้านนางสิบกว่าวันช่วยนางทำทุกอย่าง จนถึงวันนึงวันนั้นเรายังจำได้ดี เป็นวันที่16ตุลาคม พศ.xxxxเราบอกรักนางครั้งแรก  
n : ผมรักคุณให้ผมดูแลคุณนะ
(บอกจริงๆจังๆเป็นการเป็นงาน) บอกว่าเราชอบและอยากจีบนางมาก นางเขินจนร้องไห้และเดินไปหยิบรูปมาใบหนึ่งนางนั่งเขียนอะไรบางอย่างที่หลังรูปใส่ซองกระดาษและส่งให้เรา บอกเราด้วยว่าเอาไว้อ่านตอนกลับ
นางเขียนไว้ว่า      “ขอบคุณ”ที่ดูแล
                            “ขอบคุณ”ที่ยิ้มให้
                            “ขอบคุณ”ที่ห่วงใย
                            “ขอบคุณ”ทุกความรู้สึกดีๆที่มอบให้
                            “ขอบคุณ”จากใจจริง
  ตั่งแต่วันนั้นมาเราเลิกเหล้าจริงๆจังๆโดยหักดิบมันเลย อาการแย่มากตาลอยแดงตัวแดงร้อนเหงื่อออกตลอดเวลาเป็นแบบนั้นมาอาทิตย์กว่า(ยังดีที่มีนางคอยให้กำลังใจ และถึงเวลาที่เราต้องกลับ เราต้องกลับมาทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ก่อนกลับบอกนางว่าเดี๋ยวเราจะมาช่วยเกี่ยวข้าว เรากลับมาทดสอบอยู่3วันคิดถึงนางมาก เราอยู่ช่วยงานที่บ้าน20วันได้ทุกวันที่อยู่ห่างจากนางเราจะเขียนจดหมายให้นางตลอดเรียกว่าจดหมายความรู้สึก  เราก็แพคเป้ไปหานางอีก เจอหน้ากันอีกครั้งนางแลดูเขินมาก ถึงขั้นไม่กล้ามองหน้าเลยทีเดียว เราคิดถึงนางมากๆแทบอยากจะกระโดดกอดเลย เราใช้เวลาเกี่ยวข้าวอยู่หลายวันมาก มีอยู่วันนึงเราคุยกับนางขอนางเป็นแฟนจริงๆจังๆ นางบอกว่าได้...แต่ต้องบอกพ่อกับแม่นางด้วย  เอาล่ะ...ไหนๆเราก็รักจริงอยากจะแต่ง ขณะที่พ่อนางกำลังจะออกไปหาปลา แม่และพี่สาวของนางกำลังจะนอน  
n : พ่อครับ แม่ครับ พี่ครับ    
พ่อนางหันมาพร้อมกับเสียดุๆ   “มีอะไร”
n : ผมชอบนางมากครับ ผมคบกับนางได้มั้ยครับ?
ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเอาหัวไปเป็นเป้าลูกปืนมาก  กลัวมาก กลัวเค้าไม่ให้คบกับลูกสาวเค้ามาก ตอนนั้นชาไปหมดชาขนาดที่ว่าเอามือไปลนไฟจากเทียนไขแล้วไม่รู้สึกร้อน  เราได้เป็นแฟนกันตั่งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  ต่อมาระยะนึงเราก็พานางมาให้ที่บ้านรู้จัก พ่อกับแม่เราชอบนางมาก เพราะนางสามารถทำให้ลิงอย่างเรากลายเป็นคนได้  เราตัดสินใจตามไปช่วยนางทำสวนที่บ้านนาง นางบอกเราว่า “ถ้าอยากอยู่ที่นี่ก็ให้ผู้ใหญ่มาขอสิ”เรานี่รีบเลย คุยกับทางบ้านทางบ้านก็โอเคจะมา แต่แม่นางต้องผ่าตัดจึงต้องเลื่อนไปก่อน ถึงวันผ่าตัดแม่นางดันได้เลื่อนผ่า เราเลยให้ครอบครัวเรามาพบครอบครัวนาง จากนั้นเราก็มาอยู่กับนาง  ตลกบ้างสุขบ้างทุกข์บ้างทะเลาะกันบ้าง รวมๆแล้วมีความสุขมาก ทั้งงานในสวน และเราก็ได้มีโอกาสทำนาด้วยกันสองคน(แม่นางเช่าไว้ให้เรากับนางทำ)นาไปได้สวยข้าวขึ้นดีมีหญ้าขึ้นพอสมควรเราเลยหายามาฉีดหญ้า เราตื่นแต่เช้าไปฉีดยา ก่อนออกไปฉีดยาเราก็นั่งเช็คเครื่อง บังเอิญเครื่องมันเสียต้องเปลี่ยนอะไหล่บางตัว เราก็เอาเครื่องมือออกมานั่งเปลี่ยนอะไหล่  
นางใจร้อนเลยว่าเรา : ”อะไรเครื่องมันเป็นอะไรอีก ซ่อมตั่งแต่เมื่อวาน ยังไม่เสร็จอีกรึไงถ้าไม่ไปจะไปช่วยแม่ดำนาแล้วนะ”
เรา : ก็ลูกยางเครื่องมันรั่วจะให้ทำยังไง
และแล้วนางก็งอลและสะบัดตูดไป  เราก็นั่งก้มหน้าซ่อมเครื่องต่อ ทำเสร็จก็ออกไปฉีดยาคนเดียว ฉีดยาเสร็จเราก็อาบน้ำซักชุด  นางบอกไม่ต้องซัก นางชวนไปซื้อกับข้าว เราขี่รถหน้าบูดๆ นางเอามือมากอดเอวแล้วบอกขอโทษ นางบอกว่านางผิดเอง “เมื่อเช้านางอารมณ์เสียเพราะนางเป็นเมน”  สรุปข้าวที่เราทำ10ไร่ได้กำไรทั้งหมด6000บาท ได้ข้าวไว้กินเพียบเลย   เสร็จจากนาเราก็เริ่มปลูกบ้านด้วยกันและจะแต่งงานกันเมื่อบ้านเสร็จ เราทะเลาะกันตั่งแต่แบบบ้าน  จนบ้านกำลังจะเสร็จ ครั้งสุดท้ายที่ทะเลาะกันมันแรงพอสมควร ทะเลาะกันเพราะไม่เข้าใจกัน เราไม่เคยปรับความเข้าใจกัน  “””””””ถ้าแกมีโอกาสได้อ่านบทความนี้ ข้าอยากจะบอกแกว่า ข้ายังรักและอยากจะดูแลแกเสมอ ที่ผ่านมาข้าน้อยใจข้าถึงพูดแบบนั้นออกไป แกเข้าใจข้าผิด ที่ข้าอยากแต่งงานกับแก ข้าไม่ได้อยากได้อะไรมากไปกว่าอยากดูแลแกอยากกอดแกเวลาที่แกเหนื่อยอยากนวดให้แกเวลาที่แกเมื่อยล้าอยากอยู่ให้กำลังใจเวลาที่แกร้องไห้ และไม่เคยคิดจะออกมาจากชีวิตแกสักวินาทีเดียวสัญญาที่เคยให้กับแกไว้ข้ายังไม่เคยลืม””””””””เราไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุดหรอกนะ  แต่เราพยายามรักษาเธออย่างดีที่สุดแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้ามีความสุขมาก ยินดีมากถ้าสักวันเราจะได้พบกันอีก

                                                                                                            
                                                                                                    
                                                                                                             "รัก"     6628R
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่