ในชีวิตคู่ ระหว่างความรู้สึก กับเหตุผล อะไรสำคัญกว่ากันครับ

คำถามนี้เกิดขึ้นมาในใจผมมานานมากแล้วครับ

ผมขออนุญาตอธิบายเป็นเรื่องราวของผมเองนะครับ เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าใจตรงกัน

เรื่องราวของผมมีอยู่ว่า

สมัยที่ผมกับแฟนคบกันใหม่ๆ ผมเอง เป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความรู้สึก เวลาผมคิดอะไรเกี่ยวกับคนอื่น ผมมักจะใช้ระบบความคิดแบบว่า

คนๆนั้นทำแบบนั้น เพราะเขารู้สึกแบบนี้นี่เอง ผมมักจะคิดเสมอว่าคนอื่นรู้สึกยังไง และผมจะทำยังไงกับเขา ผมเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นเสมอ

และในช่วงที่ผมเป็นคนแบบนั้นเอง ผมกับแฟนก็คบกัน ตอนนั้นผมกับแฟนก็รักกันดีมากครับ เข้าใจซึ่งกันและกัน มีโมเมนต์ดีๆกันตลอด

ผมเข้ามาเรียนในเรียนโรงเรียนชายล้วนในเขตพระนครครับ ส่วนเธอ เรียนโรงเรียนสห แถวบางกระบือ

แต่เพราะผมเป็นคนบ้านไกล เธออยู่กรุงเทพ ส่วนบ้านผมอยู่นครปฐมเกือบถึงราชบุรี แถวบ้านผมติดถนนใหญ่ ไม่มีรถขนส่งมวลชนสาธารณะใดๆทั้งสิ้น

ท่ารถตู้ที่ใกล้ที่สุดห่างออกไปเป็น 10 กิโลเมตร ผมเองตอนนั้นยังไม่มีรถไม่มีใบขับขี่ ทำให้ผมไม่สามารถไปหาเธอได้เลยในวันหยุด

ตอนที่ผมกับเธอเข้ามหาลัยนั้น ผมและเธอเข้ามหาลัยเดียวกันครับ แถวรังสิต คณะเดียวกัน แค่คนละสาขาภาควิชา เราอยู่คนละหอครับ แต่ด้วยควาที่ผมไม่

มีรูมเมท เธอจึงมานอนกับผมบ่อยๆ แต่นอนคนละเตียงกันนะครับ และผมกับเธอไม่ได้ทำอะไรผิดจารีตประเพณีทั้งสิ้น

จนมาถึงปีสอง ด้วยความที่คณะที่ผมเข้านั้น ไม่ใช่ความชอบและความถนัดของผมแต่แรก แลกด้วยความที่พ่อของผมบังคับให้ผมต้องเข้าคณะนี้ จึงทำให้

ผมเรียนได้เกรดแย่มากๆและต้องถูกรีไทร์ออกจากมหาลัย ตอนแรกผมคิดไว้ว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยเดิมและเข้าคณะที่ผมอยากเรียนตั้งแต่ต้น

แต่คราวนี้ไม่ใช้แค่พ่อผม แต่เป็นทั้งญาติพี่น้อง พ่อ อาม่า หรือแม้แต่แม่ของผมคนที่เคยบอกให้ผมเดินตามความฝันของตัวเองในคราวนั้น ก็ยังบอกให้ผม

เข้าคณะที่ผมไม่อยากเข้า ซึ่งคณะนั้น มหาวิทยาลัยเก่าของผมไม่มีสอน ผมจึงต้อองซิ่วไปมหาลัยใกล้เคียงนั้นแทน ซึ่งห่างกันไปเพียงเล็กน้อย

ช่วงที่ผมเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ ใหม่ๆนั้นผมคิดเพียงอย่างเดียว ว่าผมเสียเวลาชีวิตไม่ได้อีกแล้ว ผมมีระเบียบวินัยกับตัวเอง ผมตั้งใจเรียน จากที่ผมได้

เกรดไม่ถึงหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยใหม่ ผมได้A5ตัวและ C5เพียง1ตัว ผมมองทุกอย่างไปในอนาคต มีทำทุกอย่างที่คิดว่าจะทำให้ผมมีอนาคตที่มั่นคง และ

เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีให้ได้ในอนาคต ผมเรียนในคณะหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับการทำธุรกิจ นั่นเปลี่ยนมุมมองของผมที่มีต่อโลก (ส่วนนี้ถ้าใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมผมจะพิมพ์ตอบให้นะครับ)

ผมเริ่มมองทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผล  ทุกอย่างต้องมีสาเหตุของมัน ทุกอย่างต้องสมเหตุสมผล ผมเริ่มไม่ได้มองคนที่เหตุผล

ครับ ผมยอมรับว่าผมเองที่เป็นคนเปลี่ยนไป บวกด้วยความที่เธอเห็นว่าผมมีผู้หญิงมาวนเวียนรอบๆตัว (แต่ผมไม่เคยนอกใจเธอเลย) และความที่เราไม่ได้

อยู่ใกล้ชิดกันเหมือนเดิม ทำให้ผมกับเธอเริ่มทะเลาะกัน เธอมักจะเข้ามาฟาดผมด้วยอารมณ์ และความรู้สึกที่ว่า ผมไม่เข้าใจเธอ และผมเองก็พยายามใช้เหตุผลกับเธอให้มากที่สุด

เธอบอกกับผมว่า ผมไม่เคยเข้าใจเธอเลย ซึ่งผมไม่รู้ว่าจริงมั้ย ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน ผมจะพยายามเปลี่ยนการทะเลาะกันให้เป็นการพูดคุย พยายามเอาอารมณ์ความรู้สึกออกมาจากความขัดแย้ง พยายามให้เธอเข้าใจผมและผมเข้าใจเธอผ่านการใช้เหตุผลที่เหมาะสม

แต่นั้นไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลยครับ ทุกอย่างมีแต่แย่ลงกับแย่ลง เธอใส่อารมณ์กับผมมากขึ้น บางครั้งเป็นเพราะแค่ คืนนั้นผมไปหาเธอไม่ได้เพราะผมต้องอ่านหนังสือ หรือมีเรียนเช้า หรือต้องติดงาน

ผมเองก็พยายามใจเย็นมากขึ้น ถึงแม้บ่อยครั้งผมจะเผลอใส่อารมณ์กลับไปบ้าง

จนมาถึงตอนนี้ จากที่ผมเคยเข้าใจคน ผมก็ไม่เข้าใจใครแม้แต่แฟนผมเอง ผมใช้เหตุผลกับทุกอย่าง จนบางทีผมก็คิดว่าผมกลายเป็นคนที่ไร้ความรู้สึก

ผมเคยเสียความรู้สึกมามาก ครอบครัวผมเลี้ยงดูผมภายใต้แรงกดดันมาโดยตลอด ทำให้ผมเข้าใจคนอื่น ทำให้ผมทำอะไรคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นเป็นหนึ่งมาตลอด

แต่พอคิดถึงเรื่องอนาคต ความรู้สึกของผมเหมือนถูกตัดออกไป ผมกลายเป็นคนที่ใช้ความรู้สึกไม่เป็นเหมือนเคย

คำถามที่ตั้งไว้อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของผมมากนัก

ตามหัวข้อเลยครับ

คุณคิดว่า ความรู้สึก กับ เหตุผล อะไรที่สำคัญที่สุดในชีวิตคู่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่