ไม่อยากให้มูลนิธิต้องปิดตัวลงเลยค่ะ หากกระทู้นี้ได้ไปถึงผู้มีอำนาจ อยากให้ช่วยเหลือมูลนิธิอย่างจริงจังให้เป็นเพื่อนของช้างคู่บ้านคู่เมืองของเราต่อไป
(หากกระทู้ซ้ำขออภัยค่ะ) ขอลอกข้อความจากเฟซบุ๊กคุณ Soraida Salwala มานะคะ
"ด้วยความเสียใจค่ะ ได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว....โซไรดา
ที่ ลขธ.พิเศษ/2560
13 มีนาคม พ.ศ. 2560
เรื่องการทำงานของมูลนิธิเพื่อนช้าง
เรียนประธานและคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อนช้าง ทราบ
วันนี้เป็นวันช้างไทย วันที่ภาครัฐกำหนดขึ้นเมื่อปี 2541 เพื่อให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง หลังจากมูลนิธิเพื่อนช้างก่อตั้งขึ้นแล้ว 5 ปี นับว่า “มูลนิธิเพื่อนช้าง” เป็นองค์กรแรกที่พยายามต่อสู้เพื่อ “ช้าง” ไทย มาอย่างยาวนาน กระตุ้นเตือนให้ภาครัฐหันมาให้ความสนใจ และใส่ใจใน “ช้าง” เอกลักษณ์ของชาติไทยได้ระดับหนึ่ง
ดิฉันในฐานะผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนช้าง ขอกราบขอบพระคุณคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อนช้างและ
ที่ปรึกษาทุกคณะที่กรุณารับตำแหน่งนับแต่เริ่มก่อตั้งในปีพุทธศักราช 2536 จวบจนชุดปัจจุบัน ความร่วมมือ กำลังใจ ในการฝ่าฟันอุปสรรคนานาของท่านทั้งหลาย ดิฉันจะจดจำไว้ไม่รู้ลืม
แม้นดิฉันจะถูกกลั่นแกล้ง ให้ร้าย ถูกลอบทำร้ายบาดเจ็บ ปัญหาสุขภาพที่มีมาตลอดชีวิต ปัญหาผู้ร่วมงาน (ที่มีวาระซ่อนเร้น) ก่อให้เกิดปัญหาที่ต้องตามแก้ไขซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางสิ่งก็แก้ไขได้ บางสิ่งก็แก้ไขไม่ได้ ยากต่อการทำงานยิ่ง อย่างไรก็ตามดิฉันก็ได้พยายามฝ่าฟันมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งสุขภาพที่เสื่อมถอยลงทุกวันทำให้ทำงานไม่ได้มากเช่นเดิมและขาดประสิทธิภาพมากขึ้น
ในปี 2560 นี้ เป็นปีที่มูลนิธิฯ ครบรอบปีที่ 25 ของการก่อตั้ง การต่อสู้ให้มีกฎหมายที่เหมาะสมสำหรับ “ช้าง” ตั้งแต่ปี 2536 จนขณะนี้มี “ร่าง” กฎหมาย “ช้าง” แล้ว โรงพยาบาลช้างที่มูลนิธิเพื่อนช้างสร้างขึ้นเป็นแห่งแรกของโลก รักษาช้างป่วย ช้างเจ็บ ดูแลแม่ช้าง (รอคลอด) เป็นจำนวนกว่า 794 ราย ในโครงการสัตวแพทย์สัญจร 2,799 ราย ช้างป่วยนอกขอรับยาและคำแนะนำ 1,055 ราย รวมกว่า 4,651 ราย
1/2
แม้นจะมีผลงานในการรักษา “ช้าง” มามากมาย ยุติ “ช้างเร่ร่อน” ในกรุงเทพมหานครได้ในปี 2553 (หลังการต่อสู้ผลักดันนานกว่า 17 ปี) และยังต่อสู้ให้หยุดยั้งช้างเร่ร่อนในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ การแก้ปัญหาอื่นๆ ของช้าง ปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอและทุนทรัพย์ที่จะทำให้การทำงานไม่สะดุดลงเป็นปัญหาใหญ่มาโดยตลอด งบดุลติดลบถึง 11 ปี ในจำนวน 24 ปี ของการปฏิบัติงานที่ผ่านมา นับเป็นความยากลำบากยิ่งยวด
ดิฉันได้ตรองและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงดำริว่า เมื่อไม่สามารถที่จะจัดหาบุคลากรที่จะทำงานต่อไปได้ อีกทั้งทุนทรัพย์ที่ได้รับจากการบริจาคมีไม่เพียงพอที่จะก้าวต่อไปเป็นปีที่ 26 ในปี 2561 ของการก่อตั้งแล้ว ดิฉันเห็นควรให้ยุติ “มูลนิธิเพื่อนช้าง” ลง
แม้นจะเสียใจที่ไม่สามารถผลักดันให้องค์กรอยู่ได้อย่างยั่งยืน แต่ดิฉันก็ภูมิใจเป็นที่สุด ที่
“มูลนิธิเพื่อนช้าง” ได้ทำงานช่วย “ช้าง” อย่างเต็มที่ ได้ผลักดันให้ปัญหา “ช้าง” เป็นที่รับรู้ของภาครัฐและสังคมโดยทั่วไปและยังมีองค์กรเกี่ยวกับ “ช้าง” เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย
หากมีหนทางอื่นที่จะทำให้ “มูลนิธิเพื่อนช้าง” ดำเนินการต่อไปได้ ได้โปรดพิจารณาแจ้งให้ดิฉันทราบด้วย หากไม่มีแล้ว ดิฉันขอท่านประธานเชิญประชุมคณะกรรมการเพื่อวางแผนดำเนินการตามกฎระเบียบต่อไป
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ด้วยความเคารพ
(นางสาวโซไรดา ซาลวาลา)
ผู้ก่อตั้ง / กรรมการและเลขาธิการ
มูลนิธิเพื่อนช้าง
2/2"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ที่มา https://www.facebook.com/soraida.salwala/posts/10212387896956912
มูลนิธิเพื่อนช้างกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ถึงขั้นยุติการดำเนินงาน
(หากกระทู้ซ้ำขออภัยค่ะ) ขอลอกข้อความจากเฟซบุ๊กคุณ Soraida Salwala มานะคะ
"ด้วยความเสียใจค่ะ ได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว....โซไรดา
ที่ ลขธ.พิเศษ/2560
13 มีนาคม พ.ศ. 2560
เรื่องการทำงานของมูลนิธิเพื่อนช้าง
เรียนประธานและคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อนช้าง ทราบ
วันนี้เป็นวันช้างไทย วันที่ภาครัฐกำหนดขึ้นเมื่อปี 2541 เพื่อให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง หลังจากมูลนิธิเพื่อนช้างก่อตั้งขึ้นแล้ว 5 ปี นับว่า “มูลนิธิเพื่อนช้าง” เป็นองค์กรแรกที่พยายามต่อสู้เพื่อ “ช้าง” ไทย มาอย่างยาวนาน กระตุ้นเตือนให้ภาครัฐหันมาให้ความสนใจ และใส่ใจใน “ช้าง” เอกลักษณ์ของชาติไทยได้ระดับหนึ่ง
ดิฉันในฐานะผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนช้าง ขอกราบขอบพระคุณคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อนช้างและ
ที่ปรึกษาทุกคณะที่กรุณารับตำแหน่งนับแต่เริ่มก่อตั้งในปีพุทธศักราช 2536 จวบจนชุดปัจจุบัน ความร่วมมือ กำลังใจ ในการฝ่าฟันอุปสรรคนานาของท่านทั้งหลาย ดิฉันจะจดจำไว้ไม่รู้ลืม
แม้นดิฉันจะถูกกลั่นแกล้ง ให้ร้าย ถูกลอบทำร้ายบาดเจ็บ ปัญหาสุขภาพที่มีมาตลอดชีวิต ปัญหาผู้ร่วมงาน (ที่มีวาระซ่อนเร้น) ก่อให้เกิดปัญหาที่ต้องตามแก้ไขซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางสิ่งก็แก้ไขได้ บางสิ่งก็แก้ไขไม่ได้ ยากต่อการทำงานยิ่ง อย่างไรก็ตามดิฉันก็ได้พยายามฝ่าฟันมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งสุขภาพที่เสื่อมถอยลงทุกวันทำให้ทำงานไม่ได้มากเช่นเดิมและขาดประสิทธิภาพมากขึ้น
ในปี 2560 นี้ เป็นปีที่มูลนิธิฯ ครบรอบปีที่ 25 ของการก่อตั้ง การต่อสู้ให้มีกฎหมายที่เหมาะสมสำหรับ “ช้าง” ตั้งแต่ปี 2536 จนขณะนี้มี “ร่าง” กฎหมาย “ช้าง” แล้ว โรงพยาบาลช้างที่มูลนิธิเพื่อนช้างสร้างขึ้นเป็นแห่งแรกของโลก รักษาช้างป่วย ช้างเจ็บ ดูแลแม่ช้าง (รอคลอด) เป็นจำนวนกว่า 794 ราย ในโครงการสัตวแพทย์สัญจร 2,799 ราย ช้างป่วยนอกขอรับยาและคำแนะนำ 1,055 ราย รวมกว่า 4,651 ราย
1/2
แม้นจะมีผลงานในการรักษา “ช้าง” มามากมาย ยุติ “ช้างเร่ร่อน” ในกรุงเทพมหานครได้ในปี 2553 (หลังการต่อสู้ผลักดันนานกว่า 17 ปี) และยังต่อสู้ให้หยุดยั้งช้างเร่ร่อนในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ การแก้ปัญหาอื่นๆ ของช้าง ปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอและทุนทรัพย์ที่จะทำให้การทำงานไม่สะดุดลงเป็นปัญหาใหญ่มาโดยตลอด งบดุลติดลบถึง 11 ปี ในจำนวน 24 ปี ของการปฏิบัติงานที่ผ่านมา นับเป็นความยากลำบากยิ่งยวด
ดิฉันได้ตรองและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงดำริว่า เมื่อไม่สามารถที่จะจัดหาบุคลากรที่จะทำงานต่อไปได้ อีกทั้งทุนทรัพย์ที่ได้รับจากการบริจาคมีไม่เพียงพอที่จะก้าวต่อไปเป็นปีที่ 26 ในปี 2561 ของการก่อตั้งแล้ว ดิฉันเห็นควรให้ยุติ “มูลนิธิเพื่อนช้าง” ลง
แม้นจะเสียใจที่ไม่สามารถผลักดันให้องค์กรอยู่ได้อย่างยั่งยืน แต่ดิฉันก็ภูมิใจเป็นที่สุด ที่
“มูลนิธิเพื่อนช้าง” ได้ทำงานช่วย “ช้าง” อย่างเต็มที่ ได้ผลักดันให้ปัญหา “ช้าง” เป็นที่รับรู้ของภาครัฐและสังคมโดยทั่วไปและยังมีองค์กรเกี่ยวกับ “ช้าง” เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย
หากมีหนทางอื่นที่จะทำให้ “มูลนิธิเพื่อนช้าง” ดำเนินการต่อไปได้ ได้โปรดพิจารณาแจ้งให้ดิฉันทราบด้วย หากไม่มีแล้ว ดิฉันขอท่านประธานเชิญประชุมคณะกรรมการเพื่อวางแผนดำเนินการตามกฎระเบียบต่อไป
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ด้วยความเคารพ
(นางสาวโซไรดา ซาลวาลา)
ผู้ก่อตั้ง / กรรมการและเลขาธิการ
มูลนิธิเพื่อนช้าง
2/2"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้