ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....มีแต่เสียง....14/3/2017... สมยศ ทัศนพันธ์

กระทู้คำถาม


กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม....แต่มีเสียง.........
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ


1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกัน
    แล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

                                                                                                               เธออย่าหยุดความฝัน ห้องเพลง 2 ปี (เนื้อร้อง ทำนอง ดนตรี ขับร้อง โดย MC มาริโอ้)
                                                คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป
ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพส
สิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลง
จึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น

สุขสันต์เย็นวันอังคารนะคะ ....  สวัสดีเพื่อนๆ  ห้องเพลง
พลุโอ่งพลุโอ่งพลุโอ่ง พี่สาวเหลือน้อยรับหน้าที่  MC ค่ะพลุโอ่งพลุโอ่งพลุโอ่ง


วันนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิด สมยศ ทัศนพันธ์  นักร้อง นักแต่งเพลงคนดัง เมื่อวันวาน  มารู้จักเขากันหน่อย
หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อนเลย   เพราะเกิดไม่ทัน


สมยศ ทัศนพันธ์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เรือตรี สมยศ ทัศนพันธุ์ (14 มีนาคม พ.ศ. 2458 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2529 )
นักร้อง นักแต่งเพลงไทยสากล

วัยต้น
บุตรของ ร.อ.เจริญ ทัศนพันธุ์ ร.น. เกิดที่ย่านบ้านหม้อ ถนนเจริญกรุง ที่ร้านเจริญกิจมาลาของผู้เป็นบิดา
มารดาเสียชีวิตตั้งแต่เด็กจึงอยู่กับบิดาและแม่เลี้ยง เริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดสุทัศน์และโรงเรียนวัดราชบพิธ
และศึกษาต่อด้านวิจิตรศิลป์ ที่โรงเรียนเพาะช่าง
ชื่นชอบการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก

วัยรุ่น
เคยรวมกลุ่มกับเพื่อนเล่นดนตรี และประกวดร้องเพลงตามงานวัดได้รางวัลมากมาย สมัยเรียนเพาะช่างเกิดขัดแย้ง
กับแม่เลี้ยงซึ่งไม่พอใจการซ้อมร้องเพลงส่งเสียงดังทุกวัน จึงหนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อน และเลิกเรียนหนังสือ
ไปใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ๆ ยึดอาชีพรับจ้างเขียนภาพโพสเตอร์บ้าง วาดรูปบ้าง และร้องเพลง ประกวดตามงานวัดต่าง ๆ
ตามที่ตัวเองชื่นชอบและฝังใจส่วนมากชนะเลิศในการประกวดแทบทุกครั้ง การประกวดร้องเพลงทำให้มีโอกาสรู้จักกับ
ครูเพลงดัง ๆ หลายท่าน แต่ที่ใกล้ชิดที่สุดเห็นจะเป็น“จำรัส สุวคนธ์” ครูจำรัสคอยให้ความช่วยเหลือและแนะนำวิธีการ
ร้องเพลงจนเชี่ยวชาญ

ในโลกเสียงเพลง
ต่อมาได้ข่าวว่ากองทัพเรือไทยรับสมัครนักร้องและนักแต่งเพลงประจำกองดุริยางค์ทหารเรือ จึงเข้าไปสมัครแข่ง โดยร้องเพลง
"บางปู" ของครูล้วน ควันธรรม ได้ที่หนึ่งและบรรจุเข้ารับราชการ รุ่นเดียวกับสุรสิทธิ์ สัตย์วงศ์ เสน่ห์ โกมารชุน สมศักดิ์ เทพานนท์
และปิติ เปลี่ยนสายสืบ

บางปู

สมยศ ตั้งใจทำงานรับใช้กองดุริยางค์ทหารเรือมาจนถึงปี พ.ศ. 2488 จึงมีโอกาสได้ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงครั้งแรก ในเพลง
“รักครั้งแรก” แต่งเองร้องเอง ดนตรีโดยวง เนียน วิชิตนันทน์ โดยบันทึกบนเส้นลวด ทำให้เพลงนี้ไม่ได้รับการเผยแพร่
แต่ภายหลังได้ถูกนำมาบันทึกลงแผ่นเสียงอีกครั้งหนึ่ง จนถึงปี พ.ศ. 2490 สมยศจึงได้มีโอกาสแต่งและร้องเพลงแรกให้กับกองดุริยางค์
ทหารเรือ คือเพลง “ลมทะเล” โดยแต่งร่วมกับ ครูสกนธ์ มิตรานนท์ ร้องคู่กับ เอมอร วิเศษสุต เพลงที่ 2 คือเพลง “วอลท์ซนาวี”
แต่งร่วมกับครูสกนธ์เช่นเดียวกัน บุญส่ง สุนทรโรหิต และ อุไรวรรณ คล้ายบรรเลง เป็นผู้ขับร้อง เพลง “หน้าที่ทหารเรือ”
ท่านแต่งเนื้อร้อง-ทำนอง และร้องนำหมู่เอง หลังจากนั้นก็ได้บันทึกแผ่นเสียงออกมาเรื่อย ๆ เช่นเพลง “เสียงขลุ่ยนางไพร” “ผู้ครองใจ”
ส่วนมากจะเป็นแผ่นเสียง hit master voice ตราสุนัขสลากเขียว ของบริษัทนำชัย[3]

มาถึงปี พ.ศ. 2492 เพลง “มนต์เมืองเหนือ” ที่ท่านขับร้อง ซึ่งแต่งโดย ครูไพบูลย์ บุตรขัน โด่งดังสุดๆ ทำให้ทั้งคนร้องและคนแต่ง
กลายเป็นดาวจรัสฟ้าประดับวงการเพลง และนับจากปี พ.ศ. 2492 – พ.ศ. 2499 ผลงานเพลงของท่านได้รับความนิยมมากมาย เช่น
“เรือนหอรอรัก” “แม่นางนกขมิ้น” “วิวาห์น้ำตา” ซึ่งเพลงวิวาห์น้ำตา ท่านแต่งให้ “เฉลิม แก้วสมัย” ขับร้องเมื่อปี พ.ศ. 2496
และนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2497 และท่านร้องบันทึกเสียงเองอีกครั้งในปีเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีเพลง” “รอยแผลเก่า”
“กระท่อมไพรวัลย์” “เซียมซีเสี่ยงรัก” “ช่อทิพย์รวงทอง” “มิตรแห่งความดี” เป็นต้น

"สมยศ ทัศนพันธุ์" เป็นผู้แต่งทำนองเพลงให้กับกองดุริยางค์ทหารเรือ ร่วมกับ ครูสกนธ์ มิตรานนท์ ผู้แต่งคำร้อง เช่น "ลมทะเล"
"วอลท์ซนาวี" "หน้าที่ทหารเรือ" และเพลงดัง เช่น "เซียมซีเสี่ยงรัก" "รอยแผลเก่า" "น้ำตาผู้ชาย" "ดาวร่วง" "รักครั้งแรก" "ขวัญอ่อน"
"เกล็ดแก้ว" และเป็นผู้สนับสนุนให้ครูพยงค์ มุกดาเข้ามาอยู่ในกองดุริยางค์ทหารเรือด้วย

หลังจากรับราชการอยู่เป็นเวลา 16 ปีจนกระทั่งมียศเป็นเรือตรี ในปี พ.ศ. 2499 จึงลาออก เพราะเห็นว่าชีวิตการเป็นนักร้องกับ
การรับราชการจะเจริญก้าวหน้าไปพร้อม ๆ กันไม่ได้ ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง และตั้งวงดนตรีในปี พ.ศ. 2502 ออกเดินสาย
รับใช้แฟนเพลงทั่วประเทศ ซึ่งนับว่าวงดนตรี “สมยศ ทัศนพันธุ์” เป็นวงดนตรีวงแรกที่ออกเดินสายต่างจังหวัด

ความภูมิใจ
ปี พ.ศ. 2508 ท่านประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตการเป็นนักร้องอีกครั้งหนึ่ง โดยได้รับแผ่นเสียงทองคำพระราชทานในฐานะนักร้องชาย
ยอดเยี่ยม ประเภทลูกทุ่ง จากเพลง “ช่อทิพย์รวงทอง” ผลงานของพยงค์ มุกดา บันทึกเสียงเมื่อ พ.ศ. 2498 ในงานประกวดแผ่นเสียงทองคำ
พระราชทาน
ครั้งที่ 2  ท่านได้รับรางวัล “ส่งเสริมเยาวชนดีเด่น” จากสำนักนายกรัฐมนตรีในเพลง “มิตรแห่งความดี” ขับร้องโดย กรองทอง ทัศนพันธุ์
บุตรสาวคนที่ 4 นับเป็นรางวัลเกียรติยศครั้งที่ 2 ที่ได้รับ

มรณกรรม
วงดนตรี"สมยศ ทัศนพันธุ์" อยู่รับใช้แฟนเพลงมาจนถึงปี พ.ศ. 2515 ก็เลิกวง เนื่องจากอายุมากขึ้น และหันมาร้องเพลงประจำตาม
ห้องอาหารไนท์คลับ จนถึงปี พ.ศ. 2520 จึงเลิกร้องเนื่องจากเริ่มป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ยังรับเชิญไปร้องอยู่บ้างเฉพาะที่เป็นงานสำคัญ
สมยศ เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2529 เวลา 04.39 น.ด้วยโรคหัวใจ รวมอายุได้ 71 ปี

เบ็ดเตล็ด
เมื่ออายุ 22 ปี โชว์เต้นแท๊ปท้ายเพลง ฉันหาหวานใจ คู่กับ สวัสดิ์ วิธีเทศ ในภาพยนตร์ เพลงหวานใจ ของ ภาพยนตร์เสียงศรีกรุง พ.ศ. 2480


ลมทะเล - สมยศ ทัศนพันธ์,เอมอร วิเศษสุด
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=zU1EcS7oNYU
เพลงลมทะเล , ผลงาน : สมยศ ทัศนพันธ์ " มิตรา " , ดนตรี : ไกรสีห์ เดชทรัพย์ , ขับร้อง : เอมอร วิเศษสุด / สมยศ ทัศนพันธ์ ,
ต้นฉบับเดิมจากแผ่นครั่ง , " ลมทะเล " เป็นเพลงประวัติศาสตร์ที่ สมยศ ทัศนพันธ์ ลืมไม่ได้ชั่วชีวิต เพราะเป็นเพลงแรกในชีวิต
การประพันธ์เพลง และเป็นเพลงแรกที่รับปากกับผู้บังคับบัญชาว่าจะแต่งให้กับดุริยางค์กองทัพเรือ เมื่อสมัยเข้ารับราชการใหม่ ๆ
ถึงวันนัดส่งเพลง สมยศ แต่งไว้เพียงท่อน ๑ - ๒ และท่อน ๔ เท่านั้น ยังขาดท่อน ๓ ซึ่งเป็นท่อนกลางของเพลง สกล มิตรานนท์
ซึ่งรับราชการอยู่ด้วยกันจึงช่วยแต่งท่อนที่ ๓ ให้ในวันนั้น เป็นเพลงที่ร้องออกอากาศทางสถานีวิทยุ ๗ พี.เจ. [ อยู่ที่ศาลาแดง ]
อันเป็นสถานีวิทยุแห่งแรกของเมืองไทย ได้รับความนิยมมาก่อนเมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๘๕ นำมาบันทึกเป็นแผ่นเสียงเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๐
[ เอมอร วิเศษสุด ร้องเพลงนี้ เมื่ออายุได้ ๑๖ ปี ]

สาวแว่น
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
สวัสดีค่ะ MC พี่สาวและเพื่อนๆ

ที่บ้านชอบฟังเพลงนี้ คุ้นๆ ว่าเป็นเพลงคุณสมยศ ใช่จริงด้วย แต่ปกติมักเคยฟังที่คนอื่นร้องค่ะ

มนต์เมืองเหนือ - สมยศ ทัศนพันธ์

https://www.youtube.com/watch?v=qAN0mCso9Ek
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ขับร้องต้นฉบับโดย สมยศ ทัศนพันธ์ จากนั้นก็มี ทูล ทองใจ สุเทพ วงศ์กำแหง และอีกหลายท่าน
คำร้อง ทำนองโดยครูไพบูลย์ บุตรขัน

สำหรับเพลงนี้ สมยศ ทัศนพันธ์ และทูล ทองใจ ร้องต่างกันอยู่ท่อนหนึ่งตรงท่อนที่ว่า แอ่วสาวเจ้าวอนอ้อนน้ำคำ
ของสมยศร้องเป็นแอ่วเว้าเจ้าวอนอ้นน้ำคำ

เพลงนี้ครูไพบูลย์เล่าว่าแต่งโดยไม่เคยไปเมืองเหนือหรือเชียงใหม่เลยทั้งๆที่ใจอยากไป
พบกับความสวยงามของเมืองเหนืออย่างที่เล่าลือกันมาก พอได้ไปจริงๆก็ไปได้แค่ลำปางไม่ถึงเชียงใหม่

แม้ขณะแต่งเพลงนี้ก็ไปไม่ถึงเชียงใหม่ ครูเล่าว่าหลังจากแสดงดนตรีที่จังหวัดลำปางเสร็จแล้ว
ก็ไปเที่ยวเกาะคามองเห็นทิวทัศน์ทางเหนือ ผมเป็นคนภาคกลางการเห็นภูเขาเมฆหมอกห้วยละหานลำธาร
ตอนเช้าหมอกลงแลดูสลัวไปหมดมันเร้าความรู้สึก เป็นความตื่นตาตื่นใจประทับอยู่ในใจเก็บไว้ในอารมณ์

ขณะยืนอยู่ที่สถานีรถไฟลำปางมองตามทางรถไฟ คิดว่าเชียงใหม่จะมีรูปร่างเป็นอย่างไร
คิดอยู่ตลอดเวลาพอกลับมากรุงเทพฯ ก็ลงมือเขียนจากภาพความนึกคิด
เพราะได้เห็นภาพของผู้หญิงชาวเมืองแต่งตัวสวยๆงามๆ นึกถึงแม่น้ำปิง
ได้ยินเขาเล่าว่าไปนั่งริมฝั่งน้ำปิงตอนเดือนหงายจะสวยแค่ไหน อันนี้เป็นอารมณ์กวีจริงๆ
ไม่ได้ไปเว้าวอนสาวอะไรเลยเป็นอารมณ์ของคนเป็นหนุ่มเอาตัวเราเข้าไปเป็นตัวละคร   


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่