สวัสดีครับ เพื่อนผมมีเรื่องมาเล่าให้เพื่อนๆทุกคนฟัง แล้วผมคิดว่ามันเป้นอุทาหรณ์ที่ดีสำหรับ คนที่มีแฟน แต่สูญเสียแฟนไปด้วยเกมส์คับ
***เรื่องมันออกยาวสักนิด แต่ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์สำหรับ คนที่ ติดเกมส์น่ะคับ
เริ่มเรื่องนะครับ ผมมีชื่อนัทนะคับ ผมเป็นนักศึกษา ยุ มหาลัยแห่งหนึ่งในตัว กทม ผมมีแฟนคนนึง แต่ว่า แฟนคนนี้ผมได้เลิกลาไปแล้ว แล้วช่วงที่ผมเลิกลา ผมรู้สึกว่าผมต้องการใครสักคน
ณ ตอนนั้น ใครสักคนที่ สามารถ คุยแล้วทำให้ผมรู้สึกสบายใจ ใครสักนึง ที่คอยดูแล เทคแคร์ อารมณ์เหมือน คนเลิกกับแฟนแล้วต้องใครสำคนครับ ช่วงที่ คบกันช่วงแรกนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นสีชมพู
แฟนของผมชื่อ บิว คับ[นามสมมุติ] บิวเป็น รุ่นน้องที่มหาลัยของผม แต่ความจริงแล้วอายุเท่ากับผมคับ เข้าเรื่องนะครับ ช่วงที่ผมได้คุยกับบิว ช่วง 1-2ปีแรกนั้น ผมมีค่อนข้างที่จะ คอยเทคแคร์ ดูแล
ไม่ว่าบิวอยากทานอะไร หรือว่าอยากไปไหนผม พาไปได้ทุกที่ ผมช่วงนั้นค่อนข้างรักษาสุขภาพ คอยหมั่นดูแลตัวเอง เรียกได้ว่าตอนนั้น ดูดีเลยทีเดียวครับ แล้วดูบิวก็ค่อนข้างมีความสุขมากที่ ได้อยู่กับผม
ผมเคยพูดกับบิว ช่วงที่กำลังคบกันอยู่ว่า ทุกอาทิตย์ เราจะไปเที่ยว และดูหนังกัน หรือไม่ก็เข้าวัด ให้อาหาร ปลา หรือนก แต่ว่าผมก็สามารถทำได้แค่ 1-2 ปีแรกเท่านั้นครับ ช่วงระหว่างที่ผมคบกับบิว ย่างเข้าสู่ปีที่ 3
นั้น ก็เกิดเรื่องขึ้นครับ ด้วยความที่ ในสาขา ของผมที่เรียนนั้น มีกันค่อนข้างน้อย และ เป็น ผุ้ ญ หมดเลย [มีผมเป็นผู้ชายคนเดียว และผู้ ญ 11 คน] ทำให้ผมไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายในมหาลัยสักเท่าไรนักคับ
อารมณ์ นิสิตอยู่มหาลัย ก็เป็นธรรมดาที่ อยากหาเพื่อน ผุ้ชายเที่ยว กิน เหล้า เป็นธรรมดา แต่ว่า ผมไม่ค่อยมี แต่มี ผู้ หญิงส่วนใหญ่ทำให้ผมไม่ค่อยได้ไปสังสรรค์เท่าไรนัก ผมเป็นคนไม่ชอบเที่ยว ผับ บาร์เท่าไร
ชอบไปเที่ยวทะเล หรือไปห้าง มากกว่า ทำให้การหาเพื่อนผู้ชายยิ่งลดน้อยลงไปด้วย เพราะว่าช่วงชีวิต ม ปลาย มีแต่เพื่อนผู้ชาย พอขึ้น มหาลัย ทำให้รู้สึกเพื่อน ผุ้ชายขาดหายไป ผมจึงเกิดความโหยหา เพื่อนผุ้ชายที่คุยกันได้
ตามแบบประสาผู้ชาย และเรื่องก็เกิดขึ้นโดย วันนึงผมรู้สึก เบื่อมาก ผมก็เลยเข้าร้านเกมส์ไป ผมเป็นคนชอบเล่นเกมส์แต่ พอเข้ามหาลัยไม่ค่อยได้เล่นนานแล้ว เนื่องจากมี แฟนแล้ว
เกมส์ที่ผมเล่นนั้นเป็นเกมส์ที่ลักษณะ ต้องช่วยกันเป็นทีม ทำให้มีเพื่อนผู้ชาย เยอะขึ้น มันรู้สึกเหมือนกับว่า ผมมีเพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่องจิงๆ [ในเกมส์ และ นอกเกมส์ก้ให้คำปรึกษากัน] ผมคิดว่าสิ่งๆนั้นเป็นสิ่งที่เติมเต็มกับชีวิตผม
ซึ่งหาไม่ได้จากแฟน ช่วงแรกที่ผมเล่นเกมส์นั้น ผมก็ยังไป เที่ยว หรือ พาน้อง มานั่งเล่นที่ห้อง ซึ่งระหว่างที่น้องเขามา ผมก็ยัง เล่นเกมส์อยู่ แต่ก็ ไม่ได้ติดมากมายอะไร ก็พอวางมือจาก คีย์บอร์ดได้ เพราะอาจจะเป็นเข้ามาเล่นใหม่ๆก็เป็นได้
แต่ว่า พอเวลาผ่านไปได้ ระยะนึง ซึ่งน่าจะราวๆ 2-3เดือน ผมรู้สึกว่า ผม ได้ติดในโลกแห่งเกมส์มากยิ่งขึ้น ซึ่ง สาเหตุหลักๆคือ ผมสามารถหาเงินในเกมส์ได้ และผมก้เอาเงินนั้นพาน้องบิวไปเที่ยว ผมจึงเกิดความคิดว่าจะพยายามหาเงินจากโลกของเกมส์
เพื่อทดแทนเวลาที่ผมขาดหายไปในชีวิตเค้า ซึ่งในตอนนั้น ผมบอกเค้าว่า ผมจะหาเงิน จากเกมส์ และ พาเค้าไปเที่ยว ซึ่งในตอนนั้น ผมคิดแบบนั้นจิงๆ ผมไม่คิดจะนอกใจ หรือคุยกับ ผุ้ ญ คนอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว ผมไม่เคยคิดจะมีคนใหม่
เพราะผมคิดว่า คนๆนี้จะเป็นคนที่ผมจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปจนอนาคต ระหว่างที่ผมเล่นเกมส์นั้น กว่าจะรู้ตัว ผมก็ติดเกมส์ จนนชนิดที่ว่า ไม่ได้ดูแลสุขภาพ เลย จากเมื่อก่อนที่เคย ดูแล สุขภาพดี กลายเป็น ไม่สนใจ วันๆเอาแต่หาเงินจากในเกมส์
จากที่เคยออก กำลังกาย หรือออกพาน้องบิวไปเที่ยว ก็กลายเป็นว่า ไม่ได้พาไป น้องบิวเค้าก้พยายาม โทรมาหา ผม พยายามเฟสมาหา ซึ่ง ผมก็มักจะบ่ายเบี่ยงไปว่า ไม่ว่างบ้าง หรือว่ากำลัง หาของในเกมส์บ้าง ซึ่งในตอนนั้นตัวผมคิดว่า
ผมอยู่ อีกโลกๆนึง ซึ่ง คนที่เคยติดเกมส์หนักๆจะเข้าใจ คือว่า จะลืมทุกสิ่งที่เกี่ยวกับโลกของความจริงไปเลย เกมส์ที่ผมเล่นนั้นอย่างที่บอกไป มันต้องใช้การ สื้อสาร พูดคุยกัน ผ่าน TS ตลอดเวลา และด้วยความที่ผมเล่นมานานทำให้
มีผู้คนนับถือผมในฐานะคนสั่งการ ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นที่ต้องการ หรือมีความสำคัญในทีมมาก ซึ่งผมไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของน้องบิวเลย ว่าจะรู้สึกยังไง มีครั้งนึง เค้าเคยพูดกับผมว่า หากผมยัง ติดเกมส์และไม่ดูแลตัวเองอย่างนี้
สักวัน เค้าคงทนผมไม่ได้ ซึ่งในตอนนั้นแล้ว ตัวผมไม่คิดว่าเค้าจะพูดจิงๆ หรือว่าทิ้งผมจิงๆ ซึ่ง คนรักกัน ผมไม่คิดว่าเค้าจะทิ้งผมเพราะเรื่องแค่นี้ เพราะผมไม่ได้เจ้าชู้ หรือคุยกับสาวอื่น ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากกับคำพูดนี้
และก็ง้อเค้า แล้วน้องเค้าก็จะหายทุกครั้งแล้วกลับมาคุยกันปกติ ซึ่ง ผมก็จะมองมันเป็นเรื่องปกติ หลังจากที่ เค้าเคยขู่ผมครั้งนึง ผมก็ยังทำตัวแบบเดิม คือ สนใจแต่เล่นเกมส์ ไม่มีเวลา พาเค้าไปไหน ไม่มีเวลาคุย ไม่ได้โทรกลับ หรือทักเฟส
ซึ่งในตอนนั้น น้องเค้าต้องการแค่ให้ผมโทรไปถาม สารทุกข์ สุขดิบ บ้างแค่นั้น แต่ผมกลับรู้สึกว่าน่ารำคาญ เพราะ ทุกกเวลาในเกมส์มันหาเงินได้ ผมจึงไม่ได้สนใจมากนักกับคำพูดนี้ แล้ว ครั้งที่สอง ที่เค้าพูดกับผม ก้เกิดจากเรื่องเดิมๆ
คือผมไม่มีเวลาให้ แล้วเค้าก้ร้องไห้ และพูดเหมือนประโยค์แรกคือ "ถ้าสักวันนู๋ทนพี่ไม่ได้ แล้วพี่จะเสียใจ"ซึ่งตอนนั้นผมก้ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเค้า คงแค่ขู่ ผมเฉยๆ ขอเล่าเสริม ช่วงระหว่างที่ผมติดเกมส์หนักๆนั้น
ผมเกือบจะสูญเสียสิ่งมีค่าสำหรับผมไปหลายๆอย่าง คือ น้องชายแท้ๆของผม น้องชายผม อยู๋หอ เดียวกันในมหาวิทยาลัย ซึ่งน้องผมก็รู้ดีว่าผมมีแฟน และ ช่วงนั้นผมติดเกมส์ น้องชายเคยเตือนผมครั้งนึงว่า ถ้าผมยังเป็นแบบนี้ต่อไป
สักวันผมจะไม่เหลืออะไร ซึ่งตอนนั้น ยอมรับตรงๆเลย ว่า เกมส์เมอร์ อารมรุณแรง บอกกลับไปว่า "ห้องของกุ ถ้ารำคาญมากเมิงก็ออกจากห้องกุไปเลยสิ" ตอนนั้นผมอาจจะขาดสติ ถึงคำพูดที่พูดไปก้ได้ เหมือน แบบ อารมณ์รุนแรนตลอดเวลา
ไม่อยากจะโทษเกมส์ แต่ว่า ตัวผมเริ่มเปลี่ยนไป ช่วงนั้นเป็นช่วงสิ้นเดือนพอดี ผมกลับมาจาก การเรียน ผมไม่เห็นสัมภาระของน้องอีกเลย ซึ่งผมตกใจมาก พยายามติดต่อ แต่ว่ารู้ข่าวว่า น้องได้หาห้องเช่าใหม่แล้ว ตอนนั้นผมก้เริ่มเกบเงินจากการ เล่นเกมส์
ผมเอาเงินส่วนนั้นไป อัพเกรดคอมพิวเตอร์เพื่อให้มีศักยภาพมากพอ เพื่อจะได้เล่นหลาย จอ และมันดีขึ้น ซึ่งถ้ามันมีคุณภาพดีก็จะ หาเงินได้จากเกมส์มากขึ้น ช่วงนั้น ผมก็ยังไม่สำนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เวลาแม่โทรมา ผมก็ไม่สนใจ
ในตอนนั้น ผมคิดเพียงแค่ว่า ผมต้องการเล่น เกมส์ เล่นกับเพื่อนๆในทีม ผมเหมือนหลงไปอยู่ในโลกของเกมส์อย่าง สมบูรณ์แบบ ซึ่งผมไม่สามารถ ออกได้ หลังจากที่ผม ติดเกมส์มาได้ 5-6เดือ ช่วงที่ผมติดเกมส์นั้น
ผมถึงกับเรียนไม่ผ่านวิชาตัวเดียว เป็นเวลา 3 ไม้ T^T ทุกวันที่ผมไปเรียนนั้น ในสมองผม คือ ไปเช็คชื่อ รีๆบเรียนให้เสร็จแล้วกลับมา ที่ห้องมาเล่นเกมส์ต่อ ในตอนนั้นผมคิดแค่นั้นจิงๆ ส่วนแฟนผมนั้นช่วงนั้นก็คุยกันน้องลงมากขึ้นเรื่องๆ
เพราะช่วงนั้นผมก้ฝึกงานไปด้วย น้องเค้าก็ เรียนเหมือนกัน ทำให้เวลา คุยกันน้องลงไปด้วย ซึ่ง ในตอนนั้นผมกับน้องเค้าก็ยังเป็นแฟนกันปกติ แต่มีปัญหาเรื่องที่ผมติดเกมส์มา มากพอสมควร บางครั้งผมเล่นจนลืมเค้าไปเลย
ส่วนมาก ของมากที่สุดคือ เค้าจะติดต่อผมมาเอง ผมแทบไม่เคย ทักเค้าไปก่อนเลย ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เป็นเวลา ถึง 6 เดือน เลยคับ แต่น้องเค้าก็พยายามติดต่อผมโดยตลอด ช่วงที่เป็นปัญหาจิงๆคือช่วงเดือนสิงหา
เป็น วันเกิดของเค้า พอดี ซึ่งตอนนั้น ผมก็ยังหมกหมุ่นกับการหาของในเกมส์ เพื่อที่จะได้เงิน และเอาเงินนั้นไปเท่วกับน้องบิว ซึ่ง วันเกิดของเค้า ผมก็แน่นอนว่าลืม น้องเค้าก็ไม้ติดต่อ มาเลย หลังจากวันเกิดเค้า ผ่านมาได้ 1อาทิตย์ ผมถึง
เพิ่งรู้สึกตัวว่า เลยวันเกิดของแฟนมาแล้วนี่นา ตอนนั้นผมรู้สึกมาก เพราะว่าวันเกิดทุกปี ตลอดเวลาที่คบกันผมจะซื้อเค้กมาให้น้อง หรือว่าอวยพรวันเกิดในเฟสด้วย แต่ว่าปีนี้ ผมไม่ได้ทำอะไรให้เลย จึงทำให้ผมรู้สึกแย่ลงไปอีก
หลังจากที่ผมรู้ตัวว่าผมลืม ผมจึง รีบโทรไปหาน้องบิว ผมโทรไปหาเค้า
คำพูดแรกที่ผมพูดกับเค้าคือ "ทำอะไรอยู่" เค้าก็พูดเป็นปกติ แต่ว่าน้ำเสียงที่เค้าพูดกับผมนั้น ผมรู้สึกได้ว่า มันไม่เหมือนเดิมแล้วซึ่งตอนนั้นผม รู้สึก หน้าชา เลยทีเดียว ใจมันวูบๆ เหมือนคนโดนไฟช็อต ผมคิดว่า เดวผมก็คง ง้อเค้า
เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ช่วงแรกผมไม่คิดเลยว่าจะเสียเค้าไป ผมพยายามง้อเค้า เป็นเวลาถึง1เดือน ช่วงนั้น ผมก็ยังไม่วายจะเล่นเกมส์ แต่เล่นน้อยลง และพยายามโทรหาน้องบิวเค้าช่วงเวลา 4ทุ่ม เพราะเป็นเวลาที่ เราตกลงกันแล้วว่า จะโทรหากันประจำ
ทุกครั้งที่ผมโทรศัพท์ไป น้องบิวเค้าก็รับโทรศัพท์เป็นปกติ แต่ว่า ผมสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที เปลี่ยนไปของเค้า ซึ่งตลอดระยะเวลา 2-3ปีที่คบกันนั้น ผมรู้เลยว่า นี่มันไม่ปกติแล้ว เวลาผ่านไปล่วงเลย 1เดือน น้ำเสียงที่คุยกับผม ก็ยังเย็นชาเหมือนเดิม
ตัวผมนั้น ได้พยายาม ขอร้องเค้า ผมร้องไห้ ผมอ้อนวอนเค้าหลายๆอย่าง ผมพยามหาวิธี พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เค้ากลับมา ซึ่งคำตอบที่ผมได้รับนั้นคือ "พี่นัทนู๋ไม่อยากกลับไปเจ็บเหมือนเดิม พี่ควรรักตัวเองให้มากๆ และตั้งใจเรียนให้จบ"
ซึ่งช่วงนั้น ผมบอกตรงๆเลยว่า ผมโทรมมาก น้ำหนัก ผมจากปกติ 67 เพิ่มไปถึง 86 ตอนที่ผม อ้วนๆนั้นผมเคยถามเค้าว่า ถ้าพี่เป็นแบบนี้ นู๋จะรับได้ไหม ซึ้งตอนนั้นผมไม่รุ้ว่าเค้าชอบหรือไม่ชอบ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเค้าไม่ชอบให้ผมอ้วน หรือไม่ชอบที่ผมไม่ดู แลตัวเอง
เพราะแต่ก่อนนั้น ผมรักสุขภาพ พาน้องเค้าเข้าฟิตเนส หรือพาไปวิ่ง ซึ่ง น้องเค้าก็บอกเปรยๆว่าไม่กล้าพาไปหาเพื่อน เพราะอาย ตอนนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คนรักกัน อ้วน ผอมผมคิดว่าไม่สำคัญเท่าไร
กลับมาเข้าประเด็น หลังจากที่น้องเค้าบอกให้ผม เลิกยุ่งกับเค้าและรักตัวเองมากๆ ผมก็เลย สองจิตสองใจ ว่าจะทำยังไงดี ช่วงนั้น น้องชายผมที่ เคยแยกตัวออกจากห้องไปก็กลับมาหาผมเพระว่าไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง ตอนนั้นยอมรับตรงๆเลยว่าผมดีใจมาก
ผมมีความรู้สึกมากมาย ผมรู้สึก อยากขอโทษ มาก ผมคิดว่าน้องผมจะไม่กลับมาแล้ว หลังจากที่น้องกลับมาอยู่ห้องเดียวกันกับผมอีกครั้งนึง ผมก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้น้องผมฟัง น้องผมก็เลยบอกว่า ที่พี่บิว ทิ้งพี่นัท ไปนั้นก็ถูกแล้ว
เพราะตอนแรก คนที่ทื่งพี่บิว ก่อนก็คือพี่นัท เพราะงั้นการที่เค้าจะทิ้งพี่ไป มันก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว ช่วงที่น้องยุกับผม ก็ยังเห็นผมเล่นเกมส์ เหมือนเดิม แต่อาจจะลดน้อยลงบ้าง ตอนนั้น น้องผมเอ่ยคำๆนึงมาว่า
"ตราบใดที่มีคอมอยู่ทุกครั้งที่ตื่นมา ก็ยังไม่มีวันเปลี่ยนตัวเองได้" หลังจากที่ ฟังน้องผมพูด ผมก็คิดทบทวนเรื่องของการขายคอมพิวเตอร์ เชื่อไหมคับ สำหรับผมแล้ว คอมพิวเตอร์มันแทบจะเป็น แขน หรือขาในชีวิตของผมแล้ว
แต่ ผมไม่อยากเสียน้องชายร่วมสายเลือดของผมไป ผมจึงจำเป็นต้องตัด ปัญหาด้วยการ ขายคอมพิวเตอร์ทิ้งออกไป โดยระหว่างที่ผมจะขายนั้น ผมได้เข้าไปในโปรแกรม Ts[Team speak] ซึ่งเป็นแหล่งรวมเพื่อนๆที่เล่นเกมส์ของผม
ผมได้เข้าไปร่ำลา เชื่อไหมคับว่าทุกคนไม่อยากให้ผมไป ด้วยความที่ผมอายุเยอะสุดในบรรดา นั้น ทำให้พวกน้องๆได้ให้ความนับถือผมเป็น ครอบครัวคนสำคัญคนนึง ผมก็เลยร่ำลาจากทุกคน หลายคนสงสัยว่าทำไมผมถึงเลิกเล่นเกมส์
ผมเลยบอกไปว่า ผมอายุเพิ่มขึ้นต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้น ผมเลยบอกว่า จะกลับตั้งใจเรียนให้จบ ซึ่งน้องๆบางคนก็มีทั้งเข้าใจ และไม่เข้าใจบ้าง ตอนนั้นผม ไม่คิดอะไรเรื่องเกมส์แล้ว หลังจากล่ำลาเสร็จผมก็ขายคอมพิวเตอร์ทิ้งไป
ขอบคุณที่ทำให้ผมได้กลายเป็นคนใหม่
***เรื่องมันออกยาวสักนิด แต่ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์สำหรับ คนที่ ติดเกมส์น่ะคับ
เริ่มเรื่องนะครับ ผมมีชื่อนัทนะคับ ผมเป็นนักศึกษา ยุ มหาลัยแห่งหนึ่งในตัว กทม ผมมีแฟนคนนึง แต่ว่า แฟนคนนี้ผมได้เลิกลาไปแล้ว แล้วช่วงที่ผมเลิกลา ผมรู้สึกว่าผมต้องการใครสักคน
ณ ตอนนั้น ใครสักคนที่ สามารถ คุยแล้วทำให้ผมรู้สึกสบายใจ ใครสักนึง ที่คอยดูแล เทคแคร์ อารมณ์เหมือน คนเลิกกับแฟนแล้วต้องใครสำคนครับ ช่วงที่ คบกันช่วงแรกนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นสีชมพู
แฟนของผมชื่อ บิว คับ[นามสมมุติ] บิวเป็น รุ่นน้องที่มหาลัยของผม แต่ความจริงแล้วอายุเท่ากับผมคับ เข้าเรื่องนะครับ ช่วงที่ผมได้คุยกับบิว ช่วง 1-2ปีแรกนั้น ผมมีค่อนข้างที่จะ คอยเทคแคร์ ดูแล
ไม่ว่าบิวอยากทานอะไร หรือว่าอยากไปไหนผม พาไปได้ทุกที่ ผมช่วงนั้นค่อนข้างรักษาสุขภาพ คอยหมั่นดูแลตัวเอง เรียกได้ว่าตอนนั้น ดูดีเลยทีเดียวครับ แล้วดูบิวก็ค่อนข้างมีความสุขมากที่ ได้อยู่กับผม
ผมเคยพูดกับบิว ช่วงที่กำลังคบกันอยู่ว่า ทุกอาทิตย์ เราจะไปเที่ยว และดูหนังกัน หรือไม่ก็เข้าวัด ให้อาหาร ปลา หรือนก แต่ว่าผมก็สามารถทำได้แค่ 1-2 ปีแรกเท่านั้นครับ ช่วงระหว่างที่ผมคบกับบิว ย่างเข้าสู่ปีที่ 3
นั้น ก็เกิดเรื่องขึ้นครับ ด้วยความที่ ในสาขา ของผมที่เรียนนั้น มีกันค่อนข้างน้อย และ เป็น ผุ้ ญ หมดเลย [มีผมเป็นผู้ชายคนเดียว และผู้ ญ 11 คน] ทำให้ผมไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายในมหาลัยสักเท่าไรนักคับ
อารมณ์ นิสิตอยู่มหาลัย ก็เป็นธรรมดาที่ อยากหาเพื่อน ผุ้ชายเที่ยว กิน เหล้า เป็นธรรมดา แต่ว่า ผมไม่ค่อยมี แต่มี ผู้ หญิงส่วนใหญ่ทำให้ผมไม่ค่อยได้ไปสังสรรค์เท่าไรนัก ผมเป็นคนไม่ชอบเที่ยว ผับ บาร์เท่าไร
ชอบไปเที่ยวทะเล หรือไปห้าง มากกว่า ทำให้การหาเพื่อนผู้ชายยิ่งลดน้อยลงไปด้วย เพราะว่าช่วงชีวิต ม ปลาย มีแต่เพื่อนผู้ชาย พอขึ้น มหาลัย ทำให้รู้สึกเพื่อน ผุ้ชายขาดหายไป ผมจึงเกิดความโหยหา เพื่อนผุ้ชายที่คุยกันได้
ตามแบบประสาผู้ชาย และเรื่องก็เกิดขึ้นโดย วันนึงผมรู้สึก เบื่อมาก ผมก็เลยเข้าร้านเกมส์ไป ผมเป็นคนชอบเล่นเกมส์แต่ พอเข้ามหาลัยไม่ค่อยได้เล่นนานแล้ว เนื่องจากมี แฟนแล้ว
เกมส์ที่ผมเล่นนั้นเป็นเกมส์ที่ลักษณะ ต้องช่วยกันเป็นทีม ทำให้มีเพื่อนผู้ชาย เยอะขึ้น มันรู้สึกเหมือนกับว่า ผมมีเพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่องจิงๆ [ในเกมส์ และ นอกเกมส์ก้ให้คำปรึกษากัน] ผมคิดว่าสิ่งๆนั้นเป็นสิ่งที่เติมเต็มกับชีวิตผม
ซึ่งหาไม่ได้จากแฟน ช่วงแรกที่ผมเล่นเกมส์นั้น ผมก็ยังไป เที่ยว หรือ พาน้อง มานั่งเล่นที่ห้อง ซึ่งระหว่างที่น้องเขามา ผมก็ยัง เล่นเกมส์อยู่ แต่ก็ ไม่ได้ติดมากมายอะไร ก็พอวางมือจาก คีย์บอร์ดได้ เพราะอาจจะเป็นเข้ามาเล่นใหม่ๆก็เป็นได้
แต่ว่า พอเวลาผ่านไปได้ ระยะนึง ซึ่งน่าจะราวๆ 2-3เดือน ผมรู้สึกว่า ผม ได้ติดในโลกแห่งเกมส์มากยิ่งขึ้น ซึ่ง สาเหตุหลักๆคือ ผมสามารถหาเงินในเกมส์ได้ และผมก้เอาเงินนั้นพาน้องบิวไปเที่ยว ผมจึงเกิดความคิดว่าจะพยายามหาเงินจากโลกของเกมส์
เพื่อทดแทนเวลาที่ผมขาดหายไปในชีวิตเค้า ซึ่งในตอนนั้น ผมบอกเค้าว่า ผมจะหาเงิน จากเกมส์ และ พาเค้าไปเที่ยว ซึ่งในตอนนั้น ผมคิดแบบนั้นจิงๆ ผมไม่คิดจะนอกใจ หรือคุยกับ ผุ้ ญ คนอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว ผมไม่เคยคิดจะมีคนใหม่
เพราะผมคิดว่า คนๆนี้จะเป็นคนที่ผมจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปจนอนาคต ระหว่างที่ผมเล่นเกมส์นั้น กว่าจะรู้ตัว ผมก็ติดเกมส์ จนนชนิดที่ว่า ไม่ได้ดูแลสุขภาพ เลย จากเมื่อก่อนที่เคย ดูแล สุขภาพดี กลายเป็น ไม่สนใจ วันๆเอาแต่หาเงินจากในเกมส์
จากที่เคยออก กำลังกาย หรือออกพาน้องบิวไปเที่ยว ก็กลายเป็นว่า ไม่ได้พาไป น้องบิวเค้าก้พยายาม โทรมาหา ผม พยายามเฟสมาหา ซึ่ง ผมก็มักจะบ่ายเบี่ยงไปว่า ไม่ว่างบ้าง หรือว่ากำลัง หาของในเกมส์บ้าง ซึ่งในตอนนั้นตัวผมคิดว่า
ผมอยู่ อีกโลกๆนึง ซึ่ง คนที่เคยติดเกมส์หนักๆจะเข้าใจ คือว่า จะลืมทุกสิ่งที่เกี่ยวกับโลกของความจริงไปเลย เกมส์ที่ผมเล่นนั้นอย่างที่บอกไป มันต้องใช้การ สื้อสาร พูดคุยกัน ผ่าน TS ตลอดเวลา และด้วยความที่ผมเล่นมานานทำให้
มีผู้คนนับถือผมในฐานะคนสั่งการ ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นที่ต้องการ หรือมีความสำคัญในทีมมาก ซึ่งผมไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของน้องบิวเลย ว่าจะรู้สึกยังไง มีครั้งนึง เค้าเคยพูดกับผมว่า หากผมยัง ติดเกมส์และไม่ดูแลตัวเองอย่างนี้
สักวัน เค้าคงทนผมไม่ได้ ซึ่งในตอนนั้นแล้ว ตัวผมไม่คิดว่าเค้าจะพูดจิงๆ หรือว่าทิ้งผมจิงๆ ซึ่ง คนรักกัน ผมไม่คิดว่าเค้าจะทิ้งผมเพราะเรื่องแค่นี้ เพราะผมไม่ได้เจ้าชู้ หรือคุยกับสาวอื่น ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากกับคำพูดนี้
และก็ง้อเค้า แล้วน้องเค้าก็จะหายทุกครั้งแล้วกลับมาคุยกันปกติ ซึ่ง ผมก็จะมองมันเป็นเรื่องปกติ หลังจากที่ เค้าเคยขู่ผมครั้งนึง ผมก็ยังทำตัวแบบเดิม คือ สนใจแต่เล่นเกมส์ ไม่มีเวลา พาเค้าไปไหน ไม่มีเวลาคุย ไม่ได้โทรกลับ หรือทักเฟส
ซึ่งในตอนนั้น น้องเค้าต้องการแค่ให้ผมโทรไปถาม สารทุกข์ สุขดิบ บ้างแค่นั้น แต่ผมกลับรู้สึกว่าน่ารำคาญ เพราะ ทุกกเวลาในเกมส์มันหาเงินได้ ผมจึงไม่ได้สนใจมากนักกับคำพูดนี้ แล้ว ครั้งที่สอง ที่เค้าพูดกับผม ก้เกิดจากเรื่องเดิมๆ
คือผมไม่มีเวลาให้ แล้วเค้าก้ร้องไห้ และพูดเหมือนประโยค์แรกคือ "ถ้าสักวันนู๋ทนพี่ไม่ได้ แล้วพี่จะเสียใจ"ซึ่งตอนนั้นผมก้ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเค้า คงแค่ขู่ ผมเฉยๆ ขอเล่าเสริม ช่วงระหว่างที่ผมติดเกมส์หนักๆนั้น
ผมเกือบจะสูญเสียสิ่งมีค่าสำหรับผมไปหลายๆอย่าง คือ น้องชายแท้ๆของผม น้องชายผม อยู๋หอ เดียวกันในมหาวิทยาลัย ซึ่งน้องผมก็รู้ดีว่าผมมีแฟน และ ช่วงนั้นผมติดเกมส์ น้องชายเคยเตือนผมครั้งนึงว่า ถ้าผมยังเป็นแบบนี้ต่อไป
สักวันผมจะไม่เหลืออะไร ซึ่งตอนนั้น ยอมรับตรงๆเลย ว่า เกมส์เมอร์ อารมรุณแรง บอกกลับไปว่า "ห้องของกุ ถ้ารำคาญมากเมิงก็ออกจากห้องกุไปเลยสิ" ตอนนั้นผมอาจจะขาดสติ ถึงคำพูดที่พูดไปก้ได้ เหมือน แบบ อารมณ์รุนแรนตลอดเวลา
ไม่อยากจะโทษเกมส์ แต่ว่า ตัวผมเริ่มเปลี่ยนไป ช่วงนั้นเป็นช่วงสิ้นเดือนพอดี ผมกลับมาจาก การเรียน ผมไม่เห็นสัมภาระของน้องอีกเลย ซึ่งผมตกใจมาก พยายามติดต่อ แต่ว่ารู้ข่าวว่า น้องได้หาห้องเช่าใหม่แล้ว ตอนนั้นผมก้เริ่มเกบเงินจากการ เล่นเกมส์
ผมเอาเงินส่วนนั้นไป อัพเกรดคอมพิวเตอร์เพื่อให้มีศักยภาพมากพอ เพื่อจะได้เล่นหลาย จอ และมันดีขึ้น ซึ่งถ้ามันมีคุณภาพดีก็จะ หาเงินได้จากเกมส์มากขึ้น ช่วงนั้น ผมก็ยังไม่สำนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เวลาแม่โทรมา ผมก็ไม่สนใจ
ในตอนนั้น ผมคิดเพียงแค่ว่า ผมต้องการเล่น เกมส์ เล่นกับเพื่อนๆในทีม ผมเหมือนหลงไปอยู่ในโลกของเกมส์อย่าง สมบูรณ์แบบ ซึ่งผมไม่สามารถ ออกได้ หลังจากที่ผม ติดเกมส์มาได้ 5-6เดือ ช่วงที่ผมติดเกมส์นั้น
ผมถึงกับเรียนไม่ผ่านวิชาตัวเดียว เป็นเวลา 3 ไม้ T^T ทุกวันที่ผมไปเรียนนั้น ในสมองผม คือ ไปเช็คชื่อ รีๆบเรียนให้เสร็จแล้วกลับมา ที่ห้องมาเล่นเกมส์ต่อ ในตอนนั้นผมคิดแค่นั้นจิงๆ ส่วนแฟนผมนั้นช่วงนั้นก็คุยกันน้องลงมากขึ้นเรื่องๆ
เพราะช่วงนั้นผมก้ฝึกงานไปด้วย น้องเค้าก็ เรียนเหมือนกัน ทำให้เวลา คุยกันน้องลงไปด้วย ซึ่ง ในตอนนั้นผมกับน้องเค้าก็ยังเป็นแฟนกันปกติ แต่มีปัญหาเรื่องที่ผมติดเกมส์มา มากพอสมควร บางครั้งผมเล่นจนลืมเค้าไปเลย
ส่วนมาก ของมากที่สุดคือ เค้าจะติดต่อผมมาเอง ผมแทบไม่เคย ทักเค้าไปก่อนเลย ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เป็นเวลา ถึง 6 เดือน เลยคับ แต่น้องเค้าก็พยายามติดต่อผมโดยตลอด ช่วงที่เป็นปัญหาจิงๆคือช่วงเดือนสิงหา
เป็น วันเกิดของเค้า พอดี ซึ่งตอนนั้น ผมก็ยังหมกหมุ่นกับการหาของในเกมส์ เพื่อที่จะได้เงิน และเอาเงินนั้นไปเท่วกับน้องบิว ซึ่ง วันเกิดของเค้า ผมก็แน่นอนว่าลืม น้องเค้าก็ไม้ติดต่อ มาเลย หลังจากวันเกิดเค้า ผ่านมาได้ 1อาทิตย์ ผมถึง
เพิ่งรู้สึกตัวว่า เลยวันเกิดของแฟนมาแล้วนี่นา ตอนนั้นผมรู้สึกมาก เพราะว่าวันเกิดทุกปี ตลอดเวลาที่คบกันผมจะซื้อเค้กมาให้น้อง หรือว่าอวยพรวันเกิดในเฟสด้วย แต่ว่าปีนี้ ผมไม่ได้ทำอะไรให้เลย จึงทำให้ผมรู้สึกแย่ลงไปอีก
หลังจากที่ผมรู้ตัวว่าผมลืม ผมจึง รีบโทรไปหาน้องบิว ผมโทรไปหาเค้า
คำพูดแรกที่ผมพูดกับเค้าคือ "ทำอะไรอยู่" เค้าก็พูดเป็นปกติ แต่ว่าน้ำเสียงที่เค้าพูดกับผมนั้น ผมรู้สึกได้ว่า มันไม่เหมือนเดิมแล้วซึ่งตอนนั้นผม รู้สึก หน้าชา เลยทีเดียว ใจมันวูบๆ เหมือนคนโดนไฟช็อต ผมคิดว่า เดวผมก็คง ง้อเค้า
เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ช่วงแรกผมไม่คิดเลยว่าจะเสียเค้าไป ผมพยายามง้อเค้า เป็นเวลาถึง1เดือน ช่วงนั้น ผมก็ยังไม่วายจะเล่นเกมส์ แต่เล่นน้อยลง และพยายามโทรหาน้องบิวเค้าช่วงเวลา 4ทุ่ม เพราะเป็นเวลาที่ เราตกลงกันแล้วว่า จะโทรหากันประจำ
ทุกครั้งที่ผมโทรศัพท์ไป น้องบิวเค้าก็รับโทรศัพท์เป็นปกติ แต่ว่า ผมสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที เปลี่ยนไปของเค้า ซึ่งตลอดระยะเวลา 2-3ปีที่คบกันนั้น ผมรู้เลยว่า นี่มันไม่ปกติแล้ว เวลาผ่านไปล่วงเลย 1เดือน น้ำเสียงที่คุยกับผม ก็ยังเย็นชาเหมือนเดิม
ตัวผมนั้น ได้พยายาม ขอร้องเค้า ผมร้องไห้ ผมอ้อนวอนเค้าหลายๆอย่าง ผมพยามหาวิธี พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เค้ากลับมา ซึ่งคำตอบที่ผมได้รับนั้นคือ "พี่นัทนู๋ไม่อยากกลับไปเจ็บเหมือนเดิม พี่ควรรักตัวเองให้มากๆ และตั้งใจเรียนให้จบ"
ซึ่งช่วงนั้น ผมบอกตรงๆเลยว่า ผมโทรมมาก น้ำหนัก ผมจากปกติ 67 เพิ่มไปถึง 86 ตอนที่ผม อ้วนๆนั้นผมเคยถามเค้าว่า ถ้าพี่เป็นแบบนี้ นู๋จะรับได้ไหม ซึ้งตอนนั้นผมไม่รุ้ว่าเค้าชอบหรือไม่ชอบ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเค้าไม่ชอบให้ผมอ้วน หรือไม่ชอบที่ผมไม่ดู แลตัวเอง
เพราะแต่ก่อนนั้น ผมรักสุขภาพ พาน้องเค้าเข้าฟิตเนส หรือพาไปวิ่ง ซึ่ง น้องเค้าก็บอกเปรยๆว่าไม่กล้าพาไปหาเพื่อน เพราะอาย ตอนนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คนรักกัน อ้วน ผอมผมคิดว่าไม่สำคัญเท่าไร
กลับมาเข้าประเด็น หลังจากที่น้องเค้าบอกให้ผม เลิกยุ่งกับเค้าและรักตัวเองมากๆ ผมก็เลย สองจิตสองใจ ว่าจะทำยังไงดี ช่วงนั้น น้องชายผมที่ เคยแยกตัวออกจากห้องไปก็กลับมาหาผมเพระว่าไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง ตอนนั้นยอมรับตรงๆเลยว่าผมดีใจมาก
ผมมีความรู้สึกมากมาย ผมรู้สึก อยากขอโทษ มาก ผมคิดว่าน้องผมจะไม่กลับมาแล้ว หลังจากที่น้องกลับมาอยู่ห้องเดียวกันกับผมอีกครั้งนึง ผมก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้น้องผมฟัง น้องผมก็เลยบอกว่า ที่พี่บิว ทิ้งพี่นัท ไปนั้นก็ถูกแล้ว
เพราะตอนแรก คนที่ทื่งพี่บิว ก่อนก็คือพี่นัท เพราะงั้นการที่เค้าจะทิ้งพี่ไป มันก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว ช่วงที่น้องยุกับผม ก็ยังเห็นผมเล่นเกมส์ เหมือนเดิม แต่อาจจะลดน้อยลงบ้าง ตอนนั้น น้องผมเอ่ยคำๆนึงมาว่า
"ตราบใดที่มีคอมอยู่ทุกครั้งที่ตื่นมา ก็ยังไม่มีวันเปลี่ยนตัวเองได้" หลังจากที่ ฟังน้องผมพูด ผมก็คิดทบทวนเรื่องของการขายคอมพิวเตอร์ เชื่อไหมคับ สำหรับผมแล้ว คอมพิวเตอร์มันแทบจะเป็น แขน หรือขาในชีวิตของผมแล้ว
แต่ ผมไม่อยากเสียน้องชายร่วมสายเลือดของผมไป ผมจึงจำเป็นต้องตัด ปัญหาด้วยการ ขายคอมพิวเตอร์ทิ้งออกไป โดยระหว่างที่ผมจะขายนั้น ผมได้เข้าไปในโปรแกรม Ts[Team speak] ซึ่งเป็นแหล่งรวมเพื่อนๆที่เล่นเกมส์ของผม
ผมได้เข้าไปร่ำลา เชื่อไหมคับว่าทุกคนไม่อยากให้ผมไป ด้วยความที่ผมอายุเยอะสุดในบรรดา นั้น ทำให้พวกน้องๆได้ให้ความนับถือผมเป็น ครอบครัวคนสำคัญคนนึง ผมก็เลยร่ำลาจากทุกคน หลายคนสงสัยว่าทำไมผมถึงเลิกเล่นเกมส์
ผมเลยบอกไปว่า ผมอายุเพิ่มขึ้นต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้น ผมเลยบอกว่า จะกลับตั้งใจเรียนให้จบ ซึ่งน้องๆบางคนก็มีทั้งเข้าใจ และไม่เข้าใจบ้าง ตอนนั้นผม ไม่คิดอะไรเรื่องเกมส์แล้ว หลังจากล่ำลาเสร็จผมก็ขายคอมพิวเตอร์ทิ้งไป