เราจะพยายามทำไม เพื่อใครสักคนที่ตอนแรกไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ

      บ้านท่าเต้น ที่ๆสอนสิ่งต่างๆให้พวกเรามากมาย...
ขอเริ่มตั้งแต่ช่วงเริ่มเรียนวิชานี้ที่วิทยาลัยแพทย์แห่งหนึ่ง ผมและเพื่อนในกลุ่มรู้สึกตื่นเต้นมาก ที่จะได้ลงพื้นที่จริงๆเป็นครั้งแรก ซึ่งพวกเราจะได้ไปในชุดวอร์ดทำให้ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นพวกเรา จะเรียกเราว่า"หมอ" ทั้งๆที่พวกเรายังเป็นแค่นักเรียนแพทย์เท่านั้น นั่นทำให้พวกเรา มีความตั้งใจในการเตรียมการครั้งนี้เป็นอย่างมาก หลายครั้งที่พวกเราประชุมทำงานกันจนดึกดื่น เพื่อจะได้ทำออกมาให้ดีที่สุด "เอาหน่อยๆ ลงพื้นที่จริงครั้งแรก"


      พอพวกเราเริ่มออกพื้นที่จริงพวกเราก็เริ่มทำตามแผนกันด้วยความมั่นใจ แต่ผลที่ได้กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เนื่องจากผมยังไม่ชินกับพื้นที่ ทำให้ขี่จักรยานหลงทางไปหลายสิบกิโลเมตร จนเสียเวลาวันแรกไปทั้งวันโดยที่แทบไม่ได้ข้อมูลอะไรมาเลย แถมจากการที่ไม่สบายอยู่แล้วทำให้ไม่สบายหนักขึ้นไปอีก ในใจก็เริ่มคิด "แค่เริ่มต้นก็เฟลแล้ว และวันต่อไปๆจะเป็นยังไงเนี่ย" แต่อีกใจก็คิดว่าถ้ามัวเฟลอยู่แบบนี้ คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา สู้ตั้งใจทำวันต่อไปให้ดีขึ้นดีกว่า

       วันถัดมาผมจึงตั้งใจทำให้มากกว่าเดิม ออกเก็บข้อมูลสำรวจประชากรอย่างตั้งใจตลอดทั้งวัน หลังจากประชุมและเตรียมการเสร็จเกือบๆตีสอง ก็ตื่นตอนตีสี่เตรียมตัวออกเดินทางไปเก็บข้อมูลตลอดทั้งวัน โดยไม่สนใจว่าแดดจะร้อนเพียงใด แต่ผลมันก็ยังไม่เป็นอย่างที่หวังเอาไว้ เราเก็บข้อมูลกันได้น้อยมากๆ ทั้งๆที่กลุ่มอื่นกลับทำได้ดีกว่ามาก "เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่" จึงพยายามที่จะทำกิจกรรมวันถัดมาให้ดีที่สุด

       พวกเราได้เชิญชวนชาวบ้านให้มาร่วมกิจกรรมที่เราจัดขึ้น ซึ่งชาวบ้านต่างก็ดูให้ความสนใจดี ทำให้เราเริ่มมีความมั่นใจและคาดว่าคนจะต้องมาร่วมงานนี้เยอะแน่ๆ "งานนี้แหละที่เราจะตีตื้นขึ้นมา" แต่แล้วทุกอย่างก็ล่มสลายอีกครั้ง เมื่อเห็นคนมาร่วมงานแค่10%ของที่ตั้งเป้าไว้ เราต้องปรับแผนกันใหม่หมด และออกเดินบ้านตามบ้านเพื่อเก็บข้อมูลให้มากกว่าเดิม พวกเราตั้งใจเก็บข้อมูลตลอดทั้งวันและเริ่มใจชื้นขึ้นมาที่ในวันนี้เก็บได้เยอะมาก คุ้มค่าแก่การที่ต้องเหนื่อยตากแดดทั้งวันทั้งๆที่ไม่สบายอยู่


       แล้วในตอนเย็น ทุกคนก็ต้องหัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ เมื่อพบว่าข้อมูลที่ลำบากลำบนไปเก็บกันมา บางส่วนได้หายไป บางบ้านเก็บข้อมูลมา6คนใช้เวลาคนละกว่าครึ่งชั่วโมง กลับบันทึกข้อมูลออกมาเหลือเพียงคนเดียว ทุกคนในกลุ่มเริ่มท้อจนถึงจุดพีค ทั้งหมดที่เหนื่อยพยายามมาแทบกลับแทบไม่เหลืออะไรเลย เข้าใจหนังเรื่อง"หมอเจ็บ"ก็ตอนนี้แหละ เม่าเหม่อ

ทำไมเราต้องพยายามมากมายเพื่อใครก็ที่ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ และเค้าก็ไม่ได้ตระหนักคิดถึงเรื่องสุขภาพของตัวเองเลย

ในใจลึกๆก็คิด "หรือว่าเราควรพอแค่นี้ เราทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วหล่ะ เรายอมแพ้แล้ว" เม่าเศร้า
      แววตาของคนในกลุ่มเศร้าสร้อยจนอาจารย์หลายๆท่านสังเกตเห็น จึงมาช่วยให้กำลังใจและให้คำแนะนำ ทำให้พวกเราตัดสินใจฮึดสู้ต่อไป ทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อบ้านท่าเต้นของเรา วันถัดมาพวกเราจึงตั้งใจออกไปตามบ้านเพื่อเก็บข้อมูลกันต่อและพยายามอธิบายให้พวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของปัญหาสุขภาพ

"ถึงภายในใจเราจะเศร้ากันแค่ไหนก็ต้องยิ้มออกมานะ ยิ้มเข้าไว้ คนที่เห็นเรายิ้มจะได้ยิ้มตาม"

       ในวันนี้ทุกๆอย่างเริ่มดีขึ้น มีคนมาร่วมกิจกรรมเยอะกว่าที่คาดไว้ พวกเราจึงเริ่มมีความหวังเล็กๆขึ้นมาอีกครั้ง "ถ้าตั้งใจก็ต้องทำได้สิ" โดยในวันนี้เราได้ปัญหาของชุมชนมา ซึ่งก็คือการติดพยาธิใบไม้ในตับ แต่ที่ยากที่สุดคือวันถัดมา ซึ่งเป็นวันจันทร์ที่พวกเราทุกคนไม่ว่างในตอนเช้า เพราะมีการจัดopdที่วัดไทรทอง ทำให้เราไม่มีเวลาไปเชิญชวนเพิ่มเติมในตอนเช้า ทำได้แค่ฝากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้เชิญชวนผ่านเสียงตามสายเท่านั้น บ่ายนั้นหลังจากพวกเราช่วยงานที่opdที่ไทรทองเสร็จ ก็รีบนั่งรถไปที่บ้านท่าเต้น

       แต่สิ่งที่เห็นในตอนนั้นคือหมู่บ้านเงียบมากจนเหมือนไม่มีคนอยู่ ตอนนั้นพวกเราตัดสินใจอย่างรวดเร็วแยกย้ายกันไปเชิญชวนตามบ้าน "ขอแค่มาสักนิดก็ยังดีไม่ต้องเยอะมากก็ได้" แต่กลับแทบไม่พบผู้คนเลย จนถึงเวลานัดบ่ายสองโมง ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีคนมา ใจทุกคนตกไปอยู่ที่ตาตุ่มได้แต่ปลอบใจตัวเอง "เค้าอาจจะมาสายสัก5นาที10นาทีล่ะมั้ง ในระหว่างนี้พวกเราต่างคิดแผนสำรองกันต่างๆนานา ทั้งส่งคนเดินถือลำโพงไปประกาศตามบ้าน พูดย้ำผ่านเสียงตามสาย และอีกหลายวิธี ก็ยังไม่มีคนมา

"ยังไงก็ไม่ทันแล้วบ่ายสองสิบห้าแล้ว บ่ายสามชาวบ้านเค้าก็ต้องไปรับลูกรับหลานที่โรงเรียนกันแล้ว"

       พวกเราจึงตัดสินใจ ติดต่ออาจารย์และเลื่อนแผนการทั้งหมดเป็นตอนเย็นไปเลย เพราะยังไงก็ตามเราจะไม่ทำให้งานนี้ล่ม แต่ในตอนบ่ายสองครึ่งนั้นเอง สิ่งที่พวกเราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชาวบ้านเริ่มทยอยกันมาร่วมงาน จนในที่สุดพวกเราก็ไม่ต้องเลื่อนเป็นตอนเย็น งานในวันนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ชาวบ้านให้ความร่วมมือมากขึ้น เริ่มเข้าใจปัญหา รู้สาเหตุและผลที่จะเกิดขึ้นจากการติดพยาธิ และหลายๆคนก็รับปากจะมาทำกิจกรรมต่อเนื่องในวันถัดมา


"ชื่นใจจัง ในที่สุดชาวบ้านก็เริ่มเข้าใจเราสักที สิ่งที่เราพยายามมานาน สื่อไปถึงชาวบ้านแล้ว" ไม่มีใครคาดคิด ว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้ และพวกเราก็คงมาไม่ถึงจุดนี้ ถ้าเราล้มเลิกยอมแพ้ไปตั้งแต่ตอนแรก

       ในวันอังคาร วันสุดท้ายที่จะมีเวลาทำงานช่วยบ้านท่าเต้นของเราที่นี่ ตอนเช้าพวกเราทุกคนก็ไม่ว่างอีกตามเคย เพราะต้องมีการไปจัดกิจกรรมอนามัยที่โรงเรียน จึงไม่ได้เชิญชวนอะไรมากมายเท่าวันก่อนๆ แต่ในบ่ายวันนั้นคนก็มากันเยอะอยู่ดี ทำให้พวกเราชื่นใจมากๆ ทุกๆคนร่วมกันคิดวิธีแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโรคพยาธิใบไม้ในตับร่วมกัน ได้วิธีต่างๆมากมายที่จะทำให้คนเลิกกินก้อยปลา ทุกคนก็โล่งใจที่สามารถหาทางแก้ไขได้ทันเวลา


       และเย็นวันนั้นซึ่งเป็นเวลาสุดท้ายที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับชาวบ้าน ผมและเพื่อนในกลุ่มก็เดินไปลาพี่ป้าน้าอาตามบ้านต่างๆ

จากตั้งแต่วันแรกที่มาถึงไม่รู้จักใคร หมาทุกตัวไล่เห่าไล่กัด เดินๆไปก็หลงไป

จนถึงวันนี้ที่พวกเราได้ไปตามบ้าน ทุกบ้านไม่ต่ำกว่าสามรอบ หมาแถวนั้นมีแต่กระดิกหางเดินตามด้วยความน่ารัก


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

"ทุกมุมของหมู่บ้านมีความทรงจำอยู่"

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

คุณป้าบ้านนั้นที่ไปนั่งคุยกันเรื่องลูกสาวเค้า คุณลุงบ้านใหญ่ๆที่คอยให้คำปรึกษาดีๆตอนเราหมดหนทาง คุณตาบ้านนู้นก็กำลังย่างปลา คุณยายบ้านนี้ก็กำลังถักเสื่อ บ้านที่เราเคยไปเก็บข้อมูลตอนเขากำลังเก็บไข่มดแดง วันนี้เขาก็เอาไข่มดแดงมาฝาก



ระหว่างทางเดินไปก็ได้ของฝากเต็มไม้เต็มมือกลับมาด้วยทั้งข้าวโพด มะม่วง ขนมหวานต่างๆ และยังได้เห็นรอยยิ้มของชาวบ้านที่ยิ้มอย่างจริงใจ

ในตอนก่อนที่จะกลับนั้นยังมีการจัดเลี้ยงฉลองผูกข้อมือให้ก่อนกลับอีกด้วย

"เรารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านนี้ไปแล้ว..."

แค่ได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขา พวกเราก็มีความสุขแล้ว

ถ้ามีโอกาสจะกลับไปเยี่ยมทุกคนใหม่ตามสัญญานะครับ อมยิ้ม02

สุดท้ายนี้ ผมก็ขอเชิญชวน ให้ทุกคนร่วมรณรงค์ เลิกกิน "ก้อยปลา" ต้นเหตุของพยาธิใบไม้ในตับที่อาจทำให้เกิด "โรคมะเร็งท่อน้ำดี" ด้วยกันนะครับ



ติดตามความรู้เพิ่มเติมได้จากเพจด้านล่างนี้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ขออนุญาตบุคคลทุกท่านที่ถูกกล่าวถึงนะครับ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่