คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
จิตก็จิต ใจก็ใจ ไม่ไปหนักขันธ์5ใคร คนอ่านแล้วก็เกิดปัญญาตามที่พระท่านอุปมาอุปมัยยกข้อความมาให้ศึกษากันดู ก็ให้มีสติรู้ว่ารูป นามเป็นอย่างไร ใครมีอคติใครมีความโกรธ ความหลงเป็นปัจจุบันอารมณ์ มีที่ไปที่แน่นอนอยู่แล้ว ว่าที่ไหนก็น่าจะคิดออก
หนอนตำราก็แทะตำราไปแล้วก็ไปหาที่ลงกันไปตามความยึดติด
จะแสดงความคิดเห็นก็แสดงไป จะด่าใครก็ด่าไปขันธ์ใครก็ดูแลกันเอาเอง
ชอบไปที่เสื่อม ชอบไปที่เจริญเป็นผู้เลือกเอง
ปฏิบัติได้ยาก เป็นทุกข์ ก็ให้เลิกปฏิบัติ เพราะปฏิบัติไปก็ไม่เจริญ ไม่เห็นมรรคแน่นอน
เพราะเป็นมิจฉาฑิฐิ ศิลไม่บริสุทธิ์ พูดโกหกทุกวัน ว่าคนอื่นทุกวัน ไม่สำรวมวาจา
มีทางเดียวคือให้เลิกปฏิบัติธรรมไปเถิดเสียเวลาเปล่า โจรยังมีสัจจะ แต่คนที่อ้างว่าตนปฏิบัติธรรม
กับไม่สำรวมวาจา แค่นี้ก็รู้ว่า.... ไม่ต้องบรรยายมากเลย
หนอนตำราก็แทะตำราไปแล้วก็ไปหาที่ลงกันไปตามความยึดติด
จะแสดงความคิดเห็นก็แสดงไป จะด่าใครก็ด่าไปขันธ์ใครก็ดูแลกันเอาเอง
ชอบไปที่เสื่อม ชอบไปที่เจริญเป็นผู้เลือกเอง
ปฏิบัติได้ยาก เป็นทุกข์ ก็ให้เลิกปฏิบัติ เพราะปฏิบัติไปก็ไม่เจริญ ไม่เห็นมรรคแน่นอน
เพราะเป็นมิจฉาฑิฐิ ศิลไม่บริสุทธิ์ พูดโกหกทุกวัน ว่าคนอื่นทุกวัน ไม่สำรวมวาจา
มีทางเดียวคือให้เลิกปฏิบัติธรรมไปเถิดเสียเวลาเปล่า โจรยังมีสัจจะ แต่คนที่อ้างว่าตนปฏิบัติธรรม
กับไม่สำรวมวาจา แค่นี้ก็รู้ว่า.... ไม่ต้องบรรยายมากเลย
แสดงความคิดเห็น
จิต กับ ใจ
จิตเป็นพี่เลี้ยง ให้ใจ
ใจเปรียบเหมือนเด็ก
เด็กเล่นไป พี่เลี้ยงก็ดูแลเด็กไป
เด็กเล่นซน หิวนม งอแง พี่เลี้ยงก็คอยดูแลไป
เด็กนอนพี่เลี้ยงก็ดูเด็กนอน
พี่เลี้ยงก็จะเกิดปัญญา
มีความชำนาญในการเลี้ยงดูเด็ก
จิตจะดูใจไปเรื่อยๆ เกิดปัญญา
ใจก็เหมือนลิง จิตเป็นผู้ฝึกลิง
สอนให้ลิงเล่นละครลิง
สอนให้ลิงเก็บมะพร้าว
จิตก็จะเกิดปัญญา