พามาดู “ความหดหู่อันงดงาม” ของฤดูหนาวในต่างแดน

คำถามที่ว่า ทำไมกันนะ ชาวต่างชาติทั้งหลาย ชอบมาเที่ยวบ้านเราหรือแถบเอเชียกันนัก
โดยเฉพาะพวกที่มาจากทางยุโรป หรือจากโซนทวีปเขตหนาว
แถมยังดูประทับจิตประทับใจกับอากาศและแสงแดดบ้านเรามากเสียด้วย

คำตอบจากผู้รู้และมีประสบการณ์ก็คงจะคล้ายๆกัน
ว่าบ้านเมืองเค้ากับบ้านเมืองเรานั้น สภาพอากาศต่างกัน และเหตุผลนู้นนี้นั้นอื่นๆด้วย
ซึ่งเชื่อว่าหนึ่งในเหตุผลนั้นต้องเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศในฤดูหนาวของบ้านเค้า
ที่ว่ากันว่าหนาวมาก เงียบเหงาและหดหู่ อย่างแน่นอน

จขกท. ได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศหนึ่งของยุโรปก็นานพอสมควร
เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนที่อาจจะไม่เคยได้มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศ
โดยเฉพาะในฤดูหนาว เพราะส่วนมาก ถ้าเคย ก็จะเป็นการมาเที่ยวระยะสั้นๆ หรือมาช่วงอื่นๆกันสะมากกว่า

จขกท. เชื่อนะคะ ว่าต้องมีคนสงสัยว่า แบบว่า จริงหรอ ทำไมมันเป็นอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ
ที่ต่างประเทศไม่ค่อยมีแดดจริงเหรอ สภาพอากาศแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ

เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ฤดูหนาวในต่างแดน ให้ทุกคนได้เห็นกัน
จะเหน็บหนาวขนาดไหน เงียบเหงามากไหม หดหู่ยังไง มาดูกันค่ะ



การที่อยู่ๆต้นไม้ที่เราเห็นอยู่ทุกวัน สวนสวยๆที่เราเคยชื่นชม มันค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป
ใบไม้ค่อยๆร่วงหล่นจนไม่เหลือ ต้นไหนทนได้ก็ทนไป ต้นไหนทนไม่ไหวก็เหลือแต่กิ่งก้าน
แถมสิ่งที่เราไม่รู้ตัวเลย คือ มันทำให้ ความรู้สึกของเรา เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัวได้ด้วยเหมือนกัน

แต่ จขกท ก็ไม่แน่ใจนะคะว่าคนที่นี่จะดูบึ้งตึงหรือไม่ค่อยยิ้มแย้มเฉพาะแค่ฤดูหนาวรึเปล่า
เพราะคนที่นี่ไม่ว่าฤดูไหนก็ไม่ค่อยจะยิ้มกันเท่าไรอยู่แล้วละค่ะ ฮ่าๆๆ
แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าลึกๆแล้วสภาพอากาศในฤดูหนาวมีผลต่อสภาพจิตใจของทุกคนแน่ๆค่ะ ไม่มากก็น้อย

จริงๆแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละวันด้วยแหละค่ะ ถ้าวันไหนแดดออก
ท้องฟ้าสดใส ระดับของความหดหู่ก็จะไม่สูงนัก แต่ด้วยสภาพของต้นไม้ที่ไม่มีใบ
แห้งแล้ง และอากาศที่หนาวๆ ก็ทำให้เงียบเหงา ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ประมาณนี้






แต่วันไหนที่แดดไม่มี เมฆครึ้มๆ วันนั้นแหละคุณเอ้ยยยย!!! ไม่อยากจะพูดถึง
พลังและอานุภาพทำลายล้างของความหดหู่จะสูงเป็นพิเศษ มันจะครึมๆ
อารมณ์มัวๆแบบไม่สดใส พาหดหู่และเงียบเหงามากๆ ตามนี้เลย






แต่ถ้าช่วงไหนหิมะตก มันก็จะเป็นอีกอารมณ์นึงเลยค่ะ
แต่ในความคิดเห็นเรา หิมะตก จะเป็นอะไรที่ดูเหน็บหนาว มากกว่าหดหู่
และสวยงามมากกว่า 2 เวอร์ชันแรก
แต่บอกตรงๆว่าช่วงไหนหนาวมากๆ ทำให้คิดถึงแดดที่เมืองไทยกันเลยทีเดียว




จขกท ยอมรับว่าไม่แน่ใจ อาจจะเป็นเพราะเครียดจากเรื่องอื่นๆก็เป็นได้ ถึงได้หดหู่ 55
แต่ไม่ว่าบรรยากาศมันจะแย่ขนาดไหน พาให้เศร้า พาให้เหงา ขนาดไหน
จขกท ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าบรรยากาศเหล่านั้นมันก็ยังคงเป็น “สิ่งที่สวยงาม” เสมอ


รูปสุดท้ายเนี้ย ต่อให้ฤดูไหนก็ทำให้เหงาได้แน่นอนค่ะ ถ้าเจอ 3 คู่นี้เข้าไป TT
ทำร้ายกันเกินไป ถ้าไปคนเดียวคงหดหู่ตายตรงนั้นแหละค่ะ


อย่างไรก็ตาม ถึงมันจะหดหู่ เงียบเหงา หรือเหน็บหนาวแค่ไหน เมื่อฤดูกาลผันเปลี่ยนไป
ทุกอย่างมันก็เป็นวงจร กลับสู่ความสดใสอีกครั้ง ฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะตามมา
ไม่ได้ต่างจากชีวิตคนเราเลยค่ะ ไม่ว่าจะเจออะไร ผ่านเรื่องร้ายๆ หนักๆมาขนาดไหน
สักวันนึงแล้วมันก็จะผ่านไป เหลือแต่สิ่งดีๆที่กำลังจะตามมา ดอกไม้

หวังว่าน่าจะพอช่วยคลายข้อข้องใจกันได้บ้างนะคะ
ที่มักจะมีคนสงสัยและไม่เข้าใจกันบ่อยๆว่าทำไมบ้านเมืองเราที่ว่าร้อนๆ
แดดจัดๆ จ้าๆ ที่พวกเราส่วนใหญ่ค่อนข้างบ่นกันบ่อยๆว่าร้อนเสียเหลือเกิน
พาให้หงุดหงิด เหงื่อออก เหนอะหนะ (พูดแล้วเหนียวตัวเลย)
แต่ชาวต่างชาติก็ยังชอบมากันอยู่ ก็เพราะบ้านเมืองเค้าสภาพอากาศมันก็เป็นอย่างที่ว่ามา
ทำให้คนส่วนใหญ่กลับบ้านกันเร็ว ไม่ได้ไปไหนมาไหนกันเท่าไร
พอมาเจอบ้านเราที่แดดออกได้ออกดี แถมท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลอีกด้วย เลยติดใจเป็นธรรมดา

ใครที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างบ้านต่างเมือง มีโอกาสได้มาเผชิญความเหน็บหนาว
ความเงียบเหงา และ ”ความหดหู่อันสวยงาม“
ก็อยากให้มาแชร์ มาพูดคุยกัน แบ่งปันประสบการณ์กันได้ค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ อมยิ้ม04
*ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยค่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่