จากที่ได้รับชมการแข่งของ วอลเลย์บอลยุวชนหญิง U18 รอบ semi final ระหว่างทีม ไทย กับ ทีมญี่ปุ่นในวันนี้
หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจฟอร์มการเล่นของน้อง ๆ เท่าไหร่ รวมถึงการเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่ดูเหมือนจะเอาผู้เล่นชุดสำลองลงเกือบทั้งหมด
แต่ผมมองว่า โค้ชคิดดีแล้วที่ทำแบบนี้ ผมว่าโค้ชคงมองเห็นประสบการณ์ของน้อง ๆ และจิตใจของน้องๆ ที่ได้มาร่วมการแข่งขันครั้งนี้ มากกว่าผลแพ้ชนะที่จะเกิดขึ้น เพราะโค้ชได้ทำหน้าที่ได้ตามเป้าหมายแล้วคือไปพาทีมไปชิงแชมป์โลกซึ่งก็คือต่อยอดประสบการณ์ให้น้อง ๆ ได้ไปเก็บประสบการณ์ที่มากขึ้น
จากบทความสัมพาษณ์โค้ชจรัล ในข่าวของ SMM จะเห็นได้ว่าโค้ชมองออกแต่แรกแล้วว่าทีมญี่ปุ่นมีผู้เล่นที่มีทักษะที่ดี และมีระบบทีมที่ดีมาก และมากพอที่จะเป็นแชมป์ของรายการ
ดังนั้นจากระบบการศึกษาของไทย และการสนับสนุนของภาครัฐที่ยังไม่มากพอ ความสามารถของน้อง ๆ นักกีฬาจึงมาได้เพียงเท่านี้ (ไม่ได้หมายความว่าน้อง ๆ ไม่เก่ง แต่การสนับสนุนส่งเสริมของน้อง ๆ ที่ได้รับยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น) ดังนั้นการที่โค้ช และทางสมาคมจะตั้งเป้าหมายที่การเป็นแชมป์มันคงเป็นอะไรที่มากเกินไป กับ input ที่มีอยู่
สรุปก็คือ โค้ชมองที่ประสบการณ์ที่น้อง ๆ จะได้รับ มากกว่าผลแพ้ชนะนั่นเอง
และผมก็เชื่อว่า เมื่อสมาคมวอลเลย์บอลเติบโตได้มากกว่านี้ มีเงินทุนมากกว่านี้ มีการสนับสนุนที่มากกว่านี้ จนเพียงพอต่อความต้องการ เมื่อนั่นสมาคมคงจะหวังถึงแชมป์แน่นอน
สุดท้ายถ้าทีมโค้ช และน้องๆ ได้อ่าน ก็ขอให้สู้ ๆ และโชคดีครับ
ชื่นชมทีมโค้ช U18 และน้อง ๆ ทุกคน
หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจฟอร์มการเล่นของน้อง ๆ เท่าไหร่ รวมถึงการเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่ดูเหมือนจะเอาผู้เล่นชุดสำลองลงเกือบทั้งหมด
แต่ผมมองว่า โค้ชคิดดีแล้วที่ทำแบบนี้ ผมว่าโค้ชคงมองเห็นประสบการณ์ของน้อง ๆ และจิตใจของน้องๆ ที่ได้มาร่วมการแข่งขันครั้งนี้ มากกว่าผลแพ้ชนะที่จะเกิดขึ้น เพราะโค้ชได้ทำหน้าที่ได้ตามเป้าหมายแล้วคือไปพาทีมไปชิงแชมป์โลกซึ่งก็คือต่อยอดประสบการณ์ให้น้อง ๆ ได้ไปเก็บประสบการณ์ที่มากขึ้น
จากบทความสัมพาษณ์โค้ชจรัล ในข่าวของ SMM จะเห็นได้ว่าโค้ชมองออกแต่แรกแล้วว่าทีมญี่ปุ่นมีผู้เล่นที่มีทักษะที่ดี และมีระบบทีมที่ดีมาก และมากพอที่จะเป็นแชมป์ของรายการ
ดังนั้นจากระบบการศึกษาของไทย และการสนับสนุนของภาครัฐที่ยังไม่มากพอ ความสามารถของน้อง ๆ นักกีฬาจึงมาได้เพียงเท่านี้ (ไม่ได้หมายความว่าน้อง ๆ ไม่เก่ง แต่การสนับสนุนส่งเสริมของน้อง ๆ ที่ได้รับยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น) ดังนั้นการที่โค้ช และทางสมาคมจะตั้งเป้าหมายที่การเป็นแชมป์มันคงเป็นอะไรที่มากเกินไป กับ input ที่มีอยู่
สรุปก็คือ โค้ชมองที่ประสบการณ์ที่น้อง ๆ จะได้รับ มากกว่าผลแพ้ชนะนั่นเอง
และผมก็เชื่อว่า เมื่อสมาคมวอลเลย์บอลเติบโตได้มากกว่านี้ มีเงินทุนมากกว่านี้ มีการสนับสนุนที่มากกว่านี้ จนเพียงพอต่อความต้องการ เมื่อนั่นสมาคมคงจะหวังถึงแชมป์แน่นอน
สุดท้ายถ้าทีมโค้ช และน้องๆ ได้อ่าน ก็ขอให้สู้ ๆ และโชคดีครับ