สวัสดีค่ะจะมาเล่าเรื่องจริงตอนที่เราไปเที่ยวกับครอบครัวเมื่อปี 2555 นะคะ
ตอนนั้นครอบครัวเราเหมารถตู้ไปบ้านอาเราที่จังหวัดสุโขทัย (เดินทางจากขอนแก่นนะคะ) นอนค้างที่บ้านอา 1 คืน เรื่องเกิดขึ้นตอนขากลับนี่ล่ะค่ะ ระหว่างที่ผ่านจัดหวัด พิษณุโลก อยู่ดีๆพี่คนนึงก็บอกว่าอยากเที่ยวน้ำตก แวะน้ำตกให้หน่อยที่ไหนก็ได้ เราก็เห็นด้วยเพราะว่าไหนๆก็มาเที่ยวแล้วยังไม่ได้เที่ยวธรรมชาติเลย ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็นแล้วค่ะ พวกป้าๆก็บอกว่าอย่าแวะเลยเดี๋ยวถึงบ้านค่ำ แต่ยายก็บอกว่า แวะเถอะ ยายอยากเข้าห้องน้ำ ทุกคนก็เลยโอเค แวะพักกันที่น้ำตก พวกเราไม่ได้วางแผนหาข้อมูลมาก่อน เลยได้แวะที่น้ำตกแห่งหนึ่ง น่าจะเป็นช่วงแถวๆ อุตรดิตถ ์- พิษณุโลก ตอนนั้นไม่มีคนมาเที่ยวเลยค่ะ มีแต่แม่ค้าและเจ้าหน้าที่สองสามคน ทางลงน้ำตกจะเป็นคล้ายๆเนินเขาเป็นทางลาดลงไปตรงๆ ด้านข้างจะเป็น ร้านค้าที่มีที่นั่งกินข้าวเหมือนโรงอาหาร แล้วก็ห้องน้ำ แล้วก็ศาลานั่งพักผ่อน แล้วเดินลงไปอีกจะเป็นน้ำตกค่ะ ตอนนั้นเป็นช่วงน้ำเยอะค่ะ น้ำค่อนข้างขุ่น แล้วก็ไหลแรงพอสมควร เราเดินลงไปตามทาง แล้วก็เห็นป้ายว่า ห้ามลงเล่นน้ำ ซึ่งเราก็ไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะมันไม่มีทางเดินลงไปเลยเหมือนเคยมีทางให้ลงแต่ปิดไปนานมากๆแล้วมีหญ้ามีหินอะไรเต็มไปหมด แล้วก็มีแผ่นไม้ที่เจ้าหน้าที่เอามาปิดไว้ เราเดินลงไปดูน้ำสักพัก แม่เราก็ตะโกนเสียงดังมาก "ขึ้นมาได้แล้วจะลงไปทำไม" ซึ่งเราคิดว่าแม่เราว่าให้เรานะคะ แต่จริงๆแล้วบอกหลานที่เดินกึ่งวิ่งลงไปพร้อมป้า แม่เราไม่สบอารมณ์เพราะกลัวเด็กๆตกน้ำเลยบอกให้ทุกคนรีบกลับไปที่รถ ทุกคนเลยบอกว่าขอเข้าห้องน้ำก่อน *** คนที่ลงไปดูน้ำจะมี ป้า น. ,ป้า ป. พี่ ต. พี่ อ. พ่อ แม่ เรา แล้วก็หลานสองคน *** คือจะจับคู่กันไปเข้าห้องน้ำอ่าค่ะ ให้วัยรุ่นดูแลคนแก่เพราะทางเป็นทางลาดลง ป้า น. ไปกับ พี่ อ. เราไปกับแม่ และพี่ ต. ไปกับป้า ป. ค่ะ คู่แรก (พี่ ป. กับ ป้า น. ) ออกมากจากห้องน้ำและขึ้นไปรอบนรถก่อน ห้องน้ำมี ประมาณ สามห้องนะคะ ต้องต่อคิวกัน แม่เราเข้า และป้า ป. กับพี่ ต. เข้าพร้อมกัน เรากับแม่เดินขึ้นไปก่อน ตอนนั้นอยู่ดีๆแม่เราก็ปวดขาค่ะ ปวดมากจนแทบเดินไม่ได้ เราเลยประคองแม่ขึ้นรถไปเลยไม่ได้เข้าห้องน้ำค่ะ
จะเล่าเหตุการณ์ในมุมมองของเราก่อนนะคะ
หลังจากเข้าห้องน้ำกันเลยมารอกันที่รถ ซึ่งตอนนั้นประมาณห้าหกโมงเย็นแล้ว ช่วงเวลาโพล้เพล้เลยค่ะ รอพี่ ต. กับป้า ป. อยู่สักพัก ซึ่งถ้าแค่เข้าห้องน้ำน่าจะมาถึงรถแล้วเพราะไม่ไกลมาก แม่เลยให้เราไปตามค่ะ เราไปตามรอบนึง ไปตะโกนเรียกอยู่หน้าห้องน้ำ แต่เราก็เห็นว่าประตูห้องน้ำเปิดทุกบาน ไม่น่าจะมีคนเข้าอยู่ ไม่มีใครตอบกลับมาเราเลยเดินลงไปอีกจนเกือบถึงน้ำตกข้างล่าง ตะโกนเรียกอีกแต่ก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา เรารู้สึกกลัว เพราะเงียบมาก ไม่มีคนเลย เราเลยรีบวิ่งกลับขึ้นมาที่รถ เพราะนึกว่าอาจจะสวนทางกัน (จริงๆแล้วมีทางลงทางเดียวไม่มีทางสวนกันโดยไม่เห็นเราค่ะ) แต่มาถึงที่รถ ทุกคนบอกว่า พี่ ต. กับ ป้า ป. ยังไม่มา เราเลยได้ลงไปตามอีกรอบ ไปตะโกนเรียกอยู่หน้าห้องน้ำเหมือนเดิมค่ะ ทีนี้ มีเสียงพี่เราตอบกลับมา แบบเราเห็นพี่เราอยู่ไกลมากๆ เดินไปทางบ้านพักเจ้าหน้าที่อุทยาน(มั้ง) ซึ่งมันเป็นถนนโล่งๆอ่าค่ะ เราก็โมโหให้พี่เรานะคะว่าทำไมเรียกรอบที่แล้วไม่ตอบกลับมา เราเลยวิ่งไปขึ้นรถ แล้วสักพักพี่เรากับป้า ป. ก็ขึ้นรถมา ....
แม่เราดุพี่เราว่าเป็นบ้าอะไรทำไมไม่รีบขึ้นรถ เราก็งง ว่าทำไมต้องว่ารุนแรงขนาดนั้นแค่ขึ้นรถช้าแต่เราก็โมโห พี่เราตอบกลับมาว่า "หลงทางอ่ะ" เราก็คิดเห้ย บ้าไปแล้วเส้นทางไม่มีทางให้หลงเลย ตอนนั้นแม่เราตัดบทพี่เราทันทีว่า เออๆ รีบขึ้นรถมา เรารู้สึกแปลกๆแล้วได้ยินมาว่า ถ้าเห็นอะไร ได้ยินอะไร อย่าทัก อย่าหันหลังกลับไปมอง อยู่ดีๆเราก็ตะโกนขึ้นมาว่า ห้ามหันหลังนะคะทุกคน ห้ามทัก จนกว่าจะออกจากน้ำตก ทุกคนก็ตกใจ แต่ก็ไม่มีใครทักอะไรพูดอะไร จนออกมาจากเขตพื้นที่อุทยาน ป้า ป. ซึ่งเป็นคนที่พูดเก่ง ชอบหัวเราะ ชอบส่งมุข เอาแต่นอน แล้วก็หายใจเสียงดังๆ พอพี่ ต. จะเล่าให้ทุกคนฟังว่าไปเจออะไรทำไมมาช้า ป้า ป.ก็ตวาดใส่พี่ ต. ว่า "อย่าพูด" ทุกคนตกใจมาก ป้า น. เลยรู้สึกแปลกๆ และ เอาพระให้ป้า ป. ใส่ ป้าป. ก็นอน ไปจนถึงเพชรบูรณ์ พวกเราแวะส่ง พ่อกับแม่ที่เพชรบูรณ์ พอพวกเราออกมาจากบ้านพ่อเพื่อกลับขอนแก่น ตอนนั้นก็มืดแล้วอ่ะค่ะ ทุกคนในรถเงียบหมด น่าจะหลับกัน แต่ เรา กับพี่ ป. ที่ยังไม่นอน เพราะไม่กล้านอน (กลัวป้า ป. มากๆ สองคนนี้ขี้กลัวอยู่แล้ว 55) เลยนั่งคุยกัน กินขนมกัน แล้วอยู่ดีๆรถตู้ก็เหมือนหักหลบอะไรแบบเสียหลักอ่ะค่ะ ดีที่ข้างทางไม่ใช่เหว แต่เป็นภูเขาที่มีไหล่ทาง เลยไม่เป็นอะไร เรากับพี่ ป. กรี้ดแตก แต่ทุกคนก็ยังหลับอยู่ แล้วเราก็ถึงบ้านกัน
ที่บ้าน....
ทุกคนยังไม่กินข้าวเย็น เลยไปซื้อของมานั่งร่วมวงกินกัน มีวงเด็ก เรากับพวกพี่ๆ แล้วก็วงผู้ใหญ่ แต่ ป้า ป. ไม่กินข้าว ป้า ป. เข้าไปอาบน้ำ แล้วนั่งอยู่คนเดียวตรงชิงช้าไม้ แล้วมองมาที่พวกเรา (วงข้าวเด็ก) เราเห็นป้า ป. เหมือนคุยกับใครเราก็ไม่ได้คิดอะไร เลยทักไปเล่นๆ ว่า เอ้ย นั่งคนเดียวคุยกับใครอ่ะ ป้า ป. หัวเราะเบาๆ แล้วยิ้มมุมปาก แล้วแกก็เข้าไปนอน ไม่คุยกับใครในบ้านเลยค่ะ พอป้า ป. เข้าไปนอน พี่ ต. ก็เลยอยากเล่าว่าที่หายไปตอนนั้นไม่ยอมมาขึ้นรถเพราะอะไร ...
อันนี้เป็นเรื่องที่พี่ ต. เล่านะคะ เป็นมุมมองของ พี่ต.
ออกมาจากห้องน้ำ แล้วไม่เห็นใครเลย ประตูห้องน้ำเปิดหมดนอกจากห้องที่ป้า ป. เข้า พอป้า ป. ออกมาก็ว่าจะรีบไปขึ้นรถเพราะทุกคนน่าจะรออยู่ แต่เห็นต้นไม้ต้นนึง ใหญ่มากกกก ห้าคนโอบได้ แล้วมีผ้าสีขาว แปะอยู่ พี่เราก็ปากพล่อยทักไปว่า ทำไมแปะผ้าแบบนี้เหมือนเป็นประตูเลยเนอะ แล้วตอนนั้นป้าป. ก็บอกว่า มาทางนี้สิๆ ป้าว่ามันต้องเดินไปทางนี้นะ พี่เราก็เถียงว่าไม่น่าใช่ ตอนนั้นไม่มีต้นไม้เลยเราน่าจะมาผิดทางนะป้า ป. ป้าป.ก็ยืนยันคำเดิมว่าให้เดินไปตามป้า ป. แล้วพี่เราก็เดินไปเรื่อยๆ แต่ไม่เห็นทางขึ้นไปยังรถ จนมาเจอเรากวักมือเรียก เลยดึงป้า ป. มา แล้วก็เจอทางขึ้นรถ ( เราไม่เห็นต้นไม้ใหญ่ และ ทุกคนยกเว้นป้า ป. กับพี่ ต. ที่หลงไป ก็ไม่เห็น และ เราไม่ได้กวักมือเรียก ไม่ได้ไปใกล้พี่เราขนาดนั้น ตอนเจอพี่เรา พี่อยู่ไกลมากๆ) และเมื่อตอนกินข้าว ที่ป้า ป. ยังไม่ไปนอน ป้า ป. หันไปแยกเขี้ยวใส่พี่ ต. เหมือนโกรธมาก ๆ ตอนนี้พี่ ต. คือจะร้องไห้แล้ว พวกเราเลยจะไม่นอนที่บ้าน เลยไปนอนที่หอ พี่ อ. พวกเราไปรถเก๋งค่ะ 4 คน กับสัมภาระ (แฟนพี่ ป. อีกคน ) พอถึงหอจอดรถ พี่ อ. แฟนพี่ อ. เรา ออกมายืนรอ พี่ต. ข้างนอก พี่ ต. ก็กรี้ดขึ้นมา แล้วบอกว่ารอด้วยๆๆๆๆ อย่าทิ้ง ต. เรากับพี่อ. รักพี่ ต.มาก วิ่งขึ้นหอเลย 555 แฟนพี่ อ. เลยได้รอ พอพวกเราอยู่ในห้องของหอพักพี่ ต. เล่าให้ฟังว่า มีเสียง ผู้ชายแก่ๆ บอกว่า "ปิดประตู!" ตอนทุกคนลงรถหมดแล้ว และเหลือแค่พี่ ต. อยู่ในรถตอนนั้น เราอาบน้ำไม่ปิดประตูเลยค่ะ 😂 พอพวกเราจะนอนพี่เราเลยโทรไปหาแม่ แม่ก็บอกว่ารู้สึกแปลกตั้งแต่ป้า ป.พาหลานเดินไปใกล้ๆน้ำแล้ว เพราะพอแม่เรียก ป้า ป. หันมา แต่เหมือนเป็นหน้าผู้ชายแก่ แม่เราเลยตกใจ รีบเรียกทุกคนให้ขึ้นรถ แล้วหลังจากนั้นอยู่ดีๆแม่ก็เจ็บขา แล้วแม่ก็เล่าให้ฟังว่า ตอนอยู่ที่บ้านที่เพชรบูรณ์ ป้า ป.เดินตามแม่เราเข้าไปในบ้าน แล้วก็บอกว่า ขอน้ำร้อนหน่อย แม่เรานึกว่าจะเอาไปชงกาแฟเลยเอาน้ำร้อนที่เพิ่งถอดปลั้ก ใส่แก้วให้ พอยื่นให้ ป้าป. กิน อึกๆๆ แบบไม่รู้สึกร้อนเลย แม่เราเลยรู้สึกว่าต้องมีอะไรแปลกๆแน่ๆ เลยให้พ่อไปเอาพระ มาไว้ในรถ แล้วก็ขอพรให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย ก่อนวางสายแม่เราก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกลูก เราอยู่ในที่ของเราแล้ว ไม่มีใครมาทำอะไรเราได้ ไม่ต้องกลัวนะ ตอนพวกเราก็ไม่เชื่อเรื่องต้นไม้ที่พี่ ต. เล่าให้ฟัง เลยพยายามหาพวกรีวิวน้ำตกแห่งนี้ เจอคลิปหนึ่งที่มีคนอัดวีดีโอตั้งแต่ที่จอดรถจนถึงจุดชมวิว ซึ่งไม่มีต้นไม้นั่นจริงๆ แต่พ ี่ต.บอกว่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เห็นเลยนะ พวกเราหายังไงก็ไม่เจอ ก็เลยปิดไฟนอนกัน ก่อนนอนก็สวดมนต์แล้วอธิษฐานว่าไม่ให้มีอะไรเข้ามาในห้องนี้ได้ คืนนั้นเราฝันว่าเราไปยืนตรงโขดหินที่น้ำตก แล้วได้ยินเสียงผู้ชายดังก้องทั่วป่า พูดว่า "บอกพี่ อย่ามายุ่งเรื่องของกู" เราเลยตกใจตื่นขึ้นมาประมาณตีสามกว่า ๆ เรากลัวเลยปลุกพี่ แล้วตอนนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงลูกบิดประตู มันเหมือนกำลังมีคนพยายามเปิด แล้วก็ทุบประตู ตึงๆๆ ซึ่งพี่ ป. กับแฟนก็นอนหลับกันอย่างปกติ แต่เรากับพี่นี่กลัวจนตัวสั่น เลยพยายามสวดมนต์และแผ่เมตตาขออโหสิกรรม ทำทุกอย่างที่นึกขึ้นได้ แล้วก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
พอตอนเช้า... พวกเราไปที่บ้านยายไปเล่าให้ที่บ้านยานฟัง ลุงที่เป็นร่างทรงก็เข้ามาทัก แล้วบอกว่า เจ้าป่าเจ้าเขา จะเอาป้า ป. ไปอยู่ด้วย เพราะป้า ป. เคยเป็นคนของเขาในชาติภพที่แล้ว แต่บังเอิญว่า พี่ ต. ไปพาป้า ป. ออกมา เขาเลยไม่พอใจ ว่าเราไปยุ่งเรื่องของเขาเลยตามมาสั่งสอน เราเลยเข้าใจความฝันเราเมื่อคืน และพากันไปทำบุญขออโหสิกรรมกันที่วัด...จบ
เรื่องอาจจะยาว และงงๆในบางช่วงนะคะ เล่าเรืาองไม่ค่อยเก่ง แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง อาจจะไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ แต่เป็นเหตุการณ์ที่เราจะไม่ลืมเลย ....
เรื่องจริงที่น้ำตก
ตอนนั้นครอบครัวเราเหมารถตู้ไปบ้านอาเราที่จังหวัดสุโขทัย (เดินทางจากขอนแก่นนะคะ) นอนค้างที่บ้านอา 1 คืน เรื่องเกิดขึ้นตอนขากลับนี่ล่ะค่ะ ระหว่างที่ผ่านจัดหวัด พิษณุโลก อยู่ดีๆพี่คนนึงก็บอกว่าอยากเที่ยวน้ำตก แวะน้ำตกให้หน่อยที่ไหนก็ได้ เราก็เห็นด้วยเพราะว่าไหนๆก็มาเที่ยวแล้วยังไม่ได้เที่ยวธรรมชาติเลย ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็นแล้วค่ะ พวกป้าๆก็บอกว่าอย่าแวะเลยเดี๋ยวถึงบ้านค่ำ แต่ยายก็บอกว่า แวะเถอะ ยายอยากเข้าห้องน้ำ ทุกคนก็เลยโอเค แวะพักกันที่น้ำตก พวกเราไม่ได้วางแผนหาข้อมูลมาก่อน เลยได้แวะที่น้ำตกแห่งหนึ่ง น่าจะเป็นช่วงแถวๆ อุตรดิตถ ์- พิษณุโลก ตอนนั้นไม่มีคนมาเที่ยวเลยค่ะ มีแต่แม่ค้าและเจ้าหน้าที่สองสามคน ทางลงน้ำตกจะเป็นคล้ายๆเนินเขาเป็นทางลาดลงไปตรงๆ ด้านข้างจะเป็น ร้านค้าที่มีที่นั่งกินข้าวเหมือนโรงอาหาร แล้วก็ห้องน้ำ แล้วก็ศาลานั่งพักผ่อน แล้วเดินลงไปอีกจะเป็นน้ำตกค่ะ ตอนนั้นเป็นช่วงน้ำเยอะค่ะ น้ำค่อนข้างขุ่น แล้วก็ไหลแรงพอสมควร เราเดินลงไปตามทาง แล้วก็เห็นป้ายว่า ห้ามลงเล่นน้ำ ซึ่งเราก็ไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะมันไม่มีทางเดินลงไปเลยเหมือนเคยมีทางให้ลงแต่ปิดไปนานมากๆแล้วมีหญ้ามีหินอะไรเต็มไปหมด แล้วก็มีแผ่นไม้ที่เจ้าหน้าที่เอามาปิดไว้ เราเดินลงไปดูน้ำสักพัก แม่เราก็ตะโกนเสียงดังมาก "ขึ้นมาได้แล้วจะลงไปทำไม" ซึ่งเราคิดว่าแม่เราว่าให้เรานะคะ แต่จริงๆแล้วบอกหลานที่เดินกึ่งวิ่งลงไปพร้อมป้า แม่เราไม่สบอารมณ์เพราะกลัวเด็กๆตกน้ำเลยบอกให้ทุกคนรีบกลับไปที่รถ ทุกคนเลยบอกว่าขอเข้าห้องน้ำก่อน *** คนที่ลงไปดูน้ำจะมี ป้า น. ,ป้า ป. พี่ ต. พี่ อ. พ่อ แม่ เรา แล้วก็หลานสองคน *** คือจะจับคู่กันไปเข้าห้องน้ำอ่าค่ะ ให้วัยรุ่นดูแลคนแก่เพราะทางเป็นทางลาดลง ป้า น. ไปกับ พี่ อ. เราไปกับแม่ และพี่ ต. ไปกับป้า ป. ค่ะ คู่แรก (พี่ ป. กับ ป้า น. ) ออกมากจากห้องน้ำและขึ้นไปรอบนรถก่อน ห้องน้ำมี ประมาณ สามห้องนะคะ ต้องต่อคิวกัน แม่เราเข้า และป้า ป. กับพี่ ต. เข้าพร้อมกัน เรากับแม่เดินขึ้นไปก่อน ตอนนั้นอยู่ดีๆแม่เราก็ปวดขาค่ะ ปวดมากจนแทบเดินไม่ได้ เราเลยประคองแม่ขึ้นรถไปเลยไม่ได้เข้าห้องน้ำค่ะ
จะเล่าเหตุการณ์ในมุมมองของเราก่อนนะคะ
หลังจากเข้าห้องน้ำกันเลยมารอกันที่รถ ซึ่งตอนนั้นประมาณห้าหกโมงเย็นแล้ว ช่วงเวลาโพล้เพล้เลยค่ะ รอพี่ ต. กับป้า ป. อยู่สักพัก ซึ่งถ้าแค่เข้าห้องน้ำน่าจะมาถึงรถแล้วเพราะไม่ไกลมาก แม่เลยให้เราไปตามค่ะ เราไปตามรอบนึง ไปตะโกนเรียกอยู่หน้าห้องน้ำ แต่เราก็เห็นว่าประตูห้องน้ำเปิดทุกบาน ไม่น่าจะมีคนเข้าอยู่ ไม่มีใครตอบกลับมาเราเลยเดินลงไปอีกจนเกือบถึงน้ำตกข้างล่าง ตะโกนเรียกอีกแต่ก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา เรารู้สึกกลัว เพราะเงียบมาก ไม่มีคนเลย เราเลยรีบวิ่งกลับขึ้นมาที่รถ เพราะนึกว่าอาจจะสวนทางกัน (จริงๆแล้วมีทางลงทางเดียวไม่มีทางสวนกันโดยไม่เห็นเราค่ะ) แต่มาถึงที่รถ ทุกคนบอกว่า พี่ ต. กับ ป้า ป. ยังไม่มา เราเลยได้ลงไปตามอีกรอบ ไปตะโกนเรียกอยู่หน้าห้องน้ำเหมือนเดิมค่ะ ทีนี้ มีเสียงพี่เราตอบกลับมา แบบเราเห็นพี่เราอยู่ไกลมากๆ เดินไปทางบ้านพักเจ้าหน้าที่อุทยาน(มั้ง) ซึ่งมันเป็นถนนโล่งๆอ่าค่ะ เราก็โมโหให้พี่เรานะคะว่าทำไมเรียกรอบที่แล้วไม่ตอบกลับมา เราเลยวิ่งไปขึ้นรถ แล้วสักพักพี่เรากับป้า ป. ก็ขึ้นรถมา ....
แม่เราดุพี่เราว่าเป็นบ้าอะไรทำไมไม่รีบขึ้นรถ เราก็งง ว่าทำไมต้องว่ารุนแรงขนาดนั้นแค่ขึ้นรถช้าแต่เราก็โมโห พี่เราตอบกลับมาว่า "หลงทางอ่ะ" เราก็คิดเห้ย บ้าไปแล้วเส้นทางไม่มีทางให้หลงเลย ตอนนั้นแม่เราตัดบทพี่เราทันทีว่า เออๆ รีบขึ้นรถมา เรารู้สึกแปลกๆแล้วได้ยินมาว่า ถ้าเห็นอะไร ได้ยินอะไร อย่าทัก อย่าหันหลังกลับไปมอง อยู่ดีๆเราก็ตะโกนขึ้นมาว่า ห้ามหันหลังนะคะทุกคน ห้ามทัก จนกว่าจะออกจากน้ำตก ทุกคนก็ตกใจ แต่ก็ไม่มีใครทักอะไรพูดอะไร จนออกมาจากเขตพื้นที่อุทยาน ป้า ป. ซึ่งเป็นคนที่พูดเก่ง ชอบหัวเราะ ชอบส่งมุข เอาแต่นอน แล้วก็หายใจเสียงดังๆ พอพี่ ต. จะเล่าให้ทุกคนฟังว่าไปเจออะไรทำไมมาช้า ป้า ป.ก็ตวาดใส่พี่ ต. ว่า "อย่าพูด" ทุกคนตกใจมาก ป้า น. เลยรู้สึกแปลกๆ และ เอาพระให้ป้า ป. ใส่ ป้าป. ก็นอน ไปจนถึงเพชรบูรณ์ พวกเราแวะส่ง พ่อกับแม่ที่เพชรบูรณ์ พอพวกเราออกมาจากบ้านพ่อเพื่อกลับขอนแก่น ตอนนั้นก็มืดแล้วอ่ะค่ะ ทุกคนในรถเงียบหมด น่าจะหลับกัน แต่ เรา กับพี่ ป. ที่ยังไม่นอน เพราะไม่กล้านอน (กลัวป้า ป. มากๆ สองคนนี้ขี้กลัวอยู่แล้ว 55) เลยนั่งคุยกัน กินขนมกัน แล้วอยู่ดีๆรถตู้ก็เหมือนหักหลบอะไรแบบเสียหลักอ่ะค่ะ ดีที่ข้างทางไม่ใช่เหว แต่เป็นภูเขาที่มีไหล่ทาง เลยไม่เป็นอะไร เรากับพี่ ป. กรี้ดแตก แต่ทุกคนก็ยังหลับอยู่ แล้วเราก็ถึงบ้านกัน
ที่บ้าน....
ทุกคนยังไม่กินข้าวเย็น เลยไปซื้อของมานั่งร่วมวงกินกัน มีวงเด็ก เรากับพวกพี่ๆ แล้วก็วงผู้ใหญ่ แต่ ป้า ป. ไม่กินข้าว ป้า ป. เข้าไปอาบน้ำ แล้วนั่งอยู่คนเดียวตรงชิงช้าไม้ แล้วมองมาที่พวกเรา (วงข้าวเด็ก) เราเห็นป้า ป. เหมือนคุยกับใครเราก็ไม่ได้คิดอะไร เลยทักไปเล่นๆ ว่า เอ้ย นั่งคนเดียวคุยกับใครอ่ะ ป้า ป. หัวเราะเบาๆ แล้วยิ้มมุมปาก แล้วแกก็เข้าไปนอน ไม่คุยกับใครในบ้านเลยค่ะ พอป้า ป. เข้าไปนอน พี่ ต. ก็เลยอยากเล่าว่าที่หายไปตอนนั้นไม่ยอมมาขึ้นรถเพราะอะไร ...
อันนี้เป็นเรื่องที่พี่ ต. เล่านะคะ เป็นมุมมองของ พี่ต.
ออกมาจากห้องน้ำ แล้วไม่เห็นใครเลย ประตูห้องน้ำเปิดหมดนอกจากห้องที่ป้า ป. เข้า พอป้า ป. ออกมาก็ว่าจะรีบไปขึ้นรถเพราะทุกคนน่าจะรออยู่ แต่เห็นต้นไม้ต้นนึง ใหญ่มากกกก ห้าคนโอบได้ แล้วมีผ้าสีขาว แปะอยู่ พี่เราก็ปากพล่อยทักไปว่า ทำไมแปะผ้าแบบนี้เหมือนเป็นประตูเลยเนอะ แล้วตอนนั้นป้าป. ก็บอกว่า มาทางนี้สิๆ ป้าว่ามันต้องเดินไปทางนี้นะ พี่เราก็เถียงว่าไม่น่าใช่ ตอนนั้นไม่มีต้นไม้เลยเราน่าจะมาผิดทางนะป้า ป. ป้าป.ก็ยืนยันคำเดิมว่าให้เดินไปตามป้า ป. แล้วพี่เราก็เดินไปเรื่อยๆ แต่ไม่เห็นทางขึ้นไปยังรถ จนมาเจอเรากวักมือเรียก เลยดึงป้า ป. มา แล้วก็เจอทางขึ้นรถ ( เราไม่เห็นต้นไม้ใหญ่ และ ทุกคนยกเว้นป้า ป. กับพี่ ต. ที่หลงไป ก็ไม่เห็น และ เราไม่ได้กวักมือเรียก ไม่ได้ไปใกล้พี่เราขนาดนั้น ตอนเจอพี่เรา พี่อยู่ไกลมากๆ) และเมื่อตอนกินข้าว ที่ป้า ป. ยังไม่ไปนอน ป้า ป. หันไปแยกเขี้ยวใส่พี่ ต. เหมือนโกรธมาก ๆ ตอนนี้พี่ ต. คือจะร้องไห้แล้ว พวกเราเลยจะไม่นอนที่บ้าน เลยไปนอนที่หอ พี่ อ. พวกเราไปรถเก๋งค่ะ 4 คน กับสัมภาระ (แฟนพี่ ป. อีกคน ) พอถึงหอจอดรถ พี่ อ. แฟนพี่ อ. เรา ออกมายืนรอ พี่ต. ข้างนอก พี่ ต. ก็กรี้ดขึ้นมา แล้วบอกว่ารอด้วยๆๆๆๆ อย่าทิ้ง ต. เรากับพี่อ. รักพี่ ต.มาก วิ่งขึ้นหอเลย 555 แฟนพี่ อ. เลยได้รอ พอพวกเราอยู่ในห้องของหอพักพี่ ต. เล่าให้ฟังว่า มีเสียง ผู้ชายแก่ๆ บอกว่า "ปิดประตู!" ตอนทุกคนลงรถหมดแล้ว และเหลือแค่พี่ ต. อยู่ในรถตอนนั้น เราอาบน้ำไม่ปิดประตูเลยค่ะ 😂 พอพวกเราจะนอนพี่เราเลยโทรไปหาแม่ แม่ก็บอกว่ารู้สึกแปลกตั้งแต่ป้า ป.พาหลานเดินไปใกล้ๆน้ำแล้ว เพราะพอแม่เรียก ป้า ป. หันมา แต่เหมือนเป็นหน้าผู้ชายแก่ แม่เราเลยตกใจ รีบเรียกทุกคนให้ขึ้นรถ แล้วหลังจากนั้นอยู่ดีๆแม่ก็เจ็บขา แล้วแม่ก็เล่าให้ฟังว่า ตอนอยู่ที่บ้านที่เพชรบูรณ์ ป้า ป.เดินตามแม่เราเข้าไปในบ้าน แล้วก็บอกว่า ขอน้ำร้อนหน่อย แม่เรานึกว่าจะเอาไปชงกาแฟเลยเอาน้ำร้อนที่เพิ่งถอดปลั้ก ใส่แก้วให้ พอยื่นให้ ป้าป. กิน อึกๆๆ แบบไม่รู้สึกร้อนเลย แม่เราเลยรู้สึกว่าต้องมีอะไรแปลกๆแน่ๆ เลยให้พ่อไปเอาพระ มาไว้ในรถ แล้วก็ขอพรให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย ก่อนวางสายแม่เราก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกลูก เราอยู่ในที่ของเราแล้ว ไม่มีใครมาทำอะไรเราได้ ไม่ต้องกลัวนะ ตอนพวกเราก็ไม่เชื่อเรื่องต้นไม้ที่พี่ ต. เล่าให้ฟัง เลยพยายามหาพวกรีวิวน้ำตกแห่งนี้ เจอคลิปหนึ่งที่มีคนอัดวีดีโอตั้งแต่ที่จอดรถจนถึงจุดชมวิว ซึ่งไม่มีต้นไม้นั่นจริงๆ แต่พ ี่ต.บอกว่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เห็นเลยนะ พวกเราหายังไงก็ไม่เจอ ก็เลยปิดไฟนอนกัน ก่อนนอนก็สวดมนต์แล้วอธิษฐานว่าไม่ให้มีอะไรเข้ามาในห้องนี้ได้ คืนนั้นเราฝันว่าเราไปยืนตรงโขดหินที่น้ำตก แล้วได้ยินเสียงผู้ชายดังก้องทั่วป่า พูดว่า "บอกพี่ อย่ามายุ่งเรื่องของกู" เราเลยตกใจตื่นขึ้นมาประมาณตีสามกว่า ๆ เรากลัวเลยปลุกพี่ แล้วตอนนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงลูกบิดประตู มันเหมือนกำลังมีคนพยายามเปิด แล้วก็ทุบประตู ตึงๆๆ ซึ่งพี่ ป. กับแฟนก็นอนหลับกันอย่างปกติ แต่เรากับพี่นี่กลัวจนตัวสั่น เลยพยายามสวดมนต์และแผ่เมตตาขออโหสิกรรม ทำทุกอย่างที่นึกขึ้นได้ แล้วก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
พอตอนเช้า... พวกเราไปที่บ้านยายไปเล่าให้ที่บ้านยานฟัง ลุงที่เป็นร่างทรงก็เข้ามาทัก แล้วบอกว่า เจ้าป่าเจ้าเขา จะเอาป้า ป. ไปอยู่ด้วย เพราะป้า ป. เคยเป็นคนของเขาในชาติภพที่แล้ว แต่บังเอิญว่า พี่ ต. ไปพาป้า ป. ออกมา เขาเลยไม่พอใจ ว่าเราไปยุ่งเรื่องของเขาเลยตามมาสั่งสอน เราเลยเข้าใจความฝันเราเมื่อคืน และพากันไปทำบุญขออโหสิกรรมกันที่วัด...จบ
เรื่องอาจจะยาว และงงๆในบางช่วงนะคะ เล่าเรืาองไม่ค่อยเก่ง แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง อาจจะไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ แต่เป็นเหตุการณ์ที่เราจะไม่ลืมเลย ....