วิธีเลี้ยง"เจ้าที่"ให้ถูกต้อง ทำได้อย่างไร ?

หลายครั้ง ได้เห็นพวกแม่ค้าในตลาดแถวบ้านมักบวงสรวงเจ้าที่พร้อมกับขอให้เจ้าที่ทำให้ตนทำมาค้าขายดี ร่ำรวย มีโชคลาภ... ว่าแล้วก็นำของกินชุดหนึ่งปักธูปที่จุดแล้ว และวางบนหิ้งศาลพระภูมิเล็กๆ ริมเสาที่คนแถวนั้นทำไว้เองง่ายๆ ด้วยไม้ แต่ตั้งตัวศาลไว้ซะสูง

มีอาจารย์สอนธรรมท่านหนึ่ง ผู้อ่านและศึกษาพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ ครบ 45 เล่ม (84,000 พระธรรมขันธ์) 6 จบ จนเข้าใจและเอาพระธรรมไปปฏิบัติถึง 20 ปี จึงบรรลุธรรมเป็นอริยบุคคล เป็นชาวพุทธผู้มีปัญญาความรู้ของแท้ มีญาณวิสัยเป็นของแถม... ท่านบอกว่า พวก"เจ้าที่"ที่เราบวงสรวงกันแบบนั้น มันจะโกรธ และด่าเรา บางทีเอาจนเรานอนไม่หลับเลยก็มี (ไม่ได้ยินเสียงด่า แต่รู้สึกหมือนถูกด่า ใจไม่สงบนอนไม่ได้) คำด่าที่ด่ามักจะเป็นประมาณนี้

"ท่านนี่โง่สะบัดจริงๆ ท่านไม่รู้ดอกหรือว่าพวกข้าภูมิต่ำกว่าพวกท่านและไม่ได้อยู่ในศาลเจ้า? แล้วมาไหว้อ้อนวอนพวกข้า... พวกท่านสิต้องช่วยพวกข้า เพราะพวกท่านเป็นมนุษย์ มีพลังจิตแข็งแกร่ง ทำอะไรก็สำเร็จถ้ามีความตั้งใจ... แล้วอาหารบนหิ้งนั่นพวกข้าจะกินกันได้ยังไง? สูงซะขนาดนั้นพวกข้าขึ้นไปกินไม่ได้ จะแกล้งพวกข้ารึยังไง?... พวกข้าขอติเตียนพวกท่าน เพราะพวกท่านแกล้งให้พวกข้ากินอาหารไม่ได้ด้วยความไม่รู้ของตน พวกมนุษย์หน้าโง่ ! "

อาจารย์ท่านว่า ในพระไตรปิฎกพระพุทธเจ้าทรงจัดเกรดหรือลำดับความสำคัญของสัตว์ทั้งหลายในวัฏฏะสงสารตามลำดับ ดังนี้

1. มนุษย์ (มนุษย์โลก)
2. เทวดา, พรหม (เทวโลก, พรหมโลก)
3. สัตว์เดรัจฉาน (ดิรัจฉาน)
4. ผีทั้งหลาย (เปตวิสัย หรือ ปิตติวิสัย)
5. สัตว์นรก (นรก)

พวก"เจ้าที่"ที่สิงอยู่ในที่ต่างๆเป็นพวกที่อยู่ในพวกที่ 4 มีภพภูมิอยู่ในเปตวิสัย ไม่ได้เป็นเทวดา เทวดาท่านมีที่อยู่ทิพย์ มีของกินของใช้ทิพย์อยู่แล้วตามบุญตามกรรมของตน ไม่มายุ่งกับมนุษย์... ภพของพวกเปตวิสัยจะคาบเกี่ยวกับภพมนุษย์และสัตว์ จึงสื่อสารติดต่อและปฏิสัมพันธ์กันได้ ถ้ามีความรู้

พวก"เจ้าที่"จะอาศัยอยู่บนพึ้นดินเท่านั้น จะได้กินได้ใช้อะไรก็ได้มาจากพื้นดิน การเอาอาหารไปวางไว้บนศาลพระภูมิซึ่งสูงจากพื้นดิน พวกเขาจะกินไม่ได้และโกรธ เหมือนกับมีคนเอาถุงกับข้าวขึ้นไปแขวนบนหลังคาบ้านแล้วไม่มีบันไดปีนขึ้นไปเอา และเชิญเราขึ้นไปเอาลงมากินฉันใดฉันนั้น เป็นเราเราก็โกรธ เพราะเหมือนโดนแกล้ง

ถ้าจะให้เจ้าที่กินอาหารได้ ต้องเอาอาหารวางไว้บนพึ้นดินและเชิญพวกเขามากินเฉยๆ เหมือนกับเชิญเพื่อนมากิน ห้ามจัดอาหารไว้ในภาชนะเพราะจะผิดเงื่อนไขของภพภูมิ(ของผี) ห้ามไหว้เพราะพวกเขามีภูมิต่ำกว่า ไม่ต้องจุดธูปเพราะไม่มีผล... สุภาพที่สุดก็วางบนใบตองรึใบไม้ พูดเชิญด้วยคำพูดเพราะๆ... ให้อาหารแล้วก็พูดอวยพรให้พวกเขาอยู่ดีมีสุข เท่านี้แหละ พวกเขาจะชอบมาก และได้กินอาหาร... ถ้าเราปฏิบัติอย่างนี้พวกเขาจะพอใจ บางทีอาจทำให้เราถูกหวยรวยเบอร์ ปกปักรักษาทำให้เราทำมาค้าขายรุ่งเรืองหรือร่ำรวยเงินทองได้ตามที่เราหวัง เราช่วยผี ผีมีความสุข พอผีมีความสุขพวกเขาก็มีกำลังช่วยเรา หมูไปไก่มา

นี้เป็นการเลี้ยงเจ้าที่ที่ถูกต้องประกอบไปด้วยปัญญาความรู้ เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่ใช่เลี้ยงเพราะความเชื่อที่บอกเล่าต่อๆ กันมา ซึ่งมีความไม่ถูกต้องสูง ทำไม่ถูกต้อง ผลที่ออกมาก็ผิด อยากให้ผีช่วย แต่ไม่ช่วยผีหรือช่วยไม่ถูก ผีก็ไม่ช่วย... ผีไม่ช่วยก็พาลบอกว่า ผีไม่มีจริง (เป็นแบบนั้นไป)

การทำอะไรก็ตาม ถ้าศึกษาเรียนรู้ให้ตนมีปัญญาและประกอบเหตุปัจจัยให้ถูกส่วน สิ่งที่หวังย่อมสำเร็จ100ทั้ง100
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่