เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือน. พฤศจิกายน2559
เราเดินทางไปเที่ยวกระบี่กับครอบครัว
โดยจองตั๋วไว้5คนแต่น้องสาวติดธุระจึงไม่ได้เดินทางไปด้วย
จึงเดินทางกันเพียง4คน
เราจะไม่บ่นเรื่องสายการบินเลททั้งขาไปและกลับ
(รวมถึงขากลับที่เรานั่งจากกรุงเทพไปลงเชียงรายต่ออีกด้วย)
แต่เราขอระบายเรื่องการโดนเปลี่ยนที่นั่ง
โดยที่พนักงานเคาเตอร์เช็คอินไม่ได้แจ้งให้เราทราบก่อน
วันที่22พย59
เป็นเที่ยวบินจากกระบี่-กรุงเทพ
โดยเราและครอบครัวไปถึงเค้าเตอร์เช็คอินตั้งแต่แรกๆที้เค้าเตอร์เช็คอินเปิด
(เราเช็คอินออนไลน์มาก่อนแล้วแต่ต้องการโหลดกระเป๋า)
เราเป็นคนแรกของครอบครัวที่เดินไปถึงเค้าเตอร์เช็คอินก่อน
แต่พนักงานที้เค้าเตอร์เช็คอินหาชื่อเราไม่พบ
จนพ่อแม่และพี่สาวเราเช็คอินกันครบเรียบร้อยแล้วมายืนรอเรา
พนักงานคนดังกล่าวจึงถามเราว่ามากับครอบครัวเราที่เช็คอินอยู่เค้าเตอร์ข้างๆใช่หรือไม่
และได้หันไปถามพนักงานที่ทำการเช็คอินให้ครอบครัวเราว่าหาชื่อพบหรือไม่
ผ่านไปหลายนาทีเจ้าหน้าที่ท่านนี้ก็ยังหาข้อมูลเราไม่พบ
ทั้งขอดูอีเมลยืนยันในโทรศัพท์เรา
ก็ยังหาไม่พบ
จึงให้พนักงานเค้าเตอร์ข้างๆมาทำการหาชื่อให้
เมื่อหาข้อมูลพบจึงรับมาทำการเช็คอินต่อให้เรา
พนักงานยื่นตั๋วให้เราโดยไม่ได้ระบุเลขที่นั่ง
(ระบุแค่ประตูรอเครื่อง)
เราจึงรีบเข้าประตูเพราะเสียเวลากับการเช็คอินนานแล้วโดยที่ยังไม่ได้อ่านตั๋ว
จนเมื่อไปรอหน้าเกทจึงได้อ่านตั๋วว่าเราถูกเปลี่ยนที่นั่ง
จากที่เราจองให้พ่อแม่และพี่สาว2D,2E,2F
ตัวเราและน้องสาว(ที่ไม่ได้เดินทางมาด้วย)3E,3F
แต่ตั๋วที่นั่งเรากลายเป็นที่นั่ง2C
และเมื่อขึ้นเครื่องขณะที่เราจะสอบถามพนักงานบนเครื่องว่าสามารถย้ายกลับไปนั่งที่นั่งที่เราจองได้หรือไม่
เนื่องจากที่นั่ง2A,2Bเป็นคู่รักกันและเราอยากนั่งริมหน้าต่างและที่สำคัญคือเกลียดการนั่งริมทางเดินมาก
(เวลาเข็นรถเข็นตรงทางเดินมักจะโดนชน)
และเป็นคนเมารถเมาเรือเมาเครื่องบิน
ชอบการดูวิวริมหน้าต่างมากกว่าจ้องทางเดิน
(คนเมารถเมาเรือเมาเครื่องบินน่าจะพอเข้าใจ)
และเมื่อเรามองไปที่นั่งที่เราจองก็มีฝรั่งคู่รักมานั่งในที่นั่งที่เราจองไว้กับน้องแล้ว
เมื่อเราถึงบ้านจึงอีเมลสอบถามไปยังสายการบินที่น้องญาญ่าเป็นพรีเซนเตอร์
ได้รับคำตอบว่า
พนักงานเช็คอินหวังดี
ต้องการให้เรานั่งแถวเดียวกับครอบครัว
(ถ้าใครพอนึกผังที่นั่งออกจะเข้าใจเราว่า
การนั่งเบาะหลังครอบครัวมันดีกว่าการนั่งแถวเดียวกันที่มีทางเดินมาคั่นแน่นอน)
และมอบคะแนนฟลายเออร์โบนัสให้เรา10คะแนน
ซึ่งเราอีเมลกลับไปแจ้งแล้วว่า
ไม่ขอรับ
เราไม่ได้ต้องการคะแนนอะไร
เราแค่ต้องการคำขอโทษที่ดูจริงใจ
ถ้าเราได้รับคำตอบ
ตรงตามเหตุการณ์ที่เราพบเจอ
ว่าพนักงานสะเพร่า
เป็นความผิดพลาดของระบบ
เราคงจะยังเป็นลูกค้าสายการบินนี้ต่อไป
เพราะชอบกินข้าวต้มมัดระหว่างรอ
แต่คำตอบที่ไร้ซึ่งความจริงใจนี้
ทำให้เราไม่พอใจมาก
และอยากถามว่า
โดยปกติ พนักงานเค้าเตอร์เช็คอิน
มีสิทธิเปลี่ยนที่นั่งที่เราจองมาล่วง
ตามอำเภอใจดังที่สายการบินกล่าวอ้างหรือไม่
โดนสายการบินเปลี่ยนที่นั่งที่จองไว้โดยให้เหตุผลว่าหวังดีอยากให้นั่งแถวเดียวกับครอบครัว
เราเดินทางไปเที่ยวกระบี่กับครอบครัว
โดยจองตั๋วไว้5คนแต่น้องสาวติดธุระจึงไม่ได้เดินทางไปด้วย
จึงเดินทางกันเพียง4คน
เราจะไม่บ่นเรื่องสายการบินเลททั้งขาไปและกลับ
(รวมถึงขากลับที่เรานั่งจากกรุงเทพไปลงเชียงรายต่ออีกด้วย)
แต่เราขอระบายเรื่องการโดนเปลี่ยนที่นั่ง
โดยที่พนักงานเคาเตอร์เช็คอินไม่ได้แจ้งให้เราทราบก่อน
วันที่22พย59
เป็นเที่ยวบินจากกระบี่-กรุงเทพ
โดยเราและครอบครัวไปถึงเค้าเตอร์เช็คอินตั้งแต่แรกๆที้เค้าเตอร์เช็คอินเปิด
(เราเช็คอินออนไลน์มาก่อนแล้วแต่ต้องการโหลดกระเป๋า)
เราเป็นคนแรกของครอบครัวที่เดินไปถึงเค้าเตอร์เช็คอินก่อน
แต่พนักงานที้เค้าเตอร์เช็คอินหาชื่อเราไม่พบ
จนพ่อแม่และพี่สาวเราเช็คอินกันครบเรียบร้อยแล้วมายืนรอเรา
พนักงานคนดังกล่าวจึงถามเราว่ามากับครอบครัวเราที่เช็คอินอยู่เค้าเตอร์ข้างๆใช่หรือไม่
และได้หันไปถามพนักงานที่ทำการเช็คอินให้ครอบครัวเราว่าหาชื่อพบหรือไม่
ผ่านไปหลายนาทีเจ้าหน้าที่ท่านนี้ก็ยังหาข้อมูลเราไม่พบ
ทั้งขอดูอีเมลยืนยันในโทรศัพท์เรา
ก็ยังหาไม่พบ
จึงให้พนักงานเค้าเตอร์ข้างๆมาทำการหาชื่อให้
เมื่อหาข้อมูลพบจึงรับมาทำการเช็คอินต่อให้เรา
พนักงานยื่นตั๋วให้เราโดยไม่ได้ระบุเลขที่นั่ง
(ระบุแค่ประตูรอเครื่อง)
เราจึงรีบเข้าประตูเพราะเสียเวลากับการเช็คอินนานแล้วโดยที่ยังไม่ได้อ่านตั๋ว
จนเมื่อไปรอหน้าเกทจึงได้อ่านตั๋วว่าเราถูกเปลี่ยนที่นั่ง
จากที่เราจองให้พ่อแม่และพี่สาว2D,2E,2F
ตัวเราและน้องสาว(ที่ไม่ได้เดินทางมาด้วย)3E,3F
แต่ตั๋วที่นั่งเรากลายเป็นที่นั่ง2C
และเมื่อขึ้นเครื่องขณะที่เราจะสอบถามพนักงานบนเครื่องว่าสามารถย้ายกลับไปนั่งที่นั่งที่เราจองได้หรือไม่
เนื่องจากที่นั่ง2A,2Bเป็นคู่รักกันและเราอยากนั่งริมหน้าต่างและที่สำคัญคือเกลียดการนั่งริมทางเดินมาก
(เวลาเข็นรถเข็นตรงทางเดินมักจะโดนชน)
และเป็นคนเมารถเมาเรือเมาเครื่องบิน
ชอบการดูวิวริมหน้าต่างมากกว่าจ้องทางเดิน
(คนเมารถเมาเรือเมาเครื่องบินน่าจะพอเข้าใจ)
และเมื่อเรามองไปที่นั่งที่เราจองก็มีฝรั่งคู่รักมานั่งในที่นั่งที่เราจองไว้กับน้องแล้ว
เมื่อเราถึงบ้านจึงอีเมลสอบถามไปยังสายการบินที่น้องญาญ่าเป็นพรีเซนเตอร์
ได้รับคำตอบว่า
พนักงานเช็คอินหวังดี
ต้องการให้เรานั่งแถวเดียวกับครอบครัว
(ถ้าใครพอนึกผังที่นั่งออกจะเข้าใจเราว่า
การนั่งเบาะหลังครอบครัวมันดีกว่าการนั่งแถวเดียวกันที่มีทางเดินมาคั่นแน่นอน)
และมอบคะแนนฟลายเออร์โบนัสให้เรา10คะแนน
ซึ่งเราอีเมลกลับไปแจ้งแล้วว่า
ไม่ขอรับ
เราไม่ได้ต้องการคะแนนอะไร
เราแค่ต้องการคำขอโทษที่ดูจริงใจ
ถ้าเราได้รับคำตอบ
ตรงตามเหตุการณ์ที่เราพบเจอ
ว่าพนักงานสะเพร่า
เป็นความผิดพลาดของระบบ
เราคงจะยังเป็นลูกค้าสายการบินนี้ต่อไป
เพราะชอบกินข้าวต้มมัดระหว่างรอ
แต่คำตอบที่ไร้ซึ่งความจริงใจนี้
ทำให้เราไม่พอใจมาก
และอยากถามว่า
โดยปกติ พนักงานเค้าเตอร์เช็คอิน
มีสิทธิเปลี่ยนที่นั่งที่เราจองมาล่วง
ตามอำเภอใจดังที่สายการบินกล่าวอ้างหรือไม่