สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทู๊กกกคนเลยนะคะ
คือเราเนี่ยอยู่ในสังคมที่คนมากมายมาจากหลายที่รวมกันใช่ไม๊คะ เราก็คงหนีไม่พ้นโดนนินทาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ซึ่งถ้าเป็นสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นตอนต้น ตอนกลางเนี่ยเลือดเดือดง่ายอยู่แล้ว ถ้ารู้ว่าใครนินทาเนี่ยเป็นต้องเปิดศึกสงครามเย็น
จิกตาบ้าง มองแรงบ้าง ค้อนบ้าง ให้รู้ว่าฉันรู้นะยะว่าแกรแอบนินทาฉัน ฉันจะเมิน ฉันจะโนสน โนแคร์ใส่ แต่ความจริงเราก็แคร์แหละ รู้สึกแย่ด้วย 5555
มีถึงขั้นลาออกจากงานเพราะไม่อยากร่วมงานกับคนประเภทนี้เลยทีเดียว ด้วยความอารมณ์ร้อนของชะนีวัยไสย์
จนเป็นบ้าเป็นบอเปลี่ยนงาน 3 - 4 ที่ใน 1 ปี สรุปใครคือผู้ได้ผลกระทบมากที่สุดก็ตัวเรานี่ล่ะค่ะ จนต้องมานั่งถามตัวเองอยู่พักใหญ่ๆว่าเรากำลังหนีอะไรกันแน่.. จนสรุปได้ว่าไม่มีใครจะมีผลกับใจเราได้เลย ถ้าเราไม่อนุญาตให้คนนั้นเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตเราเอง จากนั้นก็เลิกเป็นชะนีใจร้อนค่ะ มีอะไรก็ค่อยๆทบทวน สงบสติ ว่าสิ่งที่คนเค้าชอบเม้ามอยนินทาเนี่ย ใช่เรื่องจริงไม๊ ถ้าเป็นเป็นเรื่องที่ไม่ดี เราทำผิดจริง เราก็ควรแก้ไขเพื่อตัวเราเอง แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงแล้วมีผลกระทบกับเรามากๆ มีผลกระทบกับงานเราแนะนำให้เปิดใจคุยค่ะ เคลียร์ให้เข้าใจ แต่ก่อนเคลียร์กับคนอื่นเนี่ยเคลียร์กับใจตัวเองก่อนนะคะ ให้คุยด้วยเหตุผลค่ะ ไม่ใช้อารมณ์ไม่งั้นวงแตกอีกรอบ งานเสียความสัมพันธ์เสีย แทนที่จะอธิบายให้เข้าใจกันกลายเป็นบานปลายหนักกว่าเดิม (เราเคยใช้วิธีนี้อยู่ค่ะ แต่กว่าจะเดินไปคุยไปอธิบายได้เนี่ย ต่อสู้กับตัวเองเยอะมาก เราอยากให้เพื่อนร่วมงานลดฐิทิ แต่เราไปด้วยฐิทิมันก็คงไม่ได้ ร้องไห้ในห้องน้ำไปหลายกระบุงเลยค่ะ เอาอารมณ์ออกเพื่อจะได้เคลียร์กับเค้าด้วยเหตุผลจริงๆ) แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่มีมูลความจริง เช่นคนนินทาว่าเราร้าย ร่ายผู้ชาย อะไรแบบนี้เราคงไม่ไปเคลียร์เพราะไม่มีความจริง คนที่สามารถพูดได้โดยไม่มีมูลเลย เค้าคงไม่อยากฟังเราอธิบายหรอกค่ะ โดยส่วนใหญ่เรามักจะถูกมองว่าเราร้ายและหยิ่งแน่ๆ เพราะหน้าตาของเราเวลาไม่ยิ้มนี่ดูเป็นคนแบบนั้น แล้วเราก็เป็นคนคุยน้อย แต่คือคนที่รู้จักเราจริงๆจะรู้ว่านิสัยเราขัดกับหน้าตามากกกก เราเป็นคนขี้อาย แต่พูดเยอะกับคนที่สนิท ชอบให้เพื่อนหัวเราะ รักพี่น้องเพื่อนฝูงมากๆ รักสัตว์ ชอบอ่านหนังสือ คือขัดกับลุคที่คนคิดว่าเราเป็นคนมั่นใจ แล้วก็แรงๆสิ้นเชิงงง คนที่มารู้จักเราจนเริ่มสนิททุกคนจะพูดตลอดว่าฉันคิดว่าเธอเป็นคนแรงๆร้ายๆ ที่ไหนได้เธอต๊องมากก เกือบจะทุกคน 5555
การที่เราเป็นชะนีคลั่ง เปลี่ยนงานบ่อยเพื่อหนีคนนินทา ทำให้เราพบว่าไม่ว่าจะหนีไปที่ไหนมันก็มีทั้งนั้นแหละ แต่เราเลือกที่จะรักษาใจเราได้ และพบวิธีรับมือแตกต่างกันไปโดยไม่ต้องกระทบกระทั่งกันให้เสียแรงด้วย เราไม่คิดด้วยว่าคนนินทาคือคนขี้อิจฉาหรืออะไรตอนหลังขำๆด้วยซ้ำว่าเห้ยย เม้ามั่วไปขนาดนั้นได้ยังไง ยอมรับเลยว่าการมีเพื่อนที่เข้าใจเรามันทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นมาก ทำให้เรามีจุดยืนไม่ต้องเปลี่ยนตามคำพูดใคร อะไรที่ดีเพื่อนก็คอยเตือนสติให้เรารักษาเอาไว้ เราเลยผ่านจุดๆนั้นมาได้
สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ แล้วเจอเหตุการณ์เหมือนๆกัน เราเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเลยนะคะ
สู้ๆไปด้วยกัน คนที่จะอยู่ในโลกอันมุ้งมิ้งใบนี้ได้ต้องสตรองสู้ฟัดเท่านั้นจ้าาา
ปล.แท็คถูกห้องรึเปล่าก็ไม่รู้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใด อย่าด่าเก๊าเลยน้าา ถึงเก๊าจะแข็งแรงแล้ว แต่ก็ไม่เคยชอบการโดนด่าเลยย ทำใจยากอยู่ดี 5555
มีใครเคยโดนคนไม่สนิทนินทาบ้างคะ แล้วรับมือกันยังไงบ้าง.?
คือเราเนี่ยอยู่ในสังคมที่คนมากมายมาจากหลายที่รวมกันใช่ไม๊คะ เราก็คงหนีไม่พ้นโดนนินทาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ซึ่งถ้าเป็นสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นตอนต้น ตอนกลางเนี่ยเลือดเดือดง่ายอยู่แล้ว ถ้ารู้ว่าใครนินทาเนี่ยเป็นต้องเปิดศึกสงครามเย็น
จิกตาบ้าง มองแรงบ้าง ค้อนบ้าง ให้รู้ว่าฉันรู้นะยะว่าแกรแอบนินทาฉัน ฉันจะเมิน ฉันจะโนสน โนแคร์ใส่ แต่ความจริงเราก็แคร์แหละ รู้สึกแย่ด้วย 5555
มีถึงขั้นลาออกจากงานเพราะไม่อยากร่วมงานกับคนประเภทนี้เลยทีเดียว ด้วยความอารมณ์ร้อนของชะนีวัยไสย์
จนเป็นบ้าเป็นบอเปลี่ยนงาน 3 - 4 ที่ใน 1 ปี สรุปใครคือผู้ได้ผลกระทบมากที่สุดก็ตัวเรานี่ล่ะค่ะ จนต้องมานั่งถามตัวเองอยู่พักใหญ่ๆว่าเรากำลังหนีอะไรกันแน่.. จนสรุปได้ว่าไม่มีใครจะมีผลกับใจเราได้เลย ถ้าเราไม่อนุญาตให้คนนั้นเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตเราเอง จากนั้นก็เลิกเป็นชะนีใจร้อนค่ะ มีอะไรก็ค่อยๆทบทวน สงบสติ ว่าสิ่งที่คนเค้าชอบเม้ามอยนินทาเนี่ย ใช่เรื่องจริงไม๊ ถ้าเป็นเป็นเรื่องที่ไม่ดี เราทำผิดจริง เราก็ควรแก้ไขเพื่อตัวเราเอง แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงแล้วมีผลกระทบกับเรามากๆ มีผลกระทบกับงานเราแนะนำให้เปิดใจคุยค่ะ เคลียร์ให้เข้าใจ แต่ก่อนเคลียร์กับคนอื่นเนี่ยเคลียร์กับใจตัวเองก่อนนะคะ ให้คุยด้วยเหตุผลค่ะ ไม่ใช้อารมณ์ไม่งั้นวงแตกอีกรอบ งานเสียความสัมพันธ์เสีย แทนที่จะอธิบายให้เข้าใจกันกลายเป็นบานปลายหนักกว่าเดิม (เราเคยใช้วิธีนี้อยู่ค่ะ แต่กว่าจะเดินไปคุยไปอธิบายได้เนี่ย ต่อสู้กับตัวเองเยอะมาก เราอยากให้เพื่อนร่วมงานลดฐิทิ แต่เราไปด้วยฐิทิมันก็คงไม่ได้ ร้องไห้ในห้องน้ำไปหลายกระบุงเลยค่ะ เอาอารมณ์ออกเพื่อจะได้เคลียร์กับเค้าด้วยเหตุผลจริงๆ) แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่มีมูลความจริง เช่นคนนินทาว่าเราร้าย ร่ายผู้ชาย อะไรแบบนี้เราคงไม่ไปเคลียร์เพราะไม่มีความจริง คนที่สามารถพูดได้โดยไม่มีมูลเลย เค้าคงไม่อยากฟังเราอธิบายหรอกค่ะ โดยส่วนใหญ่เรามักจะถูกมองว่าเราร้ายและหยิ่งแน่ๆ เพราะหน้าตาของเราเวลาไม่ยิ้มนี่ดูเป็นคนแบบนั้น แล้วเราก็เป็นคนคุยน้อย แต่คือคนที่รู้จักเราจริงๆจะรู้ว่านิสัยเราขัดกับหน้าตามากกกก เราเป็นคนขี้อาย แต่พูดเยอะกับคนที่สนิท ชอบให้เพื่อนหัวเราะ รักพี่น้องเพื่อนฝูงมากๆ รักสัตว์ ชอบอ่านหนังสือ คือขัดกับลุคที่คนคิดว่าเราเป็นคนมั่นใจ แล้วก็แรงๆสิ้นเชิงงง คนที่มารู้จักเราจนเริ่มสนิททุกคนจะพูดตลอดว่าฉันคิดว่าเธอเป็นคนแรงๆร้ายๆ ที่ไหนได้เธอต๊องมากก เกือบจะทุกคน 5555
การที่เราเป็นชะนีคลั่ง เปลี่ยนงานบ่อยเพื่อหนีคนนินทา ทำให้เราพบว่าไม่ว่าจะหนีไปที่ไหนมันก็มีทั้งนั้นแหละ แต่เราเลือกที่จะรักษาใจเราได้ และพบวิธีรับมือแตกต่างกันไปโดยไม่ต้องกระทบกระทั่งกันให้เสียแรงด้วย เราไม่คิดด้วยว่าคนนินทาคือคนขี้อิจฉาหรืออะไรตอนหลังขำๆด้วยซ้ำว่าเห้ยย เม้ามั่วไปขนาดนั้นได้ยังไง ยอมรับเลยว่าการมีเพื่อนที่เข้าใจเรามันทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นมาก ทำให้เรามีจุดยืนไม่ต้องเปลี่ยนตามคำพูดใคร อะไรที่ดีเพื่อนก็คอยเตือนสติให้เรารักษาเอาไว้ เราเลยผ่านจุดๆนั้นมาได้
สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ แล้วเจอเหตุการณ์เหมือนๆกัน เราเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเลยนะคะ
สู้ๆไปด้วยกัน คนที่จะอยู่ในโลกอันมุ้งมิ้งใบนี้ได้ต้องสตรองสู้ฟัดเท่านั้นจ้าาา
ปล.แท็คถูกห้องรึเปล่าก็ไม่รู้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใด อย่าด่าเก๊าเลยน้าา ถึงเก๊าจะแข็งแรงแล้ว แต่ก็ไม่เคยชอบการโดนด่าเลยย ทำใจยากอยู่ดี 5555